ตอนที่ 36 การร้องทุกข์ต่อจักรพรรดิ
-------------------------
ที่ด้านหน้าของหอทองคำศักดิ์สิทธิ์ กลองมังกรถูกตีขึ้นสิบครั้งติดต่อกันและระฆังมังกรก็ถูกสั่นเก้าครั้งเจี้ยงเฉินเดินก้าวยาว ๆ เข้าไปในท้องพระโรงหลังจากเสียงกลองและเสียงระฆังดังขึ้น เมื่อเขาเดินมาถึงทางแยก ด้วยเหรียญมังกรแกะสลักเหล่ายามรักษาการณ์ให้เขาผ่านโดยไม่กล้าปริปากภายใต้การจ้องมองด้วยความตกใจแกมประหลาดใจของเหล่าขุนนางและองค์รักษ์ทั้งหมด เจี้ยงเฉินได้ก้าวขึ้นบันไดไปด้านหน้าบัลลังก์
หลังจากถวายความเคารพองค์ราชา เขาก็เริ่มโอดครวญถึงความบริสุทธิ์ของเขา ถวายบังคมฝ่าบาท ข้าน้อยบากบั่นพร่ำเรียนยุทธวิธีการรบและการทหารมานับสิบปี สวรรค์และแผ่นดินนี้สามารถเป็นพยานถึงหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดีของข้าน้อย อนิจจา ข้าน้อยได้มีเรื่องบาดหมางกับคนชั่วและพวกเขาได้ทำให้ข้าน้อยได้รับความอยุติธรรมอย่างร้ายแรง มีเพียงต่อหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาทเท่านั้นที่ข้าน้อยสามารถขอความช่วยเหลือได้ ฝ่าบาททรงเป็นผู้ที่มีเมตตาและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม ขอพระองค์ทรงช่วยตัดสินให้ข้าน้อยด้วยเถิด ขุนนางเจี้ยง
เหตุใดเจ้าเศร้าใจเช่นนี้? บอกเราว่าสิ่งใดที่ทำให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจ แม้ราชาตงฟางหลู่จะพอรู้แล้วว่าเจี้ยงเฉินถูกกลั่นแกล้ง เขาตกอยู่ในเรือลำเดียวกันกับตงฟางหลู่เช่นนี้เนื่องจากสถานการณ์ในเมืองหลวง ตงฟงหลู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเล่นตามน้ำไปสักพัก ฝ่าบาท ข้อเท็จจริงของเรื่องนี้... เจี้ยงเฉินได้กล่าวถึงปัญหาทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบและเขาก็ไม่ได้พูดเกินความจริงในประเด็นสำคัญหลายอย่าง โดยเรื่องราวทั้งหมดมุ่งประเด็นโจมตีไปยังดูหลูไห่โดยตรงเขาเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมดโดยให้ประโยชน์กับตัวเองได้อย่างไม่มีที่ติ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกไม่มีแรงกดดันในการทำให้มันอึกทึกครึกโครมราชาตงฟางหลู่แห่งอาณาจักรตะวันออกใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตรัสออกมาว่า
ถ้าเป็นเรื่องจริงตามที่เจ้าพูด เจ้าก็ประสบเคราะห์กรรมอย่างแท้จริง ตอนนี้เรารู้เรื่องนี้แล้ว แต่มันจะดูไม่ยุติธรรมหากเราจะฟังความเพียงข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น เรายังต้องการฟังความอีกด้าน" ข้าน้อยพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับดูหลูไห่พะยะค่ะ"เจี้ยงเฉินเป็นคนที่แน่วแน่ในการเอาชนะถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้เขามีเหตุผลทั้งหมดครั้งนี้ดูหลูไห่โกรธมาก เจี้ยงเฉินได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะสู้กับดูหลูไห่จนลมหายใจสุดท้ายณ ตอนนี้เองที่ดูหลูไห่ก็แสดงอาการสะอึกสะอื้นออกมา มือข้างหนึ่งเช็ดน้ำมูกอีกข้างเช็ดน้ำตา
