px

เรื่อง :
เล่มที่ 2 บทที่ 22 - รายชื่อผู้เข้าประลอง


เล่มที่ 2 บทที่ 22 - รายชื่อผู้เข้าประลอง

 

ฤดูใบไม้ผลิ เราต้นหญ้าดอกไม้ผลิบาน นกน้อยนานาพันธุ์โพบินออกล่องลอยไปบนนภา

 

สันเขาที่กว้างใหญ่ตั้งขนาดอยู่บนเส้นทางแห่งลำห้วย วัชพืชชั้นต่ำเติบโตไปทั่วทุกทิศทาง ด้านบนของสันเขามีคนอยู่ประมาณ 10 คน กำลังต่อสู้กันด้วยมือเปล่า

 

"หยุด"เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากระยะทางไกล

 

กลุ่มคนจำนวนมากวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่คนตะโกนรูปร่างผอมนั้นวิ่งนำหน้ากลุ่มคนมา แต่การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีใครหยุด ชายร่างผอมพุ่งเข้าไปในกลางฝูงชน พร้อมกับหอกในมือจากนั้นไม่นานผู้คนบางส่วนก็เริ่มกระเด็นออกไป

 

ในพริบตา คนประมาณ 7-8 คนถูกโยนกระแทกพื้นอย่างรุนแรง แต่พวกเขาก็ลุกขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

 

"พวกเจ้าคนของหมู่บ้านหลีเจียเป็นคนทำร้ายต้าโฮ่วใช่หรือไม่?"ชายร่างผอมตะโกนถาม เขาคือเถิงโย่งเซียง ปรมาจารย์แห่งหมู่บ้านเถิงเจีย และเป็นผู้นำผู้คนในการฝึกฝนการใช้หอก

 

"ปรมาจารย์เถิง พวกเราแค่ต้องการปลูกพืชไร่ แต่ทำไมคนของหมู่บ้านเถิงเจียถึงมาปิดกั้นเส้นทางชลประทานล่ะ?" ชายที่ดูแข็งแกร่งซึ่งมีแผลเป็นบนร่างกายตะโกนถามกลับมา

 

ในตอนนี้กลุ่มคนของหมู่บ้านเถิงเจียได้มารวมตัวกันเรียบร้อยแล้ว

 

หญิงสาวของหมู่บ้านเถิงเจีย ตะโกนถามด้วยความโกรธ "ไอ้พวกเห็นแก่ตัว ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิผ่านมาฝนก็ไม่เคยตกเลย แต่พวกเจ้าจะเก็บน้ำเอาไว้ในทุ่งหญ้าของพวกเรา แล้วพวกเราคิดว่าทุ่งหญ้าของเราไม่ต้องการน้ำงั้นหรือ? หมู่บ้านหลีเจียของพวกเจ้าคงคิดที่จะกลับเก็บน้ำไว้ใช้คนเดียวสินะ?"

 

เนื่องด้วยเถิงชิงซานเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 4 ขวบเขาจึงสามารถแทรกกลางระหว่างผู้คนจนมาอยู่หน้าสุดได้

 

"ต่อสู้เพื่อแย่งชิงน้ำ?"เถิงชิงซานได้ยินและพยายามเข้าใจเหตุผลทั้งหมด

 

เถิงชิงซานไม่เคยทำฟาร์มมาก่อนจึงมีหลายสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตามเขาเองก็รู้ว่าข้าวสาลีย่อมต้องการปุ๋ยและน้ำ หากน้ำไม่เพียงพอการกสิกรรมก็ต้องล้มเหลว

 

"แม้ว่าพวกเขาจะเลือกต่อสู้กัน แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่ใช้อาวุธเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย"เถิงชิงซานเลือกไปมองแล้วเห็นว่ามีขั้วและอาวุธชนิดต่างๆวางอยู่ในทุ่งนา แต่พวกเขาเลือกต่อสู้ด้วยมือและขาเพื่อแย่งชิงศึกระหว่างหมู่บ้าน แม้ว่าจะต้องมีคนได้รับบาดเจ็บจนเลือดออก แต่ก็ไม่มีใครตาย

