px

เรื่อง : Neet
บทที่ 3: คุ้มครอง


 

 

 

มิกะ อุเอฮาระ รู้สึกราวกับว่าหัวเธอต้องมีปัญหาอะไรสกอย่าง

 

ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ค่อนข้างน่ากลัวและเธอต้องการให้ใครบางคนปลอบเธอบ้าง ทำไมเธอถึงได้เชิญไอ้อ้วนนี่ที่บ้านของเธอด้วยล่ะ?

 

แม้ว่าเขาจะดูเหมือนจะเปลี่ยนตัวเองและเขาก็ได้ช่วยเธอก็ตามที แต่ยังไงซะเขก็เป็นไอ้อ้วนโอตาคุอยู่เหมือนเดิมนั่นละ

 

หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความกลัวและความตื่นตระหนก

 

โชคดีที่ สิ่งที่เธอกังวลนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นมาจริงๆ

 

หลังจากที่ เซอิจิ ฮารุตะ ได้ถูกเชิญให้เข้ามาด้านใน เขาปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมและปราศจากร่องรอยหยาบคาย - จนบอกได้ว่าเขาดูสงบและสงวนท่าทีเอาไว้

 

เธอเทชาให้เขาก่อนจะล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอ ตอนเธอกลับมา เธอเห็นว่าเขาไม่ได้ขยับตัวไปไหนเลยและนั่งจิบชาอยู่เงียบ ๆ

 

'ดูเหมือนว่า ... เขาเป็นคนดี' เธอนึกถึงตอนที่เขาช่วยชีวิตเธอไว้ก่อนที่มันจะสายเกินไป และ รู้สึกอายที่สงสัยเขาก่อนหน้านี้

 

"ใบหน้าคุณ ... ยังดูบวมๆอยู่นะครับ" เซอิจิมองที่เธอก่อนจะถามขึ้นมา "มีชุดปฐมพยาบาลบ้างรึเปล่าครับ ? ผมสามารถช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้คุณได้อยู่นะ "

 

มิกะส่งชุดปฐมพยาบาลของเธอมาให้และเซอิจิก็มองเข้าไปข้างใน จากนั้นเขาก็ได้ใช้ก้านสำลีชุบยาฆ่าเชื้อและเช็ดหน้าของเธอ ก่อนที่จะใช้ยาป้ายเและพลาสเตอร์ปิดแผล

 

ทั้งสองคนต่างก็ไม่พูดในช่วงเวลาระหว่างนั้นเลย

 

ความเงียบที่ช่วยปลอบโยน ทำให้หัวใจของมิกะค่อยๆสงบลง

 

"มันดูไม่รุนแรงมากเท่าไร มันน่าจะดีขึ้นหลังจากนอนหลับ ฝันดี." เซอิจิค่อยๆบอกเธอ ขณะที่เขาปิดชุดปฐมพยาบาล

 

"ขอบคุณนะ…"

 

ทั้งห้องได้ตกอยู่ในความเงียบของเขา

 

" คนนั้นเป็นเพื่อนร่วมห้องของคุณจริงๆเหรอครับ ?"เซอิจิทำลายความเงียบลง

 

ใบหน้าของมิกะหมองลง ขณะที่เธอเอียงศีรษะเพื่อบอกในเชิงยอมรับเรื่องนี้

 

ชายผมบลอนเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ และเขาก็เป็นลูกชายของ CEO บริษัทที่บริจาคเงินให้กับโรงเรียนมากมาย ซึ่งหมายความได้อีกอย่างว่าไม่มีครูคนไหนกล้าที่จะเถียงเขา เขาเป็นอันธพาลประจำโรงเรียนอย่างแท้จริง

 

จริงๆแล้วตอนเธอถูกยุให้โทรแจ้งตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่พอนึกถึงพื้นหลังของผู้ชายคนนี้และแม่ของเธอไม่มีกำลังต่อต้านได้เลย ทำให้เธอลังเลใจ

 

"ฮารุตะคุง, ฉัน ... ฉันควรทำอย่างไรดี? "มิกะ อุเอะฮาระเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาๆ และ ไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร

 

เซจิยังไม่มีความคิดดีๆด้วยเช่นกัน อย่าลืมว่าเหตุการณ์รังแกกันในโรงเรียนเช่นนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะรับมือกับมัน

 

" ผมก็พอนึกออกอยู่สามวิธี " หลังจากที่ไตร่ตรองอยู่เงียบๆ เขาก็ได้พูดขึ้น

 

"วิธีแรก สอนบทเรียนที่ทำให้เขาหลาบจำจนไม่มีวันลืม เขาจะได้กลัวไม่กล้ามายุ่งย่ามกับคุณอีก วิธีรที่สองหาคนในโรงเรียนที่แข็งแรงกว่าเขาและขอความคุ้มครอง วิธีที่สามย้ายโรงเรียน "

 

มิกะ อุเอฮาระ ยังคงนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง

 

" มีวิธีอยู่แค่นี้จริงๆเหรอ?"