นอกเหนือไปจากรอยนิ้วมือทั้งห้าที่ประทับอยู่บนใบหน้าของเขา ระหว่างทางเดินเข้ามาเขายังได้ดึงมวยผมของตัวเองออกเพื่อทำให้ตัวเองดูกระเซิงยุ่งเหยิง ..มันทำให้คนอื่นรู้สึกสงสารเมื่อเขาเดินเข้ามาในสภาพนี้ ดูหลูไห่คนนี้เปรียบดั่งสุนัขจิ้งจอกแพรวพราวไปด้วยเล่ห์กล การแสดงละครตบตาผู้คนของเขาเหนือชั้นกว่าเด็กอย่างเจี้ยงเฉินมากนัก ขุนนางและทหารบางคนต่างคิดกันอย่างเงียบ ๆต้องยอมรับว่าการแสดงของดูหลูไห่นั้นดูเลิศหรูสมบูรณ์แบบกว่าเจี้ยงเฉิน ดวงตาที่ทุกข์ทรมาน
การแสดงออกถึงความหดหู่ ผมที่พะรุงพะรังและเสื้อผ้าที่ไม่เป็นระเบียบ ทั้งหมดถูกจัดฉากได้อย่างแนบเนียน ฝ่าบาท ขุนนางอันเก่าแก่ของท่านได้รับความอยุติธรรม หัวของดูหลูไห่ราบลงไปบนพื้น ก้นของเขาลอยอยู่ในอากาศ เขาบีบน้ำตาให้ไหลออกมาเหมือนก๊อกน้ำที่เปิดอยู่ จงยืนขึ้นดูหลูไห่ และเล่ามา
ราชาตงฟางไม่สามารถเลือกปฏิบัติต่อหน้าเหล่าขุนนางและทหารเจี้ยงเฉินไม่ได้ประพฤติตัวไม่สุภาพในหอศักดิ์สิทธิ์ทองคำ เขายืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเย็นชา คอยดูความพยายามอย่างหนักของดูหลูไห่ในการแสดงละครตบตา เมื่อเห็นตัวตลกที่พยายามแสดงละครตบตาอย่างดูหลูไห่ หัวใจของเจี้ยงเฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรังเกียจเหยียดหยามอย่างมาก ฝ่าบาท ข้าน้อยต้องการที่จะร้องเรียนว่าเจี้ยงเฉินไม่ปฏิบัติตามกฎและระเบียบ เขาทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในการทดสอบมังกรซ่อน เขาทำร้ายผู้ควบคุม และเขายังได้ล่อลวงให้องค์หญิงโจวหยู่ทำลายกฎที่บรรพชนกำหนดไว้ ฝ่าบาท สัตว์ร้ายตัวนี้ได้ทำตัวน่ารังเกียจในพิธีบูชาศักดิ์สิทธิ์ และตอนนี้เขาดูหมิ่นอำนาจของบรรพชน
อาชญากรรมของพ่อลูกตระกูลเจี้ยงนี้เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ ข้าน้อยขอให้ฝ่าบาททรงพิพากษาให้ทำลายล้างตระกูลเจี้ยง ณ ตอนนี้ดูหลูไห่กลับมายืนประจำตำแหน่ง เขาได้มีแผนการซุกซ่อนไว้ในแขนเสื้อ เขารู้ดีว่าจะกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกเพื่อสร้างความโกรธแค้นให้กับฝูงชนได้อย่างไร วิธีการใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคที่จะทำให้เขาได้สัมผัสถึงความตายของพ่อลูกตระกูลเจียงอย่างไรก็ตาม ในความหลากหลายของแผนการของเขา เขาไม่เคยคิดว่าตงฟางหลู่ได้วางแผนระยะยาวให้พ่อลูกตระกูลเจี้ยงเป็นส่วนหนึ่งในของวังหลวงแผนละครตบตาของเขาที่นี่ ไม่ได้ทำให้ราชาตงฟางลูมีความเมตตาสงสารแก่เขาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นองค์ราชายังรู้สึกระแวงในตัวดูหลูไห่มากขึ้นท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุม ขุนนางอาวุโสบางคนรู้สึกกระสับกระสายเพราะเล่ห์เพทุบายของดูหลูไห่พวกเขาเป็นขุนนางเก่าแก่
