ตอนที่ 35 เจ้าจะไม่ตายถ้าไม่รนหาที่ตาย
-------------------------
ภายใต้ความกดดัน สัญชาตญาณอันป่าเถื่อนของเจี้ยงเฉินทั้งในอดีตและปัจจุบันได้ถูกปลุกขึ้นมา เมื่อเขามีความคิดที่จะไปสัมผัสโลกภายนอก
แน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เจี้ยงเฉินสามารถตัดสินใจได้โดยพลการ
ก่อนอื่นเขาต้องผ่านการทดสอบมังกรซ่อนก่อนออกเดินทาง มิเช่นนั้นการออกจากเมืองหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาตหมายถึงการหมดสิทธิ์ทดสอบ
การทดสอบครั้งนี้เป็นจุดมุ่งหมายแรกของเจี้ยงเฉินเมื่อมาถึงโลกนี้ แล้วก็ไม่มีทางที่เขาจะยอมแพ้
ครั้งนี้เขาต้องต่อสู้เพื่อสิทธิของบิดาของเขาให้ดำรงตำแหน่งอ๋องต่อไป
มิหนำซ้ำคลื่นใต้น้ำที่ก่อตัวขึ้นในเมืองหลวงทำให้เจี้ยงเฉินไม่มีหนทางที่จะหนีได้เลย - เขาต้องต่อสู้!
เจี้ยงเฉินตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นและไปฝึกปฏิบัติในสนามฝึกของคฤหาสน์ เขาได้เตรียมที่จะไปเยี่ยมชมหอโอสถ เมื่อเขาเห็นว่าดวงอาทิตย์ขึ้นสูงไปได้สามส่วนของต้นไผ่
เขาได้ลงนามในสัญญากับหอโอสถ โดยปกติแล้วเขาจะไม่ผิดนัด
เว้นเสียแต่เขาไม่ได้มีเวลาย่างเท้าออกไปก่อนที่เจ้าอ้วนซวนและหูปิงเย่วจะรีบวิ่งเข้ามา ใบหน้าของพวกเขาดูราวกับว่าท้องฟ้าถล่มลงมา
พี่เฉิน ทำไมท่านถึงทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น? เจ้าอ้วนซวนเกือบจะพุ่งชนเข้าสู่ประตูและเริ่มต้นการสนทนาด้วยคำถามแบบนี้ เมื่อเขาเห็นเจี้ยงเฉิน
"มีอะไรเกี่ยวกับข้ารึ" เจี้ยงเฉินงงงวย
พี่เฉิน มีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น! ความวิตกกังวลยังแผ่ซ่านไปทั้งตัวของหูปิงเย่วที่ซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นความวิตกกังวลที่ราวกับท้องฟ้าล่มสลาย
อะไรกัน เจี้ยงเฉินรู้สึกว่าการแสดงออกของทั้งสองไม่ใช่เรื่องตลก
พี่เฉิน ท่านไม่ผ่านการทดสอบพื้นฐาน! เจ้าอ้วนซวนเกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความกังวลของเขา พี่เฉิน ท่านสอนเราเมื่อวานนี้ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ...
ไม่ผ่าน? เป็นไปไม่ได้!" เจี้ยงเฉินส่ายหน้าอย่างเฉียบขาด เขามั่นใจเป็นอย่างมากว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน พวกเจ้าก็เห็นการสอบของข้า
พวกเราเห็นว่าท่านผ่านการสอบครั้งแรกและครั้งที่สอง แต่กระนั้นก็เถอะ ท่านไม่ผ่านการทดสอบที่สาม
การสอบครั้งที่สามเป็นการสอบภาคทฤษฎี แต่ไม่มีใครที่ได้เข้าไปเป็นพยาน
ข้าไม่ผ่านการสอบภาคทฤษฎี? เจี้ยงเฉินคิดย้อนกลับไปและส่ายหัว ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ข้าจะไม่ได้ทำผิดเลยในส่วนของการท่องจำ มันก็เพียงพอที่จะรับประกันการผ่าน ข้ารู้สึกว่าในส่วนของการสร้างสรรค์ข้าก็ทำมันอย่างละเอียด เว้นแต่ผู้คุมสอบจะตาบอด
เจ้าอ้วนซวนเป็นเหมือนมดบนกะทะร้อน เขาเร่งรีบเดินวนเป็นวงกลม
"พี่เฉิน เราไม่สามารถนั่งนิ่งต่อหน้าศัตรูเช่นนี้ได้ ท่านมีความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์หญิงโจวหยู่ไม่ใช่หรือ? ท่านควรรีบเข้าไปในพระราชวังเพื่อขอให้องค์หญิงช่วยคิดทำบางสิ่ง เรื่องนี้จะไม่สามารถยกเลิกได้เมื่อมีการประกาศผลการทดสอบแล้ว!