 

" ดูจากท่าทีของเขาแล้ว ผมคิดว่าเขาคงไม่ยอมแพ้ในตัวคุณอย่างแน่นอน และมันเป็นเหตุการณ์ที่ดูจริงจัง มันสายไปแล้วถ้าคุณจะเรียกตำรวจตอนนี้ ดังนั้นมันก็เหลือเพียงสามวิธีนี้ล่ะ" เมื่อนึกถึงท่าทีของคนผมบลอนด์ เซอิจิรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่เป็นคนเลวจริงๆ

 

มิกะ อุเอฮาระ ยังคงเงียบอยู่

 

เธอไม่รู้ว่าสถานการณ์รุนแรงมากแค่ไหนจนกระทั่งเซอิจิชี้ทางออกให้เธอเห็นอย่างใจเย็น ตอนนี้เธอได้เริ่มตระหนักได้ว่าเธอถูกบังคับให้อยู่ในปากเหว

 

ตัวเลือกแรกไม่ใช่สิ่งที่เธอจะทำได้เลย วิธีที่สามมันไม่ดีที่จะผลักภาระให้กับแม่ของเธอ ตัวเลือกที่สองเป็นทางออกที่เป็นไปได้เพียงทางเดียวสำหรับเธอ ...

 

"ฉันรู้ว่าในโรงเรียนเขาดูเหมือนจะกลัวประธานสภานักเรียน ... แต่ฉันไม่เคยแม้แต่จะพูดกับประธานมาก่อนเลย"

 

"ถ้าประธานสภานักเรียนของคุณเป็นคนน่าเชื่อถือ ถ้าอย่างงั้นก็ไปขอความช่วยเหลือจากเขา คุณควรจะบอกเขาถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากที่คุณกำลังเผชิญอยู่และขอความช่วยเหลือจากเขา "เซอิจิ ให้คำแนะนำแก่เธออย่างจริงจัง :" การก้มหัวให้กับคนอื่นดีกว่าที่จะมีโชคร้ายเกิดขึ้นกับคุณ "

 

ทุกคนมีความภาคภูมิใจของตัวเองและต้องการมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น แต่ในความเป็นจริงมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เมื่อเวลามาถึงทุกคนจะมีบางครั้งที่ต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

 

มิกะ อุเอฮาระ เงียบอีกครั้งเป็นระยะเวลานานก่อนที่เธอจะพยักหน้าเห็นด้วยในที่สุด

 

"ดี ฉันจะไปพูดคุยกับท่านประธาน ในวันพรุ่งนี้"

 

ดังนั้น เธอได้ตัดสินใจในที่สุดเกี่ยวกับแผนการรับมือ

 

"ขอบคุณ ฮารุตะคุง ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันอาจจะ ... "มิกะ อุเอฮาระ ขอบคุณเขาด้วยความจริงใจ

 

เธอค้นพบว่าชายอ้วนคนนี้ที่เธอเคยเกลียดชังก่อนหน้า ได้กลายเป็นคนน่ารักขึ้นมาแล้วในตอนนี้

 

หนุ่มอ้วนยิ้มอย่างจริงใจ ขณะที่เขาเกาแก้มอายๆ

 

"มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ผมเแค่บังเอิญผ่านมา "

 

เขานั่งและพูดคุยกันอีกนาน แต่ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นและกล่าวคำอำลาไป

 

หลังจากที่เขาจากไป เขาก็เหลือบไปที่ระบบของเขาและพบว่า คะแนนความชื่นชอบของ มิกะ อุเอฮาระ ต่อตัวเขาได้เพิ่มไปถึง 50 คะแนน! มันเกือบจะเพียงพอที่จะผ่านระดับของ "เพื่อนธรรมดา ๆ " ซึ่งหมายความว่าเธอเกือบจะเป็น "เพื่อนสนิท " กับเขาแล้ว

