px

เรื่อง :
เล่มที่ 2 บทที่ 27 - แผนการของตระกูล


เล่มที่ 2 บทที่ 27(ตอนที่9) - แผนการของตระกูล

 

ไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงพูด แม้แต่เสียงหายใจก็ไม่กล้าทำให้ดังเกิน ทุกคนจับจ้องเด็กน้อยที่ดูแสนธรรมดาเป็นสายตาเดียวกัน

 

จะเป็นไปได้จริงๆเลยที่เถิงชิงซานเด็กน้อยอายุ 6 ขวบ จะสามารถยกหินที่หนัก 100 จิน?

 

มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

 

หรือเขาตั้งใจจะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง?

 

"ชิงซาน!!"เถิงหยุนฟ่าน และหยวนหลันกำลังมองดูลูกชายของเขาด้วยสายตาที่ตึงเครียด

 

"ฟู้วววววว!!!"เถิงชิงซานลมหายใจเข้าลึกลึกและจ้องเขม่งไปที่หินซึ่งอยู่ด้านหน้า หินเหล่านี้มักถูกใช้ในการฝึกฝนจึงถูกชั่งน้ำหนักอย่างแม่นยำ ดังนั้นพวกเขาจึงนำมันมาที่นี่เพื่อใช้ในการทดสอบ

 

เถิงชิงซานยื่นมือและเล็กของเขาและวางลงบนทั้งสองข้างของหิน

 

เด็กตัวเล็กที่สูงไม่ถึงเอวของผู้ใหญ่ต้องการที่จะยกหิน 100 จิน? ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจ

 

"หึบบบบบ!!!"

 

ในชั่วพริบตาหินน้ําหนัก 100 จินถูกยกขึ้นมาอยู่บริเวณหน้าอกของเขา

 

"นี่มัน…….."สมาชิกทุกตระกูลของหมู่บ้านเถิงรวมถึงผู้นำของหมู่บ้านเองต่างก็กำลังมองดูเด็กน้อยธรรมดาด้วยสายตาที่เบิกกว้าง พร้อมทั้งความรู้สึกกังวลว่า เถิงชิงซานจะสามารถยกหินขึ้นเหนือศีรษะของเขาได้หรือไม่?

 

ด้วยการผ่อนลมหายใจที่คมชัด เถิงชิงซานใช้พลังของเขาอีกนิดหน่อยเพื่อยกหินไว้เหนือศีรษะหนึ่งลมหายใจ

 

 ทั้งสนามฝึกซ้อมตกอยู่ในสภาวะเงียบสงัดไปหมด ทุกคนต่างรู้สึกอึ้งทึ่งและมันใช้เวลานานมากกว่าที่ทุกคนจะปรับความรู้สึกกลับมาเหมือนเดิมได้

 

"ทำได้ยอดเยี่ยมมาก!!"เสียงของผู้คนโห่ร้องตะโกนดังกึกก้องไปทั่วหมู่บ้าน

 

"100 จิน!! ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าเด็กน้อย ชิงซาน ยอดเยี่ยมที่สุดเลย!!"

 

"ชิงซาน เขาทำมันได้จริงๆ!!"

 

………….

 

เสียงปรบมือและเสียงร้องสรรเสริญดังกึกก้องในทันทีทันใด สมาชิกทุกคนโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นเนื่องจากประวัติศาสตร์ของตระกูลเถิงได้ถูกจารึกขึ้นใหม่แล้ว คนที่สามารถยกหินที่หนัก 100 จินได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จะต้องเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งพิเศษยิ่ง เพียงแค่อายุ 6 ขวบกลับสามารถเข้าถึงความสามารถเช่นนี้ได้ แล้วเมื่อโตขึ้นล่ะจะเป็นอย่างไร?

 

การยกหินขึ้นในครั้งนี้ แขนขาของเถิงชิงซานไม่ได้แสดงอาการสั่นเครือใดๆทั้งสิ้น แขนและขาของเขาต่างขยับขึ้นลงด้วยความมั่นคงและเต็มไปด้วยพลังที่ซุกซ่อน

 

"นี่…….ไม่ใช่ขีดจำกัดของชิงซาน"เถิงหยุนหลงและคนอื่นๆต่างคนรับรู้ได้พร้อมทั้งรู้สึกตกใจอย่างพร้อมเพรียง

 

เพราะโดยปกติคนที่ยกน้ำหนักที่หนักมากจะถึงขีดสุดร่างกายแขนขาของพวกเขาจะต้องสั่นสะท้าน

 

"ฟูววววว…….."

