px

เรื่อง : ราชันสามภพ (นิยายแปล)
ตอนที่ 44 ทรัพย์ของการปล้นสะดมที่ถูกยึด เจ้าอยากได้อะไรก็เลือกเอา


ตอนที่ 44 ทรัพย์ของการปล้นสะดมที่ถูกยึด เจ้าอยากได้อะไรก็เลือกเอา

 

-------------------------

 เอ๋ ? สาวสวยฟังคำแนะนำจริง ๆ ด้วย   ฝีปากกล้าของของเจี้ยงเฉินเปิดเผยตัวเองทันทีที่เขาเห็นองค์หญิงโจวหยู่  ดูเหมือนว่าท่านยินยอมที่จะเชื่อข้า ข้าสามารถบอกได้ว่าสภาพของท่านตอนนี้ดีกว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ด้วยความเร็วเช่นนี้ ท่านจะก้าวไปถึงสิบเอ็ดเส้นชีพจรของพลังลมปราณฉีได้ภายเดือนนี้ ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า 

 

เจี้ยงเฉินมีน้ำเสียงเบิกบานใจราวกับว่าการก้าวไปถึงสิบเอ็ดเส้นชีพจรของพลังลมปราณฉีเป็นเรื่องปกติเหมือนกับการกินและการนอนหลับ และไม่มีอะไรยุ่งยาก

 

องค์หญิงโจวหยู่ได้คาดหวังอย่างเต็มที่จากการรอคอยเจี้ยงเฉินเพื่อชมเชยนางด้วยคำไม่กี่คำ มันก็ยังดีแม้ว่าจะมีจุดประสงค์อื่น คำชมเชยทั่วไป - สิ่งต่าง ๆ เช่น ความสามารถพิเศษของนางหรือการที่นางเป็นอัจฉริยะที่หายากได้ในวิชาศิลปะการต่อสู้ด้วยพลังเต๋า

 

แต่นางก็ต้องผิดหวัง ชายหนุ่มคนนี้เหมือนจะไม่รู้เลยว่าผู้หญิงต้องได้รับคำชม

 

เมื่อเห็นว่าองค์หญิงโจวหยู่กำลังจ้องมองเขาด้วยความพิศวง เจี้ยงเฉินยิ้มอย่างอ่อนเพลีย  บอกข้ามาเถอะ ท่านจะให้ข้าทำอะไร ? สองสามวันที่ผ่านมาข้าเหนื่อยมาก ถ้าไม่มีอะไร ข้าจะกลับบ้านไปนอน 

 

องค์หญิงโจวหยู่รู้สึกทั้งโกรธและขบขันด้วยท่าทีของเขา

 

 เจี้ยงเฉิน ตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้างแล้วท่านพ่อของเจ้าล่ะสบายดีไหม ?

 

เจียงเฉินกระพริบตา  ท่านต้องการให้เกิดเรื่องไม่ดีกับข้างั้นรึ?

 

 ไม่ใช่อย่างนั้น  ริมฝีปากหยกขององค์หญิงโจวหยู่ขยับขึ้นอย่างรวดเร็วขณะที่นางดูเหมือนจะโกรธมาก  ในสายตาของเจ้า ข้าเป็นคนร้ายกาจอย่างนั้นรึ?

 

 เอาล่ะ เอาล่ะ ในขณะนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ข้าจำเป็นต้องยอมรับมันและข้าต้องทนกับมันให้ได้ไม่ว่าท่านจะดีหรือร้ายกับข้าใช่รึไม่? ฮืม ท่านมาที่บ้านข้าทุกวัน ท่านมีธุระอะไรที่รีบ ด่วนรึเปล่า ? 

