px

เรื่อง :
เล่มที่ 1 บทที่ 12 - สหัสวรรษแห่งพงศาวดาร


เล่มที่ 1 บทที่ 12 - สหัสวรรษแห่งพงศาวดาร

 

มีหมู่บ้านคฤหาสน์ที่อยู่ติดกับทะเลสาบตะวันตกแห่งเมืองหยางโจว คฤหาสน์แต่ละหลังล้วนมีพื้นที่มากกว่า 500 ตารางเมตร และราคาขั้นต่ำของแต่ละหลังไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน

 

ในใจกลางของหมู่บ้านคฤหาสน์มีตึกคฤหาสน์สูงที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ที่ซับซ้อนและอยู่ติดกับทะเลสาบทะเลสาบโกเร็ง พระราชวังแห่งนี้ไม่เพียงแต่จะมีทัศนียภาพที่สวยงาม แต่ราคาของมันก็แพงที่สุดอีกด้วย คฤหาสน์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นทรัพย์สินของประธานแห่งกลุ่มบริษัทหมิงซาน หลี่หมิงซาน

 

มีสระว่ายน้ำแบบลานแจ้งอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ของคฤหาสน์

 

หลี่ซานนอนราบเรียบอยู่บนที่นอนคณะมองดูท้องฟ้าและดวงดาวที่สว่างไสว

 

เป็นเหมือนปกติในทุกๆวัน เมื่อหลี่ซานต้องการที่จะคิดบางสิ่งบางอย่าง เขาก็มักจะหย่อนตัวลงไปในสระน้ำ เมื่อร่างกายสุขสบาย เซลล์ประสาทสมองก็จะทำงานความคิดก็จะเปล่งประกาย

 

"คำสั่งนี้มีมูลค่ากว่า 10 ล้าน พวกเราจะต้องคว้ามันมาให้ได้"

 

หลี่ซานลูบหน้าผากของเขา

 

"โอ้?" หลี่ซานรับรู้ได้ถึงแรงกระเพื่อมของลมที่พัดผ่านผิวน้ำ มันทำให้เขารู้สึกเย็นชั่ววูบ เขาเหลือบมองไปตามทิศทางของแรง จู่ๆใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนไป

 

เขาเพิ่งมองเห็นชายคนหนึ่งสวมกางเกงสีดำ เสื้อยืด สีน้ำเงินยืนอยู่บริเวณขอบสระ ชายคนนี้คือเถิงชิงซาน

 

"เจ้าเป็นใคร? แล้วมาที่นี่เพื่ออะไร?"หลีซานกล่าวยังใจเย็นในขณะที่เขาลุกขึ้นจากสระน้ำพร้อมทั้งผ้าเช็ดตัวและพันผ้าโผกเอว

 

เถิงชิงซานมองไปที่หลีซานพร้อมทั้งประเมินทุกอย่าง หลีซานคงจะอายุประมาณ 40 ปี "มันเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจในตัวหลีซาน ข้ากังวล มันเป็นเรื่องยากที่จะมองเขาให้ทะลุปรุโปร่ง"ก่อนที่เถิงชิงซานจะมาที่นี่ เขาได้ตรวจสอบข้อมูลผ่าน เอเลน่า

 

ในปีนี้ หลี่ซานจะมีอายุครบ 43 ปี

 

เมื่อตอนที่หลี่ซานยังคงเป็นวัยรุ่นเขาได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของแก๊งโจร หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นพี่ใหญ่แห่งแก๊งโจร เขาเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆโดยการลักขโมยเงิน และเริ่มขยายฐานจนทำให้ทุกคนเริ่มไว้วางใจแม้กระทั่งคนที่อยู่ในโลกใต้ดิน ผนวกกับสมาชิกที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ มันยิ่งทำให้กองเงินของเขาโตขึ้นมหาศาล

 