ตามกฎของการทดสอบพื้นฐาน ถ้ายังไม่ได้ผ่านหนึ่งในสามการทดสอบพื้นฐานไปก่อนถึงวันครบกำหนดนั่นหมายความว่าผู้สมัครไม่ผ่านการทดสอบ
หากไม่ผ่านการทดสอบพื้นฐาน ผู้สมัครก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมในการทดสอบมังกรซ่อนที่ีจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น
ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกล่าวเกี่ยวกับการรักษาตำแหน่งอ๋อง
แม้ว่าเจี้ยงเฉินรู้สึกท้อแท้ แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ท่านอ๋องแห่งเจียงฮั่นก็วิ่งออกมาจากคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งได้รับข่าว
เฉินเอ๋อ เจ้า ... เจี้ยงเฟิงเดินไปหาเจี้ยงเฉิน
ท่านพ่อ ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลที่นี่ สิ่งเดียวที่ข้าสามารถรับประกันได้ก็คือ ไม่มีทางที่ข้าจะไม่ผ่านการทดสอบ
เสียงของเจียงเฉินค่อนข้างหนักแน่นและไม่มีข้อสงสัยเลย
เจี้ยงเฟิงต้องการปลอบโยนลูกชายของเขา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของเขา คิ้วของเขาเริ่มขมวด นี่ก็บอกได้เลยว่า มีใครบางคนคิดไม่ซื่อกับตระกูลเจี้ยงของเรา!
บัดซบ มันกล้าที่จะทำอะไรบางอย่างแม้แต่กับการทดสอบมังกรซ่อน นี่ไม่ใช่การกบฏต่อราชวงศ์หรือ? ไม่มีทาง พี่เฉิน เราไม่สามารถปล่อยให้พวกมันรอดไปได้ !
"เอาล่ะ เราต้องตรวจสอบอย่างละเอียด หากเราต้องตายเราต้องเข้าใจว่าเพราะเหตุใด!
เจี้ยงเฉินแผ่มือออกไป ข้าต้องตีแผ่ความจริงออกมาให้ได้ ท่านพ่อ ท่านควรอยู่แต่ในคฤหาสน์และหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย ลูกจะไปที่สนามทดสอบเพื่อค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง ถ้ามันเป็นความผิดของข้าจริง ๆ ข้า เจี้ยงเฉินไม่ใช่คนที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
เขาหยุดชั่วขณะ และคำพูดของเขาก็กังวานขึ้น แต่ถ้าข้าได้รู้ว่าใครบางคนคิดไม่ซื่อ มันก็ได้ประสบความสำเร็จในการทำให้ข้าโกรธอย่างมาก
ข่าวที่ว่าเจี้ยงเฉินไม่ผ่านการทดสอบพื้นฐานได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วราวกับโรคระบาดทั่วเมืองหลวง บางคนรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยทันทีที่พวกเขานึกขึ้นมาได้ว่าเจี้ยงเฉินเป็นคนที่น่าเกรงขามขนาดไหนในการทดสอบสองครั้งแรก ในขณะที่คนอื่นคิดว่ามันเป็นดวงซวยของเขา
แน่นอนว่า ยิ่งมีคนเข้ามาดูกันมากขึ้น พวกสมองกลวงยังสามารถรับรู้ถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นและได้ยินเสียงกระหายเลือดของทหารม้าเกราะในเรื่องนี้
เมื่อเจี้ยงเฉินมาถึงสนามทดสอบ มันก็เต็มไปด้วยผู้คนที่เตรียมตัวมารอดูการแสดง
ข้าต้องการตรวจสอบคำตอบของข้า! เจี้ยงเฉินตรงไปตรงมา
ไม่มีอะไรที่เจี้ยงเฉินต้องปิดบังในเมื่อมีคนข่มขู่ต่อหน้าเขา
ตรวจสอบคำตอบของเจ้า ? ตามกฎเจ้ามีสิทธิที่จะยื่นขอหลังจากผ่านไปสามวัน เจ้าหน้าที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและเขาไม่ได้ยกศีรษะขึ้น เสียงของเขาฟังดูเกียจคร้านราวกับว่าเขาเกือบจะตาย
ข้าต้องการตรวจสอบเดี๋ยวนี้! เจี้ยงเฉินกล่าวอย่างเฉียบคม
เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? จะให้ตรวจสอบเพราะเจ้าพูดเช่นนั้นหรือ ? เจ้าใช้เกณฑ์อะไรมาวัด ?
