px

เรื่อง :
เล่มที่ 2 บทที่ 28 - ทางเลือก


เล่มที่ 2 บทที่ 28(ตอนที่10) - ทางเลือก

 

ภายในห้องนั่งเล่น เถิงหยุนหลงและผู้อาวุโสทั้งหมดหันศีรษะไปมองเถิงชิงซาน ท่ามกลางการสนทนาทุกเขาไม่เคยคิดถามเถิงชิงซานถึงสิ่งที่เขาต้องการ เพราะว่าพวกเขาคิดว่าชิงซานนั่นเป็นเพียงแค่เด็ก 6 ขวบ แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์แต่ถึงยังไงซะเด็ก 6 ขวบก็ไม่มีทางที่จะตัดสินอนาคตของตนเองได้อย่างแน่นอน

 

แล้วพวกเขาจะอนุญาตให้เด็กน้อยเป็นผู้ตัดสินใจในสิ่งที่สำคัญได้อย่างไร?

 

"ชิงซาน"เถิงหยุนหลงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนนุ่มนวล "นิกายกุ้ยหยวนนั้นเป็นนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเจียงหนิงแห่งเขตการปกครองหยางโจว ถ้าหากเจ้าได้เข้าร่วม เจ้าจะสามารถฝึกฝนทักษะลับและฝึกฝนกำลังภายในได้ ในอนาคต เจ้าอาจจะได้รับการพิจารณาให้อยู่ในระดับผู้กล้าของเมืองอี้"

 

"ข้าไม่อยากไป"เถิงชิงซานส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความมุ่งมัน

 

เขาไม่ได้มีข้อแก้ตัวที่ดีที่จะสามารถนำมันมาใช้ได้ในตอนนี้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันตัวตนของเขานั้นก็เป็นเพียงแค่เด็ก 6 ขวบเท่านั้น

 

"ท่านอาจารย์ ข้าคิดว่าหลังจากนี้อีก 2 ปีพวกเราควรจะมาตัดสินใจกันใหม่อีกครั้งเถิด"เถิงโย่งฟ่านไม่อาจทนดูลูกชายของเขากล่าวคำเหล่านี้ออกมา

 

"อืมม โย่งฟ่าน เจ้าควรพิจารณาอนาคตของชิงซานให้ถี่ถ้วน!!"การแสดงออกทางสีหน้าของเถิงหยุนหลงตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง

 

ชายชราผมขาวที่มีหน้าผากปูดโปนไปด้วยกล้ามเนื้อกล่าวว่า "โย่งฟ่าน อนาคตลูกของเจ้านั้นมีความเป็นไปได้อีกมากมาย มันคงจะเป็นการดีถ้าหากเจ้าไม่ทำลายมันซะ!!"ท่านปูสาม คนนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่บ้านเถิงเจีย ด้วยวิธีการพูดที่เคร่งครัดในระเบียบ เด็กๆส่วนใหญ่จึงหวาดกลัวที่จะต้องพูดต่อหน้าเขา

 

"ข้าไม่ต้องการให้พี่ชายข้าออกไปไหนทั้งสิ้น!!"ชิงอวี้ตัวน้อยระเบิดเสียงร้องไห้ดังลั่นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่รินไหลอาบแก้มทั้ง 2 ข้าง

 

"ชิงอวี้ หยุดร้องไห้เสียเถิด"หยวนหลันอุ้มลูกน้อยของเธอขึ้นมาอุ้มอย่างรวดเร็ว

 

"อวี้น้อยของพี่ เป็นเด็กดีและอย่าร้องไห้นะ พี่ชายของเจ้าจะไม่ไปไหนทั้งสิ้น"ชิงซานค่อยๆสัมผัสใบหน้าน้องสาวของเขาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาก่อนจะหันไปมองเหล่าผู้อาวุโส "ท่านปู่ ทำไมข้าถึงจำเป็นต้องเข้าร่วมนิกายกุ้ยหยวน? ข้าไม่ต้องการ!!" เนื่องจากไม่มีกลยุทธ์ที่จะสามารถงัดออกมาใช้ได้ เถิงชิงซานจึงต้องพึ่งพาตนเองและใส่อารมณ์ความโกรธเหมือนเด็ก!!