บริษัทหลี่หมิงซานจึงสามารถขยายยอดขายได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐภายใน 20 ปี

 

"ข้าขอแนะนำให้เจ้าหยุดคิดที่จะหยิบปืนที่อยู่ในผ้าเช็ดตัวนั้น"เถิงชิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

 

ใบหน้าของหลี่ซานเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขารีบหยิบปืนพกที่ซ่อนอยู่ขึ้นมาในทันที ในโลกธุรกิจของเขา มีผู้คนต้องตายภายใต้เงื้อมมือของเขามากไม่ว่าจะเป็นการที่พวกเขาจะต้องฆ่าตัวตายหรือบีบบังคับจากความไม่พอใจที่เกิดขึ้นระหว่างเขา

 

และแล้วปืนพกก็ขึ้นมาอยู่ในมือ

 

หลี่ซานเพิ่งตื่นขึ้นมา โดยที่เถิงชิงซานอยู่ห่างไกลออกไปเกือบ 10 เมตร

 

"เจ้า"หลี่ซานกล่าวด้วยความตกใจเพราะไม่อาจมองเห็นกลางเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเถิงชิงซาน และสุดท้ายปืนพกที่อยู่ในมือของเขาก็ถูกสับเปลี่ยนไปอยู่ในมือของเถิงชิงซาน

 

หลี่ซานเพิ่งได้ยินเสียงชิ้นส่วนของปืนกระทบกันอย่างรุนแรง ชิ้นส่วนของปืนเหล่านี้แตกกระจายออกเป็นส่วนๆ เถิงชิงซานยิ้มอย่างเย็นชาขณะที่ค่อยๆโยนชิ้นส่วนเหล่านี้ออกไป

 

หัวใจของหลี่ซานเต้นอย่างรุนแรงเพราะความหวาดกลัว แต่เขาก็พยายามสงบสติอารมณ์และเผยรอยยิ้มที่เป็นมิตร "น้องชาย เจ้าคงเป็นปรมาจารย์ที่แข็งแกร่ง เจ้าสามารถขึ้นมาที่ชั้น 3 ของคฤหาสถ์นี้ได้โดยไร้ซึ่งเสียงแม้แต่นิดเดียว ข้าขอชื่นชมและเคารพเจ้าจากใจจริง!!!"ศัตรูที่สามารถแอบขึ้นมาชั้น 3 ได้โดยไม่แม้แต่จะได้รับการตรวจจับ นั่นคงมีความหมายไม่มากนัก?

 

"ตอนนี้ ข้าต้องการให้เจ้าตอบคำถามข้าสักสองสามข้อ"การแสดงออกของเถิงชิงซานยังคงเหมือนเดิม

 

"น้องชาย โปรดกล่าวมาได้เลย"หลี่ซานกล่าว

 

เถิงชิงซานจ้องมองไปที่หลี่ซานและกล่าวสั้นๆว่า "จงบอกข้ามาว่าทำไมเจ้าถึงต้องการสังหารชินฮง?"

 

"สังหารชินฮง????"หลี่ซานตกใจเป็นอย่างมาก มีคนเพียงแค่หยิบมือเท่านั้นที่จะรู้เรื่องนี้ เนื่องด้วยชินฮงถือได้ว่าเป็นสมาชิกของหน่วยปกครองพิเศษ

 

"น้องชาย เจ้าไปได้ยินข่าวลือนี้มาจากที่ใด? การกล่าวหากันมั่วๆย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก!!"หลี่ซานกล่าว "ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ใช่คนที่ทำธุรกิจอย่างจริงจัง และแม้ว่าข้าจะเคยห้าวหาญในการสังหารผู้อื่นเมื่อวัยเยาว์ แต่สำหรับชินฮง ต่อให้ข้ามีสัก 10 ชีวิตข้าก็คงมิกล้า"

 

"ฟุบบบบบบ!!!"

