px

เรื่อง :
เล่มที่ 2 บทที่ 21 - ชิงฮู


เล่มที่ 2 บทที่ 21 - ชิงฮู

 

เถิงหยุนหลง ผู้นำแห่งหมู่บ้านเถิงเจีย หรือคนที่ถูกเรียกว่าวีรบุรุษคนแรกแห่งหมู่บ้าน

 

ปู่ของเถิงชิงซาน เถิงหยุนหลงนั้นดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดแห่งหมู่บ้านเถิงเจีย ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นช่างตีเหล็กคนแรกของหมู่บ้านเถิงเจีย

 

แม้ว่าเขาจะเคยถูกเรียกว่าช่างตีเหล็ก แต่ทักษะการสร้างอาวุธของเขานั้นได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ดังนั้นอาวุธที่เขาสร้างจึงอยู่ในระดับสูงกว่าปรมาจารย์สร้างอาวุธที่อยู่ในเมืองเสียอีก

 

ผู้ติดตามของเขานั้นมีมากกว่า 10 คน ซึ่งพ่อของเถิงชิงซานเจ้าคือหนึ่งในนั้น เถิงโย่งฟ่านถือได้ว่าเป็นคนที่มีทักษะมากที่สุด เถิงหยุนหลงในวัยชราได้ถ่ายทอดทักษะทั้งหมดของเขาให้ไปอย่างสมบูรณ์แบบและทำให้เขากลายเป็นช่างตีเหล็กคนแรกของหมู่บ้านเถิงเจีย ตั้งแต่ที่เขาได้รับมอบหมายหน้าที่นี่ เถิงโย่งฟ่านก็ยังได้รับหน้าที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำหมู่บ้านเป็นคนต่อไปหากไม่เกิดอะไรผิดพลาด

 

โดยปกติหมู่บ้านเถิงเจียจะประกอบอาชีพทั้งหมด 3 อาชีพ คือการล่าสัตว์ กสิกรรม และการผลิตอาวุธ

 

รายการล่าสัตว์และกสิกรรมนั้นจะนำเงินเข้ามาในหมู่บ้านน้อยนิดมาก

 

แต่การกลั่นหรือสร้างอาวุธนั้นนำมาซึ่งรายได้ที่สูงยิ่งและยิ่งอาชีพนักตีเหล็กมากขึ้นเท่าไหร่ หมู่บ้านเถิงเจียก็จะยิ่งมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้อาวุธทั้งหมดในหมู่บ้านเถิงเจีย การที่มีช่างตีเหล็กเป็นของตัวเองจึงทำให้ผู้คนในหมู่บ้านเถิงเจียมีอาวุธประจำตัวอย่างชัดเจน

 

ดังนั้น ช่างตีเหล็กจึงถือได้ว่าเป็นคนที่มีสถานะสูงส่งภายในหมู่บ้าน

 

พ่อของเถิงชิงซาน เถิงฟ่านโย่งมักจะใช้เวลาจำนวนมากในการคลุกตัวอยู่ในโรงเหล็ก แม่ของเขา หยวนหลันเองก็ค่อนข้างจะยุ่งในการทำเรื่องมากมาย จึงส่งผลให้เถิงชิงซานต้องอยู่บ้านเพียงลำพังเสมอ

 

และตัวของเถิงชิงซานก็ยินดีที่จะอยู่บ้านด้วยตัวคนเดียว การที่เขาได้ปิดประตูฝึกฝนยิ่งทำให้เขารู้สึกโล่งใจ

 

"โฮกกกก…."

