“การค้นหาเป็นยังไงบ้าง พบข้อมูลเกี่ยวกับผู้เล่นคนนี้แล้วหรือยัง”
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานั่งอยู่บนเตียงโดยมีคอนโซลของเกม Cultivation Online สวมอยู่บนหัวของเขา เขามองไปที่ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆประตู
“ขออภัยนายน้อย แต่ดูเหมือนว่าผู้เล่นคนนี้จะมีความเด็ดเดี่ยวในการรักษาตัวตนของเขาไว้เป็นความลับ แม้แต่ข้อเสนอของเราก็ไม่สามารทำให้เขาเผยตัวออกมาได้”
ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า เขานอนไม่หลับตลอดสองวันที่ผ่านมา เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับหยวน แต่ผลลัพธ์ที่ได้มากลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ไม่กินเหยื่อยังงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เราต้องทำ คือเพิ่มสิ่งล่อใจเข้าไป แล้วปรับรางวัลเป็นยี่สิบล้าน เว้นแต่ว่าผู้เล่นคนนี้จะร่ำรวยมากๆอยู่แล้ว ไม่ยังงั้นไม่ช้าก็เร็วเขาจะกินเหยื่ออย่างแน่นอน”
ชายหนุ่มกล่าวอย่างลวกๆ ราวกับว่าเงินยี่สิบล้านไม่มีความหมายในสายตาของเขา
“เข้าใจแล้วครับ”
ชายวัยกลางคนจึงทิ้งให้ชายหนุ่มอยู่คนเดียวแล้วเดินจากไป
“ฉันจะจับผู้เล่นคนนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะราคาเท่าไรก็ตาม คนๆนี้เป็นลูกของเลดี้ลัคกี้ หรือมีความเชื่อมโยงกับผู้สร้างเกมรึเปล่านะ เขาถึงได้รับสิ่งต่างๆ ที่คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้ ถ้าฉันให้เขามาเข้าร่วมกลุ่มของฉันละก็ ตำแหน่งของฉันก็จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน”
มีฉากคล้ายๆกันนี้เต็มไปทั่วโลก โดยมีคนจำนวนมากทำทุกวิถีทางเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหยวน เพราะตอนนี้เขาอยู่เหนือคนอื่นๆในเกม โดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้หยวนเองก็ไม่ได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย เพราะในสายตาของหยวน Cultivation Online นี้ก็เป็นเพียงแค่เกมเท่านั้น แต่ไม่ใช่สำหรับคนอื่นๆ ที่มีแรงจูงใจแอบแฝงอยู่
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หยวนก็เข้าไปในเกม แต่ก็ยังไม่พบร่างเล็กๆของเสี่ยวฮัวเลย
“เธอมีปัญหากับครอบครัวรึเปล่านะ ที่อยู่ข้างนอกจนดึกขนาดนั้น”
เขานึกถึงความเป็นไปได้นี้
“บางทีเธออาจจะโกหกเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ เพื่อไม่ให้ฉันกังวล และเล่นได้นานขึ้น...”