 

เถิงชิงซานคิดและพยายามทำความเข้าใจ

 

"หากมีผู้ใดพลาดพลั้ง คนอีกหมู่บ้านหนึ่งก็จะสามารถรุมสังหารได้โดยง่าย แต่ตอนนี้มันเป็นเพียงแค่การต่อสู้เพื่อแย่งชิงน้ำ ถ้ามันไม่หนักหนาสาหัสจนเกินไป พวกเขาก็ไม่อยากจะทำมันให้ส่งผลเกิดเป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ของ 2 หมู่บ้าน"ในช่วงขณะ อีกฟากนึงก็มีคนกลุ่มใหญ่กำลังวิ่งมา

 

"ชิงซาน เจ้าอย่าวิ่งออกไปมั่วๆสิ"ลูกพี่ลูกน้องของเขา เถิงชิงฮูแสดงใบหน้าอันบูดบึ้งก่อนจะรีบขอตัวของเถิงชิงซานเอาไว้ "เจ้าอย่าเข้าไปยุ่งกับผู้ใหญ่ เจ้าเป็นเพียงแค่เด็ก เพียงแค่ถูกตีเบาๆเจ้าก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว ระมัดระวังตัวซะบ้าง"

 

"เข้าใจแล้ว"เถิงชิงซานยิ้มตอบกลับ

 

"ดูนั่นสิ ผู้คนจากหมู่บ้านหลีเจียเองก็กำลังมา"เถิงชิงฮูมองออกไปอีกฟาก

 

"เถิงโย่งเซียง!!!"เสียงร้องคำรามดังขึ้นจากชายฉกรรจ์ที่ไว้เคราหนา

 

"ท่านปรมจารย์" ทุกคนในหมู่บ้านหลีเจียถอยร่นไปยืนข้างๆทันที

 

เถิงโย่งเซียคือปรมาจารย์หอกแห่งหมู่บ้านเถิงเจีย หลีเหลียงชายเครายาวร่างยักษ์ก็คงเป็นปรมจารย์แห่งผู้ตรวจตราขอหมู่บ้านหลีเจีย

 

"เจ้าสบายดีหรือไม่?"ชายเครายักษ์จ้องเขม่นไปทางเขา พร้อมกับเสียงกระซิบกระซาบจากคนในหมู่บ้านหลีเจีย

 

"หลีเหลียง!!!"เถิงโย่งเซียงมองกลับด้วยสายตาเช่นเดียวกัน "เจ้าก็รู้ดีนิ ว่าฝนไม่ตกมานานแล้ว ทุ่งหญ้าของเจ้าเองก็ต้องการน้ำ ทุ่งหญ้าของข้าเองก็ต้องการน้ำ ในขณะที่น้ำนั้นมีจำกัด เจ้ารู้หรือไม่ว่าควรทำเช่นไร?"ในครั้งก่อนนั้นเกิดน้ำท่วมผู้คนจึงช่วยกันปิดหน้าคลอง

 

มันจึงทำให้ระดับน้ำไหลเวียนกลับ และทำให้น้ำในคลองลดลง แต่เมื่อเปิดหน้าคลองน้ำกลับไม่ไหลมาทางคลองแล้ว จึงทำให้นานนั้นเหลือในจำนวนจำกัด

 

"จะให้ทำอย่างไรดีล่ะ?"ชายเครายักษ์ หลีเหลียงถือหอกแล้วหัวเราะเยาะ "มันก็เรื่องง่ายๆ มาสู้กัน ถ้าข้าชนะ น้ำจะเป็นของหมู่บ้านหลีเจีย แต่ถ้าเจ้าชนะ น้ำก็จะเป็นของหมู่บ้านเถิงเจีย เจ้าว่าอย่างไรล่ะ? อย่าว่าอย่างนี้อย่างนั้นเลย เจ้ากล้าที่จะต่อสู้หรือเปล่า?"