 

"ชิงซาน หยุดคำพูดของเจ้าซะ"เถิงหยุนหลงตะโกนตอบ

 

"ชิงซาน!! เจ้านั้นเป็นเพียงแค่เด็กจะไปรู้อะไรเกี่ยวกับอนาคต? จงเชื่อฟังคำพูดของผู้ใหญ่!!!"ท่านปู่สามตะคอกตอบ

 

เถิงชิงซานยังคงไม่ต้องการที่จะไปไหนทั้งสิ้น

 

เหตุผลหลักที่ทำให้เขาไม่กล้าฝึกฝน ทักษะกำลังภายในจากนิกายแห่งนี้เป็นเพราะ…..วิธีการฝึกฝนกำลังภายในของพวกเขานั้นจะใช้วิธีการที่รุนแรงในการทะลวงเส้นลมปราณ 1 เส้นเพื่อให้ความแข็งแกร่งไหลเวียนผ่านไปทั่วร่างกายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมัน!! เถิงชิงซานเข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีหลังจากที่ได้อ่านสหัสวรรษแห่งพงศาวดาร และนอกจากนี้เขายังได้เรียนรู้ทักษะลึกลับจากโลกอีกใบนึง แม้ว่าเขาเองก็ยังไม่สามารถปลดผนึกเส้นลมปราณทั้งหมดได้

 

ถ้าหากเขาใช้วิธีบ่มเพาะเพื่อทะลวงเส้นลมปราณอย่างรุนแรง สิ่งสกปรกที่อยู่ภายในจะไปสะสมอยู่ที่เส้นลมปราณเส้นอื่น หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องยากขึ้นถ้าหากคิดจะทะลวงเส้นลมปราณอื่นๆในภายหลัง นี่จะทำให้เขาสูญเสียผลประโยชน์ที่เขาควรจะได้รับเมื่อต้องฝึกฝนทักษะกำลังภายใน ก้อนที่เส้นลมปราณทั้งหมดจะถูกเปิดออก เถิงชิงซานจะไม่คิดฝึกซ้อมทักษะลับเหล่านี้เป็นอันขาด

 

การใช้เคล็ดวิชาการต่อสู้กำลังภายในเพื่อปลดผนึกเส้นลมปราณทั้งหมดของเขาจะทำให้เขาได้เปรียบ แม้ว่าขั้นตอนแรกของมันจะคืบหน้าค่อนข้างช้า และเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย แต่อย่างน้อย อนาคตเขาจะสามารถกรุยเส้นลมปราณทั้งหมดได้

 

ถ้าหากเขาต้องฝึกฝนทักษะลับ มันจะต้องเป็นอันตรายต่อศักยภาพในอนาคตของเขาอย่างแน่นอน!!

 

อย่างไรก็ตาม เถิงชิงซานก็ไม่สามารถอธิบายคำพูดเหล่านี้เอาไปได้!!

 

"ข้าจะไม่ไปไหนทั้งสิ้น"เถิงชิงซานส่ายหน้า

 

ใบหน้าของท่านปู่สามเต็มไปด้วยความตึงเครียดในขณะที่เขาตะโกนออกมาว่า "เจ้านั้นเป็นเด็กที่ดื้อด้านเกินไปแล้ว!! เจ้าควรจะจำเอาไว้ให้ดีว่า เด็กควรเคารพผู้ใหญ่!! พวกเราทุกคนต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเจ้า!!"

 

"ชิงซาน!!"เถิงหยุนหลงเองก็กำลังตึงเครียดมากยิ่งขึ้น

 

"แม้ว่าพวกท่านจะบังคับข้าให้เข้าไปเพื่อเรียนรู้ทักษะลับ ข้าขอบอกต่อหน้าพวกท่านทั้งหมดเลยว่า แม้ว่าข้าจะต้องไป ข้าก็จะไม่เรียนรู้อะไรทั้งสิ้น"เถิงชิงซานยังกล่าวต่อว่า "แล้วหลังจากนั้นอีก 1 ปี นิกายกุ้ยหยวนจะขับไล่ข้าออกมาเอง"

 

ณ จุดๆนี้คือจุดวัดใจของเถิงชิงซาน แม้ว่าท่านปู่สามจะกำลังตำหนิเขา แต่เขาก็ไม่สนใจและจำเป็นต้องพูดสิ่งนี้ออกมาเพราะไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรอีกแล้ว

 

หากพวกเขาบังคับให้เถิงชิงซานเข้าร่วมนิกายและหลังจากนั้นเขาเลือกที่จะปฏิเสธการเรียนรู้ด้วยตัวเอง สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถบังคับเขาได้

 