หยวนถอนหายใจคิดถึงสาวน้อยผู้ร่าเริง ถ้าไม่มีเธอ แล้วจะมีอะไรทำอีกในโลกนี้? ความแข็งแกร่ง ความมั่งคั่ง ชื่อเสียง หยวนไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้เลย เขาเพียงแค่อยากใช้ร่างกายตามปกติ และเล่นสนุก อย่างที่เขาไม่สามารถทำได้ในโลกแห่งความเป็นจริง
หยวนดึงสร้อยคอที่เสี่ยวฮัวให้เขาก่อนเธอจะจากไปออกมาดู เขาส่ายหัวและถอนหายใจพูดว่า
“ฉันไม่ควรใจร้อนขนาดนี้ ฉันจะรอเสี่ยวฮัวเหมือนที่เธอรอคอยการกลับมาฉัน”
ดังนั้นหยวนจึงนั่งลงเพื่อฝึกฝนอีกครั้ง ในตอนแรกมันน่าเบื่อ ในขณะที่เขาเริ่มคุ้นเคยกับการฝึกฝนอย่างช้าๆ เขาก็เริ่มรู้สึกมีความสุข เหมือนได้รับการนวดระหว่างงีบหลับ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และท้องฟ้ายามค่ำคืนก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
<160,000/160,000>
<คุณได้ดูดซับฉีเพียงพอสำหรับการพัฒนา>
<คุณกลายเป็นผู้ฝึกวิญญาณระดับหกแล้ว>
<ค่าสถานะทั้งหมด +350>
<320,000/320,000>
<คุณได้ดูดซับฉีเพียงพอสำหรับการพัฒนา>
<คุณกลายเป็นผู้ฝึกวิญญาณระดับเจ็ดแล้ว>
<ค่าสถานะทั้งหมด +400>
<ปลดล็อคความสามารถ>
<การรับรู้เพิ่มขึ้น>
<ระดับ: N/A>
<คำอธิบาย: ปรับปรุงการทำงานของประสาทสัมผัสทั้งหมดที่มีอยู่อย่างถาวร ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งาน>
<320,295/640,000>
“มันจะต้องใช้เวลานานขึ้นเรื่อยๆ ในการเลื่อนไปยังระดับถัดไป และความต้องการของพลังฉีที่จำเป็นในการเพิ่มระดับ จะเพิ่มเป็นสองเท่าในทุกๆระดับ มันยังมีอีกกี่ระดับกันนะ?”
หยวนครุ่นคิด แต่เมื่อเขารู้ว่าเขาเป็นผู้ฝึกพลัง เขาก็ต้องฝึกพลังต่อไปอยู่ดี ทำให้เขากังวลเกี่ยวกับระดับหลังๆ
“ต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนในการฝึกฝนอย่างเต็มที่ เพื่อทำการเลื่อนระดับในขั้นต่อไป เห้อ การฝึกพลังนี้ช่างน่าเบื่อเหลือเกิน”
ขณะที่หยวนกำลังจะออกจากระบบในคืนนี้ เสียงประกาศก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ดึงดูดสายตานับไม่ถ้วนจากคนด้านล่าง
<ยินดีด้วย! ผู้เล่นดอกบัวขาว กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของโลกที่ได้รับ ผู้รับใช้!>
ในขณะที่หยวนกำลังสงสัยว่าผู้รับใช้แบบไหนที่ดอกบัวขาวได้รับ คนอื่นๆก็ประหลาดใจเมื่อเห็นผู้เล่นดอกบัวขาว แทนที่จะเป็นผู้เล่นหยวนอย่างที่คิด ทำให้สร้างความตกตะลึงให้กับโลกอีกครั้ง แต่แน่นอนหลายคนก็รู้สึกโล่งใจที่รู้ว่าหยวนไม่ได้เป็นบรรพบุรุษของโลกอีกต่อไป
‘บรรพบุรุษ’ เป็นชื่อที่สร้างขึ้นโดยชุมชนของคนที่เล่นเกม หมายถึงผู้ที่ปรากฏตัวในระบบนี้ในฐานะ ‘คนแรกของโลก’ หลังจากการประกาศครั้งแรกของหยวน
“ผู้รับใช้งั้นหรอ”
ทันใดนั้นหยวนก็เริ่มมีความปรารถนาที่จะได้รับผู้รับใช้ แต่จะมีผู้รับใช้ได้อย่างไรกันนะ?
หลังจากออกจากเกม หยูรู่ก็อยู่ข้างๆ พร้อมอาหารเย็นในมือของเธอ
“หยูรู่ จะได้รับผู้รับใช้ในเกมนี้ได้ยังไงหรอ?”
หยวนถามน้องสาวของเขา
“ผู้รับใช้หรอ? มีคนได้รับแล้วหรอคะ?”