พวกเขาหัวเสียเป็นอย่างมากเมื่อเจี้ยงเฉินคนที่แสดงกิริยาป่าเถื่อนในพิธีบูชาศักดิ์สิทธิ์ รอดตายจากการโดนเฆี่ยน พวกเขาคิดว่ามันเป็นลางร้ายและตอนนี้เจี้ยงเฉินไม่ได้สำนึกผิดเขายังก่อความวุ่นวายในการทดสอบมังกรซ่อนและได้ท้าทายกฎของบรรพชน ! ในสายตาพวกเขานี่เป็นการทรยศและการกระทำผิดที่ร้ายแรง ฝ่าบาท พ่อลูกตระกูลเจี้ยงอวดดีเกินไปแล้วและพฤติกรรมของพวกเขาก็มิอาจได้รับการอภัยโทษ! ข้าก็เห็นด้วยเราไม่ควรส่งเสริมให้พวกคดโกงนั้นยิ่งใหญ่ ! ขุนนางอาวุโสสองคนไว้เครายาวได้รีบพูดแทรกขึ้นมาเจี้ยงเฉินเล็งไปที่ขุนนางอาวุโสทั้งสองแล้วมองไปยังขุนนางของมังกรทะยาน
ซึ่งยืนอยู่ทางด้านซ้ายของแถวหน้าเขากำลังใช้ความคิดขุนนางแห่งมังกรทะยานมีนิสัยสงบและทำเป็นไม่แยแสราวกับว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา แต่ในความเป็นจริงเจี้ยงเฉินมั่นใจได้ว่าเขาจะต้องควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เบื้องหลังเพื่อให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นดูหลูไห่แสดงละครต่อโดยร้องเรียน สองขุนนางอาวุโสช่วยเพิ่มเชื้อเพลิงและสมุนรับใช้ของพวกเขาก็พยายามเล่นไปตามบทเหล่าขุนนางนี้เป็นขุนนางชั้นใหญ่ในอาณาจักรตะวันออกทั้งหมด ถ้ามีขุนนางเหล่านี้เป็นคนของขุนนางแห่งมังกรทะยานแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะต่อต้านเจี้ยงเฉิน ฝ่าบาท
หลังจากได้ยินสิ่งที่เจี้ยงเฉินและขุนนางดูหลูไห่กล่าว ข้าน้อยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมไม่ให้โอกาสพวกเขาทั้งสองที่จะให้คำอธิบายตามลำดับและล้างมลทินของตัวเอง ? ถ้าเจี้ยงเฉินทำผิดกฎหมายของแผ่นดิน จะไม่มีการอภัยโทษให้แก่เขา แต่ถ้ามีคนกล้าคดโกงและก่อให้เกิดความเสียหายต่อการทดสอบมังกรซ่อน นั่นก็เท่ากับเป็นการท้าทายกฏของบรรพชนไม่ใช่หรือ ? ข้าน้อยรู้สึกว่าเราไม่ควรตัดสินคนดีว่าทำผิด และไม่สามารถปล่อยให้คนผิดให้รอดตัว เรื่องนี้ต้องได้รับการจัดการอย่างเปิดเผยเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้รับคำอธิบายที่น่าพอใจ ขุนนางผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่ยึดมั่นในพระราชวงศ์และได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อสนับสนุนราชาตงฟางหลู่ ใช่แล้ว ข้าน้อยก็คิดเช่นนี้
อย่างไรก็ตามมันก็เป็นแค่ข้อมูลของแต่ละฝ่าย ข้าน้อยคิดว่าเราควรปล่อยให้พวกเขาหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง นี่เป็นขุนนางที่เป็นมิตรกับตระกูลเจี้ยงราชาตงฟางหลู่ใช้ความคิดชั่วครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า
