px

เรื่อง : The Great Mage Returns After 4000 Years
บทที่ 36 เพื่อน (5)


 

“ ฮ่าฮ่า นายแน่ใจใช่ไหม?"

“ เยี่ยมมาก”

"มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"

กัสปาเปเลอรอสหัวเราะอย่างร่าเริงขณะดื่มไวน์ของเขา

งานเลี้ยงที่เพเรียนเป็นคนจัดขึ้นด้วยตัวเอง

เขาพยายามหนักแค่ไหนที่จะเข้ามาในครั้งนี้?

ไม่ใช่เรื่อวอาหารหรือไวน์เท่านั้น

มันคือมิตรภาพ

เป็นการสร้างมิตรภาพกับเหล่าขุนนางที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง

กัสปาอยู่ในตระกูลชั้นสูงในต่างจังหวัด

ตอนที่เขายังเด็กเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำของอาณาจักร แต่เมื่อเขาโตขึ้นเขาก็ตระหนักว่ามันห่างไกลจากความจริงแค่ไหน

ในเมืองหลวงมีการจัดงานเลี้ยงเกือบทุกวัน มันเป็นสถานที่สำหรับการสร้างมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนการรบที่แตกต่างกันไป

ขุนนางจะต้องพิสูจน์คุณค่าของตนในขณะที่ตรวจสอบคนอื่นๆ และผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันมักจะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม

ความสัมพันธ์ดังกล่าวอาจมีผลอย่างมากเนื่องจากพวกเขาอาจสืบทอดวงศ์ตระกูลของตนในภายหลัง

แต่กัสปาไม่ได้รับโอกาสให้เข้าร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในเมืองหลวงเพราะเขามาจากต่างจังหวัด

นั่นคือเหตุผลที่งานเลี้ยงนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา

สำหรับวันนี้เขามีเสื้อผ้าที่สั่งทำโดยร้านชั้นนำและเขาได้เรียนรู้ชื่อของไวน์ราคาแพงมากมายและอาหารพื้นเมืองอื่นๆ

เพื่อให้เป็นไปตามกระแสนิยม

ในไม่ช้าความพยายามอย่างหนักของกัสปาก็สัมฤทธิ์ผล

โดยธรรมชาติแล้วเขาแนะนำตัวได้ดีมาก จนขุนนางในเมืองหลวงเพิกเฉยต่อต้นกำเนิดของเขาได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนความจริงที่ว่าตระกูลเปเลอรอสเป็นตระกูลชนชั้นสูงในจังหวัดที่รู้จักก็ช่วยเขาได้เช่นกัน

‘การจะได้พูดคุยกับเพเรียนนั่นเป็นเรื่องที่ยากเอามากๆ’

เพเรียนจุน

เขาเป็นคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของสังคมในเมืองหลวง แม้แต่ขุนนางที่หัวสูงยังต้องก้มหัวให้เขา

แม้ว่าเขาจะสามารถคุยกับเพเรียนได้เพียงครั้งหนึง แต่ก็ยากที่พวกเขาจะสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งได้

กัสปาเคยได้ยินมาว่าแม้เพเรียนจะดูนุ่มนวล แต่เขาก็จู้จี้จุกจิกอย่างน่าประหลาดใจในการคบหาเพื่อน

หลังจากเรียนรู้สิ่งนี้เขาเลือกที่จะเปลี่ยนเป้าหมายอย่างชาญฉลาดไปที่แพทริคเดอร์ซิดี้ให้เป็นคนที่เขาอยากสร้างสายสัมพันธ์ด้วย

เขาเป็นลูกชายคนโตของมาร์ควิสเดอร์ซิดี้และเป็นลูกของหนึ่งในห้าครอบครัวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวง (Editor note: มาร์ควิส คือตำแหน่งหนึงของราชการฝรั่งคลายๆดยุค)

“ ผมได้ยินข่าวลือมาว่าทักษะดาบของแพทริคไม่ได้ด้อยไปกว่าอัศวินในอาณาจักรลัวโนเบิลเลย ”

“ ฮ่าฮ่าฮ่า! หากใครมุ่งไปที่เส้นทางใดสักทางอย่างน้อยเขาก็ควรจะอยู่ในระดับนั้นไม่ใช่หรือ?”

