px

เรื่อง : ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ตอนที่ 18 องค์หญิงโกวหยู่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก


ตอนที่ 18 องค์หญิงโกวหยู่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

-------------------------

หลังจากทำใจกับความห่อเหี่ยว ในที่สุดเจี้ยงเฉินก็ถามอย่างหวาดหวั่น  ป้าของเจ้าคงไม่ได้เป็นประเภทที่ดำเนิน

 

การด้วยความแค้นส่วนตัวหรอกใช่ไหม?

 

 ฮิฮิ ท่านป้ารักจื่อยั่วมาก แต่ในเรื่องที่ท่านป้าดำเนินการด้วยความแค้นส่วนตัวหรือไม่นั้น จื่อยั่วไม่ทราบ พี่เจี้ยง

 

เฉินไม่ต้องกังวล จื่อยั่วจะคุยเรื่องท่านกับนางเมื่อจื่อยั่วมีเวลา

 

 ฮึ่ม มันไม่สำคัญว่าใครจะขอร้องเพื่อเจ้าหลังจากนี้เจี้ยงเฉิน! ทายาทขุนนางแห่งเจียงหาน เขาไม่ผ่านในการทดสอบครั้งล่าสุด และยังไม่ผ่านแม้กับผ่านกับทดสอบพื้นฐานทั้งสามกับภูเขาลูกย่อม ๆ" องค์หญิงโกวหยู่ ได้กลับมาพร้อมกับมีเสื้อคลุมสีเหลืองสวมอยู่ มีรอยยิ้มเย็นบนใบหน้าของเธอ  เจี้ยงเฉิน เจ้ามีความกล้าอย่างมากที่มาที่นี่

 

บางคนกล่าวว่าหมูตายย่อมไม่กลัวน้ำร้อน ตั้งแต่พวกเขาได้มีปัญหากัน เจี้ยงเฉินก็จะทำให้เห็นว่าเขาผ่านมันไปได้  อะไรกัน? ท่านต้องการที่จะแก้แค้นกับข้า?

 

 แก้แค้น?  รอยยิ้มเย็นเหยียดขึ้นบนใบหน้าขององค์หญิงโกวหยู่  ตอนนี้เจ้าไม่มีค่าพอจะแก้แค้น เจ้ากังวลเกี่ยวกับการสอบของเจ้าเองดีกว่า

 

สุดท้ายในฐานะของกรรมการหลัก องค์หญิงโจวหยู่ไม่สามารถเสียศักดิ์ศรีเพื่อไปก่อกวนคนที่อาจจะไม่สามารถสอบผ่านแม้แต่การทดสอบพื้นฐานด้วยซ้ำ

 

หึหึ ผู้หญิงโง่เง่า เจ้าประเมินความสามารถของข้าต่ำไป เจี้ยงเฉินรู้ว่าโกวหยู่ ได้ให้โอกาสเขามากที่สุดด้วยความคิดที่ว่าเขา 'โง่เขลาและไร้ความสามารถ'

 

เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากภายนอก ดูเหมือนว่าการจัดส่งศิลาหยางจะมาถึงแล้ว เจี้ยงเฉินกวักมือเรียกและบอกกับองค์หญิงโกวหยู่  ท่านรู้ใช่ไหมว่ามันคืออะไร? องค์หญิงจื่อยั่วได้บอกว่าท่านรักเธอมาก ข้าขอถามเพียงข้อเดียว ท่านมีอำนาจอย่างมากในตำหนักในใช่หรือไม่?

 

 ทำไม?  เจ้าหญิงโกวหยู่กล่าวอย่างเย็นชา

 

"ถ้าท่านมีอำนาจอย่างมากในตำหนักในแล้ว เช่นนั้นท่านก็สามารถรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหนึ่งร้อยฉื่อรอบ ๆ ตำหนักของจื่อยั่ว และทำลายภูเขาแล้วใส่น้ำเข้าไปได้หรือไม่?

