ตอนที่ 50 ศิษย์เอกเซี่ยวไป๋ซี่
-------------------------
เซี่ยวไป๋ซี่ตกตะลึงและลุกขึ้นอย่างรีบเร่ง ขุนนางเจี้ยง มีใครจากหอโอสถทำให้ท่านไม่พอใจหรือไม่ ? ข้าจะรีบกลับไปตรวจสอบทันที ใครก็ตามที่ทำให้ท่านไม่พอใจ ข้าจะโยนพวกเขาออกไปกลางถนนทันที !
เจี้ยงเฉินกางมือออกและยิ้ม ไม่ต้องตื่นเต้น ข้าก็แค่พูด ที่ข้าขอให้ท่านมาวันนี้เพราะข้าต้องการจะพูดอะไรจากใจสักสองสามคำ
เซี่ยวไป๋ซี่ฟังอย่างสุภาพและเคารพในคำแนะนำที่ขุนนางน้อยกำลังจะกล่าว เขาได้ถ่อมตัวลงอย่างมากต่อหน้าเจี้ยงเฉิน เขารู้ดีกว่าทุกคนว่าชื่อเสียงและเกียรติยศของหอโอสถซึ่งเป็นของเขาในวันนี้ได้รับการอนุเคราะห์จากเจี้ยงเฉินทั้งหมด
เช่นเดียวกับที่เจี้ยงเฉินกล่าวว่า วันนี้เขาสามารถให้กำไรแก่หอโอสถวันพรุ่งนี้เขาก็สามารถเอาคืนได้ถึงสิบเท่า
เจี้ยงเฉินพยักหน้า ข้าจะพูดตรงไปตรงมา ข้าไม่มีเวลาไปเยี่ยมหอโอสถไม่ว่าจะหนึ่งครั้ง สอง หรือสามครั้งต่อหนึ่งเดือน ข้าต้องการคนสนิทผู้ติดตาม หรือจะให้พูดอีกอย่างก็ได้ว่า ศิษย์ที่เชื่อฟัง - คนที่จะทำตามคำสั่งของข้า
เซี่ยวไป๋ซี่ใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว เขาจะเป็นคนโง่เง่าได้ยังไงถ้าเขาเป็นผู้ดูแลหอโอสถ? เขาเข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของเจี้ยงเฉิน
นี่คือความปรารถนาของเซี่ยวไป๋ซี่ที่จะพิสูจน์ความซื่อสัตย์และประกาศถึงความจงรักภักดีของเขา !
หัวหน้าหอโอสถลำดับสาม ท่านเป็นคนฉลาด ข้าจะพูดอย่างนี้ ถ้าวันหนึ่งมาถึงวันที่มีคนที่ยิ่งใหญ่กว่าท่านมาคุกเข่าต่อหน้าข้าเป็นร้อยครั้งและเลียเท้าข้า ข้าอาจไม่ยอมรับว่าเขาเป็นศิษย์ สิ่งที่ข้าสามารถให้ท่านได้คือสิบเท่า เกินกว่าที่ท่านจินตนาการอยู่นับร้อย ๆ ครั้ง!
เซี่ยวไป๋ซี่หายใจอย่างติดขัด ข้าจะไม่เชื่อท่านได้อย่างไร? เจี้ยงเฉินได้เปลี่ยนโลกทัศน์ทั้งหมดของตลาดโอสถจิตวิญญาณของอาณาจักรตะวันออกด้วยตำรับโอสถที่ได้มาโดยความบังเอิญ
เวลามากพอที่กรุยทางส่งออกโอสถของพวกเขาไปยังอาณาจักรเพื่อนบ้านทั้งสิบหกอาณาจักร และมันกำลังจะทำกำไรได้อย่างมหาศาลโดยไม่ต้องสงสัย
และสิ่งเหล่านี้ได้รับการเอื้ออำนวยโดยเจี้ยงเฉิน
เมื่อความคิดของเขามาถึงจุดนี้, เซี่ยวไป๋ซี่จะลังเลได้อย่างไร? เขาคุกเข่าลงบนพื้นทันที นายท่านที่เคารพ เซี่ยวไป๋ซี่ขอคารวะ ข้าเต็มใจที่จะมอบชีวิตของข้าเพื่อติดตามนายท่าน และเรียนรู้เกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุอันไร้ขอบเขต
หลังจากที่เขาพูด เขาหมอบคลานลงกับพื้นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีและปฏิบัติตามเงื่อนไขของการเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการ
เจี้ยงเฉินไม่ได้วางท่าใด ๆ และยอมรับพิธีการมอบตัวของเซี่ยวไป๋ซี่
เซี่ยวไป๋ซี่ วันหนึ่งจะมาถึง วันที่ท่านพบว่าท่านได้ตัดสินใจอย่างถูกต้องและชาญฉลาดในวันนี้ หากท่านลังเลอีกสักครู่ ท่านก็จะสูญเสียความไว้วางใจของข้าไปแล้ว ความช่วยเหลือที่ข้าได้แสดงให้เห็นท่านควรจะเก็บมันไว้ในวันนี้ด้วย
เซี่ยวไป๋ซี่รู้สึกกลัวมาก
ตั้งแต่ที่ท่านได้ยอมรับว่าข้าเป็นอาจารย์ ข้าจะส่งต่อความลับหลักของสูตรโอสถทั้งสามชนิดนี้ให้แก่ท่าน ด้วยวิธีนี้จะช่วยให้ข้าประหยัดเวลาที่จะไม่ต้องมาเยือนหอโอสถในทุกเดือน
อะไรกัน ?