ถ้าอย่างนั้น ขุนนางดูหลู่ไห่เริ่มก่อน . ดูหลูไห่พยักหน้า ขอรับฝ่าบาท โปรดประทานอนุญาตให้ข้าน้อยได้พูด ตระกูลเจี้ยงมาหาข้าสองครั้งก่อนที่การทดสอบทั้งสามจะเริ่มขี้น ครั้งแรกเพื่อมอบของกำนัลให้แก่ข้าเป็นเงินหกแสนชั่ง ข้ามีความสุขกับความเมตตาของราชวงศ์และข้าก็มีความรับผิดชอบ ข้าจะรับสินบนและกระทำผิดกฎหมายได้อย่างไร? ข้าน้อยเลยขอปฏิเสธข้อเสนอนี้ของเจี้ยงเฟิงอย่างฉับพลัน เขาขอให้โกงแล้วยังจะนำเงินจากกองคลังมาจ่ายพ่อลูกตระกูลเจี้ยงยังได้เชิญข้าน้อยไปที่คฤหาสน์ของพวกเขาเป็นครั้งที่สอง
เมื่อเกลี้ยกล่อมข้าไม่ได้ผล เจี้ยงเฉินขู่ข้าต่อหน้าผู้คน บอกว่าข้าจะต้องเสียใจกับการกระทำของข้าไม่ช้าก็เร็วข้าน้อยมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวมั่นคงและไม่ยอมแพ้ ข้าน้อยมีจิตสำนึกที่ชัดเจนตลอดหลายเรื่องที่ข้าน้อยได้กระทำเพื่อฝ่าบาท แล้วทำไมข้าน้อยต้องกลัวคำขู่ของตระกูลเจี้ยง ? ยกเว้นใครจะคิดว่าพ่อลูกตระกูลเจี้ยงนี้จะดื้อด้านและบ้าคลั่ง
เพื่อก่อกวนสนามการทดสอบและจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายข้าน้อยเมื่อเขาสอบไม่ผ่าน ! ฝ่าบาท ผู้ควบคุมการสอบและเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอ่านแผ่นคำตอบสามารถรับรองข้อเท็จจริงที่ว่าแผ่นคำตอบของเจี้ยงเฉินที่ส่งมอบให้เป็นคำตอบที่โง่เง่าและนอกประเด็นอย่างสิ้นเชิง ในกรณีนี้ ข้าจะแสดงความลำเอียงและโกงได้อย่างไร? ทำลายกฎของการทดสอบมังกรซ่อน ? ทำลายกฎเกณฑ์ที่บรรพชนวางไว้? เสียงของดูหลูไห่ดังกังวาน และเขาก็พูดแบบไม่หยุดหายใจ จากการปรากฏตัวของเขา
ราวกับว่าเขาเป็นคนยุติธรรมและซื่อสัตย์เหมือนผู้พิพากษาเปา(TL ผู้พิพากษาเปา หมายถึง ผู้พิพากษาชาวจีนโบราณ ที่เรารู้จักในนาม เปาบุ้นจิ้น)เขาน่าจะได้รับการยกย่อง สำบัดสำนวนของเขาเป็นเลิศ หลังจากคำพูดของเขา เหล่าขุนนางที่ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดหลายคนรู้สึกว่าตระกูลเจี้ยงนี้อาจจะไม่บริสุทธิ์ราชาตงฟางหลู่รู้สึกว่าเรื่องนี้รับมือได้ค่อนข้างยากที่จะและมองไปยังเจี้ยงเฉิน ฝ่าบาท ข้าน้อยมายังหอทองคำศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มาเพื่อที่จะมีส่วนร่วมในการปะทะคารมกับดูหลูไห่ เขาเป็นขุนนางมานานกว่า 10 ปีและพูดจาได้อย่างคล่องแคล่วสมบูรณ์แบบและไม่มีที่ติ เขาสามารถที่จะสาธยายให้เส้นฟางเป็นทองแท่งได้มันมีเบื้องหลังเกี่ยวกับเงินหกแสนชั่ง แต่มันไม่ได้มาจากการที่ท่านพ่อของข้าน้อยขอให้เขาโกงเพื่อที่จะให้ข้าผ่านการทดสอบ แต่ผู้ชายคนนี้มาที่คฤหาสน์เจี้ยงฮานเพื่อเรียกร้องสินบนเป็นนัยว่าตระกูลเจี้ยงของข้าสามารถซื้อความสงบสุขได้ด้วยเงิน ถ้าเราไม่จ่ายเงินหกแสนชั่งแล้ว
