px

เรื่อง :
เล่มที่ 1 บทที่ 8 - ศักยภาพที่ซ่อนเร้น


เล่มที่ 1 บทที่ 8 - ศักยภาพที่ซ่อนเร้น

 

บนถนนทางหลวง รถยนต์ออดี้เอ6กำลังวิ่งตรงไปทางทิศเหนือ ภายในรถมีคนนั่งอยู่ 2 คน คนนึงคือคนขับส่วนอีกคนหนึ่ง เป็นชายสูงอายุประมาณ 30 ปี นั่งอยู่เบาะหลัง ใบหน้าของเขาหน้าตาคล้ายคลึงกับเถิงชิงซาน

 

"กริ๊งงง กริ๊งงงง…."เสียงสั่นโทรศัพท์ดังขึ้น

 

ชายร่างสูงนำโทรศัพท์ออกมา "ว่าไง พี่หยาง เกิดอะไรขึ้น?"

 

จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที "ว่าอะไรนะ???"

 

"มันเป็นไปได้อย่างไร!!!" ชายร่างสูงกำลังรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ

 

"ดี ข้าเข้าใจแล้ว!!!"เขาพยักหน้าขณะกล่าวออกมา "ข้าจะรีบกลับไปยังเมืองหยาง ตกลง!!"

 

"จงวางใจเสียเถิด พี่ชายหยาง ข้าชินฮง ท่านก็รู้ดีว่าถึงแม้ว่าท่านจะรู้จักความสามารถของข้าดี แต่ข้าก็จะไม่ประมาท ข้าจะไม่เอาชีวิตพี่น้องของข้าวมันเป็นเรื่องตลก โอเค ข้าเข้าใจ!!!"

 

หลังจากกล่าวจบชายร่างสูงที่ชื่อว่า "ชินฮง"ก็กดวางสาย

 

" พี่ชายชิน เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?"คนขับรถกลับ

 

"เกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นภายในเมืองหยางโจวของเราดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะเกี่ยวข้องกับพวกโลกทมิฬ"ชินฮงกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

 

" มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?"คนขับรถถามต่อ

 

ชินฮงจึงตอบด้วยการลงรายละเอียด "เมื่อ 2 วันก่อน นักฆ่าจากโลกทมิฬระดับ S สองคน 'พลแม่นปืน' มากาซะวะและ 'อากาศยานวินาศภัย'โดลกรอฟโกรฟ ดูเหมือนทั้งสองคนต้องการจะไปสังหารนักฆ่าระดับ S ที่มีฉายาว่า 'หมาป่า' ในสงครามนี้นักฆ่าที่แข็งแกร่งระดับถึง 3 คนเข้าร่วม แต่ผลลัพธ์คือ 'หมาป่า'ได้สังหาร 2 คนที่เหลือ

 

"อะไรนะ!!"คนขับรถตะโกนออกมา "นี่เขาแข็งแกร่งถึงเพียงใดกัน?"

 

"นี่คงทำให้พวกองค์กรใต้ดินพวกนั้นบรรจุเข้าเป็นนักฆ่าระดับ S และบางทีเขาก็จะแข็งแรงจนกลายเป็นนักฆ่าระดับ SS แล้วก็เป็นได้"ชิงฮงตอบกลับ

 

"พระเจ้า มีนักฆ่าระดับนี้อยู่ในเมืองหยางโจว ไม่เท่ากับว่ามีชายในร่างระเบิดนิวเคลียร์เดินอยู่ในเมืองอย่างนั้นหรือ?"คนขับรถพูดด้วยความตกใจ

 

ไม่ว่าจะเป็นระดับ S หรือระดับ SS พวกเขาก็ไม่อาจต่อสู้กับคนเหล่านั้นได้

 