ด้วยเกณฑ์นี้ไง ! เจี้ยงเฉินทุบฝ่ามือลงบนโต๊ะ ทำให้เหรียญมังกรที่เป็นตัวแทนของพระราชวงศ์ก็กลายเป็นรอยประทับตราบนโต๊ะเหล็กตัวนั้น
นี่มันอะไรกัน เจ้าหน้าที่ตื่นตัวขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นเหรียญ เขายืนขึ้นอย่างตื่นตระหนก เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที เขาจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ได้โปรดรอที่นี่ ข้าจะแจ้งผู้บังคับบัญชาของข้าเดี๋ยวนี้
ด้วยเหรียญมังกรแกะสลักนี้ หมายความว่าเขามีประกาศิตขององค์ราชาแห่งอาณาจักรตะวันออก ความยากลำบากทั้งหมดก็กลายเป็นเพียงแต่เมฆล่องลอยอยู่ตรงหน้าเมื่อมีอำนาจของราชวงศ์เกื้อหนุน
ในที่สุดมีผู้จัดการวัยกลางคนที่ชื่อ ผู้จัดการหม่าเดินออกมา
นายน้อยเจี้ยงขอรับ ตามกฎต้องใช้เวลาสามวันในการตรวจสอบคำตอบของท่าน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากท่านมีประกาศิตของราชวงศ์ ท่านจะได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ โปรดรอซักครู่ขอรับ ข้าจะนำคำตอบของท่านออกมา นอกจากนี้การตรวจสอบจะต้องดำเนินการภายใต้การดูแลส่วนตัวของผู้จัดงานหลักของเรา ตอนนี้เนื่องจากท่านหัวหน้าดูของเรายังไม่มาถึง ท่านอาจต้องรอสักครู่
ไม่จำเป็นต้องรอ ข้าจะตวจสอบด้วยตัวเอง เสียงผู้หญิงอันคมชัดดังขึ้นมาจากภายนอก
เขาหันไปและเห็นว่ามันเป็นองค์หญิงโจวหยู่ นางใส่ชุดหนังรัดรูป ทำให้คนที่มองนางอาจเลือดกำเดาไหลได้
เชื้อพระวงศ์และประกาศิตราชวงศ์ปรากฏขึ้นพร้อมกันทั้งหมดในสนามทดสอบ ทำให้บรรยากาศของสนามทดสอบน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก
ทุกคนรู้ว่าองค์หญิงโจวหยู่ปกติไม่ได้ให้ความสนใจมากกับภารกิจของการทดสอบมังกรซ่อน เธอเพียงแต่ควบคุมมันอยู่ห่างๆ บางครั้งนางก็สั่งให้ดูหลูไห่ส่งรายงานให้นาง
องค์หญิงโจวหยู่เป็นผู้บัญชาการหลักของการทดสอบนางอยู่ในระดับแรก แต่ก็มักจะเป็น ดูหลูไห่ที่คอยดูแลรับผิดชอบภารกิจทั้งหมด คงไม่เป็นเรื่องที่เกินจริงหากจะพูดว่าดูหลูไห่กำลังปิดสวรรค์ด้วยมือข้างเดียว
ยกเว้น ไม่มีใครคิดว่าเจ้าหญิงโจวหยู่จะลงมาด้วยตัวเองในวันนี้
อะไรกัน แม้แต่ข้าที่เป็นผู้บัญชาการหลักอันดับหนึ่งยังไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องของการทดสอบมังกรซ่อนอย่างนั้นหรือ
องค์หญิงโจวหยู่กล่าวด้วยใบหน้าที่เย็นชา
เหงื่อไหลออกมาจากใบหน้าผากของผู้จัดการหม่าและเขาก็ไม่กล้าหายใจ เขารีบไปเอาคำตอบของเจี้ยงเฉินออกมาทันที