 

ตามที่คิดไว้การช่วยชีวิตหญิงสาวในตอนที่เธอเดือดร้อน เป็นวิธีคลาสสิคในการเพื่อคะแนนความชื่นชอบ

 

เมื่อเขากลับมาที่ห้อง เซอิจิก็หันมาใช้เครื่องคอมพิวเตอร์

 

เซอิจิคนเก่าได้ใช้ค่าครองชีพส่วนใหญ่ของเขาทุ่มไปกับคอมพิวเตอร์สเปคสูงๆ ดังนั้นคอมพิวเตอร์เครื่องนี้จึงมีความสามารถหลายอย่าง สัปดาห์นี้นอกเหนือจากการเล่นเกมแล้ว เซอิจิยังกำลังทำการค้นคว้าบนอินเทอร์เน็ต

 

ผลที่ตามมาก็เป็นเช่นเดียวกับที่เขาคาดไว้: สิ่งต่างๆจากโลกก่อนหน้าของเขาเช่น การ์ตูน มังงะ อนิเมะและภาพยนตร์ไม่มีอยู่ในโลกนี้

 

เมื่อเขาถูกพาตัวไปยังอีกโลกหนึ่งเขาควรจะนำเอาวัฒนธรรมจากโลกเก่า ติดตัวมากับเขาบ้างสิ !

 

แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เขาคิดตอนแรก แต่เขาก็รู้ตัวดีว่าหากไม่มีความทรงจำโกงๆ แบบความทรงจำแบบภาพ มันไม่มีทางที่เขาจะสร้างของคลาสิคเช่นนั้นขึ้นมาใหม่ได้

 

เซอิจิถอนหายใจ ทำไมเขาถึงแค่เป็นแฟนๆทั่วไป แทนที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่คลั่งไคล้...

 

เนื่องจากเขาไม่มีความสามารถในการทำซ้ำพวกมัน เซอิจิจึงตัดสินใจที่จะยอมแพ้และสนุกไปกับของที่มีอยู่ในโลกใบนี้แทน

 

ปัจจุบันเขากำลังดูวิดีโอ 3 มิติยอดนิยมในเกาะซากุระที่เขาอาศัยอยู่

 

ในฉากอันสวยงาม สาวสวยตัวสูง ผมดำเหยียดตรง กำลังใส่ชุดสไตล์ตะวันออก เต้นอย่างแม่นยำและร้องเพียงอย่างไพเราะ การกระทำทุกอย่างและรอยยิ้มทุกครั้งก็สามารถจับใจผู้ชมได้อย่างน่าทึ่งและเธอมีเสน่ห์ดึงดูดที่ทำให้เธอสามารถเข้าถึงวิญญาณของผู้คนได้

 

นับตั้งแต่พบวิดีโอนี้ เซอิจิก็ได้ดูมันซ้ำๆหลายต่อหลายครั้งอยู่หลายวันและเขารู้สึกราวกับว่าเขาขาดอะไรบางอย่างหากไม่ได้ดูอย่างน้อยสามหรือสี่ครั้งในทุกๆวัน! เขารู้สึกถึงความปรารถนาที่จะเปิดดูมันซ้ำๆตลอดไป!

 

หลังจากที่เขาได้ดูวิดีโอเสร็จ ขณะที่กำลังจะไปปรุงอาหารด้วยฝีมือตัวเองตอนนั้นมีเสียงเคาะเบา ๆ ที่ประตูของเขา

 

ขณะที่เขาเปิดประตูเขาได้รับการต้อนรับโดยรูปร่างอันสวยงามของสาวสวยผมเปีย

 

"แม่ของฉันทำนี่มาให้ - มันมากเกินไปสำหรับฉันและฉันไม่สามารถกินมมันได้หมด ดังนั้น ... นายอยากได้มันบ้างไหม ?มิกะ อุเอฮาระ กำลังถือกล่องอาหารกลางวันและดูอายๆนิดหน่อย เมื่อเธอพูดมันออกมา

 

เอาล่ะ ยังมีเวลาอีกพอที่จะคุยแบบใจต่อใจกับสาวสวยคนนี้

 

...