 

องค์หญิงโจวหยู่ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะจัดการกับเจ้างั่งนี่ยังไงดี นางเลยตอบตามตรงว่า  แน่นอน ข้ามีเหตุผลที่ข้าไปหาเจ้า ตามข้ามาสิ

 

 ไปไหน ? ท่านไม่ได้พยายามที่จะย่ำยีเด็ก (เลี้ยงต้อย) ใช่รึมั้ย? เจี้ยงเฉินมองอย่างระมัดระวัง

 

 ย่ำยีเจ้านะหรือ ! อย่ามาล้อเล่นกับข้า ?   องค์หญิงโจวหยู่เกือบตบหน้าเขา

 

 ฮืม ท่านโหดมากและเหมือนผู้ชายมากกว่า ... ท่านชอบผู้หญิงเหรอ?

 

องค์หญิงโจวหยู่แพ้อย่างราบคาบ ถ้าสามารถใช้สายตาฆ่าเจี้ยงเฉินได้ เขาจะต้องตายอย่างน้อยสิบครั้งในขณะนี้

 

เขาเดินตามองค์หญิงโจวหยู่ไปตามทางของนาง และทั้งสองมาถึงคลังเก็บของขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยกองกำลังติดอาวุธหนักกระจายอยู่ทุกด้าน

 

พวกเขาทั้งหมดโค้งคำนับเมื่อเห็นองค์หญิงโจวหยู่

 

 เจี้ยงเฉิน เข้ามาข้างในกับข้า

 

เจี้ยงเฉินให้เกียรติองค์หญิงโจวหยู่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น ขณะเดินอย่างอ่อนน้อมเข้าไปในห้อง นี่เป็นคลังสมบัติขนาดใหญ่

 

ทอง เงิน และสมบัติอื่น ๆ ภายในถูกซ้อนกันเป็นภูเขาเล็ก ๆ ทรัพย์สมบัติแปลก ๆ และล้ำค่าทุกชนิดถูกซ้อนกันอยู่บนชั้นวางของทั้งสองด้าน

 

 เจ้าคิดว่านี่คืออะไร ?  องค์หญิงโจวหยู่ถาม

 

 คำถามของท่านจะไม่ไร้สาระไปหน่อยหรือ? ข้าไม่ได้ตาบอด   เจี้ยงเฉินตอบอย่างกระปรี้กระเปร่า

 

 ทั้งหมดนี้ถูกยึดมาจากบ้านของดูหลูไห่ มันถูกตัั้งไว้ที่นี่มิได้ถูกแตะต้องเลย 

 

 อ่า ? ขุนนางสุนัขคนนั้นเป็นคนโลภขนาดนี้เชียว ?   เจี้ยงเฉินเริ่มแช่งเสียงดังเมื่อได้ยินว่าเป็นทรัพย์สินที่ดูหลูไห่โกงมาได้  โอ้โฮ ต้องจ่ายเงินเยอะขนาดถึงจะได้เป็นเจ้าหน้าที่ในเมืองหลวง ? ข้าต้องคิดอย่างถี่ถ้วนที่จะย้ายมาเมืองหลวงและกลายเป็นเจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการ การเป็นขุนนางไม่เห็นจะมีอะไรดี ? ต้องสู้รบทุกวัน หลั่งเลือดและเหงื่อ และต้องเผชิญกับการปราบปรามในที่สุด ไปเป็นเจ้าหน้าที่ยังจะดีกว่า เจ้าหน้าที่หางแถวไม่สำคัญ เช่น ดูหลูไห่สามารถสะสมทรัพย์สมบัติได้มากมาย! ข้าขอถามหน่อยว่าท่านมีจุดประสงค์อะไรที่พาข้ามาที่นี่ ? ท่านพยายามจะติดสินบนข้าใช่รึไม่ ? ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้ามีประโยคเดียวเท่านั้น - ท่านชนะ ท่านรีบย้ายสิ่งเหล่านี้ไปที่บ้านของข้าเลย

 

องค์หญิงโจวหยู่รู้สึกขบขันกับท่าทางเคร่งขรึมของเขา จนทำให้นางยิ้มได้โดยไม่เจตนา

 

นางพบว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่อนคลายมากที่ได้อยู่กับคนที่มีบุคลิกตลกเช่นนี้ ชายคนนี้มักใช้กลอุบาย เมื่อใดก็ตามที่เขาพบว่ามีโอกาสที่จะทำเช่นนั้น และการมองโลกในแง่ดีเปิดกว้างของเขาทำให้เขาเป็นเหมือนคนละคน