"ข้าคงมีปัญหาแล้วล่ะ องค์กรใต้ดินเหล่านี้มีนักฆ่าระดับ SS อยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 คน แต่ละคนก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว กระสุนปืนและอาวุธต่างๆล้วนไม่ได้ผล แม้ว่าพวกมันจะเป็นสิ่งของที่มีประสิทธิภาพ แต่คนเหล่านั้นมีความเร็วและมีปฏิกิริยาตอบสนองอันน่าเหลือเชื่อ…...เพียงแค่พวกมันขยับแขนขึ้น พวกมันก็สามารถฆ่าเราได้ในพริบตา"

 

ชินฮงเข้าใจความหมายของคนที่อยู่ในระดับ SS อย่างชัดเจน

 

ถ้าหากจะกล่าวว่านักฆ่าระดับ S คือขีดจำกัดสูงสุดของมนุษย์ ถ้าหากพวกมันก่อความวิบัติภายในเมืองคงเปรียบได้กับกองกำลังทหารระดับพิเศษซึ่งก็คงไม่เกินความจริง แต่สำหรับนักฆ่าระดับ SS พวกมันมีร่างกายที่เกินขอบเขตของมนุษย์ซึ่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของห่วงโซ่อาหารของโลกและถูกขนานนามว่า "มนุษย์นิวเคลียร์"

 

เมื่อเกิดความสงสัยว่านักฆ่าระดับ SS ที่อยู่ในเมืองหยางโจว เมืองที่ชินฮงได้ดูแลทีมปฏิบัติการพิเศษอยู่ มันจึงทำให้ทีมของพวกเขากลัวว่าจะถูกสังหารก่อนถึงจะได้ลั่นไกปืนเสียอีก

 

พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย ความแตกต่างมันใหญ่เกินไป!!!

 

"พี่ชิน พวกเราควรทำอย่างไรดี?"คนขับรถกล่าวด้วยความเป็นห่วง

 

"ข้าจะทำอะไรได้ล่ะ?"ชินฮงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมทั้งกล่าวต่อไปว่า "มันคือหมาป่า ในฐานข้อมูลของพวกเราบอกว่า เขาคือชาวจีน และคาดการณ์ว่าพลังจะต้องเทียบเท่านักฆ่าระดับ SS การที่จะหยุดเขาคงจะก่อให้เกิดความสูญเสียมากมาย ถ้าหากเขายังอยู่ในเมืองหยางโจว ถ้าหากเราหาตัวเขาเจอก็คงทำได้เพียงแค่เฝ้าดูและเลือกที่จะไม่ไปยุ่งย่ามให้ต้องเกิดความไม่พอใจกัน"

 

คนขับรถพยักหน้า

 

"หือออ????"

 

ชินฮงถึงกับตัวแข็งทื่อขณะจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยสายตาที่งุนงง โทรศัพท์ของเขาคือสมบัติของกรมการปกครองพิเศษประจำสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ดังนั้นข้อความที่เขาได้รับจึงเป็นข้อความที่ถ่ายทอดโดยตรงจากกระทรวง

 

"เอออออ!!!"ใบหน้าของชินฮงซีดเผือกในทันที

 

"เกิดอะไรขึ้น???"คนขับรถเองก็ถามด้วยความรู้สึกสงสัย

 

"เมืองอย่างโจของพวกเรากลายเป็นศูนย์กลางขององค์กรใต้ดินแล้ว" หน้าผากของชินฮงปรากฏเม็ดเหงื่อขนาดใหญ่มากมาย

 

"เป็นไปได้อย่างไร?"คนขับรถถามด้วยความเป็นห่วง

 

"ที่กระทรวงได้ส่งข้อมูลใหม่มา ดูเหมือนว่าในตอนนี้ตระกูลเรดเมย์นจะทุ่มงบไม่อั้น พวกเขาได้เชื้อเชิญ 'มหาราชาตรีมูรติ'มาทำภารกิจให้สำเร็จ ดูเหมือนว่า 2 ใน 3 มหาราชา ฉายา 'พระวิษณุ'และ'พระศิวะ'จะเดินทางมาเพื่อสังหาร 'หมาป่า' ชินฮงรู้สึกตกใจในเรื่องนี้มาก

 