 

เสียงของลมที่กำลังกรีดร้องดังขึ้น ทันที่ทันใดหลี่ซานก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดที่หูและบริเวณแก้มซ้าย

 

เถิงชิงซานตบหน้าของหลี่ซานอย่างรุนแรงจนทำให้เขาล้มลงพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่หลุดออก หลี่ซานตอนนี้เต็มไปด้วยความน่าสงสาร เขาเหลือเครื่องแต่งกายเพียงอย่างเดียวก็คือกางเกงใน

 

"น้องชาย เจ้าทำ……." หลี่ซานที่เต็มไปด้วยความโกรธเงยหน้าขึ้นมองเถิงชิงซาน และสิ่งที่เขาต้องพบเจอนั่นก็คือดวงตาที่เย็นชาและน้ำเสียงที่สงบนิ่ง "เมื่ออยู่ตรงหน้าข้า จงอย่าทำตัวเป็นอวดฉลาด ถ้ายังโกหกข้าอีก วันนี้ในปีหน้าเจ้าจะกลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำคอยให้ลูกหลานกราบไหว้"

 

หลี่ซานหวาดกลัวไปถึงขั้วกระดูก

 

หลี่ซานที่เติบโตมากับกลุ่มฆาตกร แม้ว่าคนพวกนั้นจะเป็นคนที่โหดร้าย แต่ในตอนนี้หลี่ซานกำลังรู้สึกได้ว่าคนที่โหดร้ายเหล่านั้นเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงเมื่อเทียบกับเถิงชิงซาน

 

เขาก้มหัวลงต่ำและมองดูปากกระบอกปืนที่บิดเบี้ยว ก่อนจะมองกลับไปยังเถิงชิงซานและกล่าวว่า "น้องชาย ข้าและชินฮงมิใช่ศัตรูกัน ในครั้งนี้มีคนขอร้องให้ข้าไปสังหารชินฮง ข้ากล่าวด้วยความสัตย์จริง"

 

เถิงชิงซานจับหน้าผากของเขา

 

"ใคร มันเป็นใคร?"เถิงชิงซานเอ่ยถามอย่างเยือกเย็น

 

หลี่ซานมองเถิงชิงซานด้วยสายตาที่ลังเล รูปลักษณ์ของเถิงชิงซานตอนนี้เต็มไปด้วยความน่ากลัว

 

ด้วยความกลัวเขาจึงกล่าวทันทีว่า " มันคือเสิ่นหยางหมิงแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ"

 

"สองพยัคฆ์แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสิ่นหยางหมิง?" เถิงชิงซานขมวดคิ้ว เขาไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นเสิ่นหยางหมิง

 

ภายในโลกใต้ดิน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือแหล่งของกลุ่มฆาตกรทรงพลังที่อิสระ

 

หนึ่งในนั้นมีชื่อว่า "หวัง" และอีกชื่อหนึ่งคือ "เสิ่นหยางหมิง" ทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นนักฆ่าที่อยู่ในระดับ A นั่นจึงเป็นเครื่องส่งเสริมชื่อเสียงให้กับสองพยัคฆ์แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ใน 1 ปีที่ผ่านมามีข่าวคราวว่า หวังได้ตายจากไปแล้ว มันจึงทำให้กลุ่มนักฆ่ากลุ่มนี้สูญสลายหายไป

 

ในกลุ่มนักฆ่าทั้งหมด บางส่วนก็เลือกเข้าร่วมกับองค์กรนักฆ่าต่างๆ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็เลือกที่จะทำงานอย่างอิสระ

 

"พยัคฆ์แห่งทิศอีสาน"คือนักฆ่าอิสระ ที่หลงไหลในการกระทำอย่างสุดซึ้ง

 