 

 เจี้ยงเฉิน ท่านพี่ของข้าสั่งไว้ว่าให้เจ้าหยิบอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ 

 

 ท่านวางแผนที่จะติดสินบนข้าจริง ๆ หรอ?  เจี้ยงเฉินไม่ได้คิดว่าองค์หญิงโจวหยู่ได้พาเขามาที่นี่เพื่อจุดประสงค์นี้

 

 เจ้าไม่ได้ต้องการทั้งหมดนี่จริง ๆ ใช่หรือไม่  ดวงตาขององค์หญิงโจวหยู่กว้างขึ้น

 

 ถ้าข้าต้องการทองคำและเงินนี้ ข้าจะไม่เอามันจากปากของเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต แต่ข้าก็สามารถพิจารณาที่จะใช้มันเพื่อท่าน   เจี้ยงเฉินกล่าวด้วยเสียงหัวเราะร่าเริง  ถ้าข้าจำไม่ผิด มีน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาภายในอาณาเขตของเจี้ยงหาน และประชาชนได้ประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เก้าในสิบหลังของบ้านถูกทิ้งให้รกร้าง หากสิ่งที่ถูกขโมยมาเหล่านี้สามารถนำมาใช้เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของพวกเขาก็ถือได้ว่าเป็นกุศล สิ่งเดียวที่ข้าไม่รู้ก็คือองค์ราชาจะเต็มใจที่จะทำเช่นนั้นหรือไม่?

 

 เจ้า ... นี่เจ้าพูดจริงหรอ ?  องค์หญิงโจวหยู่ไม่เคยคิดเลยว่าคำพูดดังกล่าวจะมาจากปากของเจี้ยงเฉิน สิ่งนี้ช่วยให้เธอสามารถเข้าใจเจี้ยงเฉินได้ดีขึ้น

 

เจี้ยงเฉินกล่าวด้วยใบหน้าที่สลดว่า  ท่านคิดว่าข้าจะล้อเล่นกับผู้คนนับล้านที่ประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติได้รึ

 

องค์หญิงโจวหยู่รู้สึกคลื่นไส้เวียนศีรษะ ขณะที่ความกังวลอันเป็นศีลธรรมของเจี้ยงเฉินทำให้นางหายใจไม่ออก ในที่สุดดวงตาฟินิกซ์ของนางก็กระพริบ  ดีแล้ว ข้าจะตัดสินใจในนามของราชวงศ์ของข้า ถ้าข้าจำไม่ผิด อาณาจักรจินชานกับตระกูลของเจ้าเป็นเพื่อนเก่ากัน? 

 

 การช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่เมตตากรุณา เป็นประโยชน์ต่อหน้าตาของราชวงศ์ของท่าน แล้วมันมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวของเรา? 

 

การโต้แย้งของเจี้ยงเฉินทำให้ใบหน้าขององค์หญิงโจวหยู่เปลี่ยนเป็นสีแดง นางก็รู้สึกว่าคำพูดของนางขาดความเหมาะสมและสมควรได้รับการตักเตือน

 

หลังจากช่วงเวลาแห่งความอึดอัด องค์หญิงโจวหยู่ก็เข้าประเด็น  เจี้ยงเฉิน ดูหลูไห่นี้เป็นนักสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ อาวุธเหล่านี้ล้วนแต่ไม่ธรรมดา ทำไมเจ้าไม่เลือกซักชิ้นหรือสองชิ้น? 