“ โดดเด่นมากครับ ”

แพทริคเป็นคนง่ายๆ

เขาเป็นคนที่เชื่อว่าตัวเองมีความพิเศษและพร้อมจะเชื่อตัวเองแบบนั้นต่อไป

มันค่อนข้างง่ายที่จะจัดการกับคนประเภทนี้

‘ฉันอาจจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงของแพทริคในอนาคต’

กัสปาเชื่อมั่นว่าการเปิดตัวทางสังคมครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ

ดังนั้นเขาจึงค่อยๆจิบไวน์ขณะที่มองไปรอบๆ

‘มีผู้หญิงดีๆมากมาย’

พวกเธอแตกต่างจากเด็กผู้หญิงในต่างจังหวัดอย่างแน่นอน

พวกเธอมีทั้งร่างกายและรูปร่างหน้าตาที่สวยงามและบุคลิกเจ้าเล่ห์ที่รู้วิธีควบคุมหัวใจของผู้ชาย

กัสปาตรวจสอบพวกเธอทีละคนโดยมีความคิดสกปรกที่ว่าสักคนในนี่อาจจะกลายมาเป็นภรรยาของเขา

แล้วผู้หญิงคนหนึ่งก็เตะตาเขา

“ …”

ในช่วงเวลานั้นกัสปาหลงเสน่ห์ในทันที

เธอช่างดึงดูดสายตาอย่างไม่น่าเชื่อแม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางผู้หญิงสวยคนอื่นๆ ก็ตาม

เธอมีผมสีน้ำเงินดวงตาสีม่วงและริมฝีปากที่น่าทึ่งซึ่งดูเหมือนจะดึงดูดสายตาของทุกคนที่มองมา

‘ - ผู้หญิงคนนี่ช่างงดงามอะไรเช่นนี้…’

นั่นใช่ลิเลียจุนที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นราชินีแห่งโซเชียวในเมืองหลวงหรือไม่?

ไม่...เขาได้ยินมาว่าผมของเธอนั่นสีบลอนด์

ไม่ใช่แค่กัสปา ขุนนางส่วนใหญ่ก็จ้องมองผู้หญิงคนนี้ในขณะที่แสร้งว่าไม่ได้ทำ

อย่างไรก็ตามไม่มีใครเข้าใกล้เธอเพราะความงามที่น่าทึ่งและการปรากฏตัวที่ไม่คุ้นเคยของเธอ

ตอนนั้นเอง

ราวกับว่าเธอพบบางสิ่งที่ต้องการ ใบหน้าของเธอสดใสขึ้นมากและเธอก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เธอกำลังมองหาทันที

กัสปารีบหันไปมองว่าคนรู้จักของสาวสวยคนนี้เป็นใครกัน

เขาเป็นผู้ชายที่ผอมมาก

มันยากที่จะหาคนๆนั่นเจอ นั่นเป็นเพราะผมของผู้ชายคนนั่นซึ่งเป็นสีขาวโดดเด่นท่ามกลางฝูงชน

ในขณะเดียวกันเขาก็ตัดสินว่าผู้ชายคนนี่เป็นคนที่ไม่สำคัญอย่างแน่นอน

นี่เป็นเพราะชายคนนี้อยู่คนเดียวตลอดในงานเลี้ยง

ถ้าเขาไม่มีคนรู้จักเขาก็ควรจะเดินไปรอบๆจนเหงื่อออกเหมือนกับกัสปา แต่การกระทำของเค้ากลับตรงกันข้าม

แน่นอนว่าเขาจะต้องเป็นมือใหม่ที่โชคดีที่ได้รับเชิญมายังงานเลี้ยง

นั่นคือสิ่งที่เขาคิด

‘ความสัมพันธ์ของพวกเขาคืออะไร?’