 

จากนั้นหลีเหลียงก็วางหอกลงบนพื้น

 

เถิงโย่งเซียงกระพริบตาเล็กน้อย

 

"ดูเหมือนท่านลุงจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าชายเครายักษ์หลีเหลียงเลย"เถิงชิงซานมองเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจนและคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้า

 

"หลีเหลียง"เถิงโย่งเซียงหัวเราะเยาะ "น้ำในคลองนั้นคือสิ่งที่สำคัญยิ่ง หาใช่สิ่งที่เจ้าจะเอามาพนันเล่น"

 

ชายเครายักษ์ถึงกับสำลัก

 

น้ำนั้นคือส่วนสำคัญในการเพาะปลูกข้าว แน่นอนว่ามันมีความสำคัญเกินกว่าที่จะนำมันมาใช้เป็นเครื่องมือในการพนัน

 

" ถ้าหากเจ้าต้องการที่จะประลองกับข้า พวกเราค่อยใช้สิ่งอื่นในการพนันการแข่ง แต่ในวันนี้ ข้ากำลังพูดถึงความสำคัญของน้ำ หากเจ้าไม่โง่ดักดานเหมือนหมูเกินไป จงถอยกลับไปและให้หัวหน้าของเจ้ามาเจรจากับข้า" เถิงโย่งเซียงยืนอย่างสงบนิ่ง ในขณะที่ฝูงชนของหมู่บ้านหลีเจีย

 

ชายชราผมขาวมีเคราค่อยๆย่างก้าวยาวๆออกมา

 

"ผู้นำหลี"เถิงโย่งเซียงโค้งคำนับ

 

"เถิงโย่งเซียง ผู้อาวุโสเถิงอยู่ที่ใดกัน?"ชายชรากล่าวด้วยคำพูดที่เรียบง่าย

 

"ท่านผู้นำใกล้จะมาถึงแล้วขอรับ"เถิงโย่งเซียงตอบกลับอย่างสุภาพ

 

เถิงชิงซานตั้งใจฟังและเข้าใจว่าชายชราผู้นี้จะต้องผู้นำของหมู่บ้านหลีเจียอย่างแน่นอน

 

"ฮา ฮา ฮา……."เสียงหัวเราะดังขึ้นจากสถานที่ที่ห่างไกล

 

"ท่านปู่"เถิงชิงซาน รับรู้ได้ทันทีขณะหันมองไปตามทิศทางที่เสียงถูกเปล่งออกมา

 

ชายชราผู้นี้ก็กำลังย่างก้าวตรงมา คนๆนี้คือผู้นำของหมู่บ้านเถิงเจีย เถิงหยุนหลง เขามาพร้อมกับชายผู้ถือหอกเดินตามมาอยู่ข้างๆ คนคนนี้คือพ่อของเถิงชิงซาน เถิงโย่งฟ่าน เถิงหยุนหลงเดินตรงไปยังข้างหน้าของกลุ่มฝูงชนพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า " หลีห่าวจุน เจ้าเองก็คงจะรู้สินะว่าวิธีแก้ปัญหานั้นควรทำอย่างไร?"

 

"เถิงหยุนหลง เจ้าเป็นคนที่ตรงไปตรงมาจริงๆ"ผู้นำแห่งหมู่บ้านหลีเจีย หลีห่าวจุนยิ้มพร้อมทั้งตะโกนเสียงที่ดังสนั่นออกมา "กฏโบราณ!!!"

 

"ต่อสู้แบบกลุ่มหรือว่าตัวต่อตัว!!"เถิงหยุนหลงกล่าว

 

"การต่อสู้แบบกลุ่มและการต่อสู้แบบตัวต่อตัวคืออะไรหรือ?"เถิงชิงซาน หันไปถามลูกพี่ลูกน้องของเขา เถิงชิงฮูจึงกระซิบตอบว่า "ชิงซาน เมื่อ 2 หมู่บ้านเกิดความขัดแย้งต่อกัน พวกเขาจะตัดสินด้วยชัยชนะหรือความพ่ายแพ้จากการต่อสู้ การต่อสู้แบบกลุ่มคือการส่งคนในหมู่บ้าน 10 คนออกไปต่อสู้กันโดยปราศจากซึ่งอาวุธ และจะสู้กันจนกว่าอีกฝ่ายจะยืนขึ้นไม่ได้อีก การต่อสู้แบบกลุ่มนั้นมักจะส่งผลให้เกิดเรื่องน่าเศร้าและความสูญเสีย ส่วนสำหรับการต่อสู้ตัวต่อตัวเจ้าเองก็คงจะเข้าใจอยู่แล้ว"

