px

เรื่อง : ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ตอนที่ 13 ข้า,เจี้ยงเฉิน,ถูกอิจฉามากกว่าที่พวก เจ้าคิดไว้เยอะ!


ตอนที่ 13 ข้า,เจี้ยงเฉิน,ถูกอิจฉามากกว่าที่พวก เจ้าคิดไว้เยอะ!

 

-------------------------

หลงยู่ซือไม่ได้พยายามปกปิดความภาคภูมิใจและความหยิ่งยโสของเธอเลยเพราะเธอเป็นลูกสาวคนโปรดของขุนนางชั้นสูง น้ำเสียงของเธอนั้นไม่แยแสสิ่งใด แต่ก็ให้ความรู้สึกถึงความเชื่อมั่นที่คนอื่นไม่อาจโต้แย้งได้

 

 ทั้ง หนึ่งร้อยแปด ขุนนางแห่งอาณาจักรตะวันออก ไม่มีใครที่จะขโมยอะไรก็ตามไปจากข้าได้ ถ้าข้า,หลงยู่ซือ,ต้องการ

 

เจี้ยงเฉินเริ่มหัวเราะ, ทั้งหมดเลยรึ?ไม่มีข้อยกเว้น?

 

 ข้อยกเว้นทั้งหมดใช้กับข้าไม่ได้ หลงยู่ซือตอบอย่างเย็นชา  อย่างน้อยที่สุดข้าก็ไม่เคยเจอสักครั้ง

 

 ดี... เจี้ยงเฉินยิ้มบาง  งั้นข้าขอแสดงความยินดีด้วย เจ้าเจอแล้วหนึ่งในวันนี้

 

ถ้าเป็นคนอื่นๆคงต้องกล่าวว่า ความหยิ่งยโสของผู้หญิงคนนี้มากเกินไป เธอยังคงแสดงท่าทางสูงส่งและหยิ่งผยอง แม้ในขณะที่เธอขอความช่วยเหลือ ราวกับว่าได้ให้ความช่วยเหลือโดยการคุยกับเจี้ยงเฉิน เหมือนหงส์ขาวให้พรคางคก

 

แต่ทัศนคติแบบนี้น่าขำเกินไปในสายตาของเจี้ยงเฉิน

 

ลูกสาวของขุนนางชั้นหนึ่งในอาณาจักรตะวันออก?แล้วอย่างไร? แม้แต่ตัวขุนนางชั้นหนึ่งเอง,คนแบบนี้ยังไม่มีกระทั่งคุณสมบัติจะถือรองเท้าของตัวเขาในชาติก่อน

 

หลงยู่ซือเพิ่งจะเคยเสียหน้าจากผู้ชายครั้งแรกในชีวิตเธอ เธอมองผลการตัดสินใจอันแน่วแน่ของเจี้ยงเฉินและผู้อาวุโสสามหอโอสถ

 

 เจี้ยงเฉิน,ข้าจะจำเจ้าเอาไว้ ถ้าข้าให้เจ้าผ่านการทดสอบมังกรซ่อนในปลายปีนี้ ข้าจะเปลี่ยนสกุลไปใช้สกุลเดียวกับเจ้า!

 

 ข้า,ไป้ชานอวิ๋น,จะจดจำเจ้าไว้เช่นกัน วันนี้เจ้าอาจจะชนะ แต่ข้าจะแสดงให้ดูในงานทดสอบมังกรซ่อนว่าราคาที่ต้องจ่ายจากการดูถูกข้า มันไม่ใช่ราคาที่ลูกชายของเจี้ยงหานสามารถจ่ายได้!

 

 และข้าจากจวนขุนนางหงส์เพลิงและจวนขุนนางหยานเหมินด้วย!