 

 เอาล่ะ งั้นข้าก็จะไม่เกรงใจล่ะนะ   เจี้ยงเฉินไม่ปฎิเสธและเดินตรงไปยังชั้นที่เต็มไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์

 

มันเป็นการพูดเกินจริงที่เรียกอาวุธธรรมดาเหล่านี้ว่าเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์

 

เจี้ยงเฉินกวาดสายตาของเขาไปเรื่อย ๆ อาวุธส่วนใหญ่เปรียบเสมือนขยะในสายตาของเขา มีเพียงไม่ชิ้นที่พอจะดูดีบ้าง

 

เจี้ยงเฉินจ้องมองไปที่กระบี่ที่ยาวสามฟุต กระบี่อันนี้ถูกซ่อนไว้ภายในปลอกหุ้มเหมือนมังกรที่หลบซ่อนอยู่ในเหวลึก จากภายนอกมันดูไม่สะดุดตาและมันก็ไม่มีแสงเปล่งประกาย

 

แต่ความทรงจำนับล้านปีของเจี้ยงเฉินจากชาติที่แล้วทำให้เขาได้สัมผัสเพียงเล็กน้อยว่าพลังดุร้ายบางอย่างที่ซ่อนเร้นแฝงอยู่ภายในปลอกธรรมดา

 

มันเป็นประเภทของการเก็บรักษาสิ่งสำคัญที่ไม่อยากเปิดเผยให้ใครเห็นเก็บไว้ในสิ่งที่ไม่สะดุดตาผู้คน นี่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่คนธรรมดาบนโลกทำกัน

 

มันคือความเย่อหยิ่ง หากจะดูถูกสิ่งที่อยู่ในโคลนตมเหมือนกับอาวุธธรรมดาอันนี้

 

 นั่นคือสิ่งที่เขามองหา !

 

เจี้ยงเฉินได้เลือกกระบี่นี้ด้วยแวบเดียว มันเหมือนจะล่องหนได้เมื่อถึงเวลาไม่อยากให้เป็นจุดเด่น เมื่อจำเป็นต้องมีการใช้คมมีดมันจะเผยให้เห็นถึงความสามารถที่ไร้ที่ติ!

 

นี่คือบุคลิกของเจี้ยงเฉินและเป็นลักษณะเฉพาะของกระบี่นี้เช่นกัน

 

ตัวตนแต่กำเนิดที่เต็มไปด้วยความหมายของโชคชะตา!

 

เจ้าหญิงโจวหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นเจี้ยงเฉินไม่สนใจกริชอันคมกริบที่ส่งแสงรังสีเป็นประกายออกมาและเลือกกระบี่ที่มีปลอกธรรมดา

 

 เจี้ยงเฉินนี่เป็นชิ้นส่วนของขนนกคริสตัลสีทองและเป็นวัสดุที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างอาวุธ ทำไมเจ้าไม่ตัดสินใจเลือกอันนี้ ?   องค์หญิงโจวหยู่แค่พยายามเข้าใจและให้คำแนะนำได้

 

หากเจี้ยงเฉินเลือกเฉพาะกระบี่ องค์หญิงโจวหยู่รู้สึกว่ารางวัลนี้จะไม่คู่ควรเมื่อเปรียบเทียบกับความช่วยเหลือที่เจี้ยงเฉินให้แก่นาง

 

 โอ๋ —? ข้าคิดว่าข้าสามารถเลือกเพียงอย่างเดียว งั้นข้าเอาอันนั้นด้วยล่ะกัน แต่ข้ามีกระบี่นี้แล้ว โดยชั่วคราวข้าไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธอื่น   เจี้ยงเฉินหยุดชั่วขณะและคิดอะไรบางอย่าง คำพูดของเขาเปลี่ยนไป  การทดสอบมังกรซ่อนกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ดังนั้นข้าจึงควรเตรียมตัวให้พร้อม ท่านมีความสัมพันธ์ที่กว้างขวางในเมืองหลวงใช่ไหม? ช่วยข้าหลอมมีดบินทะลุฟ้าจากวัสดุนี้ 

 

 หลอมมีดบินทะลุฟ้าหรอ?  องค์หญิงโจวหยู่เริ่มรู้สึกว่าวัสดุที่โดดเด่นเช่นนี้ควรใช้ในการปรับแต่งอาวุธศักดิ์สิทธิ์ มันดูน่าอับอายที่จะใช้มันเพื่อสร้างอาวุธขนาดเล็กเช่นมีดบิน

 