"ชิงซาน เจ้าช่างดื้อรั้นเกินไปแล้ว!!"เถิงหยุนหลงกำลังโกรธกริ้ว การที่เขาเป็นถึงผู้นำหมู่บ้านเขาไม่ควรที่จะต้องมาเจอเหตุการณ์เหล่านี้ เขาโกรธมากและตะโกนกลับไปว่า "ข้าจะเฝ้าดูการเติบโตของเจ้าแล้วสักวันหนึ่งเจ้าจะรู้และกลับมาเชื่อฟัง เจ้าจะรู้ดีว่าอะไรดีสำหรับเจ้า? แล้วเจ้าจะคิดได้ว่าเจ้าควรจะฟังปู่ของเจ้า เจ้าจะเข้าใจความตั้งใจดีเมื่อเจ้าเติบโตขึ้นW

 

เถิงชิงซานส่ายหน้าและเลือกการประท้วงด้วยความเงียบ!!

 

ผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นรับรู้ถึงความคิดเหล่านี้อย่างสมบูรณ์ เถิงชิงซานนั้นเป็นที่รู้จักกันในเรื่องว่าเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมดีมาโดยตลอด แต่ทำไมวันนี้เขาถึงกลายเป็นเด็กที่ปากแข็งดื้อด้านดื้อรั้น? เด็กที่เคยมีความประพฤติที่ดี ทำไมถึงเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ได้

 

" โย่งเซียง โย่งหลาย ถ้าหากชิงซานยังไม่เชื่อฟังอีก…...นำตัวเขาไปขังไว้ในยุ้งฉาง!!"เถิงหยุนหลงออกคำสั่ง

 

ทั่้งเถิงโย่งเซียงและเถิงโย่งหลายถึงกับตกใจอย่างช่วยไม่ได้

 

"ท่านอาจารย์……."เถิงโย่งฟ่านอยากจะช่วยลูกชายของเขาแต่เขาทำได้เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ

 

"เจ้าไม่ได้ยินคำพูดของข้ารึ?"เถิงหยุนหลงแสดงความโกรธขึ้นอย่างฉับพลัน และปลดปล่อยกลิ่นอายที่ดุร้ายออกมา ทั่้งเถิงโย่งเซียงและเถิงโย่งหลายจึงต้องยอมรับคำสั่งของผู้นำหมู่บ้านเท่านั้นและจ้องมองไปที่เถิงชิงซาน

 

"ข้าจะเดินไปด้วยตัวของข้าเอง"เถิงชิงซานนี่พูดตัดบทพร้อมกับเดินออกไปข้างนอกโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ เถิงชิงซานเดินนำหน้าไปที่ยุ้งฉางพร้อมกับมัดตัวเองติดไว้โดยที่ทุกคนต่างก็รู้สึกแปลกใจ

 

"ท่านพ่อ"หยวนหลันตัดสินใจพูดอย่างตึงเครียด

 

"ท่านอาจารย์"เถิงโย่งฟ่านเองก็จ้องมองไปที่ผู้นำหมู่บ้านเถิงหยุนหลง

 

เถิงหยุนหลงถึงกับถอนหายใจ "ข้าวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชิงซาน เด็กคนนี้โดยปกติแล้วจะเป็นเด็กที่มีนิสัยดี แต่ในวันนี้เหมือนจะมีเหตุผลบางอย่างทำให้เขากลายเป็นเด็กที่ปากแข็ง อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงเป็นเพียงแค่เด็ก…….. เอาไว้ในนี้สัก 2-3 วัน ดูซิว่าจะสามารถเปลี่ยนใจเขาได้หรือไม่ หยวนหลัน โย่งฟ่าน พวกเจ้าทั้งสองห้ามปล่อยเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต!! แต่แน่นอนว่า พวกเจ้าจะต้องเป็นคนจัดเตรียมอาหาร 3 มื้อให้กับเขา"

 

"รับทราบท่านอาจารย์"

 

"แม้แต่ผู้ใหญ่ยังไม่สามารถทนถูกกักขังอยู่ในห้องแคบๆที่มืดสนิทแบบนี้ได้ และสำหรับเด็ก 6 ขวบเช่นเขาก็ย่อมไม่สามารถทนรับสภาพชีวิตได้เกิน 2-3 วันอย่างแน่นอน พวกเจ้าสามารถปล่อยให้เขาออกมาได้ก็ต่อเมื่อเขายอมรับความพ่ายแพ้นี้"เถิงหยุนหลงกล่าว หลังจากที่เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแห่งการโต้เถียง หลานชายวัย 6 ขวบของเขาดูเหมือนจะฉลาดมากจนกระทั่งยอมรับวิธีการจัดการที่หมู่บ้านใช้จัดการกับคนโง่