 

เท้าซ้ายของเขาฝังรากลงไปราวกับคันไถเหล็ก ขั้นตอนเดียว ก็สามารถผลักดันเท้าซ้ายและขวา ให้เดือดพล่านราวกับน้ำร้อนที่ถูกต้ม

 

3 รูปแบบแห่งสิงอี้เฉวียนแม้จะเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่ายแต่กลับลึกซึ้งที่สุด

 

 3 ท่วงท่านี้คือท่วงท่าดั้งเดิมของสิงอี้เฉวียนแม้แต่ปรมาจารย์สิงอี้เฉวียนยังต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเถิงชิงซานและฝึกฝนทุกท่วงท่าทุกกำปั้นทุกย่างก้าว แน่นอนว่าเขานั้นเคยบรรลุในระดับปรมาจารย์ ทุกการกระทําหากตั้งใจฟังดีๆ คนทั่วไปก็จะสามารถได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และพลังภายใน

 

กล้ามเนื้อทุกมัดกระดูกทุกท่อนเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน

 

"หายใจออก!!! หายใจเข้า!!!! หายใจออก!!!"

 

ทั้ง 3 ท่วงท่า แต่ใช้ลมหายใจที่แตกต่างกัน บางครั้งก็ช้าบางครั้งก็เร็วต้นทำให้หน้าอกของเขามีเสียงดังแปลกๆออกมา

 

เวลาการฝึกฝน 2 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ผ่อนคลาย!!!!!

 

"สภาพแวดล้อมในยุคโบราณกาลช่างเหมาะกับการฝึกฝนกำลังภายในจริงๆ" หัวใจของเถิงชิงซานเต้นอย่างแปลกประหลาด "ข้าฝึกฝนกำลังภายในเพียงแค่ 1 ปี แต่ความแข็งแกร่งของข้ากลับลุ่มลึกและแข็งแกร่งกว่าอดีตชาติของข้าเสียอีก"

 

เมื่อเขาได้เกิดในยุคโบราณกาล เถิงชิงซานก็เข้าใจได้ทันทีว่าทักษะผสานโลกานั้นไม่ได้แข็งแกร่งมากเกินไปเลย เพียงแต่ความแข็งแกร่งในโลกก่อนนั้นน้อยเกินไป

 

"ความแข็งแกร่งที่เพิ่มพูนขึ้นมากเกินไปนั้นจะต้องนำปัญหามาอย่างแน่นอน"เถิงชิงซานพิจารณาถึงความแข็งแกร่งที่นำพาซึ่งปัญหาอย่างไม่จบสิ้น

 

อาจเป็นเพราะเขาอายุเพียงแค่ 4 ขวบ ทำให้เส้นลมปราณของเขานั้นไม่มีอะไรขัดขวาง แต่เถิงชิงซานก็ยังไม่กล้าฝ่าฝืนและหลงมอมเมาในกำลังภายในเหล่านี้ เพราะถ้าหากทำมันมากเกินไป สิ่งสกปรกแฝงเข้าไปในเส้นลมปราณหลักรวมถึงเส้นลมปราณย่อย ผลที่ตามมา มันจะทำให้เส้นทางแห่งลมปราณไม่มีทางถูกกรุยได้หมดอย่างแน่นอนในอนาคต

 

เพื่อผลประโยชน์ในปัจจุบัน จะยอมเอาอนาคตมาเสี่ยงเลยหรือ?

 

เถิงชิงซานจึงไม่อยากรีบร้อน

 

"ข้าจะต้องปรับปรุงร่างกายควบคู่ไปกับการเพิ่มพละกำลังภายในที่เพียงพอ"เถิงชิงซานคิดในใจ

 

เคล็ดวิชากำลังภายในถูกแบ่งออกเป็น 3 ดินแดน ทุกดินแดนล้วนเพิ่มระดับพลังของร่างกาย

 

ดินแดนแรกจะทำให้พลังของกล้ามเนื้อพัฒนาจนถึงขีดสุด

 

ดินแดนที่สองหลังจากเพิ่มพูนพละกำลังภายใน พวกมันจะถูกใช้ในการกระตุ้นส่วนลึกของกล้ามเนื้อเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกและใช้มันในการซึมซับพละกำลังภายในให้เติบโตขึ้นอีกครั้ง ซึ่งมันจะส่งผลให้ร่างกายนั้นแข็งแกร่งขึ้น เฉกเช่นตอนที่เถิงชิงซานถูกพลแม่นปืนมากาซะวะยิงแต่ก็ไม่อาจทำให้เขาตายได้ เพราะความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อที่ทรงพลังต้องสามารถปัดเป่าลูกกระสุนออกไปได้