 

พวกชายหนุ่มเหล่านี้ต้องการจะประกาศถึงความสนใจและความตั้งใจเอาชนะใจ แต่แผนการของพวกเขาถูกขัดขวาง ใจของพวกเขาถูกแผดเผาด้วยเพลิงโทสะ แล้วพวกเขาจะไม่หาโอกาสทุบตีเหยื่อที่รังแกง่ายแบบนี้ได้อย่างไร

 

โดยธรรมชาติแล้วเจี้ยงเฉินจะไม่ใส่ใจกับคำขู่พวกนี้ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เขาคิดว่ามันค่อนข้างน่าขำที่เด็กชายเหล่านี้บอกชื่อตัวเองด้วยความสมัครใจ

 

ต่างคนก็ต่างแนะนำตัวกันอย่างขยันขันแข็ง อ้า! นี่ช่วยให้เขาไม่เปลืองเวลาหาพวกเด็กๆในอนาคต พยัคฆ์ขาว,หงส์เพลิง,หยานเหมิน ใช่ไหม? พวกเจ้าอิจฉากันใช่ไหม? มันไม่นานหรอกที่เจ้าจะได้เรียนรู้ว่าข้า,เจี้ยงเฉิน,ถูกอิจฉามากกว่าที่พวกเจ้าคิดไว้เยอะ!

 

ถ้ามันเป็นวันปกติ หัวหน้าหอลำดับสามคงไม่เข้าไปพัวพันกับความอาฆาตของลูกชายขุนนางมากมายขนาดนี้ แต่นี่ เขาไม่มีทางเลือก เขาจำเป็นต้องสนับสนุนเจี้ยงเฉินทั้งใจ

 

เมื่อเจี้ยงเฉินมาหาเขา เขารู้ว่าเขามีทางเลือกเดียว หอโอสถก็เช่นกัน

 

มิฉะนั้น ถ้าทำเจี้ยงเฉินไม่พอใจนั่นหมายความว่าสูญเสียยาชะตาสวรรค์และสูญเสียธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล

 

ลูกชายขุนนางบางส่วนไม่มีทางมีค่าเทียบเท่ากับธุรกิจเช่นนี้

 

นี่ไม่เอ่ยถึง เด็กเหล่านี้ไม่มีเหตุผลที่จะระบายอารมณ์กับหอโอสถ พวกเขาต้องเลือกเป้าหมายเป็นเจี้ยงเฉินที่เหมือนจะอ่อนแอแน่นอน

 

สำหรับวิธีการที่เจี้ยงเฉินจะจัดการกับปัญหานี้ หัวหน้าหอลำดับสามไม่สนใจ สิ่งที่เขากังวลคือจะจัดการปัญหานี้อย่างเหมาะสมได้อย่างไรเมื่อปัญหายังอยู่ในมือของเขา

 

การเจรจาต่อรองนั้นราบรื่นและสัญญาได้ร่างเมื่อวานนี้ เจี้ยงเฉินแนะนำหลายอย่างในรายละเอียดเล็กๆและอนุญาตให้เจี้ยงเฉิงลงนามได้

 

เขาคือทายาทของขุนนางผู้หนึ่ง โดยปกติแล้วจะไม่ปรากฎตัวเพราะเรื่องเล็กๆแบบนี้

 

แน่นอนว่าเจี้ยงเฉินไม่ได้เชื่อใจหอโอสถเต็มร้อย เขายังคงควบคุมสองส่วนที่สำคัญมาก;ไม่มีทางที่เขาจะให้ส่วนผสมและสูตรยาทั้งหมด

 

เขาจำเป็นต้องป้องกันความเป็นไปได้ที่หอโอสถจะมีความคิดอื่นเมื่อได้รับส่วนผสมและสูตรยาทั้งหมดไปแล้ว

 

สัญญานั้นถูกลงนามอย่างดีเพราะว่าเจี้ยงเฉินยังคงควบคุมกุญแจสำคัญเอาไว้ และในสัญญายังกำหนดเงื่อนไขว่าเจี้ยงเฉินต้องไปที่หอโอสถหนึ่งครั้งในเดือนคี่ และสองครั้งในเดือนคู่

 

ในโลกของผู้ฝึกตน ยามีราคาค่อนข้างแพง ยารักษาธรรมดาๆขายหนึ่งถึงสองพันเหรียญเงิน เป็นธรรมดาที่ยาระดับที่สูงกว่าจะขายได้สามพันถึงห้าพันเหรียญเงิน

 

และยาชะตาสวรรค์สามารถขายได้ แปดพันถึงหนึ่งหมื่นเหรียญเงินเนื่องจากประสิทธิภาพของยา มันสามารถยืนอยู่ตำแหน่งของสิ่งของหรูหรา และไม่ต้องสงสัยเลยว่ายานี้จะมีตลาดขนาดใหญ่รองรับแน่ๆ