กัสปาเฝ้าดูบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนด้วยสายตาอิจฉา

ช่วงเวลานั้นเอง

'ฮะ?'

เมื่อเขามองไปที่ใบหน้าของผู้ชายผมขาวดีๆ เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้นเอามากๆ

เหมือนเขาเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง…

'อา…! นั่นมันเฟรย์เบลคไม่ใช่เหรอ?

ถึงตระกูลเบลคจะเป็นหนึ่งในห้าตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิ แต่มันก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายขี้อายคนนี้เลย

บรรดาขุนนางจากเมืองพิลาทรู้ดีว่าอิซากะเบลคไม่ได้ปฏิบัติต่อเฟรย์เหมือนกับลูกชาย

‘ไอ้คนขี้แพ้แบบนั้นจะรู้จักสาวงามแบบนี้ได้ยังไง…’

หลังจากคิดสักพักกัสปาก็เดาออก

ต้องเป็นเพราะชื่อเสียงของตระกูลเบลคแน่ๆ

มิฉะนั้นจะไม่มีคำอธิบายอื่นใด

“ หุหุหุ!”

กัสปาเกิดความคิดดีๆ

เขามีความคิดที่จะทำให้เฟรย์อับอายเพื่อยกสถานะของตัวเองในเวลาเดียวกัน

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เข้าไปหาเฟรย์

“ เฟรย์แกคือเฟรย์ใช่ไหม?”

"นายคือ?"

ในขณะนั้นกัสปามีความรู้สึกแปลกๆ

นั่นเป็นเพราะเสียงของเฟรย์เย็นชากว่าที่เขาจำได้

แต่เขาก็ยังคงส่ายหัว

“ ฮ่าฮ่า! อะไรกัน นายพยายามทำตัวเท่หรือ? ฮะ?"

ข้างนอกเขาอาจดูสงบ แต่ข้างในเขาน่าจะกำลังเป็นบ้า

เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ปากของเขาก็โค้งงอโดยไม่รู้ตัว

“ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะไอ้ขี้แพ้ของตระกูลเบลค”

กัสปาคิดว่าถ้าเขาพูดออกไปแบบนี้เฟรย์คงจะมีปฏิกิริยาบางอย่าง แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น

เฟรย์กลับหันหน้าหนีจากเขาราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจอะไร

เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สนใจ

ใบหน้าของกัสปาเปลี่ยนเป็นสีแดงชั่วขณะ แต่เขาก็ยังคงกลั้นความโกรธเอาไว้ได้

“ ตั้งแต่ฉันได้ยินมาว่าแกเข้ามาเรียนในสถาบันการศึกษา ตระกูลเบลคทรงพลังก็จริงแต่ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าแกซึ่งมีความสามารถน้อยกว่าฉันจะสามารถเข้าเรียนได้”

“ไปให้พ้น”

"ฮะ?"

กัสปาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอ้าปากค้างในขณะนั้น

เขาได้ยินอะไรนะ?

‘ไปให้พ้นหรือ? ผู้ชายคนนี้บอกให้ฉันหลีกไปหรือเปล่า? '

เฟรย์ที่ไม่สามารถแม้แต่จะสบตากับเขาได้ก่อนหน้านี้เพิ่งจะบอกให้เขาหลบไปให้พ้น?

“ แ - แก…”

“ เฟรย์คุณรู้จักเขาไหม?”

ขณะที่กัสปากำลังจะระเบิดโซเนียก็เข้ามาแทรก

เขาคิดว่าน้ำเสียงของเธอช่างไพเราะอย่างไม่น่าเชื่อเขาจึงพยายามอย่างหนักที่จะระงับความโกรธของเขา

เขาไม่สามารถแสดงใบหน้าที่น่าเกลียดต่อหน้าสุภาพสตรีที่สวยงามคนนี้ได้

เขายิ้มเลี่ยนๆให้กับโซเนีย

“ ผมขอโทษที่ฉันทักทายช้า ผมชื่อ กัสปาเปเลอรอส คุณจะให้เกียรติผมได้รู้จักชื่อของคุณได้ไหม?”