เซี่ยวไป๋ซี่ตกตะลึง เขาไม่ได้คิดว่าผลประโยชน์ที่น่าอัศจรรย์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับเขาหลังจากยอมรับอาจารย์ เขากำลังจะได้รับเทคนิคหลักของโอสถทั้งสามประเภทโดยตรง !
นี่เป็นความหวังที่ฟุ้งเฟ้อที่เขาไม่ได้ฝันถึง!
อย่าประหลาดใจไป ตำรับโอสถทั้งสามชนิดมันอาจจะเป็นโชคลาภอันประเสริฐในสายตาของท่าน ในสายตาของข้ามันไม่ได้มีค่าอะไรมากกว่าขยะ.
เจี้ยงเฉินไม่ได้โกรธ ด้วยความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุในชาติก่อนของเขา, สูตรโอสถเหล่านี้เป็นของคนขายธรรมดาข้างถนนที่มีสินค้าปกติทั่วไป
คำเหล่านี้ไม่ได้หมายถึงการคุยอวด แต่เป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเพื่อป้องกันไม่ให้เขาอวดดีจากความภาคภูมิใจที่มากไป หลังจากได้รับความลับหลักของสูตรโอสถทั้งสาม
เซี่ยวไป๋ซี่รู้สึกกลัวมากยิ่งขึ้น ท่านอาจารย์ ข้าน้อยกลัวจะไม่สามารถควบคุมสูตรโอสถเหล่านี้ได้ในหอโอสถ ...
ตั้งแต่ที่ข้าได้มอบมันให้กับท่านแล้ว ข้าไม่กลัวว่าท่านจะไม่สามารถควบคุมมันได้ จำไว้ว่า ตอนนี้ท่านแตกต่างจากเมื่อก่อน ท่านมีข้าเป็นผู้สนับสนุน ถ้าใครกล้าที่จะมีเรื่องกับท่านในโลกของโอสถจิตวิญญาณแล้ว ท่านมีสิทธิที่จะบดขยี้พวกเขาให้กลายเป็นฝุ่น ถ้าท่านไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ท่านก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกศิษย์ของข้า
ท่านต้องตระหนักดีว่าถ้าข้ายินดี ผู้คนมากมายที่อ้อนวอนจะเป็นศิษย์ของข้าจะออกมาแสดงตัวและแถวของพวกเขาจะยาวยืดจากอาณาจักรเจี้ยงหานตลอดทางจนถึงเมืองหลวง
เซี่ยวไป๋ซี่รีบกล่าวว่า ศิษย์ของท่านเป็นผู้ศรัทธา นายท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่น่าอัศจรรย์ และต้องเป็นเทวทูตในตำนานอันยิ่งใหญ่ของนักแปรธาตุที่กลับชาติมาเกิด ศิษย์ของท่านจะไม่เชื่อได้อย่างไรกัน? ความสามารถในการดึงดูดความสนใจที่ดีของนายท่านเป็นผลมาจากชะตากรรมจากหลายร้อยปีของการฝึกอบรม.
เจี้ยงเฉินหัวเราะเบา ๆ การกลับชาติมาเกิดของเทวทูตในตำนานอันยิ่งใหญ่ ? เซี่ยวไป๋ซี่คาดเดาได้ดีทีเดียว! แต่เขาก็หัวโบราณเกินไป แม้จะมีการคาดเดาที่กล้าหาญเช่นนั้น!