 

เถิงชิงซานพยักหน้า

 

ผู้นำแห่งหมู่บ้านหลีเจียยิ้มอย่างสงบและกล่าวว่า "น้ำในคลองจะไหลทุกๆ 12 ชั่วโมง หากเลือกการต่อสู้ตัวต่อตัวนั้น เราจะแบ่งออกเป็น 3 การประลอง หากชนะการประลอง หมู่บ้านของผู้ชนะจะได้รับน้ำ  4 ชั่วโมง หากชนะ 2 การประลอง หมู่บ้านของผู้ชนะจะได้รับน้ำ 8 ชั่วโมง แต่ถ้าหากชนะ 3 เกม ผู้ชนะก็จะสามารถใช้น้ำได้อย่างอิสระ ในทางตรงกันข้าม ผู้แพ้ก็จะไม่มีสิทธิ์ในการใช้น้ำเพื่อทำการเกษตรเหล่านั้น"

 

เถิงชิงซานพิจารณาอย่างเคร่งครึม

 

"ไม่มีปัญหา"เถิงหยุนหลงพยักหน้าเห็นด้วย

 

เมื่อหัวหน้าทั้งสองพยักหน้าก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจร่วมกันแล้ว

 

"สถานที่แห่งนี้เล็กเกินไป พวกเราไปประลองกันที่เนินเขาเสวียซา"เถิงหยุนหลงกล่าว

 

"ตกลง"หลีห่าวจุนพยักหน้าเห็นด้วย

 

ภายใต้การนำของหัวหน้าทั้งสองหมู่บ้าน พวกเขาทั้งหมดก็รีบตรงไปยังเนินเขาเสวียซาในทันที

 

"ชิงซาน ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่"หยวนหลันอุ้มเถิงชิงซานขึ้นมาด้วยความโกรธเล็กน้อย "ตรงนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แม่คิดว่าเจ้าอยู่ที่หมู่บ้านเสียอีก แต่ตอนนี้เจ้ากลับอยู่ที่นี่พร้อมกับพี่ชิงฮูของเจ้า ชิงฮูเจ้าเองก็เป็นพี่ชาย เจ้าควรตัดสินใจอย่างมีสติ ไม่ควรพาเขามาที่นี่"

 

เถิงชิงฮูเชื่อฟังคำสั่งสอนและน้อมรับคำตำหนิทั้งหมด เขาก้มหน้าก้มตาแสดงคำขอโทษ

 

"หยวนหลัน"เสียงพ่อของเถิงชิงซานดังขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า "เอาล่ะอย่ามัวโทษเด็กๆเลย ไปที่เนินเขาเสวียซากัน"ด้วยเหตุนี้เถิงโย่งฟ่านจึงอุ้มเถิงชิงซานมาไว้ในอ้อมแขนแทน "เด็กดีของพ่อ เจ้าจะต้องดูการประลองนี้ให้ดีนะ เมื่อเจ้าเติบใหญ่สักวันหนึ่งเจ้าจะต้องกลายเป็นผู้กล้าของหมู่บ้าน มันอาจจะดูโหดร้าย แต่ในอนาคตพี่ชายของเจ้าก็จะต้องเป็นเช่นกัน รวมถึงเจ้าด้วย ฮ่าๆๆ เมื่อวันนั้นมาถึงพ่อคงจะภูมิใจในตัวเจ้าอย่างมาก"

 

เถิงชิงฮู เด็กชายวัย 9 ขวบสามารถยกน้ำหนักได้ถึง 300 จิน เขาจึงถูกนับเป็นคนที่มีความสามารถสูง คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าเขาจะได้ก้าวขึ้นสู่วีรบุรุษแห่งหมู่บ้าน ไม่แปลกใจเลยที่พ่อของเขาเองก็คาดหวังเช่นเดียวกับลูกชายของเขา

