“ฉันไม่รู้ว่าแกโผล่ออกมาจากรูไหน แต่ถือว่านี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้ายของแก”
เหริ่นฟู่เฉินพูดออกมาในขณะที่เขาปลดดาบที่อยู่ข้างๆตัวแล้วเอาออกมา และนั่นทำให้ออร่ารอบๆตัวเขากำลังเปลี่ยนไป
หยวนมองมาไปที่เหรินฟู่เฉินด้วยรอยยิ้ม แทนที่เขาจะกังวลเพราะเขาจะต้องต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกันเป็นครั้งแรก เขากลับคิดว่าเรื่องนี้มันน่าสนุกมากกว่า
“อยากจะสู้ใช่ไหมละ งั้นก็มาสิ ฉันก็อยากจะลองดาบของฉันกับอย่างอื่นที่ไม่ใช่มอนเตอร์อยู่เหมือนกัน”
หยวนดึงดาบของเขาออกมาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเหรินฟู่เฉินเห็นดาบของหยวนที่เปล่งออร่าอันทรงพลังออกมา ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
“ดาบระดับวิญญาน...ทั้งยังมีคุณภาพสูงสุดอีกด้วย! แกมีอาวุธวิญญานที่ดีจริงๆ!”
อาวุธอะไรก็ตามที่มีระดับจะถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่า เพราะอาวุธที่มีระดับพวกนี้จะมีความแข็งแกร่งกว่าอาวุธปกติทั่วไปหลายเท่า
และแม้ว่าดาบของหยวนจะอยู่ในระดับต่ำสุดแต่มันก็ยังดีกว่าดาบที่ไม่มีระดับกันคนละเรื่องเลยทีเดียว และอาวุธที่มีคุณภาพสูงสุดนี้ก็เป็นสิ่งที่เหรินฟู่เฉินซึ่งอยู่ในอันดับที่ 14 ของนิกาย ก็ยังไม่สามารถมีได้เช่นเดียวกัน
เหรินฟู่เฉินขมวดคิ้วขึ้นทันที หลังจากที่รู้ว่าหยวนมีอาวุธที่มีคุณภาพสูงสุดในขณะที่เขาถืออาวุธคุณภาพปานกลางเพียงเท่านั้น
ความคิดของเหรินฟู่เฉินเปลี่ยนไปทันที เขาไม่ได้มองหยวนและสถานการณ์ตรงหน้านี้เป็นเรื่องง่ายๆอีกต่อไป เพราะก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น เขาก็เสียเปรียบมากแล้ว
เพราะเมื่อเทียบระหว่างอาวุธคุณภาพสูงสุดของหยวน กับดาบคุณภาพระดับกลางของเขา ดาบคุณภาพระดับกลางของเขาก็เหมือนเป็นแค่แท่งไม้เท่านั้น
“นายจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานแค่ไหน ถ้านายไม่กล้าสู้ก็พูดออกมา”
หยวนพูดยั่วยุเหรินฟู่เฉินที่ตอนนี้ยืนนิ่งไม่ขยับไปไหนเลย
‘ไม่! แม้ว่าเขาจะมีอาวุธที่เหนือกว่า แต่ฉันก็ยังมีข้อได้เปรียบในแง่ของพื้นฐานการฝึกพลัง เขาเป็นเพียงผู้ฝึกวิญญานระดับเก้าในขณะที่ฉันเป็นนักรบวิญญานระดับห้า! ไม่มีทางที่ฉันจะแพ้ แม้ว่าเขาจะมีอาวุธคุณภาพสูงสุดก็ตาม!’
เหรินฟู่เฉินให้กำลังใจตัวเองด้วยความคิดแบบนั้น
แม้ว่าหยวนจะมีอาวุธคุณภาพสูงสุด แต่หากเขาไม่มีพื้นฐานการฝึกพลังเพื่อใช้อาวุธนั้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาวุธนั้นก็จะกลายเป็นภาระให้กับเขาแทน
“ถ้าแกยอมมอบอาวุธที่มีคุณภาพสูงสุดอันนั้นเพื่อเป็นการขอโทษกับฉันละก็ ฉันก็จะให้อภัยแกสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ และฉันก็จะยอมปล่อยโม่โจวไป ข้อเสนอนี้เป็นยังบ้าง? ดีใช่ไหมละ?”
ก่อนที่หยวนจะพูดอะไรออกมา เสี่ยวฮัวก็พูดกับเขาออกมาก่อนว่า
“พี่หยวนข้อเสนอนั้นไม่เลวเลยนะ แม้ว่าพี่จะเคยสู้กับมอนเตอร์ที่เก่งกาจขนาดไหนมาก็ตาม แต่การต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกัน มันคนละเรื่องกับการต่อสู้กับมอนเตอร์เลยนะ”
หยวนพยักหน้าและยกดาบขึ้นเพื่อยื่นมันให้กับเหรินฟู่เฉินด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจมากนัก เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เนื่องจากเขาคิดว่าสถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเกม เขาก็เลยจะปล่อยมันไป
“ดี! งั้นฉันจะเอามันมาจากศพของแกละกัน!”
เหรินฟู่เฉินคำรามขณะที่เขาพุ่งเข้าหาหยวนด้วยดาบที่อยู่ในมือของเขาด้วยท่าที่เขาชูดาบขึ้นในอากาศพร้อมจะฟัน
“สามดาบฟาดฟัน!!”