 ใช่ ตัดสินจากปริมาณวัสดุสามารถหลอมมีดบินได้เก้าเล่ม.  เจี้ยงเฉินไม่ใส่ใจอะไรกับเรื่องเล็กน้อยเกี่ยวกับการสิ้นเปลือง เพื่อให้สามารถกลายเป็นมีดบินทะลุฟ้าที่เหมาะสมกับเขา - นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นความโชคดีของขนนกคริสตัลสีทอง

 

เมื่อเห็นว่าเจี้ยงเฉินตัดสินใจแล้ว องค์หญิงโจวหยู่ก็ไม่ขัดต่อความปรารถนาของเขาในเรื่องชิ้นส่วนของขนนกคริสตัลสีทอง นางพยักหน้า  ข้าจะพยายามเตรียมมันให้พร้อมสำหรับเจ้าในอีกสองสามวันหน้า

 

"อืม การที่ท่านทำตัวเป็นมิตรที่ดีมันช่างน่ารักเสียจริง ท่านคิดว่าข้าพูดถูกหรือไม่ ? เจี้ยงเฉินมีเสียงเหมือนกับกำลังให้คำแนะนำเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ

 

ตอนนี้องค์หญิงโจวหยู่ไม่มีแรงที่จะเถียงเจี้ยงเฉิน นางจึงทำได้แค่กลอกตาใส่เขา นางก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างอีกครั้ง  ใช่แล้ว เจี้ยงเฉิน สวนโอสถหลวงจะมีงานแสดงโอสถในวันมะรืนนี้ นี่รวมอยู่ในข่าวที่ข้าได้รับ สวนโอสถหลวงต้องการกำจัดหอโอสถให้ออกไปจากวงการนี้ ตระกูลเจี้ยงของเจ้ามีหุ้นอยู่ในหอโอสถ ดังนั้นเจ้าควรจะป้องกันตัวให้ดีที่สุด 

 

 ฮา ฮา ฮ่า, ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้แล้ว มันน่าสนใจดี   เจี้ยงเฉินมีประกายรอยยิ้มที่ไม่เป็นอันตรายและไร้เดียงสาราวกับว่าไม่คิดอะไรจากเรื่องนี้

 

เขาเหยียดมือออกมา  ข้าจะไปตามทางของข้า ถ้าท่านไม่มีอะไรอื่นอีกแล้ว

 

องค์หญิงโจวหยู่โกรธมากที่เห็นเจี้ยงเฉินไม่สนใจอะไร แต่ความคิดของเธอก็เปลี่ยน เจ้านี่ก็เป็นคนแบบนี้แหละ ?

 

ที่คฤหาสน์มังกรทะยานเมื่อครั้งที่ผ่านมาเขาไม่เคยไม่สนใจอะไรเลย ?

 

ผลที่ได้คืออะไร? ไป้ชานอวิ๋นถูกลงโทษด้วยการแข่งขันครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขาก็ว่านอนสอนง่ายและเชื่อฟังต่อเจี้ยงเฉินราวกับว่าเขาเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

 มันเป็นไปได้ไหมที่เด็กคนนั้นไม่ได้ออกไปไหนสักสองสามวัน เพราะเขาแอบเตรียมแผนการเอาคืน?  ยิ่งนางมีปฏิสัมพันธ์กับเจี้ยงเฉินมากเท่าไหร่ องค์หญิงโจวหยู่ยิ่งเข้าใจเกี่ยวกับท่าทีการแสดงออกของเขามากขึ้นเท่านั้น

 

เมื่อหนุ่มคนนี้แสดงรอยยิ้มที่ไม่เป็นอันตรายและไร้เดียงสา บางทีนี่อาจเป็นตอนที่เขากำลังคิดแผน

 

ด้วยความคิดเหล่านี้ องค์หญิงโจวหยู่ไม่สามารถช่วยได้แต่รู้สึกถึงความคาดหวัง แม้ว่านางจะรู้สึกว่าเจี้ยงเฉินไม่ได้หวังที่จะเอาชนะสวนโอสถหลวง

 

แต่บ่อยครั้งที่เจี้ยงเฉินมักจะมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่น่าตกใจ - พฤติกรรมที่ต้องตกตะลึง ใครจะไปรู้ว่าอะไรจะเป็นกลอุบายใหม่ที่เขาจะใช้ในครั้งนี้?