 

แม้มีแค่ยาหนึ่งร้อยเม็ดที่สกัดออกมาได้ในแต่ละเดือนมันก็ยังมีค่าเป็นล้านดอลลาร์ และมีค่าเป็นสิบๆล้านในหนึ่งปี

 

นี่เป็นการประเมินราคาอย่างระมัดระวังในระดับขั้นต่ำสุด

 

และเมื่อยาเข้าสู่ตลาดของอาณาจักรเพื่อนบ้านทั้งสิบหก อาณาจักรและขยายการผลิตและปรับแต่งเม็ดยาเป็นพันๆหรือหมื่นๆเม็ด ด้วยกำลังการซื้อของอาณาจักรเพื่อนบ้านทั้ง สิบหก อาณาจักร แม้ว่าหอโอสถจะผลิตยาเป็นหมื่นๆเม็ดต่อเดือน อุปทาน(ความต้องการขาย)ก็ยังน้อยกว่าอุปสงค์

 

มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะจินตนาการถึงตลาดรองรับที่มหาศาลด้วยการคำนวณแบบง่ายๆ

 

ดังนั้นจึงเข้าใจได้ว่าทำไมหัวหน้าหอลำดับสามจึงกระตือรือร้นที่จะทำให้เจี้ยงเฉินพอใจมากขนาดนี้

 

เมื่อสัญญาได้รับการลงนาม หัวหน้าหอลำดับสามเชิญเจี้ยงเฉินไปทานอาหารที่เหลากระเรียนฟ้า แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างสุภาพไป การเก็บรักษารายละเอียดขั้นต่ำเป็นส่วนสำคัญในการเป็นหุ้นส่วนของเขากับหอโอสถ เขาไม่อยากให้เรื่องนี้รู้ทั่วไปทั้งเมือง

 

นอกจากนี้เขายังเป็นแค่หุ้นส่วนของหอโอสถ พวกเราไม่ได้มีไมตรีต่อกันมากถึงขนาดนั้น

 

หัวหน้าหอลำดับสามได้ส่งเจี้ยงเฉินจากไปอย่างสุภาพ พร้อมด้วยผู้อาวุโสสองคน รวมทั้งผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้า ด้วย

 

ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้ายังคงมีอคติบางอย่างกับเจี้ยงเฉิน และแสดงสีหน้าต่อเขาอย่างแข็งกระด้าง เจี้ยงเฉินตระหนักดีว่าความใจกว้างและมารยาทของผู้หญิงคนนี้แคบเท่าๆกับกระเพราะของหนูหรือไก่ ยังดีที่ว่าเธอไม่ทำลายแผนของเขาในอนาคต เขายังคงต้องทำให้คนอื่นๆไม่พอใจด้วยถ้อยคำเสียดสีเมื่อถึงสถานการณ์นั้นๆ

 

เขาคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะยิ้มขึ้นมา หัวหน้าหอลำดับสาม,ถ้าเราไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน ท่านคงไม่ขายสมุนไพรไขมังกรจรัสแสงให้ข้าในวันนี้ ใช่ไหม?

 

 ฮ่าฮ่า, ท่านพูดแบบนั้นได้อย่างไร หอโอสถยังคงทำตามกฎเมื่อทำธุรกิจ  หัวหน้าหอลำดับสามหัวเราะอย่างจริงใจ, แต่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่เชื่อถือคำพูดตัวเองเลย

 

กฎตายตัวแต่คนมีชีวิต ถ้าไม่เพราะมีธุรกิจร่วมกัน สมุนไพรไขมังกรจรัสแสงก็คงเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่เจี้ยงเฉิน

 

เจี้ยงเฉินหัวเราะอย่างจริงใจแต่ไม่ได้ตกหลุมพรางขอหัวหน้าหอลำดับที่สาม เขากล่าวว่า ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม หัวหน้าหอลำดับที่สาม ข้าสามารถพูดได้ว่าท่านตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

 

 อะไรทำให้ท่านพูดเช่นนั้น?  หัวหน้าหอลำดับสามถูกกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น

 