แน่นอน เจี้ยงเฉินจะไม่เปิดเผยความลับของตัวเองและยิ้มอย่างลึกลับ เทวทูตในตำนานอันยิ่งใหญ่? ไป๋ซี่ ถ้าท่านโชคดีมากพอ ยิ่งท่านติดตามข้านานเท่าใด ท่านจะได้เรียนรู้ว่าชั้นฟ้าทั้งหลายสูงขนาดไหน และโลกใบนี้ใหญ่เพียงใด
สำหรับเซี่ยวไป๋ซี่สิ่งนี้ถูกลิขิตให้เป็นคืนที่นอนไม่หลับ
เย็นนี้ เขาได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเขา
เจี้ยงเฉินไม่ได้สงสัยเกี่ยวกับคนของเขา และได้มอบสูตรลับของโอสถทั้งสามให้แก่เขา นี่ทำให้เซี่ยวไป๋ซี่มอบชีวิตให้กับเขาได้อย่างเต็มใจ
หลังจากที่ได้ส่งเซี่ยวไป๋ซี่ เจี้ยงเฉินก็เข้าไปในห้องฝึกลับของคฤหาสน์เจี้ยงหานและได้ทำการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าเจี้ยงเฉินจะยุ่งมากในช่วงเวลานี้ แต่เขาก็ไม่เคยละเลยการฝึกซ้อมในยามค่ำคืน
หลังจากการฝึกฝนไม่กี่วันที่ผ่านไป เขาก็ก้าวเข้าสู้การฝึกฝน ความลับของเก้าสรวลมหรรณพ อย่างเต็มที่ ภายใต้การช่วยเหลือของวิธีการที่แข็งแกร่งนี้ คลื่นพลังลมปราณฉีได้รับการปรับปรุงด้วยความเร็วอย่างน่ามหัศจรรย์
หกเส้นชีพจรพลังลมปราณฉีของเขาเป็นเหมือนเสือที่หิวโซหกตัว - ที่เต็มไปด้วยความหิวกระหายต่อจุดชีพจรขั้นต่อไป พวกมันกระหายที่จะต่อสู้และพยายามที่จะก้าวไปสู่ชีพจรเส้นที่เจ็ดของพลังลมปราณฉี
ใครจะคิดว่าพลังแห่ง ความลับของเก้าสรวลมหรรณพ จะยิ่งใหญ่กว่าที่คิดไว้ ข้าคิดว่าการก้าวไปสู่ชีพจรเส้นที่เจ็ดมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ ความลับของเก้าสรวลมหรรณพ ช่วยให้คุณภาพของคลื่นที่กว้างใหญ่ของพลังลมปราณฉีของข้าเพิ่มขึ้น ด้วยวิธีการที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ทำให้สามารถบรรลุถึงเส้นชีพจรที่เจ็ดโดยไม่ต้องใช้ความพยายามและการเตรียมพร้อม
เจี้ยงเฉินค้นพบว่าเขาได้ประเมินคุณภาพของ ความลับของเก้าสรวลมหรรณพ ต่ำเกินไป ในวันที่เขาฝึก ความลับของเก้าสรวลมหรรณพ คลื่นพลังอันกว้างใหญ่แห่งลมปราณฉีของเขาได้พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เอาล่ะ เพราะคลื่นพลังที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้กระหาย มันบ่งบอกว่าไม่มีความจำเป็นที่ข้าต้องอืดอาดท่ามกลางดินแดนแห่งพลังลมปราณฉี ปล่อยพลังออกไป !
เจี้ยงเฉินเป็นคนพูดจริงทำจริงและเขาได้จัดการชีพจรเส้นที่เจ็ดของพลังลมปราณฉีทันที หกกระแสของพลังคลื่นขนาดใหญ่แห่งลมปราณฉีเป็นเหมือนแม่น้ำหกสายที่ผสานเข้ากับทะเลอันยิ่งใหญ่
มันง่ายกว่าที่เจี้ยงเฉินคิดไว้ เมื่อเสือหกตัวที่หิวกระหายคลื่นพลังของลมปราณฉีได้วิ่งเข้าหาจุดชีพจรที่เจ็ด กระแสไฟได้ล้อมจุดชีพจรเป็นวงกลม
ในช่วงเวลานั้นพลังลมปราณฉีส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง,ทันใดนั้นเองมันก็ได้ทะลวงเข้าไปสู่ชีพจรเส้นที่เจ็ดโดยปราศจากความลังเลหรือรู้สึกถึงอุปสรรค
"ฮู !"