 

หินตกลงสู่พื้นและแตกกระจายออก เถิงชิงซานสะบัดมือของเขาขนาดที่หันไปมองพ่อแม่ด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ

 

"ฟ่าน ลูกชายของเจ้าช่างน่าประทับใจเหลือเกิน!!"

 

"หยวนหลัน ลูกชายของเจ้า ชิงซาน ข้ามั่นใจว่าเขาจะต้องแข็งแกร่งกว่าสามีของเจ้าเป็นแน่"

 

สมาชิกในตระกูลทั้งหมดต่างห้อมล้อมเถิงโย่งฟ่านและหยวนหลัน ทั้งคู่ยิ้มแย้มแจ่มใส ใบหน้าที่เคยวิตกกังวลถูกเติมเต็มไปด้วยใบหน้าแห่งความตื่นเต้น ลูกชายที่มีความสามารถเช่นนี้ผู้เป็นพ่อย่อมไม่ต้องการอะไรแล้ว ดวงตาของเถิงหยุนหลงเป็นประกายไปด้วยความภาคภูมิใจขณะที่จ้องมองเถิงชิงซานผู้ซึ่งกำลังยืนอยู่ตรงใจกลางสนามฝึกซ้อม

 

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า……..ทำดีมากหลานชายของข้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า…."เถิงหยุนหลงอุ้มเถิงชิงซานด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ "ข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะมีหลานชายอัศจรรย์เช่นนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า…...ดูเหมือนว่าตอนนี้แม้ว่าข้าจะต้องตายข้าก็ไม่เสียใจแล้ว….ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า……"

 

เถิงหยุนหลงรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง

 

ถ้าหากเถิงชิงซานครอบครองความสามารถเช่นนี้ย่อมเป็นประโยชน์ต่อตระกูลอย่างแน่นอน

 

"ชิงซาน!!"ท่านลุงท่านป้าที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าต่างเข้ามาห้อมล้อมรอบรอบตัวของเถิงชิงซาน บางคนกำลังกล่าวคำยกยอ บางคนก็ลูบหัวเล็กๆของเขาด้วยความเอ็นดู

 

ตามพิธีกรรม มันจะช่วยเพิ่มแรงดึงดูดจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวของเถิงชิงซานที่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนจากการแสดงความสามารถที่ยอดเยี่ยม มันน่าตื่นเต้นเสียยิ่งกว่า 6 ปีก่อนเสียอีก และตอนนี้คู่สามีภรรยา เถิงโย่งฟ่านและหยวนหลัยกลายเป็นดาวที่พร่างพราวของคนตระกูลเถิงทั้งหมดแล้ว

 

ทุกคนยังยืนล้อมรอบทั้งคู่จนกระทั่งเถิงชิงซานกล่าวว่าเขารู้สึกเหนื่อยมากและต้องการกลับบ้าน

 

ณ บ้านของเถิงชิงซาน

 

"พี่ชาย ท่านช่างน่าทึ่งเหลือเกิน!!"ชิงอวี้กล่าวยินดีพร้อมทั้งกระโดดโลดเต้นอยู่ในห้องนั่งเล่น "หินก้อนนั้นใหญ่มากเลยแต่พี่สามารถยกมันได้นานตั้ง 1 ลมหายใจ"

 

หินที่หนัก 100 จินแท้จริงแล้วไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นแต่สำหรับเด็กอายุ 3 ขวบมันถือได้ว่าเป็นหินขนาดใหญ่

 

เห็นได้ชัดว่า เถิงชิงซานอดแสดงรอยยิ้มไม่ได้

 

"การแสดงความสามารถเพียงเล็กน้อยของข้าดูเหมือนจะไปได้ดี"เถิงชิงซานกล่าวในใจตนเอง เนื่องจากเถิงชิงซานได้ผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมามากมาย ดังนั้นเขาจึงไม่ควรเปิดเผยความแข็งแกร่งโดยง่าย แม้แต่องค์กรโคตรเพชฌฆาต หรือองค์กรสีชาดเองก็ตาม เถิงชิงซานก็ไม่เคยเปิดเผยความสามารถทั้งหมดของเขา