เขาจะขัดขวางข้าไม่ให้ผ่านการทดสอบพื้นฐานเขายอมรับเงิน แต่แล้วกลับมาอีกครั้งหลังจากได้รับแรงกดดันจากบางฝ่าย เขาชี้ให้เห็นว่าเขาได้รับเงิน แต่ก็ยังคงขัดขวางข้าไม่ให้ผ่านการทดสอบพื้นฐาน พ่อของข้าไม่สามารถควบคุมความโกรธจึงเริ่มโต้เถียงกับเขา เขาบอกว่าดูหลูไห่ยอมรับเงิน แต่ไม่ยอมให้ข้าผ่านการทดสอบถ้าเงินหกแสนชั่งสามารถซื้อความสงบสุขแล้วตระกูลเจี้ยงก็เต็มใจที่จะเป็นพวกโง่เง่าเต่าตุ่น เมื่อพูดเสร็จแล้ว เราก็สามารถกลับไปที่ดินแดนของเราและทำงานสักพักในการใช้ชีวิตที่ยากลำบากเพียงไม่กี่ปี แต่เราไม่เคยคาดหวังว่าดูหลูไห่ผู้นี้ที่ได้รับความเมตตาปราณีจากราชวงศ์จะยอมรับข้อเสนอจากคำขู่ของคนไม่กี่คน
และเขายังไม่สนใจกฎของบรรพชนและละเมิดกฎของการทดสอบมังกรซ่อน เขาจ้างคนบางคนและเปลี่ยนกระดาษคำตอบของข้าน้อย ! บุคคลเหล่านั้นต่างมียศและชื่อเสียงในราชอาณาจักรนี้ ข้าน้อยขอถามหน่อยว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ข้าน้อยสามารถผ่านการสอบสองครั้งแรก แต่ไม่สามารถผ่านที่สามที่เป็นเพียงการท่องจำ ? นี่สอดคล้องกับความเป็นไปได้หรือ ? อะไรนะ มีการเปลี่ยนกระดาษคำตอบ ? ดูหลูไห่คนนี้ช่างอวดดีนัก ? "ตั้งแต่อดีตไม่มีใครกล้าทำเรื่องยุ่ง ๆ ในการทดสอบมังกรซ่อนจนถึงบัดนี้ ตระกูลเจี้ยงนี้กำลังร้องเรียนเรื่องโป้ปด
สิ่งที่เจี้ยงเฉินกล่าวมีความเป็นไปได้. การสอบครั้งที่สามขึ้นอยู่กับความจำเพียงเท่านั้น แม้เด็กเจ็ดขวบแปดขวบก็อาจจะมีสิทธิ์ผ่าน ! ผู้ควบคุมได้วิจารณ์กันอย่างดุเดือด พวกเขาก็ไม่ทราบว่าอะไรคือความจริงและอะไรคือความเท็จถ้าขึ้นอยู่กับชื่อเสียง ขุนนางแห่งเจี้ยงฮาน เจี้ยงเฟิงเป็นคนที่เด็ดขาดและแน่วแน่ในทางตรงกันข้ามชื่อเสียงของดูหลูไห่นั้นธรรมดามาก หลายคนในเมืองหลวงได้ยินว่าชายคนนี้มีความโลภและรับสินบนอย่างมากมากในสมัยที่เขารับราชการราชาตงฟางหลู่ลูบหน้าผากและมองออกไปที่แถวของเหล่าขุนนาง
พระองค์หวังที่จะให้องค์หญิงโจวหยู่ปรากฏตัวในเวลานี้และช่วยตัดสินความให้กับพระองค์เว้นแต่ว่าองค์หญิงโจวหยู่ยังไม่ได้ปรากฏตัวเลยจนถึงตอนนี้ เธอยุ่งกับอะไร ?ดูหลูไห่ลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกา เจี้ยงเฉิน เจ้ากำลังกล่าวหาข้าโดยไม่มีมูล ! ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าได้รู้ - นี่คือหอทองคำศักดิ์สิทธิ์ คำพูดของเจ้าต้องได้รับการสนับสนุนด้วยหลักฐาน ถ้าเจ้าไม่มีหลักฐาน ข้าสามารถฟ้องร้องเจ้าได้เนื่องจากมีการหมิ่นประมาทขุนนางอาวุโส "หลักฐาน" เจี้ยงเฉินหัวเราะด้วยความเยือกเย็น ข้าแค่ถามคำถามเดียวเท่านั้น ดูหลูไห่ เจ้าบอกว่ากระดาษคำตอบของข้าเป็นคำตอบที่โง่เง่าและนอกประเด็นอย่างสิ้นเชิง ถ้าอย่างนั้นมาพนันกันในหอทองคำศักดิ์สิทธิ์ เรียกเจ้าหน้าที่ผู้คุมที่รับผิดชอบเรื่องการอ่านผลสอบมา ข้าจะตอบคำถามทั้งหมดอีกครั้งในตอนนี้ เราจะได้รู้กันว่าคำตอบเหล่านั้นโง่เง่าเช่นที่เจ้าพูดหรือไม่ ! ตอบอีกครั้ง ? ดูหลูไห่วางมือบนเอวและหัวเราะ เจี้ยงเฉิน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร?