เจี้ยงเฉินค่อย ๆ สูดอากาศหายใจออก ใครจะคิดว่าการทะลวงเข้าไปสู่ชีพจรเส้นที่เจ็ดแห่งพลังลมปราณฉีจะเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด
ดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องที่ผู้ฝึกฝนในโลกใบนี้มีศักยภาพที่ต่ำกว่า, แต่พวกเขาไม่รู้ถึงวิธีการฝึกซ้อมขั้นสูง ด้วยเจี้ยงเฉินคนนี้เป็นตัวอย่าง, ถ้าเขายินดีที่จะฝึกซ้อมอย่างหนักเขาก็จะได้รับอย่างน้อยหกเส้นชีพจรของพลังลมปราณฉี แม้กระทั่งเส้นที่เจ็ดก็คงจะไม่ได้เป็นความคิดที่ไกลเกินเอื้อม !
เจี้ยงเฉินรู้ว่าเขาได้ผ่านไปได้อย่างง่ายดายและได้เข้าสู่ดินแดนของพลังลมปราณฉีที่แท้จริงอย่างน้อยส่วนหนึ่งเพราะศักยภาพของร่างกายนี้ค่อนข้างดี ,แต่เหตุผลหลักก็เนื่องจากวิธีการฝึกฝนขั้นสูง
ถ้ามองไปทั่วทั้งอาณาจักรตะวันออก ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาวิธีอื่นที่เหนือกว่า ความลับของเก้าสรวลมหรรณพ
แม้กระทั่งวิธีการ รัตนะม่วงบูรพา ของราชวงศ์ก็อ่อนมากเมื่อเทียบกับ ความลับของเก้าสรวลมหรรณพ
การทะลวงเข้าไปสู่ส่วนหนึ่งของพลังลมปราณฉีทำให้ความเชื่อมั่นของเจี้ยงเฉินเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ด้วยความช่วยเหลือของคลื่นพลังที่ลมปราณฉีที่แท้จริงของเขา เจี้ยงเฉินเริ่มที่จะรวมการฝึกฝนเทคนิคศิลปะการต่อสู้ของเขา ด้วยกับรากฐานของกระแสลมปราณฉี เจี้ยงเฉินไม่ได้เลือกเทคนิคที่ลึกซึ้งจนเกินไป
วิธี กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร เป็นรูปแบบที่ได้รับการพัฒนามาจาก คลื่นโหมกระหน่ำ
และ หมัดศักสิทธิ์อันนิรันดร์ ได้รับการพัฒนามาจาก หมัดเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
เจ้าของร่างเดิมเจี้ยงเฉินคนก่อนเคยฝึกฝน คลื่นโหมกระหน่ำ และ หมัดเทพเจ้าแห่งท้องทะเล แต่นับได้ว่าเขาเป็นคนที่เพิ่งจะเหยียบเท้าเข้าไปในห้องฝึกซ้อม,และไม่รู้วิธีการรับมือกับองค์ประกอบหลักอย่างเต็มที่
ดังนั้นเจี้ยงเฉินจึงเริ่มทุกอย่างใหม่อีกครั้ง ตอนนี้เขากำลังฝึกเทคนิคศิลปะการต่อสู้ทั้งสองที่ได้รับการพัฒนารูปแบบให้แข็งแกร่งขึ้น
มีรูปแบบทั้งหมดเจ็ดแบบใน กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร เมื่อรูปแบบทั้งเจ็ดได้รับการฝึกฝนเรียบร้อยแล้ว รูปแบบดาบจะเหมือนกับกระแสของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่,และเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของวีรบุรุษ
ได้มีการกล่าวกันว่าเมื่อทั้งเจ็ดแบบได้รับการฝึกฝนอย่างรอบคอบและมีการศึกษามันอย่างชำนาญเข้าใจในประเด็นต่าง ๆอย่างละเอียดถี่ถ้วน,ผู้คนในยุทธ์ภพแห่งพลังลมปราณฉีจะมีโอกาสในการต่อสู้กับผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ด้วยจิตวิญญาณแห่งเต๋าแบบธรรมดา
ยุทธภพแห่งพลังลมปราณฉีสามารถตอบโต้จิตวิญญาณในตำนานแห่งเต๋า ... สามารถเห็นได้จากคำล่ำลือว่า กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร เป็นเทคนิคที่มีอิทธิพล
ในเขตฝึกอบรมของคฤหาสน์เจี้ยงหาน เจี้ยงเฉินใช้มือของเขาเป็นใบมีดใต้แสงจันทร์ เขาได้เลื่อนตัวออกไปราวกับว่าเขากำลังก้าวขึ้นไปบนคลื่น การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งล้อมรอบแนวความคิดของคลื่นคำราม
กล่าวได้ว่า ความทรงจำของชาติที่แล้วถูกติดตั้งไว้ในตัวเขา,เจี้ยงเฉินรู้ซึ้งและเข้าใจถึงเทคนิคของศิลปะการต่อสู้อย่างถ่องแท้
ในเวลานี้ ฝ่ามือของเขากลายเป็นใบมีด และราวกับว่ามีใบมีดอยู่ในมือของเขาในทุกการเคลื่อนไหว แนวความคิดที่เรียงรายอยู่ด้วยกัน ทำให้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยแสงสว่างที่เด่นชัด
รูปแบบแรกของ 'กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร' - คลื่นเชือดเฉือน !