 

ดินแดนที่สาม หลังจากเดินทางขึ้นสู่ดินแดนส่งสวรรค์ ร่างกายจะสามารถเอาชนะทุกสิ่งอย่างได้และความแข็งแกร่งจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

"ในตอนนี้ข้าคงไม่อาจใช้พละกำลังทั้งหมดของข้าได้ ดังนั้นข้าจะต้องเร่งดำเนินการให้ถึงดินแดนที่ 2 ให้ได้ ข้าจะต้องเพิ่มพูนกล้ามเนื้อและกระดูกเพื่อเสริมสร้างพละกำลังในร่างกาย"เถิงชิงซานที่เป็นดั่งปรมาจารย์รับรู้แนวทางที่เขาควรจะทำ

 

การดูดซึมสารอาหารเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อนั้นก็เหมือนกับพืชที่สุดซับสารอาหาร วิธีการกระตุ้นเหล่านี้ถือเป็นความลับของศิลปะกำลังภายในและมันก็เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด

 

ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่เถิงชิงซานมีชีวิตอยู่ ต้องใช้เวลานับพันปีเพื่อกลั่นกรองคนที่มีพรสวรรค์ให้คิดค้นและสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนสุดท้ายเคล็ดวิชาที่ไม่อาจคาดถึงก็ก่อกำเนิดขึ้น

 

"อืมมม ท่านแม่คงจะต้องกลับมาแล้ว"เถิงชิงซานวิ่งไปที่ลานกว้างเพื่อเปิดประตูและรีบตรงไปยังลานฝึกซ้อมของหมู่บ้านเถิงเจีย

 

ในตอนนี้สนามฝึกซ้อมกำลังภายในหมู่บ้านเถิงเจียคือสถานที่ที่มีเสียงอึกทึกมากที่สุดในหมู่บ้าน

 

"ฮากกกกกก!!!"

 

"โฮกกกกกก!!!!"

 

เสียงผู้คนตะโกนมากมายในแบบต่างๆกัน ทั่วทั้งสนามฝึกซ้อมมีทั้งเยาวชน รวมถึงเด็กๆ บางคนก็กำลังเข็นลูกกลิ้งเหล็ก บางคนก็กำลังถือหินยักษ์ บางคนก็กำลังฝึกซ้อมหอก

 

ส่วนในช่วงเช้า มักจะเป็นผู้ใหญ่ชายชาตรีที่มักจะฝึกซ้อมด้วยกัน บางคนก็ฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน

 

บริเวณขอบสนามฝึกซ้อม เหล่าสตรีบางคนกำลังถักทอผ้ากันเปื้อน รวมถึงเสื้อผ้า พวกเธอกำลังทำงานของเธอพลางก็มองดูเหล่าชายชาตรีที่กำลังฝึกฝน

 

"ชิงซานมานี่สิ"หญิงสาวบางคนยิ้มทักทายเถิงชิงซาน

 

"สวัสดีครับท่านน้า"เถิงชิงซานตอบอย่างสุภาพ

 

"ชิงซานเจ้านี้เป็นเด็กดีจริงๆ ก็ไม่ก่อปัญหาใดๆเลยไม่เหมือนเด็ก 4 ขวบคนอื่น หยวนหลันคงจะโล่งใจอย่างยิ่งในปล่อยให้เจ้าออกมาเดินเล่นคนเดียว"หญิงสาวกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ในหมู่บ้านเถิงเจีย ชิงซานนั้นโด่งดังเรื่องการกินอย่างมากรวมถึงความน่ารักและความฉลาด เด็กในวัยเดียวกันนั้นส่วนใหญ่จะวุ่นวายต่างกับชิงซาน ซึ่งผู้ใหญ่ทุกคนที่เลี้ยงเด็กย่อมรู้ดี

 

อย่างไรก็ตามเถิงชิงซานนั้นเป็นเด็กที่น่ารักมากจนพ่อแม่ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเลย

 