 

 นอกจากนี้จ้างช่างฝีมือที่ดีที่สุดในการดัดแปลงชิ้นส่วนสองในสิบของศิลาหยางลงบนเตียง ให้องค์หญิงจื่อยั่วได้พักผ่อน และมันจะดีมากหากเธอไม่สวมใส่เสื้อผ้าใด ๆ 

 

เจี้ยงเฉินไม่ได้สนใจเส้นเลือดสีดำที่ได้ปรากฎบนใบหน้าขององค์หญิงโกวหยู่แม้แต่น้อยและยังพูดต่อ  และสำหรับศิลาหยางอีกแปดส่วนที่เหลือ โปรดใช้มันสำหรับแผนงานของข้า ข้าจะกลับมาพร้อมงานมากขึ้นในครั้งหน้า

 

 และนี่สำหรับองค์หญิง ข้าได้ทำเครื่องหอมไว้สำหรับท่าน มันทำมาจาก สมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสง 9 ชิ้นสำหรับถุงหอม 9 ถุง นำมันติดตัวไปกับท่าน 1 ถุง ไม่ว่าท่านจะไปที่ไหน แม้ว่าสมุนไพรไขกระดูกมังกรจรัสแสงจะเป็นเพียงเศษหญ้าแต่มันจะช่วยรักษาเส้นชีพจรของท่านได้

 

 นอกจากนี้ นี่คือ 'แผนภาพจิตวิญญาณเทพเจ้าอัคคี' ใช้สิ่งนี้เป็นที่ทำสมาธิและเพ่งจิตของท่าน มันจะช่วยท่านสร้างพลังหยางในร่างได้

 

 นี่คือการรักษาชั่วคราว เราจำเป็นจะต้องสร้างเสถียรภาพของพลังในตัวของท่านก่อน โปรดทำตามที่ข้าบอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าฝึกฝนอีกเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นสถานการณ์จะเลวร้ายจนไม่อาจแก้ไขได้

 

คำพูดของเจี้ยงเฉินพูดออกมาด้วยท่าทีของผู้เชี่ยวชาญ การกระทำและการแสดงออกของเขาทำให้แม้แต่องค์หญิงโกวหยู่ยังพูดไม่ออก. เขาไม่ได้ให้โอกาสองค์หญิงโกวหยู่พูดหลังจากที่เขาพูดจบ เขาลุกขึ้นปัดฝุ่นบนแขนเสื้อของเขา และตั้งท่าเดินจากไปในทันที

 

องค์หญิงโกวหยู่พึ่งจะได้สติเมื่อเจียงเฉินกำลังจะจากไปเธอได้แต่ทำเสียงฮึดฮัด  เจี้ยงเฉิน เจ้าไม่แม้แต่จะผ่านการทดสอบพื้นฐาน ทำไมเราจะต้องฟังเจ้าด้วย?

 

เจี้ยงเฉินมีสายตาเย็นเยียบในขณะที่เขาหยุดเดิน แต่เขาไม่ได้หันหลังกลับไป  ถ้าท่านรักหลานสาวของท่านจริง ท่านควรจะทำตามที่ข้าบอก แต่หากท่านต้องการให้นางตาย เช่นนั้นแล้วก็เชิญท่านฝึกนางต่อได้เลย!"

 

ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว เจี้ยงเฉินเป็นคนที่มีศักยภาพในการกดข่ม ด้วยท่าทีที่สูงส่งและกลิ่นอายความสง่างามอย่างเรียบ ๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้คนที่มีอำนาจอย่างมากมายเช่นองค์หญิงโกวหยู่ที่ดูแลบุตรขุนนางทั้งหมดในการทดสอบมังกรซ่อน หมดคำพูดไปชั่วขณะ

 

หลังจากนั้นเมื่อเขาได้จากไป องค์หญิงโกวหยู่จึงได้สติ  นั่นมันบังอาจมาก! อวดดี! เขาทำให้ข้าเป็นบ้า!