 

มันคือการทรมานชิงซาน? ก็ในเมื่อเขาดื้อด้านจนนำพาตัวเองตกอยู่ในสภาพลำบากเช่นนี้

 

เกลี้ยกล่อม? เห็นได้ชัดและพิสูจน์ได้แล้วว่ามันไร้ประโยชน์

 

การกักขังเถิงชิงซานนั้นเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราว การพูดด้วยเหตุผลอาจจะนำมาซึ่งความรู้สึกโกรธมากกว่าเดิม แม้ว่าเถิงหยุนหลงและผู้อาวุโสคนอื่นจะมองเห็นพรสวรรค์ในตัวเด็กคนนี้แต่พวกเขาก็เชื่อว่าเถิงชิงซานไม่สามารถอยู่ภายในยุ้งฉางที่มืดมิดได้เกิน 2-3 วันแน่ และพวกเขาก็ไม่คาดหวังว่าเถิงชิงซานที่เป็นเพียงแค่เด็กอายุ 6 ขวบจะสามารถทนอยู่ในยุ้งฉางได้ครบ 6 วันเต็มโดยไม่หลั่งน้ำตาแม้แต่น้อย

 

เถิงชิงซานยังคงอยู่ในหลังกองไม้และกองฟางอย่างสงบนิ่ง เมื่อใดก็ตามที่เขาถูกถามว่า เขาเปลี่ยนความคิดแล้วหรือยัง เขามักจะตะโกนตอบกลับมาว่า "ข้าไม่ต้องการที่จะออกจากหมู่บ้านเถิง"

 

สิ่งนี้ยิ่งทำให้เถิงหยุนหลงวิตกกังวล!!

 

เขาควรจะขังชิงซานไว้เช่นนั้นอีกต่อไปหรือไม่? ถ้าหากมันเกินการควบคุมและยังคงกินเวลายาวนานกว่านี้มันอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจเถิงชิงซาน และในใจของเถิงหยุนหลงเองก็รักหลานชายของเขามาก เขาต้องการผลักดันให้หลานชายของเขาได้มีอนาคตที่ดีภายในนิกายกุ้ยหยวน ทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อหลานชายของเขา

 

………………

 

ภายในยุ้งฉาง…………..

 

ภายในห้องแคบๆ เถิงชิงซานยังคงฝึกท่วงท่าทั้ง 3 อย่างต่อเนื่อง พวกมันถูกเรียกว่า กระบวนท่าสิงอี้สามกายา แม้ว่าเถิงชิงซานจะเคยบรรลุถึงระดับปรมาจารย์สูงสุดในโลกใบก่อน แต่เขาเองก็ยังคงรู้สึกว่าเขายังคงไม่เข้าใจในกระบวนท่าสิงอี้สามกายาอยู่ดี และแน่นอนว่าเมื่อทำการฝึกซ้ำๆ เขาก็จะค้นพบความหมายที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ เถิงชิงซานไม่มีแม้แต่ร่องรอยปรากฏให้เห็นถึงความอดทนที่ต้องใช้ขณะอยู่ภายในยุ้งฉาง

 

ในทางตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกสนุกสนานที่จะได้ฝึกฝนอย่างเต็มที่

 

หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตในฐานะนักฆ่าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกไปก่อน ยังมีการทรมานแบบไหนกันที่เถิงชิงซานไม่เคยได้รับ? เพียงแค่ถูกกักขังหรือ? เมื่อพิจารณาตามหลักของเถิงชิงซานแล้วเรื่องราวนี้แทบเรียกไม่ได้ว่าเป็นการลงโทษเลย

 

"หืม?"หูของเขากระตุกเล็กน้อย ทันใดนั้นเถิงชิงซานเพื่อหยุดการฝึกและนั่งลงบนพื้นไม้อย่างรวดเร็ว

 

เมื่อใดก็ตามที่เถิงชิงซานสังเกตและรับรู้ได้ว่ามีคนกำลังใกล้เข้ามา เขาจะรีบหยุดการฝึกฝนในทันที

 

"ชิงซาน"เสียงคนตะโกนดังขึ้น

 