คนขับเองก็ตกใจไม่แพ้กัน หัวใจของเขากำลังสั่นระรัว

 

นักฆ่าระดับ SS ในโลกนี้มีทั้งหมด 8 คน ซึ่งองค์กรมหาราชาตรีมูรติได้ครอบครองนักฆ่าระดับ SS ด้วยการทั้งหมด 3 คน ซึ่งแต่ละคนมีฉายาว่า 'พระพรหม' 'พระวิษณุ'และ'พระศิวะ' ซึ่งในความจริงชื่อทั้งสามนั้นก็คือพระนามของมหาเทพผู้เป็นเจ้าผู้ซึ่งครอบครองพลังสูงสุดในตำนานอินเดีย ซึ่งชื่อเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในองค์กรใต้ดินทั้งหมด

 

แต่ชื่อจริงของคนเหล่านี้ยังไม่เคยได้ถูกเปิดเผย

 

" 2 ใน 3 ถึงกับเดินทางมา นี่เป็นสิ่งที่พวกเราไม่อาจขาดถึง"ชินฮงขมวดคิ้ว

 

ภายในโลกแห่งความมืด ชาวจีนมีทุกหนแห่งเนื่องด้วยเป็นประเทศขนาดใหญ่ จากนักฆ่าระดับ SS ที่มีทั้งหมด 8 คน มีถึง 3 คนที่มาจากประเทศจีน ในขณะเดียวกันปรมจารย์สิงอี้เองก็เป็นนักฆ่าระดับ SS ที่หาตัวยากในประเทศแห่งนี้

 

ดังนั้นนักฆ่าระดับสูงในโลกมืดจึงกล่าวได้ว่าเมืองจีนนั้นเป็นเมืองที่เก่าแก่และยังเป็นอาณาจักรวิเศษ ซึ่งทำให้ในความคิดของพวกเขามักจะแสดงความเคารพในประเทศแห่งนี้

 

เช่นเดียวกับองค์กรสีชาด ที่ได้เชิญชวนให้ ปรมจารย์สิงอี้'เถิงโปเล่ย'มาเป็นคนสอนเหล่านักฆ่า แม้ว่าจะต้องทำด้วยเหตุผลบางประการแต่เขาก็เลือกที่จะสอนคนจีน และทำให้พวกเขากลายเป็นลูกศิษย์ของตน

 

"พี่ชายชิน การที่นักฆ่าระดับ SS มาที่นี่ถึง 2 คนเพื่อสังหารอีกคนหนึ่ง ถ้าหากพวกมันตายไปทั้งหมดก็คงจะดี แต่ถ้าหากพวกมันดึงพลเรือนเข้าไปเกี่ยวข้อง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพินาศ!!"คนขับรถกล่าวอย่างเป็นห่วง

 

"ในตอนนี้ภัยอันตรายได้ย่างกรายเข้ามาแล้ว พวกเราพร้อมที่จะสละชีพของตนเพื่อปกป้องไม่ให้พวกมันต้องทำให้พลเรือนเดือนร้อน"ชินฮงถอนหายใจ "แต่อย่าได้กังวลเลย!! พวกมันคงไม่คิดสังหารพลเรือนเป็นแน่ สิ่งที่พวกเราทำได้ในตอนนี้ก็คือการรอ รอและหวังว่าพวกมันจะออกจากแผ่นดินใหญ่ของเราอย่างเร็วที่สุด"

 

คนขับรถพยักหน้า

 

การรับมือกับนักฆ่าระดับ SS ถ้าหากไม่จำเป็น รัฐบาลก็คงไม่คิดจะไปยุ่งย่าม แต่ถ้าหากรัฐบาลตัดสินใจที่จะรับมือกับพวกมัน แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องทุ่มสุดกำลัง เพื่อสังหารพวกมันทั้งหมดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าพวกมันจะสูญสิ้นไป

 