 

องค์หญิงจื่อยั่ว หัวเราะคิกคัก  ท่านป้า พี่เจี้ยงเฉินเป็นคนประเภทที่ทำอะไรตามใจตัวเอง อย่างวันนั้นในพิธีกรรมบวงสรวงสวรรค์...  เมื่อองค์หญิงจื่อยั่วได้พูดถึงเหตุการณ์บวงสรวงสวรรค์ ใบหน้าของเจ้าหญิงโกวหยู่เปลี่ยนแปลงไปหลายครั้ง

 

 ใครจะคิดว่าจะเกิดเรื่องราวในเมืองหลวงมากมายขนาดนี้ในขณะที่ข้าได้ออกไป? ข้าจากไปไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ!!  การแสดงออกขององค์หญิงโกวหยู่ กลายเป็นซับซ้อนเมื่อได้ยินว่าเจี้ยงเฉินกลับมาจากความตายจากผงยาสามหัวเราะและได้รับการช่วยเหลือจากเทพเจ้าเพราะความโชคร้ายของเขา

 

องค์หญิงโกวหยู่ได้เกิดมาในครอบครัวของราชวงศ์และเป็นหนึ่งในชนชั้นที่มาอำนาจมากที่สุดในเมืองหลวง ความทะเยอทะยานและโลกทัศน์ของเธอไม่เคยหยุดที่ราชอาณาจักร ดังนั้นเธอจึงมุ่งหน้าที่จะฝึกฝนตัวเองเพื่อออกไปสำรวจโลกกว้างด้วยความสามารถในการต่อสู้ มันจึงทำให้สายตาของเธอมองสูงกว่าคนธรรมดา ทำให้เธอมีความเชื่อน้อยกว่าคนธรรมดาในเรื่องการอุปถัมภ์ของพระเจ้า คนธรรมดาอาจสงสัยว่ามันเป็นความจริงหรือไม่ แต่เธอเชื่อประมาณเจ็ดส่วนในสิบส่วน หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของจื่อยั่ว

 

 มันเป็นไปไม่ได้สำหรับวัยอย่างพวกเขาที่จะกุเรื่องขึ้นมาได้ขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จื่อยั่วและแม่ของเธอต่างก็เกิดภายใต้สุริยุปราคา ความลับของราชวงศ์นี้ไม่เคยได้รับการเปิดเผย ร่างกายแห่งหยินงั้นหรือ?

 

องค์หญิงโกวหยู่มีความผูกพันอย่างมากกับหลานสาวของเธอ จื่อยั่วเป็นหลานสาวที่เธอรักมากที่สุดเมื่อเธอได้เฝ้าดูการเติบโตของนาง เธอยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าองค์หญิงจื่อยั่วมีร่างกายที่อ่อนแอลงหลังจากที่ได้รับการฝึกฝน นางเคยเริ่มสงสัยเมื่อจื่อยั่วไม่สามารถประสบความสำเร็จในการฝึกได้เลย การฝึกจะเป็นผลดีกับนางจริง ๆ หรือ? แต่การพูดอย่างรุนแรงของเจี้ยงเฉินในวันนี้ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในความคิดของเธอ หลังจากที่เธอสงสัยมานานนับปี

 

 หรือข้าทำผิดมาตลอด? สิ่งที่ข้าทำทั้งหมดเพื่อจื่อยั่วไม่ได้ช่วยนาง แต่กลับเป็นการทำร้ายนาง

 

 การอุปถัมภ์ของเทพเจ้า? บางทีข้าอาจควรจะเชื่อบางสิ่งในเรื่องนี้?

 

องค์หญิงโกวหยู่ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในสถานการณ์เช่นนี้ เธอต้องการที่จะช่วยจื่อยั่ว หากเธอยังดึงดันไม่เชื่อในคำพูดของเจี้ยงเฉิน มันอาจจะทำลายชีวิตของจื่อยั่ว ขณะนั้นขันทีเซี่ยติง ได้นำฝูงชนเข้ามา

 

 องค์หญิง เราจะรื้อถอนพื้นที่นี้หรือไม่? ข้าขอท่านโปรดตัดสินใจด้วย

 

องค์หญิงโกวหยู่ สำรวจสภาพแวดล้อมตามคำแนะนำของเจี้ยงเฉินด้วยดวงตาที่สวยงามของเธอ องค์หญิงจื่อยั่วสังเกตเห็นความกระตือรือร้นในสายตาของเธอ มันเห็นได้ชัดว่าเธอมีความเชื่อมั่นในตัวของเจี้ยงเฉิน

 

 ทำลายมัน!

 

โกวหยู่ค้นพบว่ามันยากว่าจะหาเหตุผลว่าทำไมเธอจึงตัดสินใจเช่นนั้น ทำไมต้องทำลายมัน? ทำไมเธอจึงไปฟังคำพูดของเด็กเหลือขอนั่น? หรือเธอได้เชื่อมั่นจริง ๆ ในการกระทำของเขา?