 

ด้วยเหตุเช่นนี้เขาจึงสามารถหนีจากความตายได้หลายต่อหลายครั้ง

 

สำหรับวันนี้ แม้ว่าเถิงชิงซานจะเป็นเพลงเด็กอายุ 6 ขวบ ไปหลังจากนี้เขาจะได้รับการฝึกฝนอย่างขะมักเขม้นภายใน 3 ปี เพื่อเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ และเมื่อตอนที่เขาอายุ 9 ขวบ เขาจะต้องไปได้ไกลกว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างเถิงชิงฮูที่สามารถยกหินที่หนัก 300 จินเมื่อตอน 9 ขวบได้อย่างแน่นอน

 

ความจริงแล้ว ในตอนนี้เถิงชิงซานสามารถยกหิน 300 จินได้โดยอาศัยเพียงแค่ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเท่านั้น

 

นี่ยังไม่รวมการที่จะต้องใช้พละกำลังภายใน เพราะกล้ามเนื้อนั้นจะแตกต่างกันในวัยเด็กและผู้ใหญ่ แต่กำลังภายในนั้นแม้ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ไม่มีอะไรที่ต่างกัน และเมื่อเป็นเช่นนั้น เถิงชิงซานจึงสามารถใช้กำลังภายในเพื่อระเบิดความน่าสะพรึงกลัวออกมาได้

 

"หืม?...."เถิงชิงซานได้ยินเสียงดังขึ้นเล็กน้อย

 

จากนั้นเขาก็เริ่มได้ยินเสียงที่ดังขึ้นจากประตูที่ลานกว้างหน้าบ้าน ซึ่งเถิงโย่งฟ่านและหยวนหลันกำลังเดินเข้ามา ในขณะที่ใบหน้าของเถิงโย่งฟ่านแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำพร้อมกับท่าทางที่เดินโซเซ "สุราในหมู่บ้านแห่งนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำกว่าสุราในยุคปัจจุบัน นี่พ่อข้าต้องดื่มมากเท่าไหร่กันถึงจะเมามายเช่นนี้ได้!!!"

 

ในยุคสมัยโบราณกระบวนการผลิตสุรานั้นยังไม่ดีเทียบเท่ากับสมัยปัจจุบัน

 

แม้ว่าจะดื่มสุราจนหมดไห คนส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกเมาเลยแม้แต่น้อย

 

และตัวของเถิงโย่งฟ่านเองก็เป็นนักดื่มตัวยง ดังนั้นเถิงชิงซานเองจึงไม่เคยเห็นพ่อของเขาเมามายเช่นนี้มาหลายปีแล้ว

 

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ชิงซาน มานี่สิลูกพ่อ!!"เถิงโย่งฟ่านค่อยๆอุ้มเถิงชิงซานขึ้นมาทันทีที่เขาเห็น "ลูกชายของข้า วันนี้ข้ามีความสุขเหลือเกิน…...ฮ่าฮ่า…. ข้า เถิงโย่งฟ่าน มีลูกที่แสนอัศจรรย์!! วันใดที่ชื่อเสียงของเจ้าโด่งดังไปทั่วหล้า อย่าลืมบอกทุกคนให้รู้ด้วยล่ะว่าพ่อของเจ้าชื่อ เถิงโย่งฟ่าน ฮ่า……"

 

เถิงโย่งฟ่านเริ่มพูดคุยจนเขาไม่อาจควบคุมภาษาของเขาได้อีก

 

"เอาล่ะ พี่ฟ่าน นั่งลงก่อนเถอะ"หยวนหลันพาเถิงโย่งฟ่านตรงไปยังเก้าอี้ให้นั่งลง

 

"ท่านแม่ ท่านพ่อดื่มไปมากเท่าไหร่หรือ?"เถิิงชิงซานถามด้วยสัญชาตญาณ

 

"ชิงซาน ทุกคนให้ความสำคัญกับพ่อของเจ้าอย่างมาก และพ่อของเจ้าก็มีความสุขจนไม่อาจควบคุมตนเองได้ ดังนั้นเขาจึงดื่มแล้วดื่มอีกซ้ำแล้วซ้ำ…….."ในขณะที่หยวนหลันกำลังอธิบาย เถิงโย่งฟ่านก็เริ่มลุกขึ้นยืนและตรงไปยังลานกว้าง ไม่ห่างไกลจาก 2-3 ก้าว เขาก็เริ่มอาเจียนอย่างหนักหน่วง