ตระกูลเรดเมย์นรู้พลังอำนาจที่แท้จริงของเถิงชิงซานอย่างชัดเจนแล้วในวันนี้ พวกเขาเริ่มกลัวมันจะทำให้เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงเชื้อเชิญให้องค์กรมหาราชาตรีมูรติเข้ามาทำภารกิจ

 

"ภายใน 3 วัน เหล่าสมาชิกในกลุ่มปฏิบัติการพิเศษ จะเข้ามารวมตัวกันที่ศูนย์กลางของเมืองหยางโจว"ชินฮงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูลึกซึ้ง

 

ขณะที่ทั้งสองคนยังคงสนทนากัน รถก็ได้ออกจากถนนทางหลวงและตรงไปยังเมืองหยางโจว

 

 "ทหาร เจ้าหมาป่า รูปภาพของกลุ่มมหาราชาตรีมูรติทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นพระวิษณุ พระศิวะ รวมถึงข้อมูลอื่นๆถูกส่งไปยังโทรศัพท์ของเจ้าแล้ว ต้องระมัดระวังให้รอบครอบ เผื่อว่าจะเจอพวกมัน"ชินฮงเตือน

 

ชายหนุ่มคนขับรถเปิดโทรศัพท์พร้อมทั้งมองดูข้อมูล "เขาไม่เคยเห็นทั้ง 3 คนเลย แต่ว่าเอออ เจ้าหมาป่าคนนี้ดูมีความคล้ายคลึงกับพี่ชายชินฮง"

 

"ใช่ ข้าเขารู้สึกว่ามันเป็นแบบนั้น"ชินฮงมองภาพในโทรศัพท์

 

นั่นคือใบหน้าของเถิงชิงซาน

 

แม้ว่าก่อนหน้านี้ สงครามที่เกิดขึ้นจะทำให้องค์กรใต้ดินเกิดการสั่นสะเทือน แม้กระทั่งตัวของเถิงชิงซานเองทุกคนก็ต่างคิดว่าเขากลายเป็นนักฆ่าระดับ SS แต่ในตอนนี้เถิงชิงซานยังคงเลือกอาศัยอยู่อย่างสันโดษในเขตชานเมืองหยางโจวอยู่ห่างไกลจากผู้คนทั่วไปตัดขาดการรับรู้ข่าวสาร เขายังคงนั่งสมาธิเพื่อพักฟื้นอย่างสงบ และฝึกฝนกำลังภายในอย่างหนัก

 

ในลานกว้างอันเงียบสงบ เถิงชิงซานในชุดกางเกงยาว กำลังฝึกซ้อม "เคล็ดวิชาสิงอี้สามกายาผสาน"

 

3 ผสานกายคือพื้นฐานของเพลงมวยสิงอี้เฉวียน มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากกายาสามส่วน" เมื่อมุ่งมั่นขึ้นเป็นปรมาจารย์ต้องทำการฝึกฝนพื้นฐาน เมื่อบรรลุระดับสุดยอดปรมาจารย์ ยิ่งต้องปฏิบัติฝึกฝนพื้นฐานซ้ำไปซ้ำมาเพื่อให้เกิดประสบการณ์ ดังนั้นการเคลื่อนไหวทั้ง 3 ส่วนจึงเป็นเรื่องพื้นฐานและเหมาะสมต่อคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างเถิงชิงซาน

 

เคลื่อนไหวทีละท่วงท่า เถิงชิงซานยังคงบรรจงเติมเต็มช่องว่างส่วนที่เหลือ และเพลิดเพลินกับท่วงท่าที่แสนงดงาม

 