เหรินฟู่เฉินฟันออกมาสามครั้งและเชื่อมการโจมตีทั้งสามเข้าด้วยกันในพริบตา นั่นทำให้ดูเหมือนว่าเขาโจมตีสามครั้งด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
ดวงตาของหยวนเบิกกว้างเมื่อเหรินฟู่เฉินพุ่งเข้ามาหาเขา แต่เขาไม่ได้ตกใจ เขากำลังเฝ้าดูการโจมตีของเหรินฟู่เฉินอย่างใกล้ชิดราวกับว่าเขากำลังทำความเข้าใจกับมันอยู่
ทันใดนั้นหยวนก็ยกดาบขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีทั้งสามครั้งของเหรินฟู่เฉินด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
“อะไรกัน?!!”
เหรินฟู่เฉินร้องออกมาด้วยความประหลาดใจหลังจากที่หยวนสกัดการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดายและสมบูรณ์แบบมาก
ยังไงก็ตามถึงหยวนจะสกัดการโจมตีของเหรินฟู่เฉินได้สมบูรณ์แบบ แต่หยวนก็ยังถูกผลักออกมาเล็กน้อยจากพลังที่เหรินฟู่เฉินสร้างขึ้น เพราะเขามีพลังที่มากกว่าหยวน
“นี่มันสุดยอดมาก...”
หยวนมองไปที่มือที่สั่นเทาของเขาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า
“ความรู้สึกนี้...ช่างเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
หยวนซึ่งมีร่างกายในโลกแห่งความจริงที่ไม่สามารถขยับได้ กลับสามารถรู้สึกถึงความรู้สึกพวกนั้นได้ในโลกใบนี้ เขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้รู้สึกกับความรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรกและมันทำให้เขามีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
“เขาบ้าไปแล้วหรอ?”
เหรินฟู่เฉินมองไปที่ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มของหยวนและคิดกับตัวเขาเอง
“มาเถอะ มาสู้กันให้มากกว่านี้”
ครั้งนี้หยวนเป็นฝ่ายพุ่งออกไปหาเหรินฟู่เฉินด้วยตัวเอง
‘หรือว่าพี่หยวนจะเป็นคนที่ชื่นชอบการต่อสู้?’
เสี่ยวฮัวคิดสงสัยกับตัวเองว่าหยวนเป็นแบบนั้นหรือเปล่า
“ดาบตัดโลหิต”
ทันใดนั้นคบดาบก็เปล่งประกายสีแดงราวกับเลือดและจิตสังหารก็กระจายออกไปทั่วบริเวณนั้น
“!?!?!?”
เหรินฟู่เฉินแทนคลั่งเมื่อเขารู้ว่าหยวนเพิ่งใช้วิชาระดับโลก
“เป็นไปไม่ได้! แกเป็นเพียงผู้ฝึกวิญญานระดับเก้าเท่านั้น! แกจะใช้ทักษะระดับโลกได้ยังไง!!”
เหรินฟู่เฉินอ้าปากค้างด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก
เหรินฟู่เฉินรีบยกดาบขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีของหยวนทันที
ปัง!!
ในขณะที่ดาบของพวกเขาปะทะกัน เหรินฟู่เฉินก็รู้สึกราวกับว่าเขากำลังปะทะเข้ากับภูเขาทั้งลูก และเข่าของเขาก็บังคับให้ย่อลงด้วยแรงกดดันจากการปะทะในครั้งนี้
ทันใดนั้นเหรินฟู่เฉินก็สังเกตเห็นรอยแตกที่ปรากฏขึ้นบนดาบของเขา
“ไม่ดีแล้ว! ด้วยความแรงระดับนี้เขาทำลายอาวุธของฉันแน่!”
“ช่วยฉันด้วย!”
ทันใดนั้นเหรินฟู่เฉินก็ตะโกนเรียกศิษย์อีกคนที่มากับเขาเข้ามาช่วยเขา
จากนั้นศิษย์คนนั้นก็ดึงดาบของเขาออกมาแล้วพุ่งเข้าหาหยวนด้วยความเร็วสูง
“หยวน ระวัง!!”
โม่โจวไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ทัน เขาจึงตะโกนเพื่อบอกให้หยวนระวังอันตรายที่กำลังจะมาถึงแทน
ยังไงก็ตามหยวนไม่แม้แต่จะหันไปมองศิษย์อีกคนที่กำลังพุ่งเข้ามา แต่เขากลับฟันดาบออกไปกระแทกเหรินฟู่เฉินแทน นั่นทำให้เหรินฟู่เฉินกระเด็นออกไปไกลหลายเมตร
เมื่อเหรินฟู่เฉินกระเด็นออกไป หยวนก็หันไปสู้กับศิษย์คนที่สองทันที
“ดาบตัดโลหิต!”
หยวนเปิดใช้งานทักษะเดียวกันและฟันดาบของเขาไปที่ศิษย์อีกคนอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้ศิษย์อีกคนที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขาตกใจเป็นอย่างมาก ทำให้ศิษย์คนนั้นไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน
แสงสีแดงโค้งไปที่แขนของเขา และแยกแขนของเขาออกมาทันที
“อ้ากกกกกกกกก!!! ขะ...แขนของฉัน แขนของฉัน!!!”
ศิษย์คนนั้นทิ้งตัวลงบนพื้นและกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และเอามือกำไปที่แขนด้านขวาของเขา
“อ๊ะ...”
หยวนเพียงทำตามสัญชาตญานของตัวเองเท่านั้น เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะตัดแขนของศิษย์คนนั้นเลย และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกแย่นิดหน่อยที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น