"ท่านแม่"เถิงชิงซานเดินไปหา

 

หยวนหลันนั่งอยู่บริเวณขอบสนามฝึกซ้อมพร้อมทั้งอุ้มทารกไว้ในอ้อมแขน เด็กน้อยคนนี้คือน้องสาววัย 3 ขวบของเถิงชิงซาน เธอมีชื่อว่า ชิงอวี้

 

"ชิงซาน ลูกพี่ลูกน้องของลูกก็อยู่ที่นี่ด้วย"หยวนหลันยิ้ม

 

เถิงชิงซานหันหน้าและมองออกไปก็พบกลับเด็กผู้ชายสูง 6 ฟุต กำลังถือหินก้อนยักษ์ที่มีน้ำหนักอย่างน้อย 100 จิน(50 กิโลกรัม) ทุ่นน้ำหนักกว่า 100 จินงั้นจะช่วยส่งเสริมให้แขนและไหล่สามารถออกแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

"ในโลกที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปราณแห่งสวรรค์และโลก ศักยภาพของมนุษย์ธรรมดานั้นเรียกว่ามากกว่าชีวิตก่อนของข้าถึง 2-3 เท่า"เถิงชิงซานถอนหายใจ

 

" ลูกพี่ลูกน้องของลูก ชิงฮูนั้นสามารถยกหินน้ำหนักได้มากถึง 300 จิน(150 กิโลกรัม) ในตอนเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ อายุ 9 ขวบก็สามารถยกหินได้หนักถึง 300 จินแล้ว แม่คิดว่าเขาจะต้องกลายเป็นวีรบุรุษแห่งหมู่บ้านเถิงเจียได้อย่างแน่นอน"หยวนหลันกล่าว

 

เถิงชิงซานเองก็เห็นด้วยกับคำตอบ

 

เถิงชิงฮูตอนนี้อายุ 10 ขวบ แต่เขาสูงเกือบ 6 ฟุต หากวัดตามมาตราวัดคลองโลกใบนี้ 1 ฟุตนั้นเทียบเท่ากับ 25  เซนติเมตร อาจกล่าวได้ว่าเถิงชิงฮูนั่นมีความสูงถือ 150 เซนติเมตร และหากเรียกตามสภาพของโลกใบนี้สำหรับเด็กชายวัย 9 ขวบ ส่วนใหญ่มักจำยกน้ำหนักได้เพียงแค่ 70 ถึง 80 จินเท่านั้น

 

การที่เด็กอายุวัยเดียวกันสามารถยกน้ำหนักและ 100 จินมันก็มากพอที่จะทำให้ทุกคนคิดว่าเขาจะต้องเติบโตมาเป็นนักรบผู้เก่งกาจ

 

แต่ถ้าหากเด็กวัย 9 ขวบหนึ่งสามารถโยนน้ำหนักได้ 300 จิน มันอาจเรียกได้ว่าเด็กคนนี้คือเด็กที่มีพรสวรรค์ ดังนั้นคำพูดของหยวนหลันนั้นจึงไม่ใช่คำพูดที่ดูไร้สาระเลย

 

"ลูกพี่ลูกน้องของข้าสามารถยกหินได้ถึง 300 จิน ถ้าหากเขาได้ฝึกฝนกำลังภายในพร้อมข้า เขาจะต้องก้าวขึ้นสู่ดินแดนไร้ขอบเขตอย่างแน่นอน"เถิงชิงซานคิดวิเคราะห์ การฝึกฝนกำลังภายในนั้นเข้มงวดอย่างมาก แม้ว่าจะมีผู้ฝึกฝนจำนวนมาก แต่มันก็หลงเหลือเพียงแค่กลุ่มเล็กๆเท่านั้นที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนมันต่อไป เพราะส่วนใหญ่นั้นไม่อาจก้าวขึ้นสู่ระดับความแข็งที่สูงส่งได้

 

มันเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะฝึกฝนความแข็งแกร่งภายนอกเข้าสู่ภายใน

 