"ท่านปู่สาม"เถิงชิงซานรีบขานตอบรับอย่างรวดเร็วและที่ท่านปู่ของเขามาที่นี่ด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าพ่อแม่ของเถิงชิงซานจะแอบปล่อยตัวลูกชายของเขาออกมา

 

"ชิงซาน ท่านปู่สามของเจ้าอยากจะบอกเจ้าว่า ถ้าหากเจ้ายังอยู่ในหมู่บ้านเถิงเจียนี้ต่อไป พรสวรรค์ของเจ้าจะกลายเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า เจ้าคืออัจฉริยะของหมู่บ้านเถิงเจียที่ปรากฏขึ้นหนึ่งคนในพันปีเท่านั้น นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญ เจ้าไม่ควรที่จะทำตัวเป็นเด็กงอแงแบบนี้" ท่านปู่สามแสดงท่าทางใจเย็น เพราะถ้าหากเขาโกรธ เถิงชิงซานเองก็จะไม่ฟังเขาอีก

 

หลังจากเวลาผ่านพ้นมาช่วงหนึ่ง ท่านปู่สามจึงเดินทางมาด้วยตนเองเพื่อพยายามเกลี้ยกล่อมเขาอีกครั้ง

 

ดังนั้นสิ่งที่เขาพยายามชักชวนกับเถิงชิงซาน ขั้นแรกก็คือการพูดด้วยเหตุผล

 

"ชิงซาน ทำไมเจ้าถึงไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมนิกายกุ้ยหยวนล่ะ?"ท่านปู่สามเอ่ยถาม

 

"ท่านปู่สาม ข้าเคยบอกท่านไปแล้วว่าข้าไม่ต้องการที่จะออกจากหมู่บ้านเถิงเจีย อย่างน้อยในตอนนี้ก็ยังคงไม่ ท่านไม่ต้องพูดถึงการที่คาดถูกคุมขังอยู่ในนี้ 6 วันเลย ต่อให้ท่านคุมขังข้าต่อไปอีก 6 เดือน ข้าก็จะไม่มีวันเปลี่ยนความคิดของข้าเด็ดขาด"เถิงชิงซานกล่าวอย่างสงบ ทุกคำพูดของเขาไม่ปรากฏให้เห็นถึงความลังเลเลยแม้แต่น้อย มันมีแต่เพียงความมุ่งมั่น

 

ท่านปู่สามที่ยืนอยู่ด้านนอกของยุ้งฉางเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่มั่นคง

 

เด็ก 6 ขวบถูกคุมขังอยู่ที่นี่นานถึง 6 วัน แต่เขากลับไม่แสดงให้เห็นถึงความท้อแท้

 

"เอี๊ยดดดดดด"ประตูค่อยๆถูกเปิดออก

 

"มันเกิดอะไรขึ้น?"เถิงชิงซานหันหน้าไปมองทางประตูด้วยความประหลาดใจ

 

ท่านปู่สามที่ยืนอยู่ด้านนอกของโรงนาจ้องมองเถิงชิงซาน เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี "ไม่เป็นไร ชิงซานน้อย ปู่ของเจ้ารู้แล้วว่าเจ้านั้นมีจิตใจที่แข็งแกร่ง ทั้งปูของเจ้าและข้าคงต้องขอยอมแพ้!! จากนี้ไปพวกเราจะไม่บังคับให้เจ้าออกไปไหนอีกแล้ว และจะยอมปล่อยเจ้าไปก็ต่อเมื่อเจ้ายินดีจะไปเท่านั้น"

 

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เถิงหยุนหลงก็ยังคงรักเถิงชิงซานอยู่เต็มหัวใจ มันจึงทำให้เขาไม่อาจกักขังชิงซานได้นานกว่านี้แล้ว

 

พวกวันนั้นคือตัวกำหนดความคิดของเถิงหยุนหลง ถ้าหากเถิงชิงซานยังคงปฏิเสธจนครบ 6 วัน พวกเขาก็จะยอมแพ้

 

"ท่านปู่สาม" เมื่อมองจากใบหน้าที่อ่อนล้าของท่านปู่สาม หัวใจของเถิงชิงซานถูกความรู้สึกผิดถาโถมเข้าอย่างจัง เขารู้ดีว่าบรรดาผู้ใหญ่ในหมู่บ้านของเขานั้นหวังว่าเขาจะสามารถบรรลุในสิ่งที่ดีกว่านี้ได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อาจอธิบายบอกเหตุผลที่ควรจะอธิบายได้ มีหนทางเดียวคือการบังคับให้เหล่าบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหมดยอมแพ้ปัญหาที่กำลังเผชิญตอนนี้