 

เนินเขาเสวียซาที่เคยเป็นทุ่งหญ้าว่างเปล่า ในตอนนี้มันเป็นสถานที่รวมตัวกันของผู้คนกว่า 1000 คน

 

"วงกลมนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 จ้าง(16-17เมตร) ทุกๆการประลอง ผู้กล้าแห่งหมู่บ้านเถิงเจียและหมู่บ้านหลีเจีย จะเข้ามาโดยมือเปล่า หากใครล้มและไม่อาจลุกขึ้นได้ หรือถูกอัดจนออกจากวงกลม คนๆนั้นจะเป็นผู้แพ้และอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชนะในทันที"ชายชราผมขาวที่ถือไม้ค้ำยันตระกูลกล่าวกฏ

 

ผู้นำทั้งสองพยักหน้ายอมรับกฎ

 

"ทุกๆการประลอง ผู้ชนะจะสามารถครอบครองน้ำได้เป็นเวลา 4 ชั่วโมง"ชายชราผมขาวยังคงอ่านกฏต่อไป ในตอนนี้ผู้นำทั้งสองได้เลือกคนขึ้นประลองทั้ง 3 คนพร้อมกับเขียนชื่อของเขาตามลำดับ จากนั้นลำดับรายชื่อของแต่ละคน จะถูกใช้ในการเลือกคู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย รายชื่อคนแรกจะต้องประลองกับรายชื่อคนแรกของอีกฝั่งตามลำดับต่อไป

 

เถิงชิงซานตั้งใจฟังกฎระเบียบและพยักหน้าทำความเข้าใจ

 

"พวกเราพร้อมแล้ว"เถิงหยุนหลงยิ้มขณะที่ถือกระดาษสีแดงเอาไว้ในมือ

 

"ข้าเองก็พร้อมแล้วเช่นกัน"หลีห่าวจุนเองก็ถือกระดาษสีแดงอยู่ในมือเช่นกัน

 

ชายชราผมขาวที่ถือไม้ค้ำยันรับกระดาษทั้ง 2 ชิ้นขึ้นมาและเริ่มอ่าน"ลำดับการมาลองของหมู่บ้านเถิงเจียคือ เถิงโย่งหลาย เถิงโย่งฟ่านและเถิงโย่งเซียง ส่วนลำดับการประลองของหมู่บ้านหลี่เจียคือ หลี อู๋เทียน หลีเหลียง หลี จินฟู!!!"

 

เถิงโย่งหลายประลองกับหลีอู๋เทียน

 

เถิงโย่งฟ่านประลองกับหลีเหลียง

 

เถิงโยงเซียงประลองกับหลีจินฟู

 

"หลีจินฟู???"ผู้คนในหมู่บ้านเถิงเจียต่างกำลังสับสน

 

ทุกคนต่างรู้ดีว่า หลีเหลียงและหลีอู๋เทียนนั้นเป็นคนรุ่นอู๋ แต่ที่หลีเหลียงไม่ได้ถูกตั้งชื่อว่า หลี่อู๋เหลียงก็เพราะว่าชื่อพยางค์หน้าและพยางค์ที่สองนั้นขัดกัน ดังนั้นผู้อาวุโสจึงตั้งชื่อตรงๆว่าหลีเหลียง แต่สำหรับหลี่จินฟูนั้นเห็นได้ชัดในว่าเป็นคนรุ่นหลังจากคนรุ่นหลีอู๋เทียนและหลีเหลียง

 

"หลี่จินฟูควรจะเป็นเพียงแค่คนรุ่นเยาว์ในปีนี้"ผู้คนมากมายของหมู่บ้านเถิงเจียต่างโต้ตอบกัน

 

"ท่านพ่อจะเข้าร่วมการประลองด้วยอย่างนั้นหรือ"เถิงชิงซานฟังและสังเกตจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นไปมอง

 

รีวิวผู้อ่าน