กฎที่กำหนดโดยบรรพชนไม่เคยมีการแก้ไข ทำไมมันจะต้องถูกเปลี่ยนเพื่อเจ้า ? ดูหลูไห่ เจ้ากล่าวเยี่ยงนี้เพราะต้องการปกปิดความผิดของเจ้า"ในเวลานี้เอง เจ้าหน้าที่ควบคุมทุกคนและคำตอบของเจี้ยงเฉินได้รับการนำเสนอไปยังราชาตงฟางหลู่ราชาตงฟางหลู่มองมันอย่างผิวเผินและถอนหายใจเบา ๆ เจี้ยงเฉิน กระดาษคำตอบนี้มีชื่อของเจ้าอยู่ในนั้นและลายมือนี้ก็เหมือนกับลายมือของเจ้า เจ้าจะต้องมีหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าบริสุทธิ์ เจี้ยงเฉินไม่กลัวที่จะมองไปที่เจ้าหน้าควบคุมที่ทั้งสี่คน ฝ่าบาท จะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ควบคุมที่จะหาหลักฐาน
ในสถานการณ์ขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ข้าก็จำเนื้อหาทั้งหมดของการสอบและจำคำตอบของข้าได้อย่างชัดเจน ข้าน้อยเพียงแต่ขอทรงโปรดให้โอกาสแก่ข้าในการเขียนคำตอบที่ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าตระกูลเจี้ยงของข้าต้องสูญเสียคดีนี้และต้องถูกปลดจากตำแหน่งขุนนาง ข้าเจี้ยงเฉินจะยอมรับ และยอมรับความพ่ายแพ้ !
ในกรณีนี้ ให้นำเอาสมบัติทั้งสี่ของการศึกษาออกมา ! ราชาตงฟางหลู่ได้ให้ความเห็นชอบในทันที(TL สมบัติทั้งสี่ของการศึกษา คือ ชุดเครื่องเขียนทั้งสี่ ประกอบด้วย พู่กัน จานหมึก แท่งหมึก และกระดาษ) ฝ่าบาทพะยะค่ะ นี่ไม่เป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ของบรรพบุรุษหรือ ? โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบด้วย ฝ่าบาท กฎของบรรพชนสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างง่ายดายได้อย่างไรกัน ? ราชาตงฟางหลู่ยิ้มจาง ๆ พวกเจ้าทั้งหลายในที่ประชุมนี้ไม่จำเป็นต้องกังวล เราเพียงอยากจะดูคำตอบที่ถูกต้องของเจี้ยงเฉิน แต่ไม่ได้บอกว่าเราจะปล่อยให้เขาผ่านไปถ้าคำตอบถูกต้อง การดำเนินการของเราเพื่อพิจารณาคดี ไม่ใช่เพื่อการทดสอบใหม่
ในกรณีนี้ ทั้งสองฝ่ายเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของเรา และเราจะไม่ใส่ใจได้อย่างไรกัน สี่สมบัติของการศึกษาได้รับการเตรียมพร้อมอย่างรวดเร็ว เจี้ยงเฉินก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ การแสดงออกทางสีหน้าของเขาดูรื่นรมย์และสงบขณะที่เขาเริ่มเขียนบรรยากาศของฉากตกอยู่ในความวิตกกังวลแปลก ๆ