 ง่ายมาก เพราะ การซื้อสมุนไพรไขมังกรจรัสแสงเป็นภารกิจที่ได้รับจากราชาโดยตรง ถ้าท่านไม่ขายให้ข้า คดีที่หอโอสถต้องเผชิญหน้าก็มากมาย ฮ่าฮ่าฮ่า, ข้าพูดมากเกินไปแล้ว,มากไป

 

เจี้ยงเฉินหัวเราะอย่างจริงใจอีกครั้ง ขึ้นม้าของเขา และปล่อยเสียงหัวเราะอย่างยาวนาน  ท่านไม่ต้องส่งข้าแล้ว,หัวหน้าหอลำดับสาม

 

หัวหน้าหอลำดับสามถูกทำให้มึนงงและจมอยู่ให้ห้วงความคิด ขณะที่มองเจี้ยวเฉินค่อยๆไกลออกไป

 

 จากราชาโดยตรง?  หัวหน้าหอลำดับสามพึมพำกับตัวเอง ... เขาคิดถึงเหรียญสลักมังกรเมื่อวาน เขาก็คิดว่า บางทีเจี้ยงเฉินอาจจะไม่ได้พูดเท็จ

 

 เจ้าเด็กบ้านี่สามารถหาคนอุปถัมภ์ที่ดีอย่างราชาได้? ไม่ใช่เขาถูกลงโทษโดยองค์ราชาเอง?  ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้ายื่นปากและบ่นแสดงอาการรังเกียจ

 

หัวหน้าหอลำดับสามจ้องเขม็งเธอ  เจ้าจะไปรู้อะไร? วันนี้เจ้าเกือบทำให้ธุรกิจเสียหาย! จำไว้ให้ขึ้นใจ ฉลาดกว่านี้ถ้าเจ้าจะทำธุรกิจในอนาคต! เจ้าคิดว่าเหรียญสลักมังกรของเขาเป็นของปลอมหรือ? เจ้าคิดว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากอะไรขึ้นถ้าพลาดสูตรยาชะตาสวรรค์นี้ไป?

 

ผู้อาวุโส ในชุดคลุมสีฟ้า ไม่ได้พูดอะไร จริง,ที่มันมีอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับเจ้าเด็กบ้านั่น

 

หัวหน้าหอลำดับสามยังคงคิดกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้และเตือนว่า ไม่ว่าสถานการณ์ใดก็แล้วแต่ พวกเจ้าทั้งหมดจำไว้! ถ่อมตัวต่อหน้าเจี้ยงเฉิน! เขาไม่ใช่คนธรรมดา!

 

ส่วนลึกในพระราชวัง

 

ราชาหลู่ลดหนังสือในมือลงอย่างช้าๆและค่อยๆจิบชาที่วางอยู่บนโต๊ะ

 

 เทียนตู่, มีข่าวจากจวนเจี้ยงหานไหม?

 

 ฝ่าบาท จวนท่านขุนนางเจี้ยงหานเงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหว

 

 แล้วเด็กนั่นล่ะ?

 

 เด็กนั่น? เมื่อวานเขาดูเหมือนจะอยู่บ้านตลอดทั้งวัน และเขาก็ได้ไปหอโอสถเช้านี้ เขามีปัญหากับทายาทขุนนางหลายคน

 

องครักษ์ที่ซื่อสัตย์ที่เรียกว่าเทียนตู่รายงานถึงสถานการณ์โดยรวมและรายละเอียดโดยไม่พลาดแม้แต่จุดเล็กๆ

 

โอ้? เจ้าเด็กนั่นถูกลงโทษอย่างรุนแรงและไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังสามารถไปเดินกร่างบนท้องถนนได้ในวันนี้? เมื่อใดกันที่องครักษ์ของข้าเฆี่ยนตีเบาลง? ราชาหลู่ยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม  แต่ เจ้าพูดว่าหอโอสถสนับสนุนเจี้ยงเฉินและปฏิเสธลูกชายของขุนนางคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด?