 

เถิงชิงซานยังคงรักและเคารพบรรดาผู้อาวุโสทั้งหมดจากใจจริง

 

"ท่านปู่สาม ขอให้ท่านจงมั่นใจได้เลยว่า แม้ตัวข้านั้นจะอยู่ในหมู่บ้านเถิงเจีย ข้าเขาจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง"เถิงชิงซานกล่าว

 

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า…….เจ้าถูกคุมขังอยู่ตั้ง 6 วันแต่เจ้ายังไม่มีความกังวลหรือเดือดเนื้อร้อนใจเลย เจ้าเป็นเด็กอายุ 6 ขวบจริงๆหรือ ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านปู่สามของเจ้าคนนี้ไม่เคยเห็นเด็กเช่นเจ้ามาก่อนเลยในชีวิต แม้แต่ตอนนี้ท่านปู่สามเองก็ยังไม่อาจจินตนาการถึงมันได้"ในตอนนี้ ท่านปู่สามของเขายอมรับได้แล้วว่าจะให้เถิงชิงซานอยู่ในหมู่บ้านเถิงเจียต่อไป

 

หลังจากนั้นผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง เถิงหยุนหลงได้รวบรวมผู้คนจำนวนมากไว้ในลานกว้างหลังบ้าน

 

เถิงหยุนหลงมองไปยังหลานชายของเขาก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมทั้งมองไปทางเถิงโย่งฟ่านในขณะที่เขากล่าวออกมาว่า "โย่งฟ่าน แม้ว่าลูกชายของเจ้าจะเป็นเด็กดี แต่ความปากแข็งของเขานั้นหาที่สุดไม่ได้จริงๆ แม้แต่ข้าก็ไม่อาจเอาชนะเด็กน้อยผู้นี้ได้"

 

"เด็กน้อยคนนี้คงจะดื้อรั้นมากเกินไป และคงไม่เข้าใจความหวังดีของท่าน"เถิงโย่งฟ่านพยายามปลอบใจผู้นำหมู่บ้านเถิงหยุนหลง

 

"ชิงซาน"เถิงหยุนหลงหันหน้าไปมองเถิงชิงซานพร้อมกับกล่าวว่า "ถ้าเป็นเช่นนั้น จงบอกข้าเถิดว่าเจ้าต้องการเรียนรู้อะไร ไม่ว่าเจ้าจะต้องการเรียนรู้อะไร ท่านปู่ของเจ้าคนนี้จะหาอาจารย์ที่ดีที่สุดมาสอนเจ้าให้ได้"

 

"ข้าอยากเรียนรู้เคล็ดวิชาหอก"

 

เถิงชิงซาน วางแผนความคิดของเขาเอาไว้แล้ว

 

"หอก?"เถิงหยุนหลงถึงกับขมวดคิ้วขณะที่กล่าวออกมาว่า "ชิงซาน มีผู้คนมากมายที่ฝึกฝนทักษะการใช้หอกในหมู่บ้านของเรา แต่ทักษะนี้นั้นถูกสร้างโดยเราชาวนาที่สั่งสมประสบการณ์และสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น มันไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลย นอกจากนี้ในการฝึกฝนหอกก็ยังเป็นอาวุธที่ยากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นหากปราศจากการฝึกหนักมาเป็น 10 ปี เจ้าก็จะไม่สามารถเข้าถึงพื้นฐานของมันได้ แล้วถ้าหากไม่สามารถทะลวงผ่านบางช่วงภายในเคล็ดวิชาหอกได้ เจ้าก็จะต้องอยู่ติดกับมันไปตลอดชีวิต ภายในเมืองอี้เองจากที่ข้าได้ยินมายังไม่เคยมีการปรากฏตัวของปรมาจารย์หอกที่แท้จริงเลย มันเป็นเรื่องยากมากที่จะหาปรมจารย์ผู้ทรงพลังทางด้านการใช้หอกมาสอนเจ้า เอออ….. ข้าคิดว่าเจ้าควรที่จะเลือกศาสตราวุธอื่น"

 

"ข้าก็แค่อยากที่จะฝึกฝนการใช้หอกเท่านั้นเอง"เถิงชิงซานตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

รีวิวผู้อ่าน