“ …”

โซเนียบังคับตัวให้ไม่ให้จุกที่ท้อง

ช่วงเวลาที่เธอเห็นหน้าเขาและได้ยินเสียงของเขามันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายจนอยากจะอ้วก

ขุนนางในอาณาจักรลัวโนเบิลพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการมากนัก สำหรับเธอทัศนคติของขุนนางที่นี่เป็นเพียงการอวดฉลาด

นั่นคือเหตุผลที่เธอมองหาเฟรย์ที่พูดคุยกับเธอด้วยใบหน้าที่แสนจะว่างเปล่า

“ … โซเนีย อควาริด ”

ถึงกระนั้นเธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้จึงทำได้เพียงตอบอย่างไม่เต็มใจ

"อา! คุณคงเป็นคู่หมั้นของเพเรียน”

“ …แต่การหมั้นยังไม่ได้รับการยืนยัน…”

กัสปายิ้ม

ใช่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว

‘เธอมาจากประเทศอื่นดังนั้นเธอจึงถูกเขาหลอกได้อย่างง่ายดาย’

ความจริงที่ว่าเฟรย์เป็นความอัปยศของตระกูลเบลคนั้นเป็นเรื่องจริงที่เปิดเผยซึ่งทุกคนในโลกของชนชั้นสูงรู้กันดี

อย่างไรก็ตามหากอีกฝ่ายเป็นขุนนางจากประเทศอื่นก็เข้าใจได้ว่าพวกเขาไม่น่าจะไม่รู้เรืองนี่

“ กัสปาเกิดอะไรขึ้น?”

กลุ่มของแพทริคได้เดินเข้ามา

ดูเหมือนพวกเขาจะมาเพราะกัสปา แต่สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่โซเนียอย่างชัดเจน

กัสปามีความคิดที่ไร้สาระเมื่อเห็นการจ้องมองของพวกเขา

"พวกเขาเป็นเหมือนกับ"ไฮยีน่า"ฝูงหนึ่ง"

ดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปแล้วว่าเขาก็เข้ามาหาด้วยเหตุผลเดียวกัน

มันเหมือนกับเขาว่ามีอุปสรรคมากมายปรากฏขึ้น แต่ในไม่ช้าเขาก็คิดหาวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์

เขายิ้มหยาดเยิ้มอีกครั้งและกล่าวว่า

“ คุณผู้หญิงมีไวน์รสเลิศอยู่บนโต๊ะนั่น คุณอยากย้ายไปที่ตรงนั่นไหม?”

“ มะ- ไม่ ฉัน…ไม่ไปฉัน…กำลังคุยอยู่กับเฟรย์”

เธอไม่ได้เอ่ยชื่อของเฟรย์โดยมีคำนำหน้าใดๆ

เธอสนิดมากพอที่จะเรียกชื่อแกเฉยๆเลยหรือเฟรย์?

ริมฝีปากของกัสปากระตุก

“ คุณผู้หญิงดูเหมือนคุณกำลังจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง”

“ เข้าใจผิด?”

“ ผู้หญิงครับชายคนนี้เป็นสมาชิกของตระกูลเบลคก็จริง แต่เขาเป็นไอ้พวกขี้แพ้ที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เขาเรียกได้ว่าเป็นความอัปยศของตระกูลเบลค”

กัสปาพูดอย่างเงียบๆ แต่เสียงของเขาก็ไปถึงหูของโซเนียอย่างแน่นอน

เมื่อเธอมองเขาด้วยสายตาที่สับสนกัสปาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น

“ เอิร์ลอิซากะหมดความหวังในตัวเขาแล้วและคิดที่จะขังเข้าไว้ในสถาบัน” (Editor Note : Earl = ยศของฝรั่ง)

"อา ใช่ไหมเฟรย์ไอ้เพื่อนยาก?”