 

มีถังน้ำตั้งอยู่บริเวณหัวมุมของลานกว้าง เถิงโย่งฟ่าน นำกระทะตรงไปเพื่อตักน้ำเย็นๆแล้วราดลงบนหัวของเขา

 

"วุ้ยยย!! ข้ารู้สึกดีขึ้นเยอะเลย!!"เถิงโย่งฟ่านยืดตัวบิดขี้เกียจ

 

"ในอนาคตท่านอย่าดื่มแบบนี้อีกนะ"หยวนหลันกล่าวอย่างเป็นห่วง

 

"ฮ่าๆ ข้าขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ลูกชายของข้านั้นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน ในฐานะที่ข้าเป็นพ่อ ข้ารู้สึกภูมิใจในตัวของเขามาก"หลังจากที่เถิงโย่งฟ่านอาเจียนอย่างหนักและได้ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขารู้สึกดีขึ้นเยอะมาก

 

ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง

 

"ก๊อก ก๊อก ก๊อก…!!!"

 

"โย่งฟ่านเปิดประตูหน่อย"เสียงของคนที่อยู่บ้านนอกดังขึ้น

 

"นั่นมันท่านอาจารย์"เถิงโย่งฟ่านรีบเดินตรงไปยังประตูและเปิดสลักอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นคนจำนวน 6 คนยืนอยู่บริเวณด้านนอกของลานว่าง หนึ่งในนั้นคือผู้นำของหมู่บ้าน เถิงโย่งฟ่าน และทันทีที่เขาเห็น เถิงโย่งฟ่านก็รีบกล่าวเชิญอย่างรวดเร็ว "ท่านอาจารย์ ท่านลุง โปรดเข้ามาข้างในก่อนเถอะ" เนื่องจากจำนวนคนไม่มาก เขาจึงนำพาคนทั้งหมดตรงไปยังห้องนั่งเล่น

 

ในบรรดาคนทั้ง 6 คน นอกจาก เถิงโย่งเซียงและเถิงโย่งหลายซึ่งเป็นคนรุ่นเดียวกับเถิงโย่งฟ่าน 4 คนที่เหลือนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้อาวุโสแห่งหมู่บ้านซึ่งมียศศักดิ์ที่ค่อนข้างสูง

 

"ชิงซาน มาตรงนี้เร็วเข้า!!"เถิงโย่งฟ่านกล่าว

 

เถิงชิงซานรีบวิ่งตรงมาและกล่าวว่า "ท่านปู ท่านปู่หนึ่ง ท่านปู่สอง ท่านปู่สาม ท่านลุงอาวุโสและท่านลุง!!"เนื่องด้วยตระกูลเถิงนั้นมีผู้คนจำนวนมาก และแม้ว่าทั้งสามคนจะเป็นผู้อาวุโสของเถิงชิงซาน แต่มีเพียงผู้เดียวนั่นก็คือท่านปู่ที่สาม ที่เป็นพี่ชายร่วมสายเลือดกับปู่ของเถิงชิงซาน ส่วนอีก 2 คนคือลูกพี่ลูกน้องปูของเถิงชิงซาน

 

ท่านปู่ตัวจริงของเถิงชิงซานนั้นถูกสังหารตั้งแต่เมื่อเขาต้องต่อสู้กับโจรป่า เพื่อช่วยชีวิตย่าของเขา แต่สุดท้ายเธอก็ป่วยหนักและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน

 

"ชิงซาน!!"สายตาของเถิงหยุนหลงและผู้ใหญ่คนหนึ่งเดินต่างจ้องมองมาที่เถิงชิงซานด้วยความเร่าร้อน เถิงชิงซานในตอนนี้เป็นดังความหวังและอนาคตของหมู่บ้านเถิงเจีย

 

เถิงหยุนหลงหันไปหาเถิงโย่งฟ่านและกล่าวว่า "โย่งฟ่าน ข้าได้พูดคุยกับบรรดาลุงของเจ้าแล้ว เจ้าเด็กน้อยชิงซานนั้นมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ถ้าหากเขายังคงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านของพวกเรา พวกเราคงทำได้เพียงแค่เพิ่มพูนความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่สักวันหนึ่งมันจะต้องถึงขีดจำกัด จะเป็นอย่างไรถ้าหากหมู่บ้านของเราจะมอบเงิน 500 เหรียญเงินให้กับเจ้าเพื่อส่งเจ้าเด็กน้อยคนนี้ไปเข้าร่วมนิกายกุ้ยหยวน แล้วมารอดูกันว่าเถิงชิงซานจะสามารถก่อกำเนิดกำลังภายในได้หรือไม่?"