ถ้าหากเส้นเอ็นและกระดูกได้รับบาดเจ็บ อาจต้องใช้เวลากว่า 100 วันเพื่อให้ร่างกายฟื้นคืน โดยปกติคนทั่วไปจะใช้เวลา 3 เดือนในการบรรเทาอาการบาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการบาดเจ็บที่กระดูกการรักษาก็ย่อมต้องลำบาก แต่สำหรับเถิงชิงซานผู้ซึ่งก้าวขึ้นสู่ประตูแห่งปรมาจารย์ ครอบครองร่างกายที่สูงกว่าคนปกติ ดังนั้นการรักษาและควบคุมพลังในร่างกายจึงเป็นเรื่องที่ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ผนวกกับการฝึกฝน "ร่างกาย 3 ส่วน"พร้อมกับการฝึกลมหายใจในทุกๆวัน แต่ยิ่งทำให้อัตราการฟื้นคืนของร่างกายสูงยิ่งขึ้น มันจะช่วยรักษากล้ามเนื้อที่ถูกฉีกขาดและแผลที่หน้าท้องด้วยความเร็วที่น่าประหลาดใจ

 

 21 วันต่อมา

 

"ข้าต้องหลบซ่อนเป็นเวลาหลายวันเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและฝึกฝน อีกครั้งข้ายังไม่ได้ไปที่ใจกลางเมืองหยางโจว ตอนนี้ชิงเจียงจะกลับมาหรือยัง"เถิงชิงซานพูดกับตัวเอง

 

เถิงชิงซานไม่ใช่คนโง่ เนื่องจากอาการบาดเจ็บทำให้เขาไม่อาจต่อกรกับนักฆ่าบ้าเลือดคนอื่นได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหลบ แม้ว่า"องค์กรใต้ดิน"จะมีความสามารถที่น่ากลัว แต่เถิงชิงซานที่พยายามหลบซ่อนอยู่ภายในที่พักอาศัยจึงทำให้การหาตัวเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

 

"หลังจากการฝึกฝนกว่า 21 วัน ในที่สุดข้าก็สามารถควบคุมเส้นชีพจรทุกเส้นได้แล้ว ข้าสามารถพลังกำลังภายในและส่งมันไปได้ทั่วร่างกายแล้ว"รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า

 

ในการต่อสู้กับมากาซะวะและโดลกรอฟโกรฟ การที่เขาได้ใช้ 'เพลงหมัดพยัคฆ์' มันทำให้เถิงชิงซานสัมผัสได้ถึงพลังขั้นปรมาจารย์ เวลา 21 วันแห่งการพักฟื้นพร้อมกับการฝึกฝนที่มุ่งมั่น ทำให้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้น อุปสรรคสุดท้ายถูกทำลายและไม่มีอะไรจะสามารถกีดขวางเส้นลมปราณทั้งหมดได้อีก กำลังภายในจึงสามารถผสานกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายได้อย่างสมบูรณ์

 

ในตอนนี้เถิงชิงซานก้าวขึ้นสู่ระดับขั้นปรมาจารย์ที่แท้จริง

 

ในร่างกายมนุษย์ ประกอบขึ้นจากปราณ เส้นลมปราณทั้ง 12 และเส้นลมปราณย่อยอีกมากมาย การฝึกฝนสิงอี้จะทำให้เส้นลมปราณทุกส่วนของร่างกายเปิดออกที่ดูดซับปลาในอากาศและเชื่อมต่อเส้นลมปราณแต่ละเส้นของร่างกาย กระบวนการเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

"ปรมาจารย์ยังไงก็ยังคงเป็นปรมาจารย์ กำลังภายในที่เพิ่มพูนถึงขีดสุดทำให้เข้าสู่ดินแดนพลังขั้นสูง แม้ว่าพลังในร่างกายจะเพิ่มพูนขึ้นมาเพียงแค่ 20-30% แต่ความสามารถที่แท้จริงนั้นเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่า"เถิงชิงซานรู้ดีว่าการจะก้าวขึ้นสู่ดินแดนขั้นสูงย่อมต้องเป็นเรื่องอันตราย เพราะพลังที่ถูกใช้ออกมานั้นย่อมต้องอันตรายเช่นกัน

 

ร่างกายคนเราก็เหมือนโรงจ่ายไฟ 1 กำปั้นมีพลังกว่า 1 ตัน แต่เมื่อก้าวขึ้นสู่ระดับปรมาจารย์ไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงได้ถึง 34 ตัน





 

รีวิวผู้อ่าน