"ถูกต้อง เจ้าคงจะรู้จักเสิ่นหยางหมิงใช่หรือไม่?"หลี่ซานพยายามฝืนยิ้ม "ถ้าหากเจ้ารู้จักเขา เจ้าก็คงเข้าใจความรู้สึกที่ยากลำบากของข้า ภายใต้ชื่อ 'เสิ่นหยางหมิง'ที่น่าหวาดกลัว แค่ชื่อก็ทรงพลังแล้ว แม้แต่ข้าก็ไม่กล้าทักท้วงแม้ว่าเขาจะขอให้ข้าไปสังหารชินฮง"

 

เถิงชิงซานจ้องมองหลี่ซานด้วยสายตาที่คมกริบราวกับคมมีด

 

"เสิ่นหยางหมิง อืมมมม"เถิงชิงซานยังคงไว้ซึ่งความเยือกเย็น หลี่ซานเองก็รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่งที่ว่าชายลึกลับคนนี้ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจชื่อของเสิ่นหยางหมิงเลย

 

"ช่างน่าเสียดาย!! เพราะเจ้าส่งคนออกไปสังหารชินฮง ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องลงโทษเจ้า"เสียงของเถิงชิงซานยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

 

"ดะ ดะ เดี๋ยวก่อน!!"หลี่ซานรีบกล่าวขวางทันที เขาเองก็ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านประสบการณ์มากมายมาจากโลกใต้ดิน เรื่องนั้นเขาจะต้องเข้าใจความหมายที่เถิงชิงซานกล่าวมาได้อย่างแน่นอน " อย่าฆ่าข้าเลย การฆ่าข้าไม่ใช่ทางออกที่เจ้าต้องการ ถ้าหากเจ้าละเว้นชีวิตข้า ข้าสามารถมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเจ้าได้ แม้กระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างของบริษัทหมิงซาน"

 

หลี่ซานรู้ดีว่า การเดินริมขอบน้ำรองเท้าก็ยอมต้องเปียกเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นเขาจึงเก็บเงินจำนวนมหาศาลเอาไว้เพื่อที่จะใช้มันในการเอาตัวรอด แม้ว่าเขาจะต้องยกบริษัทหมิงซานให้กับศัตรู แต่เขาก็ยังสามารถกลับมาเป็นชายที่ร่ำรวยเหมือนเดิมได้

 

"เงินรึ? ข้าไม่สนใจ"เถิงชิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

 

หลี่ซานคิดในใจอย่างรวดเร็ว ศัตรูไม่สนใจเงิน ข้าควรทำอย่างไรดี?

 

"อ่าาา ข้ามีทักษะเร้นลับ"นัยน์ตาของหลี่ซานเบิกกว้างขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกน "ข้ารู้ว่าน้องชายเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แม้ว่าข้าเองจะฝึกฝนกำลังภายในแต่ความสามารถของข้านั้นคงไม่อาจก้าวขึ้นสู่ระดับปรมาจารย์ได้ แต่….. ถึงกระนั้นข้าก็มีหนังสือหายาก มันเป็นหนังสือที่รวบรวมความลับสุดยอดของปรมาจารย์มันจะช่วยให้เจ้ากลายเป็นผู้รอบรู้"

 

เถิงชิงซานไม่อาจอดกลั้นเสียงหัวเราะได้ "ทักษะเร้นลับ? กลายเป็นผู้รอบรู้? สงสัยว่าเจ้าจะดูหนังมากไปแล้วล่ะ"

 

เถิงชิงซานที่ก้าวขึ้นสู่ดินแดนขั้นสูงและได้ฝึกฝน "เพลงหมัดพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์" จนในตอนนี้เขาอาจเป็นปรมจารย์ที่แข็งแรงที่สุดในโลก มันจะยังมีทักษะที่จะสามารถดึงดูดเขาได้จริงๆหรือ?