“ คุคุ ฉันได้ยินมาว่าเขาทำให้ตัวเองต้องอับอายในสถาบันเวสต์โร้ด”

แพทริคและเพื่อนๆเล่นตามบทไปกับกัสปาตามคาด

ด้วยวิธีนี้แผนก็เกือบสมบูรณ์

แพทริคยิ้มให้ขณะที่เขาพูด

“ เฟรย์เบลค…ฉันรู้จักพี่ชายของนายนะมัสเกลและไฮนซ์พวกเขาทั้งสองเป็นพ่อมดในหอคอยเวทมนตร์ มัสเกลเพิ่งเป็นหัวหน้าชั้นในหอคอยเวทมนตร์อีกด้วย”

"แล้วไง?"

“ พวกเขาทั้งสองเป็นคนที่เหลือเชื่อมากแต่ดันมีสายเลือดเดียวกับแกไง ไม่สิฉันอาจจะเข้าใจผิด ฉันไม่คิดว่าพวกเขามีสายเลือดเดียวกับแกเลยว่ะ!”

“ คิกคิกคิกคิก!”

“ …”

เฟรย์รู้สึกรำคาญ

เป็นเพียงเพราะงานเลี้ยงของเพเรียนเขาจึงพยายามจะอดทนกับมัน

ถ้าเขาทำร้ายคนพวกนี้ที่นี่บรรยากาศของงานเลี้ยงจะยุ่งเหยิงซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้เพเรียน

อย่างไรก็ตามคำพูดถากถางจากคนไม่กี่คนเหล่านี้ดูเหมือนจะเริ่มมากเกินไป

ตอนนั้นเอง

“ ฉันคิดว่ามันรุนแรงไปหน่อยนะ”

มีคนเข้ามาในกลุ่มพร้อมกับพูดคำเหล่านั้น สายตาของทุกคนก็หันมามองว่าเป็นใคร

มีสี่คนอยู่ที่นั่นแต่ละคนก็คุ้นตาเฟรย์มาก

เมื่อมองอย่างใกล้ชิดพวกเขาเป็นขุนนางที่แสดงความขอบคุณต่อเฟรย์ หลังเหตุการ์ณบนเรือคอร์เตซ

กัสปามองไปที่ชายที่พูดด้วยความประหลาดใจ

‘นั้นมันเอ็นโซทีฟอลส์ไม่ใช่หรือ?’

เขาเป็นลูกของตระกูลโซทีฟอลส์ที่กัสปาให้ความสนใจเช่นกัน

เขาไม่ได้มีอิทธิพลมากเท่ากับแพทริคเดอร์ซิดี้ แต่ตระกูลของเขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในตระกูลที่ดีที่สุดในบรรดาผู้เข้าร่วมงานเลี้ยง

ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเข้าข้างเฟรย์?

“ คุณหมายถึงอะไรที่บอกว่ารุนแรงเกินไป?”

“ ทักษะของเฟรย์นั้นไม่มีใครในสถาบันการศึกษาเก่งพอที่จะเป็นคู่มือเค้าได้เลยนะ อย่ารังเกียจเขาเลย”

“ ฮ่าฮ่า คุณกำลังหมายถึงคนแบบพวกเราหรือเปล่า…หรือมีคนเก่งๆเพียงไม่กี่คนอยู่ในสถาบันเวสต์โร้ด”

“ …”

เมื่อเทียบกับการแสดงออกที่ยิ้มแย้มของแพทริคแล้วใบหน้าของเอ็นโซนั้นดูดุดัน

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด

การแสดงออกของผู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็ดูเหมือนเป็นอริเช่นกัน

พวกเขารู้ว่าทักษะของเฟรย์นั้นยอดเยี่ยมเพียงใด

เฟรย์นั่นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเพเรียนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะที่เก่งที่สุดในสถาบันอีก

เขามีความสามารถในการเอาชนะลิชที่ว่ากันว่าอยู่ในระดับ 5 ดาวได้อย่างง่ายดาย!