 

 กระหม่อมคิดว่ามันแปลกเช่นกัน แต่นี่คือเรื่องจริง ยิ่งไปกว่านั้น หอโอสถก็ต้อนรับเขาเหมือนแขก ดูเหมือนว่าเด็กนั่นจะไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่ข่าวลือบอก

 

ราชาหลู่ครุ่นคิดและพยักหน้า  ข้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้น เราเดิมพันอาการป่วยของจื่อยั่วกับเขาไว้เท่านั้น ข้าหวังว่าเจ้าเด็กนี่จะไม่มีลูกไม้อะไรซ่อนอยู่

 

 มันดูเหมือนจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น ถ้าเขาโกหก เขาจะกล้ากร่างเช่นนี้ได้อย่างไร? หลอกลวงราชา นี่ไม่ใช่ข้อหาที่จวนเจี้ยงหานรับได้

 

 เทียนตู่ จำไว้ ปกป้องเด็กนี่ไม่ว่ายังไงก็ตาม และช่วยเขาทำตามแผนเต็มที่ ถ้าใครที่ตาบอด บังอาจก่อปัญหา ลงโทษก่อนถามทีหลัง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ราชาหลู่สั่ง

 

เห็นชัดว่าราชาหลู้ไม่ต้องการให้รื้อฟื้นเหตุการณ์เมื่อเช้า เขาได้ข้อสรุปว่าสมุนไพรไขมังกรจำรัสแสงต้องนำมาใช้ทำบางอย่างเกี่ยวกับอาการป่วยของลูกสาวเขา!

 

อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับอาการป่วยของลูกสาวข้า แม้แต่'ทายาทของหลงเทง'ก็ต้องหลบไปเพื่อข้า!

 

เจี้ยงเฉินไม่ได้กลับบ้านทันทีที่ออกจากหอโอสถ เขามีงานที่ต้องทำมากกว่านั้น ต้องมีการเตรียมการอีกมากก่อนจะเข้าวังในอีกสามวันข้างหน้า

 

เขายังไม่ได้เดินไปไหนไกล ก่อนที่สัญชาตญาณอันแหลมคมของเขาจะพบว่ามีบางคนแอบติดตามเขา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจจะเปิดเผยที่อยู่ของพวกนั้น

 

 ฮะ มีบางคนที่ตาบอด มาสิ ถ้าเจ้ากล้าพอที่จะขโมยของจากราชาหลู่!  เจี้ยงเฉินไม่แคร์เรื่องเล็กน้อย ถ้าเขาสามารถก่อเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างราชวงค์กับขุนนาง

 

นอกจากนี้เขายังจะต้องแสร้งตกลงอย่างชัดเจนและอ่อนแอ

 

คนอื่นๆถูกรวมเข้าไปในการแสดงละครครั้งใหญ่ที่พิธีบูชาสวรรค์ ถ้าบางคนตาบอดถึงขนาดที่เดินออกจากเส้นทางและสร้างความปัญหา เขาก็ไม่สนใจ ถ้าการปะทะกันของราชวงค์และขุนนางจะรุนแรงขึ้น

 

สิ่งที่เจี้ยงเฉินเสียใจคือมีความปลอยภัยมากเกินไปในเมืองหลวง อย่างน้อยการปล้นเวลากลางวันก็ไม่เกิดขึ้น

 

 ช่างเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีหัวคิด ตอนนี้สมุนไพรไขมังกรจรัสแสงอยู่ที่นี่ตอนนี้ ออกมาแล้วลองเอามันไปดูสิ ข้าไม่เสี่ยงชีวิตเพื่อราชาหลู่แน่นอน ข้จะมีความสุขมากถ้าเจ้าพยายามเอามันไปและจะมีความสุขมากยิ่งขึ้นเมื่อราชาหลู่ถามมันกับข้า

 

เจี้ยงเฉินมีความสุขมากเมื่อลองคาดการณ์ดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่เขาเดินเล่น แต่น่าเศร้าที่เจ้าเต่าหดหัวไม่ได้มาปล้นเขา ทำให้เขาเศร้าเล็กน้อย

 

ช่างเป็นโจรที่ขี้ขลาด!เจี้ยงเฉินส่ายหัวและไม่คิดเกี่ยวกับประเด็นนี้อีก เขาบังคับม้าไปที่หอเทอร์ควอยซ์ เขายังมีงานที่ต้องทำอีก

รีวิวผู้อ่าน