 

เมื่อเห็นว่าเจี้ยงเฉินกำลังเดินจากไป องค์หญิงโจวหยู่ก็นึกขึ้นได้ทันที  ใช่แล้ว เจี้ยงเฉินสถานการณ์ในเมืองหลวงมีความซับซ้อนในช่วงเวลานี้ ผู้บัญชาการเทียนดู๋ได้จัดส่งชายสองคนที่ดีที่สุดของเขาไปยังคฤหาสน์เจี้ยงหานของเจ้าซึ่งพวกเขาจะทำทุกอย่างที่เจ้าสั่ง นี่จะช่วยให้ไม่ให้เจ้าขาดกองกำลังเมื่อเจ้าต้องการ 

 

 บอกให้พวกเขามาพรุ่งนี้  เจี้ยงเฉินโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ แสวงหาผลประโยชน์จากบางคนแต่ก็ยังแสร้งทำเป็นไม่สนใจ  ข้าขอพูดไว้ก่อนว่า - อย่าเพียงแค่ส่งท่อนไม้ไม่กี่ท่อนมาให้ข้า ข้าจะไม่ตอบรับหากพวกเขาไม่เก่งพอ

 

องค์หญิงโจวหยู่ต้องการถอดรองเท้าออกและปาใส่เจ้าปีศาจร้ายนี้ นางได้ทำดีต่อเขา แม้กระทั้งส่งทหารไปอารักขาและส่งของขวัญให้แก่เขา เขากล้าดียังไงที่ไม่แม้แต่จะขอบคุณแล้วยังจะมาเรื่องมากอีก?

 

 คนใจร้าย เจ้าปีศาจนี้ใจร้ายจริง ๆ   รอยยิ้มเล็กน้อยโค้งขึ้นบนริมฝีปากขององค์หญิงโจวหยู่ขณะที่นางตำหนิเขาเบา ๆ ด้วยคำไม่กี่คำ

 

องค์หญิงโจวหยู่ไม่สามารถทำให้ตัวเองเกลียดเจี้ยงเฉินได้ เมื่อคิดถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในตัวนางในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

 

เพราะวิชาที่เจี้ยงเฉินสอนนางนั้นมีประโยชน์อย่างมาก มันทำให้พลังลมปราณฉีของนางราบรื่นขึ้น นอกเหนือจากนั้น ความช่วยเหลือของเขาเกี่ยวกับโอสถจิตวิญญาณที่เขาเขียนให้นาง และในเวลาเพียงไม่กี่วันองค์หญิงโจวหยู่รู้สึกว่าปีศาจภายในของนางกำลังหายไปและแก้ไขด้วยความเร็วที่สามารถสังเกตได้ด้วยสายตามนุษย์

 

พลังลมปราณฉีที่แท้จริงภายในร่างกายของนางก็ค่อย ๆ เปลี่ยนจากความดุร้ายเดิมไปเป็นสถานะที่นางสามารถควบคุมและจัดการได้ง่ายเมื่อเทียบกับประสบการณ์ก่อนหน้านี้

 

ความเชื่อมั่นความภาคภูมิใจและความศรัทธาของนางที่หายไปได้ฟื้นกลับคืนมา

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตอนที่นางทำทั้งหมดนี้ ความคุ้นเคยที่แท้จริงของศิลปะการต่อสู้ด้วยพลังเต๋าก็ได้ปรากฏขึ้นตามธรรมชาติ

 

สิบเอ็ดเส้นชีพจรของพลังลมปราณฉีที่แท้จริง ...

 

ความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งปรากฏขึ้นในแววตาขององค์หญิงโจวหยู่ ทำให้ดวงตาขององค์หญิงโจวหยู่เต็มไปด้วยความสดใสเหมือนดวงดาว

รีวิวผู้อ่าน