อย่างไรก็ตามมีขุนนางเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้

ไม่มีใครอื่นนอกจากคนที่เดินทางบนเรือรบของจักรวรรดิที่คุ้มกันคอร์เตซที่รู้ความจริงนี่ ไม่ว่าเฟรย์จะทรงพลังเพียงใดความจริงที่เรือรบของจักรวรรดิสองลำจมลงก่อนที่พวกเขาจะมีโอกาสตอบโต้อาจทำลายศักดิ์ศรีของจักรวรรดิได้


เพราะเหตุนั้นเรื่องนี่จึงถูกเก็บเงียบ

นักเรียนส่วนใหญ่ยังปฏิเสธที่จะยอมรับว่าชีวิตของพวกเขาได้รับการช่วยเหลือโดยเฟรย์ซึ่งพวกเขาเห็นว่าด้อยกว่า

บางคนถึงกับกล่าวว่าเพเรียนเป็นผู้ช่วยพวกเขา

อย่างไรก็ตามเอ็นโซไม่ลืมว่าเขาเป็นหนี้ชีวิตของเฟรย์

เมื่อเขาเห็นเฟรย์ในงานเลี้ยงตอนแรกเขาอยากจะเข้าไปคุยกับเฟรย์ แต่เมื่อเห็นว่าเฟรย์ต้องการอยู่คนเดียวเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่เข้าไป

เอนโซและคนอื่นๆ ต่างเคารพเฟรย์เป็นอย่างมาก

แต่แล้วพวกเขาก็เห็นว่าเฟรย์ถูกพูดจากดูถูกในงานเลี้ยงและพวกเขาก็ไม่สามารถหยุดนิ่งได้อีกต่อไป

เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่เฟรย์เท่านั้น แต่นักเรียนของสถาบันเวสต์โร้ดทั้งหมดกำลังถูกดูถูก

“ อย่าเอ่ยถึงสถาบันเวสต์โร้ดอีก”

“ มันเป็นแค่โจ็กนะทำไมคุณไม่ผ่อนคลายล่ะ ฉันไม่ได้ต้องการให้นายโมโหนะ”

“ ถ้านายขอโทษเฟรย์ฉันจะอภัยให้”

“ ขอโทษ? ให้เขา?”

แพทริคทำหน้าตางุนงง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เอ็นโซถึงกัดเขาและเข้าข้างเฟรย์

แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะขอโทษ

“ ฉันขอโทษ แต่ตระกูลเดอร์ซิดี้จะไม่ก้มหัวให้ใคร ยิ่งไปกว่านั้นมิตรภาพในสถาบันเวสต์โร้ดช่างสาบซึ้งเสียจริง นายเป็นคนที่เชิญไอ้น่าสมเพชเฟรย์มางานเลี้ยงนี่เอง”

“ คุคุคุ”

“ แย่จริงๆนะที่มีแต่พวกสกปรกปะปนอยู่ในงาน เหมือนน้ำกับสกปรกเลย”

“ ไม่ใช่ฉันหรอกที่…เชิญเขา…”

เอนโซยังพูดไม่จบ แต่กลับจ้องมองข้างหลังแพทริคด้วยสีหน้าว่างเปล่า

แล้วแพทริคก็ได้ยินเสียงเย็นชาข้างๆหูของเขา

"ฉันเอง"

"อะไรนะ?"

แพทริคมองกลับไป หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น

เขาเห็นชายผมบลอนด์เดินตรงมาหาพวกเขา

“ ฉัน…เชิญเขาเอง”

นี่เป็นครั้งแรกที่เฟรย์ได้เห็นใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของเพเรียน

รีวิวผู้อ่าน