 

'ไม่ไม่ ข้าแค่คิดว่าสิ่งนี้จะทำให้จื่อยั่วมีความสุข ถ้าหากเรารื้อถอนพื้นที่นี้!' องค์หญิงโกวหยู่หาข้อแก้ตัวในการตัดสินใจของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

 

ทางด้านของเจี้ยงเฉิน เมื่อเขาออกมาจากตำหนักใน เจี้ยงเฉินจึงเดินทางไปหาราชาลู่อีกครั้ง พระองค์เป็นราชาของประเทศ และตอนนี้เขาโดนจับตามองอยู่เขาจึงต้องรักษามารยาทเพื่อไม่ให้เป็นทิ่ผิดสังเกตจนเกินไป เจี้ยงเฉินเป็นคนฉลาดเขายังไม่ต้องการให้มีข้อครหาใดใดในตอนนี้

 

ราชาลู่ค่อนข้างพอใจกับรายงานของเจี้ยงเฉิน

 

 เจี้ยงเฉินข้าได้เห็นแล้วว่าเจ้ามีความสามารถมากกว่าหมอหลวงทั้งหมด

 

 องค์ราชา ตำหนักในของท่าน มีความหนาแน่นมากเกินไปของพลังงานหยิน มันไม่ใช่ที่เหมาะสมสำหรับองค์หญิงจื่อยั่ว การดำเนินการนี้จะทำให้หลีกเลี่ยงพลังงานหยิน เพื่อให้องค์หญิงไปอยู่ในที่ ๆ สามารถรวมรวมพลังหยางได้

 

 อืม คำแนะนำของเจ้าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่เรื่องนี้นับเป็นเรื่องใหญ่จำเป็นต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ  นี่เป็นการกระทำที่ขัดกับหลักประเพณีแม้เป็นราชาลู่ ก็ไม่อาจเห็นด้วยอย่างง่ายดายเกี่ยวกับมัน

 

 เกี่ยวกับเรื่องนั้น ข้าคงต้องจากไปก่อนข้าจะเข้าวังมาทุก ๆ เดือนเพื่อมาตรวจอาการขององค์หญิง หากไม่มีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้นสภาพพลังของเธอจะเริ่มเข้าสู่ความเสถียร และมันจะมีประสิทธิภาพเพียงใดนั้นมันย่อมขึ้นอยู่กับความสามารถขององค์หญิงเอง

 

มีหลายสิ่งที่เจี้ยงเฉินไม่จำเป็นจะต้องอธิบายในรายละเอียดมากเกินไปเช่น  แผนภาพจิตวิญญาณเทพอัคคี  นั้น สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตขององค์หญิงได้เลย มันเป็นสิ่งที่จักรพรรดิสวรรค์เคยเตรียมไว้เพื่อเจี้ยงเฉิน หากองค์หญิงจื่อยั่วนั่งสมาธิฝึกจิตกับมันทุกวัน ผลของแผนภาพเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้เธอมีชีวิตอยู่เทียบเท่าคนปกติ แต่เจี้ยงเฉินย่อมไม่กล่าวเกี่ยวกับสิ่งนี้ การตบตาของเขาในครั้งนี้จะเป็นการป้องกันราชาลู่จากการเผาสะพานทิ้ง (หมายถึงเมื่อหมดประโยชน์ก็กำจัดทิ้ง) หลังจากที่สำเร็จเป้าหมาย เจี้ยงเฉินมีชีวิตมาอย่างยาวนานเขาจะไม่ทราบในข้อนี้ได้อย่างไร?