หลังจากผ่านขั้นตอนแล้ว คำตอบสี่คำตอบก็จะปรากฏขึ้นทีละรายการ การตรวจสอบเริ่มขึ้นภายใต้พยานของผู้มีอำนาจตรวจสอบหลายคน
นี่ไม่ใช่กระดาษคำตอบของข้า! เจี้ยงเฉินส่ายศีรษะพร้อมรอยยิ้มอันเย็นชาหลังจากกวาดสายตามองเพียงแวบเดียว
ผู้จัดงานหม่าได้เปลี่ยนความสนใจของเขาไปยังเจ้าหน้าที่จากหลาย ๆ วิชาที่รับผิดชอบการทดสอบ เขาถามว่า ท่านทั้งหลายเป็นคนที่ให้คะแนนคำตอบเหล่านี้ ท่านช่วยลองดูซิว่านี่คือสิ่งที่เจี้ยงเฉินมอบให้หรือเปล่า
เจ้าหน้าที่ทุกคนมองดูและพูดว่า นี่เป็นคำตอบที่เราได้ให้คะแนน ดูคำตอบเหล่านี้ซิ มีแต่ข้อผิดพลาดและการละเลยที่ไม่สามารถทนได้ คำตอบที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำถามมิหนำซ้ำยังเป็นคำตอบที่ไร้สาระสิ้นดี เราไม่สามารถให้เขาผ่านด้วยคำตอบเหล่านี้ได้.
เจ้าหน้าที่ผู้ทรงคุณวุฒิหลายคนได้รับเลือกให้อ่านข้อสอบเพราะมีอำนาจมีความซื่อสัตย์สุจริตและได้รับการยอมรับจากผู้อื่น
ความคิดเห็นแรกของผู้ดูแลการทดสอบก็คือกะดาษคำตอบของเจี้ยงเฉินแย่มาก หลังจากได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่
ดวงตาอันเฉียบคมดุจดังนกฟินิกซ์ของเจ้าหญิงโจวหยู่ได้เหลือบไปยังเจี้ยงเฉินอย่างรวดเร็ว
"อย่ามองข้าแบบนี้ คำตอบงี่เง่าเหล่านี้ไม่ได้มาจากข้า ท่านเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในการทดสอบมังกรซ่อน ท่านต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้
องค์หญิงโจวหยู่กัดฟัน เจ้าจะตายไหมถ้าเจ้าจะใช้คำพูดดี ๆ บ้าง? เธอจะต้องหาข้อบกพร่องเล็กน้อยและโวยวายเพื่อที่จะสร้างกลอุบาย
ทุกคนมีคำอธิบายของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในฐานะผู้บัญชาการ ข้าจะไม่เข้าข้างฝายใดฝ่ายหนึ่ง แล้วทำไมเราถึงไม่ให้เจี้ยงเฉินทำการทดสอบใหม่ตอนนี้? ข้อเสนอขององค์หญิง โจวหยู่เกิดจากการประนีประนอม
เจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ มันเป็นเพียงการทดสอบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามบางคนไม่เห็นด้วย
องค์หญิง เราควรหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายทั้งหมด บรรพชนวางกฎที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หากสอบไม่ผ่านหลังจากครบกำหนด องค์หญิงเป็นผู้บัญชาการหลักและเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์ กฎของบรรพชนจะถูกยกเลิกเพียงเพื่อทายาทของท่านอ๋อง?