การบรรลุเข้าสู่พลังจากการฝึกฝนกำลังภายในหนึ่งหมื่นคนอาจมีหนึ่งคนที่สำเร็จ แต่สำหรับการก้าวขึ้นสู่ปรมจารย์สูงสุดเรียกได้ว่า 1 ใน 100 ล้านคนที่จะสำเร็จ มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะจินตนาการได้

 

คุณสมบัติของเถิงชิงฮูถือว่าไม่เลวนัก

 

"แต่มันก็น่าเสียดายนะ อาจเป็นเพราะข้ายังเป็นเด็กการที่ข้าพูดอะไรออกไปคงไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ข้าพูด อีกทั้งข้าเองก็ไม่อาจแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ได้ว่าผลลัพธ์ของมัน…….."เถิงชิงซานยังคงคิดอย่างต่อเนื่อง

 

"สวัสดี ชิงซาน"

 

เสียงที่ดังขึ้นจากระยะที่ห่างออกไป เถิงชิงฮูค่อยๆวางหินทุ่นน้ำหนักลง ร่างกายที่เปลือยเปล่าท่อนบนเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาหันมาพร้อมกับรอยยิ้ม "ชิงซาน เจ้าอย่าเอาแต่คลุกตัวอยู่ในบ้านเลย เจ้าคนมาซ้อมที่สนามฝึกซ้อมแห่งนี้บ่อยๆ เพราะอีกหน่อยเจ้าจะกลายเป็นรุ่นเยาว์แล้ว แม้ว่าเจ้าจะยังไม่อาจฝึกฝนความแข็งแกร่งได้ แต่การปิดประตูขังตัวเองอยู่ในบ้านนั้นก็ไม่ดีนัก"

 

เด็กที่ปิดตัวเองเอาแต่อยู่ในบ้าน มันจะทำให้ตัวตนของเขาเปลี่ยนแปลงการเป็นคนเก็บกด ซึ่งมันส่งผลไม่ดีอย่างแน่นอน

 

"ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับพี่"เถิงชิงซานยิ้มตอบ

 

"อ้าา ว่าไงชิงอวี้ ชิงอวี้น้อย"ในหัวของเถิงชิงฮูนั้นวนเวียนอยู่กับทารก รอยยิ้มของเธอทำให้จิตใจของเขาสงบสุข

 

"ว่าไง ชิงฮู เหงื่อไคลของเจ้าเต็มไปหมดเลยมันกำลังจะหยดโดนน้องแล้ว เจ้าควรไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อน"หยวนหลันยังกล่าวต่ออีกว่า"วันนี้พวกเราจะรับประทานอาหารด้วยกัน พี่น้องของเราได้ออกล่าสัตว์และสามารถจับไก่ฟ้ามาได้ ข้าทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วและตอนนี้พวกมันก็อยู่บนเตา"

 

"ได้เลยครับ"

 

เถิงชิงฮูยิ้มและรีบวิ่งไปยังสถานที่ที่ไม่ห่างไกลจากนั้นเขาก็คว้ากระบวยน้ำเต้าเพื่อตักน้ำเย็นเพื่อชำระล้างร่างกายที่สกปรก ได้หยิบผ้าเช็ดตัวซึมซับความเปียกของร่างกายออกก่อนจะสวมเสื้อผ้าใหม่

 

เถิงชิงซานชื่นชมลูกพี่ลูกน้องคนนี้มากๆ เขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมาเฉกเช่นเดียวกับคนอื่นๆในหมู่บ้านเถิงเจีย อีกทั้งเขายังเป็นคนดีและคอยทำดีกับเขาและชิงอวี้น้องสาวของเขาด้วย

 

"หืม????"ใบหูของเถิงชิงซานได้ยินเสียงบางอย่าง

 

การฝึกฝนกำลังภายในทำให้สัมผัสทั้ง 6 ของเถิงชิงซานมีประสิทธิภาพมากกว่าผู้อื่นเขาจึงได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากสถานที่ที่ห่างไกลออกไป เสียงค่อยๆหนักขึ้น จากนั้นเขาก็เห็นหญิงสาว 3 คนกำลังอุ้มชายที่ศรีษะเต็มไปด้วยเลือดและวิ่งอย่างเร่งรีบพร้อมตะโกนว่า "มีบางคนกำลังมา รีบพาต้าโฮ่วกลับไปบ้านเร็ว"