เธอถามด้วยความอยากรู้
“นอกจากนี้หนูยังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีคนที่ได้รับผู้รับใช้แล้วนะคะพี่ชาย”
“ผู้เล่นนั้นชื่อดอกบัวขาว”
“ดอกบัวขาวงั้นหรอ?”
หยูรู่จำชื่อนั้นได้ทันที่
“เธอเป็นหนึ่งในผู้เล่นอันดับต้นๆ ตอนนี้เธอเป็นผู้ฝึกวิญญาณระดับห้า นอกจากนี้เธอยังเป็นหญิงสาวที่ร่ำรวยในชีวิตจริงอีกด้วยค่ะพี่”
“ผู้ฝึกวิญญาณระดับห้า ถือเป็นยอดฝีมืองั้นหรอ?”
หยวนซึ่งเป็นผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณระดับเจ็ดแล้ว รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินว่าคนที่อยู่หลังเขาสองระดับอยู่ในอันดับต้นๆ
‘พวกเขาเป็นผู้เล่นระดับต้นจริงหรอ? ฉันแทบจะไม่ได้ฝึกพลังเลย แต่ฉันก็ยังมีระดับพลังที่สูงกว่าคนที่อยู่ในอันดับต้นๆอีกนะ’ หยวนสงสัย
“หยูรู่ ผู้ที่มีระดับพลังสูงที่สุดในเกมตอนนี้คือใครหรอ?”
“หนูได้ยินมาว่าเป็นคนที่เขารู้จักกันในนามจักรพรรดิสายฟ้า เป็นผู้ฝึกวิญญาณระดับหกนะพี่”
“โอ้โฮ ตั้งชื่ออะไรของเขา”
“นั่นคือสิ่งที่พี่สนใจหรอ” หยูรู่หัวเราะ
“แล้วพี่ละ การฝึกพลังของพี่เป็นยังไงบ้าง ให้หนูเดา.... คงจะเป็นผู้ฝึกวิญญาณระดับสองสินะ”
หยวนยิ้ม “ผิดแล้ววว!”
“ผู้ฝึกวิญญาณระดับแรกหรอ?”
“ผิดอีกแล้ว”
“อย่าบอกนะ ว่าพี่ยังไม่ได้ฝึกฝนอะไรเลยอะ!”
“หยูรู่ พี่กลายเป็นคนที่น่าสงสารและอ่อนแอในสายตาของเธอตั้งแต่เมื่อไร พี่ผิดหวังมากเลย”
หยวนพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ไม่เป็นไร พี่ก็ไม่ได้รู้จักกับใครในเกมอยู่แล้ว และอย่างที่เธอพูดแหละ พี่มัวแต่เล่นกับ NPC เธอก็รีบมาเล่นกับพี่ได้แล้ว จะได้เล่นด้วยกัน”
“สัปดาห์นี้ยังไม่ได้เลยพี่ หนูยังเรียนอยู่เลย แต่สัปดาห์หน้าหนูปิดเทอมแล้ว”
“โรงเรียนหรอ พี่อิจฉาเธอจัง” หยวนยิ้มอย่างขมขื่น
“การไปโรงเรียนไม่ได้น่าอิจฉาเลยนะพี่ชาย มันน่าเบื่อและเหนื่อยต่างหาก” หยูรู่ถอนหายใจ
“แต่พี่ก็ยังอิจฉาเธอ และนักเรียนที่ได้ไปเรียนอยู่ดีนะ” เขาถอนหายใจออกมา
หลังจากคุยกันต่ออีกไม่กี่นาที หยูรู่ก็กลับไปที่ห้องของเธอเพื่อนอน และหยวนเองก็เข้านอนเช่นกัน
“ถ้าเธอไม่ปรากฏตัวในวันพรุ่งนี้ ฉันควรใช้สร้อยเส้นนั้นเรียกเธอรึเปล่านะ”
เขาบอกตัวเองก่อนจะหลับไป