ดูหลูไห่ได้ปรากฏตัวในช่วงเวลาอันรวดเร็วทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่บอกว่าเขาไม่อยู่
ดูหลูไห่. เจี้ยงเฉินนึกไม่ถึงกับคาดเดาอะไรบางอย่างเมื่อเห็นใบหน้าของดูหลูไห่
เจี้ยงเฉิน เจ้าละเลยกฎและระเบียบวินัย แล้วเจ้าจะยังรบกวนสนามการทดสอบอีก การกระทำของเจ้าครั้งนี้ช่างเลวทรามนัก !
เจ้าทำผิดกฏ ล่อลวงให้องค์หญิงสับสน วางแผนที่จะยกเลิกกฏของบรรพชน เจ้ามันคนทรยศ!
เจ้าเป็นเพียงทายาทของท่านอ๋อง เจ้ากล้าทำถึงเพียงนี้ !
คำพูดยาวเหยียดของดูหลูไห่เกี่ยวกับการกระทำผิดได้ฝังแน่นในหัวของเจี้ยงเฉิน
เรื่องราวในอดีตได้ย้อนมายังเจี้ยงเฉินอีกครั้ง
ณ ตอนนั้นเองได้เกิดเรื่องที่น่าทึ่ง!
เจี้ยงเฉินขยับแขนขึ้นพร้อมที่จะสะบัดลงบนใบหน้าของดูหลูไห่
เจี้ยงเฉิน หยุดทำเรื่องบ้าบิ่น ! องค์หญิงโจวหยู่รีบพูดขึ้นมา
แต่ช้าไปแล้ว ความร้อนและความปวดแสบปวดร้อนของการถูกตบของเขาฝังอยู่บนใบหน้าของดูหลูไห่เรียบร้อยแล้ว ภูเขาสีแดงสดที่เกิดขึ้นจากนิ้วมือทั้งห้าถูกประทับตราบนใบหน้าของดูหลูไห่ มันปรากฏขึ้นชัดเจนมากขึ้นเนื่องจากใบหน้าเคร่งขรึมและสีผิวที่มืดมนของเขา
ดูหลูไห่ ข้าเตือนเจ้าแล้วว่าอย่ามาเล่นตลกกับข้า แต่เจ้าก็เกินเยียวยา ไม่มีใครตายถ้าไม่รนหาที่ แต่เจ้ารนหาที่ตายเอง ข้าเจี้ยงเฉินจะทำให้เจ้าได้รับสิ่งที่เจ้าปรารถนา !
มากับข้า ข้าจะพาเจ้าไปยังหอทองคำศักดิ์สิทธิ์ขององค์ราชา ข้าต้องการประลองกับเจ้าต่อหน้าองค์ราชา ถ้ากระดาษคำตอบของข้าไม่ถูกต้อง ข้าก็จะยอมลงจากตำแหน่งอ๋อง แต่ถ้ามีใครเล่นตลก ดูหลูไห่ข้าจะตัดหัวเจ้าออกจากบ่า
เจี้ยงเฉินไม่สนใจถึงความโกลาหลที่เกิดขึ้น สถาณการณ์ตอนนี้ได้ทำให้เกิดความประหลาดใจแก่ผู้คน เขาเดินมุ่งหน้าไปยังหอทองคำศักสิทธ์ขององค์ราชาอย่างรวดเร็วดุจดั่งดาวตก
เขาได้ทิ้งฝูงชนที่ตกตะลึงไว้เบื้องหลัง
องค์หญิงโจวหยู่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจ นางรีบตามติดออกมา ทิ้งให้ดูหลูไห่ยืนชะงัก เขาไม่มีเวลาที่จะแสร้งบีบน้ำตาด้วยซ่ำ
โอ้ฟ้าสวรรค์ ! ตระกูลเจี้ยงต้องการก่อกบฏ! เขาต้องการใส่ไฟ จับตัวมันไว้ ผู้คุมการทดสอบมังกรซ่อน มันได้รบกวนสนามการทดสอบ และยังต้องการยกเลิกกฎของบรรรพชน ข้าต้องการจะนำเสนอเรื่องนี้ต่อองค์ราชาในหอทองคำศักดิ์สิทธิ์ ที่ท้องพระโรง ข้าจะทำลายล้างตระกูลเจี้ยง! การแสดงออกของดูหลูไห่นั้นดูน่ากลัวมาก!