 

วันรุ่งขึ้นเมื่อ เซอิจิ ลุกขึ้นและทำกิจวัตรประจำวันตอนเช้าของเขา ก็มีเสียงเคาะเบา ๆ ที่ประตูอีกครั้ง

 

หลังจากที่เขาเปิดมัน มิกะ อุเอฮาระ เดินเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของเขาเหมือนเธออาศัยอยู่ที่นั่นและถืออาหารเช้าร้อนๆมา

 

หลังจากคุยกันตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เธอพบว่าเธอแปลกใจที่ได้แบ่งปันเรื่องที่น่าสนใจทั่วๆไป และตอนนี้เธอมองว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของเธอ

 

แม้ว่าเธอจะดูว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่ความเป็นจริง เมื่อใดก็ตามที่แม่ของเธอไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอ เธอก็สามารถรู้สึกความปลอดภัย ในขณะที่อยู่ข้างๆเจ้าอ้วนนี้

 

และเซอิจิ ฮารุตะดูเหมือนจะเปลี่ยนตัวเองอย่างแท้จริง - มันเกือบจะเหมือนกับว่าเขาเป็นคนที่แตกต่างไปจากโอตาคุที่น่ารังเกียจตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่!

 

ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมากมายแบบนี้ได้ล่ะ ? เธอถามเขาด้วยความสงสัยแต่เขาก็มีรอยยิ้มอย่างลึกลับปรากฏขึ้นมา

 

"ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ - คุณจะหัวเราะถ้าคุณรู้มันเข้า"

 

แม้ว่าคำตอบประเภทนี้จะช่วยกระตุ้นความปรารถนาของเธอในการค้นหามัน ถ้าเขาไม่ต้องการบอกเธอ เธอก็ไม่อาจบังคับให้เขาได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยความไม่รู้ของเธอ ความสนใจของเธอต่อเจ้าอ้วนได้สูงขึ้นอย่างอธิบายไม่ได้

 

เมื่อเช้าวานนี้เธอจะได้มีความคิดที่จะมาทานอาหารเช้ากับเขาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่นี่เป็นสิ่งที่เธอได้ขอเขาไปในเมื่อคืนที่ผ่านมานี้

 

เธอจะทำอาหารเช้าให้เขาตราบเท่าที่เขาพาเธอไปส่งที่โรงเรียน

 

เซอิจิไม่รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงพอที่จะปกป้องทุกคนได้ แต่เขามีความสามารถ Save และ Load ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำคือ Save ก่อนและหากมีบางสิ่งเกิดขึ้นก็แค่ใช้ Load กลับไปใหม่เท่านั้นละ

 

เขาโกง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย !

 

หลังจากรับประทานอาหารเช้า พวกเขาก็ออกไปด้วยกันและเห็นว่า มิกะกระโดดไปมาและกระโดดข้ามไปข้างหน้าเขา ดวงตาของเซอิจิก็ดูเหมือนเหม่อลอย

 

"เกิดอะไรขึ้น? "

 

"ไม่มีอะไร ... ผมนึกได้ว่าเคยไปโรงเรียนแบบนี้กับพี่สาวและน้องสาวของผมอยู่ "

 

เมื่อคืนที่ผ่านมาเซอิจิได้เล่าเรื่องของเซอิจิคนก่อนให้มิกะฟัง เช่น ทำไมเขาถึงไม่ได้ไปโรงเรียนมัธยมและทำไมเขาถึงอยู่คนเดียว แม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดลึกๆ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มิกะเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา

 

" นายอยากกลับไปเยี่ยมพวกเธอหรือเปล่า?"

 

"ใช่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ - ผมเพิ่งเริ่มเปลี่ยนตัวเอง " เซอิจิยิ้มอย่างขมขื่น "ผมอยากจะปรับปรุงตัวเองให้มากขึ้น แล้วสักวัน ... ผมจะมีความกล้าหาญที่จะไปเผชิญหน้ากับพวกเธอได้"

 

เมื่อเห็นเจ้าอ้วนดูหดหู่ มิกะยิ้มหน่อยๆ

 

"นายทำมันได้! นายก็เปลี่ยนแปลงตัวไปตั้งเยอะแล้วนี่นา ไม่ใช่เหรอ? ในฐานะเจ้าของบ้านที่นายอยู่ ฉันยืนยันเรื่องนี้ได้ !"