 

"เออออ สิ่งนี้คือทักษะพิเศษ"หลี่ซานรีบอธิบาย "เมื่อตอนที่ข้ายังหนุ่ม ข้าเองก็เป็นสาวกของนิกายเล็กๆที่มีชื่อว่า 'ทวารแห่งหัวขโมย' ซึ่งมันก็มีความหมายตรงตัวนั่นก็คือการปล้นสะดม อย่างไรก็ตามนิกายแห่งนี้ก็ค่อนข้างจะแย่ น่าเสียดายที่หมู่ทั้งหมดส่วนใหญ่ล้วนแต่ไม่ได้ฝึกกำลังภายใน"

 

เถิงชิงซานมองด้วยสายตาที่ดูฉงนงงงวย

 

"ทวารแห่งหัวขโมย"

 

ไม่ฝึกซ้อมกำลังภายใน?

 

"แต่นิกายทวารแห่งหัวขโมยเองก็มีประวัติสืบทอดมาอย่างยาวนาน ในประวัติศาสตร์ นิกายแห่งนี้เคยมีปรมาจารย์ที่สามารถก้าวขึ้นสู่ดินแดนขั้นสูง"หลี่ซานกล่าวอย่างเร่งรีบ เขาเข้าใจดีว่าการต่อรองกับคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ คงจะมีแต่ทักษะวรยุทธเท่านั้นที่จะช่วยให้เขาหลุดพ้น " ทักษะนี้อยู่กับสืบทอดอยู่ภายใต้นิกายของเรามาเป็นเวลากว่า 2000 ปี ตั้งแต่อดีตกาลของมหาประเทศจีน ซึ่งมันถูกเขียนโดยสุดยอดปรมาจารย์"

 

เถิงชิงซานขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

 

"เคล็ดวิชานั้นอยู่ที่ไหน?"เถิิงชิงซานกล่าวถาม

 

"ภายในห้องอ่านหนังสือ ที่อยู่บนชั้น 3 ของบ้านข้า"หลี่ซานสูดลมหายใจลึกๆและกล่าวต่อว่า "โปรดตามข้ามา"

 

"ก่อนอื่นข้าขอเตือนให้เจ้าคิดวิเคราะห์ถึงเรื่องการหลบหนี ไม่ว่าเจ้าจะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยหรือว่าไม่มี พวกมันก็ล้วนไม่เป็นปัญหาต่อตัวข้า"เถิงชิงซานกล่าวเตือน

 

หลี่ซานนึกถึงภาพของกระบอกปืนที่บิดเบี้ยว "ไม่มีทาง อย่าได้กังวลเลย โปรดตามข้ามา"

 

เถิงชิงซานเดินตามหลี่ซานไปยังห้องอ่านหนังสือบนชั้น 3 ห้องแห่งนี้กว้างขวางมากและมีชั้นหนังสือวางอยู่ประมาณเกือบครึ่งหนึ่งรอบกำแพง หลี่ซานเดินตรงเข้าไปที่ชั้นวางและกดปุ่มที่อยู่ภายใน

 

ในช่วงเวลาสั้นๆ ชั้นวางที่เคยมีอยู่ค่อยๆขยับจนเผยให้เห็นประตูตู้นิรภัยซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยเหล็กกล้า

 

"เคล็ดวิชาถูกซ่อนอยู่ในตู้นิรภัย"เถิงชิงซานระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

หลี่ซานเองก็หัวเราะออกมา "และนี่ก็คือสมบัติของนิกายทวารแห่งหัวขโมย" เมื่อกล่าวจบเขาก็เปิดตู้นิรภัยและหยิบเอาหนังสือโบราณออกมา "เชิญดูได้เลย"หลี่ซานส่งหนังสือเล่มนี้ให้กับเถิงชิงซาน

 

เถิงชิงซานมองดู บนหน้าหนังสือโบราณเล่มนี้จารึกคำว่า "สหัสวรรษแห่งพงศาวดาร" และที่มุมของหนังสือมีคำจารึกอยู่ 2 พยางค์  ‘เล่าเอี๋ยน’

 

รีวิวผู้อ่าน