 

เมื่อเขาออกจากพระราชวังเขาไม่ได้ไปสิงอยู่ที่หอโคมแดงและดื่มกินเช่นปกติ และเขาก็ไม่ได้ไปหาเพื่อน ๆ ของเขา แต่เขาตรงกลับคฤหาสน์ เพื่อนที่ดีที่สุดของเขาทั้งหมดได้รับการต่อว่าจากผู้อาวุโสในตระกูลของเขา เพราะความวุ่นวายที่คฤหาสน์เจี้ยงหานก่อนหน้านี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าการทดสอบมังกรซ่อนได้ใกล้เข้ามาแล้ว

 

ความรู้สึกกระวนกระวายได้เต็มหัวใจของขุนนางทั้งหมด ในช่วงครึ่งหลังของปีจะมีการตรวจสอบพื้นฐานครั้งสุดท้ายของการทดสอบมังกรซ่อน ประสิทธิภาพการทดสอบบุตรชายของพวกเขาในตอนนี้เป็นกุญแจสำคัญว่าพวกเขาสามารถรักษาตำแหน่งของพวกเขาในตอนนี้ไปอีกยี่สิบปี แม้แต่ขุนนางที่มีตำแหน่งสูง ๆ ก็ยังกังวลว่าตำแหน่งของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดในทุกการทดสอบจะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด การทดสอบมังกรซ่อนจะเป็นตัวตัดสินว่า พวกเขาจะรักษาตำแหน่งไว้ได้หรือไม่

 

ในทางตรงกันข้ามคฤหาสน์เจี้ยงหานไม่ได้รู้สึกกดดันอย่างไร เจี้ยงเฟิง ขุนนางแห่งเจี้ยงหานไม่มีความคาดหวังเขาได้เตรียมใจไว้แล้วที่จะต้องแขวนเกราะ (หมายถึงเลิกการสู้รบ)แล้วกลับไปทำนาทำสวน สำหรับเจี้ยงเฟิงในตอนนี้ เขาขอเพียงทางอาณาจักรไม่ได้เพ่งเล็งตระกูลของเขา

 

แต่เขาก็ยังเข้าร่วมการทดสอบเพราะไม่อยากให้คนอื่น ๆ คิดว่าครอบครัวตระกูลเจี้ยงเต็มไปด้วยคนขี้ขลาดและไม่มีความกล้าหาญที่จะทดสอบ

 

มีสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงของขุนนางต่าง ๆ และเจี้ยงเฉินก็ไม่มีทางเลือกเขาจึงต้องเล่นไปตามสถานการณ์ มิฉะนั้นหากเขาหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในครั้งแรกหลังการกลับชาติมาเกิดของเขามันย่อมเป็นจุดด่างพร้อยในหัวใจของเขาทำให้มีผลกระทบต่อเส้นทางการฝึกในอนาคต

 

แน่นอนว่าเป้าหมายการพูดคุยครั้งใหญ่ในคฤหาสน์เจี้ยงหานเป็นใครไม่ได้นอกจากเจี้ยงเฉิน นั่นเป็นเพราะมันเป็นเรื่องน่าตกใจเพราะว่า เจี้ยงเฉินอยู่ในห้องเป็นเวลาห้าวันเต็ม นี่เป็นข่าวที่ยิ่งกว่าการท้าทายสวรรค์ ผู้คนจะต้องระลึกว่านายน้อยตระกูลเจี้ยงไม่แม้แต่อยู่ในบ้านเกิน 5 ชั่วยาม ไม่ต้องพูดถึงเวลาห้าวัน

 

แม้แต่เจี้ยงเฟิงยังประหลาดใจเขาพึมพำ  มันเกิดอะไรขึ้น นี่มันไม่ใช่นิสัยของเขาเลย?

 

เจี้ยงเฟิงมีคำสี่คำอยู่ในหัวของเขา  เขา อาจ ทำ ได้

 

ในฐานะที่เป็นตัวเอกของข่าวลือ เจี้ยงเฉินไม่ได้รับรู้เหตุการณ์ในภายนอกแม้แต่นิดเดียว เขาไม่เคยเสียเวลาแม้วินาทีเดียวในห้าวันที่ผ่านมา เขากำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเส้นชีพจรของเขา การเตรียมการขั้นสุดท้ายเพื่อ 'ทะลวงจุดพลังที่ห้า' การทำความเข้าใจและดูดซึมพลังงานธรรมชาติ สองสิ่งนี้เกือบจะกลายเป็นทั้งชีวิตของเจี้ยงเฉินในไม่กี่วันที่ผ่านมา

 

เมื่อเช้าตรู่ของวันที่หกเส้นชีพจรทั้งสี่ของเขาเต็มไปด้วยพลังพร้อมกับเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น

รีวิวผู้อ่าน