เจี้ยงเฉินก้าวออกมาและใช้แขนเฉือนลงต่ำ มันเป็นการเฉือนที่สะอาดและเรียบร้อยโดยไม่มีการตกแต่งใด ๆ ไม่มีการบกพร่องของการเคลื่อนไหวภายนอก ง่ายและรวดเร็ว พุ่งเข้าไปยังจุดหลัก !
พลังลมปราณฉีที่แท้จริงเป็นเหมือนน้ำค้างแข็งเต็มไปด้วยอากาศที่หนาวจัด
พร้อมด้วยความรู้สึกที่เป็นเหมือนโลหะที่แข็งแรง พลังลมปราณฉีไหลผ่านใบมีดที่จุดฝ่ามือตรงไปหยุดลงที่สลักศิลา
หลังจากเสียงที่สะเทือนจากศิลาที่กำลังแตก, ทำให้สลักหลุดลงไปตรงกลางอย่างประณีต ทั้งสองด้านเรียบและเงาเหมือนกระจก - ราวกับมีดตัดผ่านเต้าหู้
มันเหมือนกับว่าใบมีดจริงได้ตัดผ่านมันด้วยการเคลื่อนไหวนี้
ความสนใจของเจี้ยงเฉินเพิ่มขึ้นอย่างมากในขณะที่เขาขยับเท้าขึ้นเรื่อยๆ แขนของเขายังคงเฉือนลงต่ำ,เหมือนกับคลื่นที่เรียงกับเป็นชั้น ๆ
แครก, แครก ...
เจี้ยงเฉินเฉือนลงไปเก้าครั้งในการเคลื่อนไหวเดียว
พลังลมปราณฉีเก้ากระแสที่ปราณีไหลผ่านเขา ในขณะที่แถวของสลักศิลาแตกกระจายไปตามลำดับจนถึงตรงกลาง พร้อมกับจังหวะที่ไพเราะ ด้านข้างของสลักศิลาที่แตกกระจายมีความประณีตเหมือนกระจก
'กระแสน้ำแห่งมหาสมุทรเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อจริง ๆ ! เจี้ยงเฉินถอยกลับและมองไปที่แถวของศิลาที่แตกออกอย่างเป็นระเบียบ เขาพอใจมากในขณะที่เขาจ้องไปยังพื้นผิวของสลักศิลาที่แตกกระจาย
อำนาจอันยิ่งใหญ่ในรูปแบบแรก และนี้ยังคงเป็นเพียงรูปแบบแรก ถ้าข้าต้องเฉือนเจ็ดครั้งด้วยการเคลื่อนไหวเดียว, ไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะมีใครในยุทธ์ภพของพลังลมปราณฉีที่สามารถทนต่อการเฉือนทั้งเจ็ดครั้งของข้าได้
เจี้ยงเฉินรู้สึกพอใจมากในขณะที่เขามองถึงการทำลายที่น่าอัศจรรย์นี้โดยใช้รูปแบบแรกของ กระแสน้ำแห่งมหาสมุทร
วิธีการที่ได้รับการพัฒนาพร้อมกับเทคนิคศิลปะการต่อสู้ที่ปรับปรุงแล้ว ในราชอาณาจักรเล็ก ๆ ที่มีสถานภาพธรรมดา มันเป็นกฎเกณฑ์ทั่วไปที่จะมองดูคนอื่นในระดับเดียวกันด้วยการดูถูก !
การสอบครั้งสุดท้ายของการทดสอบมังกรซ่อนกำลังจะมาถึง วันที่ราบรื่นและสะดวกสบายของเมืองหลวงมีแนวโน้มที่จะหายไปโดยไม่มีร่องรอย เจี้ยงเฉินได้แลเห็นอย่างสงบว่า พร้อมกับการเริ่มต้นการสอบครั้งสุดท้ายของการทดสอบมังกรซ่อน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนมองโดยมองจากภาพรวมของเมืองหลวง
สถานการณ์ของพายุที่โหมกระหน่ำได้ก่อตัวขึ้นแล้ว, และเจี้ยงเฉินก็ไม่คิดที่จะรามือ !