 

"เข้าร่วมนิกายกุ้ยหยวน?"เมื่อได้ยินคำพูดของผู้นำหมู่บ้าน เถิงโย่งฟ่านกลายเป็นคนที่เงียบขรึมในทันใด

 

"ชิงซานเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 6 ปี"หยวนหลันกล่าวยังไม่เต็มใจ "ท่านพ่อ ข้าไม่อาจทนเห็นชิงซานไป……."

 

"อะแห่ม" เถิงหยุนหลงกระแอ่มด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ลุ่มลึกว่า "ความรักของแม่ จะนำมาซึ่งการทำให้ลูกชายไร้ประโยชน์ ชิงซานควรจะมีอนาคตที่สดใสและเขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์เกินกว่าผู้ใด แล้วใครกันล่ะในหมู่บ้านที่จะมีความสามารถมากพอที่จะสอนเขาได้? พวกเราควรจะสอนทักษะการใช้หอกประจำหมู่บ้านให้กับเขาอย่างนั้นหรือ? มันก็คงเป็นเพียงแค่การทำลายพรสวรรค์ของเขาให้มันกลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์"

 

แท้จริงแล้วตระกูลเถิงนั้นย่อมไม่มีปัญญามากพอที่จะสามารถส่งเด็กๆไปเข้าร่วมกับนิกายกุ้ยหยวนได้

 

อย่างไรก็ตาม เถิงชิงซานนั้นต่างจากเด็กคนอื่นๆ เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ จนทำให้ทุกคนเต็มใจยอมที่จะเสียสละเงินจำนวน 500 เหรียญเงิน เพื่อให้เขาได้เข้าร่วมนิกาย

 

หลังจากที่ถูกตำหนิโดยพ่อของเธอเถิงหยุนหลง มันจึงทำให้หยวนหลันก็ไม่กล้าพูดจาใดๆอีกเลย

 

"มันก็ถูกของท่าน ท่านอาจารย์ ระดับทักษะของพวกเราในตอนนี้จะทำให้พรสวรรค์ของชิงซานกลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่า"เถิงโย่งฟ่านผู้ซึ่งเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้าน เขาจึงเป็นคนที่สามารถมองเห็นภาพกว้างได้โดยง่าย เขาพยักหน้าและกล่าวต่อไปว่า "อย่างไรก็ตาม ชิงซานยังคงเป็นเพียงเด็กอายุ 6 ขวบ มันไม่เร็วเกินไปหรือที่จะส่งเขาไปเข้าร่วมกับนิกายกุ้ยหยวน? ไม่ใช่ว่าข้อจำกัดในการเข้าร่วมนิกายกุ้ยหยวนนั่นคือเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี? ข้าคิดว่าพวกเราควรจะรออีกสัก 2 ปีเป็นอย่างน้อย"

 

ชายชราผมขาวขมวดคิ้วจนเห็นกล้ามเนื้อปรากฏขึ้นบนหน้าผาก "เจ้าคนโง่!! โย่งฟ่าน เจ้าไม่เคยรู้หรือว่ายิ่งฝึกฝนกำลังภายในตั้งแต่เด็กยิ่งทำให้ความสำเร็จมากขึ้น!!"

 

ทั้งหมดทั้งปวงนั้นเกิดมาจากการที่เถิงโย่งฟ่านและหยวนหลันไม่อยากจากลูกน้อยของเธอไปตั้งแต่วัยเยาว์

 

เถิงโย่งฟ่านจ้องมองไปที่ภรรยาของเขา ในที่สุด เขาก็จะยอมกัดฟันพูด "เอาล่ะเข้าใจแล้ว ข้าจะยอมปล่อยให้ชิงซาน………"

 

"ท่านปู่ ท่านพ่อ!!"เถิงชิงซานที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวขัดจังหวะในทันทีว่า "ข้าไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมนิกายกุ้ยหยวน"



 

รีวิวผู้อ่าน