 

"เจ้าของบ้านควรเป็นแม่ของคุณไม่ใช่เหรอครับ"

 

"ฉันเป็นตัวแทนของเธอ! "

 

เจ้าอ้วนและสาวงามหัวเราะและพูดคุยกัน ขณะที่พวกเขาเดินตามถนนที่อาบด้วยแสงแดดอันอบอุ่น

 

ในท้ายที่สุดชายผมบลอนด์ก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกและ เซอิจิก็ประสบความสำเร็จในการพามิกะไปโรงเรียน

 

ขณะที่เธอเดินเข้ามาด้านใน ความกลัวและความวิตกกังวลเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้งและเธอกลัวว่าเธอจะเห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของชายผมบลอนด์ เธอมองย้อนกลับไปและเห็นร่างใหญ่ๆเซอิจิยังคงยืนอยู่และยิ้มอย่างนุ่มนวลขณะที่เขาเฝ้าดูเธอ

 

"โชคดี." เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอได้ยินเสียงให้กำลังใจของเขา

 

ทันใดนั้น เธอรู้สึกได้ถึงความกล้าหาญอย่างมากมาย

 

เธอมองไปข้างหน้า เงยศีรษะขึ้นและเดินอย่างรวดเร็วไปยังอาคารวิชาคณิตศาสตร์

 

ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเธอจะลองติดต่อประธานสภานักเรียนแล้วดูว่ามันจะออกมาอย่างไร เซจิคิดอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เดินกลับไปที่อพาร์ตเมนต์

 

ถ้าประธานนักเรียนเต็มใจที่จะปกป้องเธอก็คงจะเป็นเหตุการณ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าไม่งั้นเซอิจิก็ไม่คิดว่าจะมีหนทางอื่นได้นอกจากการย้ายโรงเรียนมิกะ

 

เซอิจิยังคงอ่อนแอเกินไป แม้แต่ลูกชายของซีอีโอของบริษัทรายใหญ่ เขาก็ยังไร้ความสามารถไปต่อต้านได้ บอกตามตรงแม้ว่าเขาจะสามารถตีไอ้สารเลวนั่นหรือแม้แต่ฆ่าเขา แต่แล้วยังไงล่ะ? เมื่อชายผมบลอนด์มาแก้แค้นหรือเมื่อตำรวจจับเขา เขามีความสามารถในการ Load ที่เคย Save ไว้ ก่อนหน้านี้และเริ่มต้นใหม่ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

แต่เขาต้องการที่จะเห็นอนาคต ไม่ใช่จะย้อนกลับไปอดีตครั้งแล้วครั้งเล่า

 

ด้วยความเงียบ, เซอิจิ ตรวจสอบสถานะของตัวเขาเอง

 

[วิชาการ: 18 - ค่อนข้างต่ำ -- พอๆกับเด็กประธม คุณมีความสามารถในการเป็นนักเรียนมัธยมต้นทั่วๆไป ]

 

[ความสามารถทางด้านร่างกาย: 14 - ระดับต่ำ - ไม่หมดสภาพหลังจากทำงานสองกะ แต่ก็ถือว่าต่ำมาก ]

 

[ศิลปะ: 12 - ระดับต่ำ - พอที่จะชื่นชมกับสื่อลามกทางอินเทอร์เน็ตได้อยู่ ]

 

[เพลง: 11 - ระดับต่ำ - คุณสามารถเข้าใจเพลงยอดนิยมได้ แต่คุณยังไม่ค่อยแตกต่างจากคนโง่เท่าไร ]

 

[การสื่อสาร: 21 - ปานกลาง - ต่ำ - รอบระดับเฉลี่ยของผู้ใหญ่ปกติ แต่ผู้ใหญ่ส่วนน้อย ... แค่ส่วนน้อยเท่านั้น !]

 

[เสนห์ : 15 - ระดับต่ำ - แค่เจ้าอ้วนที่มีลักษณะท้วมๆ ]

 

...

 

ในสัปดาห์นี้สถานะของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากและเขารู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าสถานะของเขาไม่ใช่แค่ทางกายภาพ แต่มันดูเหมือนว่าจะเพิ่มความสามารถของเขาด้วย

 

หลังจากตรวจสอบตัวเลือกทั้งหมดที่มีอยู่สำหรับการเพิ่มสถานะของเขาแล้วเซอิจิก็ได้ตัดสินใจ

 

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาจะพยายามอย่างหนักเพื่อยกระดับสถานะของเขา!

By ZetTransation

ติดตามอัพเดทและแนะนำการแปลได้ที่นี่นะครับ

 

รีวิวผู้อ่าน