 

"มันเกิดอะไรขึ้น?"ประตูขนาดใหญ่ของหมู่บ้านเถิงเจียถูกเปิดออก ผู้คนมากมายวิ่งออกไปพร้อมๆกัน

 

ทั่วทั้งสนามฝึกซ้อมเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและความวุ่นวาย

 

"มีบางอย่างเกิดขึ้น"หยวนหลันกอดเด็กทารกและยืนขึ้นอย่างกะทันหัน

 

"กลุ่มแรกและกลุ่มที่สองให้รออยู่ที่หมู่บ้าน ส่วนคนอื่นๆไปหยิบอาวุธและตามข้ามา"เสียงตะโกนดังขึ้นจากประตูใหญ่ของหมู่บ้าน เถิงชิงซานจำเสียงที่ดังขึ้นได้ เขาคือปรมาจารย์ผู้ฝึกสอนการใช้หอกแห่งหมู่บ้านเถิงเจีย เถิงโย่งเซียง

 

เมื่อปรมจารย์ออกคำสั่ง คำพูดก็ถูกถ่ายทอดไปจนทั่วหมู่บ้าน ข่าวแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

 

"มันจะต้องเป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งแน่ที่กำลังจะมาสู้กับเรา ไอ้พวกลูกส่ำส่อง ข้าจะฆ่ามันให้หมด"เถิงชิงฮูจับหอกและหันมองไปแล้ว "ชิงซาน เจ้าจะไปด้วยหรือไม่?"

 

เถิงชิงซานหยิบก้อนหินที่อยู่บนพื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

 

" เจ้าจะเอาก้อนหินเล็กๆนี้ไปปาใส่ผู้อื่นอย่างนั้นเหรอ?"เถิงชิงฮูไม่อาจหุบยิ้มได้ "ก้อนหินขนาดเล็กแค่นี้ประกอบกับความแข็งแกร่งของเจ้า มันจะกลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์"

 

"ไปกันเถอะ ท่านพี่ของข้า ในตอนนี้แม่ของข้านั้นกำลังไปส่งน้องสาวข้ากลับบ้าน ถ้าหากเธอกลับมา ข้าก็คงไม่ได้รับอนุญาตให้ไป"เถิงชิงซานไม่ได้อธิบายอะไรมากเกินไป แม้ว่าเขายังไม่สามารถทะลวงเส้นลมปราณทั่วทั้งร่างกายได้ แต่สิ่งสกปรกที่แฝงอยู่ในเส้นลมปราณของเด็กๆนั้นมีน้อย และในตอนแรกที่เถิงชิงซานเริ่มฝึกฝนกำลังภายใน เขาก็สามารถเจาะพื้นดินได้ด้วยมือเปล่า อย่างน้อยมันก็แสดงให้เห็นว่าเส้นลมปราณที่อยู่บนฝ่ามือของเขาได้เปิดออกแล้ว

 

การใช้กำลังภายในขว้างหินออกไปคงจะเหมือนกับทักษะมีดบิน พลังความแข็งแกร่งที่ถูกปลุกขึ้นมานั้นก็คงมีอานุภาพไม่ต่างจากกระสุนปืน

 

หากให้พึ่งพากำลังภายนอกมันคงเป็นไปได้ยากเพราะเถิงชิงซานยังคงเป็นเพียงแค่เด็ก ดังนั้นเขาจึงต้องพึ่งพากำลังภายในเท่านั้น

 

"มาเถิดน้องข้า ข้าจะดูแลและปกป้องเจ้าเอง"เถิงชิงฮูค่อนข้างมั่นใจในตัวเองและหอกที่เขาถือ เขาพาเถิงชิงซานไปตามทางที่คนจำนวนมากกำลังวิ่งออกไป

 

รีวิวผู้อ่าน