ตอนที่ 11 บุกจับ!
ที่ชั้นสองของร้าน...
ฉินอวี่พุ่งตัวพร้อมใช้ด้ามกระบอกปืนทุบไปที่ท้ายทอยของลุงสามก่อนจะสั่งให้จู้เหว่ยรีบใส่กุญแจมือ
“เร็ว! ไป!” ฉินอวี่พยุงตัวลุงสามลุกขึ้นวิ่งพร้อมตะโกนใส่ตำรวจในทีม “ไม่ต้องสนใจคนที่ไม่เกี่ยวข้อง! จับเป้าหมายและรีบออกจากที่นี่!”
ฉินอวี่และจู้เหว่ยรีบลากลุงสามออกจากร้าน! ส่วนหม่าเหล่าเอ๋อก็โวยวายเสียงดังขณะถูกฉีหลินจับนอนลงกับพื้น “ตำรวจ! ตำรวจมา!”
ทั้งตรอกชุลมุนวุ่นวายทันที! เหล่าลูกสมุนในร้านค้าต่างหยิบอาวุธและหนีกันจ้าละหวั่น! ทว่าฉินอวี่เตรียมพร้อมรับมือเหตุการณ์นี้อยู่แแล้ว เขาสังเกตเห็นหม่าเหล่าเอ๋อพยายามจะพูดบางอย่างจึงใช้ด้ามปืนตบเข้าไปที่ปากผู้ร้ายอย่างจัง!
ปัก!
ฟันของหม่าเหล่าเอ๋อหลุดสองซี่! เขาล้มกลิ้งด้วยความเจ็บปวดพร้อมเลือดไหลท่วมปาก
“ออกด้านข้าง!” ฉินอวี่กล่าวขณะวิ่งเข้าไปในตรอกข้างร้านค้าเพื่อนำทาง “เร็ว! ยาเถื่อนเพียงห้ากิโลกรัมก็โทษถึงตายได้แล้ว! จะยกกล่องพวกนั้นมาทำไม? โง่หรือไง!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สมาชิกในทีมรีบวางกล่องและหยิบยาออกมาสองถุงก่อนจะรีบวิ่งตามฉินอวี่ไป
ถนนทั้งตรอกเถ้าธุลีมีผู้คนมากมายเริ่มจับกลุ่มและกรูกันเข้าหาตำรวจ
ปัง! ปัง! ปัง!
ฉินอวี่ยิงปืนขึ้นฟ้าสามนัด ทว่าไม่มีใครสะทกสะท้าน อีกทั้งยังวิ่งเข้าหาตำรวจอย่างบ้าคลั่งและพร้อมจะยิงตอบโต้ทุกเมื่อ
“เฮ้ย! พวกมันไม่กลัวตายกันหรือไงวะ?!” เหล่าตำรวจรู้ทันทีว่าปืนทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จึงรีบหันหลังหาทางออกอื่น
สิบวินาทีต่อมา...”เอี๊ยด!” เสียงเบรกรถดังขึ้น
“ขึ้นรถ!” จาบีและน้องหกเปิดประตูพร้อมตะโกนเรียก
ฉินอวี่และคนอื่นๆ รีบผลักผู้ต้องหาเข้าไปในรถก่อนจะกรูกันขึ้นหลังกระบะ!
ตำรวจในเขตพื้นทมิฬมักใช้รถอยู่สองประเภทนั่นคือรถจี๊ปเจ็ดที่นั่ง และรถกระบะห้าที่นั่ง ส่วนรถเก๋งจะเป็นรถประจำตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเช่นผู้กับกำหลี่เท่านั้น...อีกทั้งไม่เคยใช้ในการลาดตระเวนมาก่อน
ในยุคขาดแคลนทรัพยากรเช่นนี้ ประโยชน์ใช้สอยสำคัญกว่าความสวยงาม...เนื่องจากทรัพยากรที่จำเป็นหายากขึ้นจึงส่งผลให้มีอัตราการผลิตรถนั้นต่ำ หมายความว่ารถที่ใช้สอยได้มากมักจะจำเป็นต่อองค์กรมากกว่า ดังนั้นตำรวจจึงใช้รถกระบะกันเสียส่วนใหญ่
บรื้น!
เมื่อทุกคนขึ้นรถหมดแล้ว จาบีและน้องหกเหยียบคันเร่งเพื่อออกจากตรอกเถ้าธุลีทันที!
ขณะที่รถกำลังแล่นก็มีเสียงปืนดังขึ้นไล่หลังไม่หยุดหย่อน รถได้รับความเสียหายอีกทั้งตำรวจชาวไทยทั้งสองนายได้รับบาดเจ็บ
“ไอ้พวกเวร! ไม่ต้องกลัว! ขับต่อไปหากใครขวางทางก็ชนให้หมด!” ฉินอวี่ตะโกนจากหลังกระบะ
จาบีกลั้นใจขับรถพุ่งชนทุกคนที่ขวางทางจนกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
เหล่าตำรวจขับรถประมาณหนึ่งนาทีถึงจะพ้นตรอกเถ้าธุลี ฉินอวี่มองไปยังฝูงชนหลายร้อยคนที่วิ่งไล่ตามพลันเช็ดเหงื่อบนใบหน้า “หากเราไม่แสดงอำนาจ...วันข้างหน้าพวกเขาคงเหิมเกริมและไม่สนใจกฎหมายใดๆ ในเมืองซ่งเจียง!”
เพียะ!
ทันทีที่ฉินอวี่พูดจบ เขาได้ยินเสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมถูกแตะตัว
“เยี่ยมมากไอ้น้อง!” จู้เหว่ยกล่าวพร้อมตบไหล่ฉินอวี่เบาๆ “กล้าหาญมาก...ปิดคดีได้สวย!”
ฉินอวี่ขมวดคิ้วมองจู้เหว่ยเงียบๆ
…
เวลาสี่ทุ่ม ณ ห้องทำงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเขตพื้นทมิฬ
หลังจากเย็บแผลที่มือแล้ว ฉินอวี่ก็มุ่งหน้าไปยังห้องสอบสวนทันที
หม่าเหล่าเอ๋อนั่งอยู่บนพื้นอย่างเหม่อลอยก่อนจะเหลือบมองฉินอวี่ “แกมันแส่ไม่เข้าเรื่อง!”
ตุบ!
ฉินอวี่เตะไปยังศีรษะของหม่าเหลาเอ๋อ
“ไอ้เวร!”
ศีรษะของหม่าเหลาเอ๋อกระทบกับกำแพงอย่างรุนแรงเหมือนมีดาววิ่งวนอยู่รอบหัวอย่างไรอย่างนั้น
“ห้าพันคนยังไม่พออีกเหรอ?!”
ตุบ!
“ใครก็ตามในตรอกเถ้าธุลีก็ช่วยแกไม่ได้?!”
ตุบ!
“ไอ้หัวหน้ากระจอก?!”
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
ฉินอวี่สบถขณะเตะไปที่หัวของหม่าเหลาเอ๋ออีกสองสามครั้งจนเลือดกำเดาไหลและเกิดอาการชักอย่างรุนแรง
“เอาน้ำเย็นๆ มาราดพี่หม่าของเราหน่อยเร็ว! เขาจะได้คลายความเลือดร้อนลงหน่อย!” ฉินอวี่หันกลับไปสั่งลูกน้อง
ลูกน้องคนดังกล่าวเดินไปยกถังน้ำที่เย็นและสกปรกและราดลงบนตัวของหม่าเหลาเอ๋อทันที!
หม่าเหลาเอ๋อฟื้นคืนสติ...
ฉินอวี่เหยียบไปที่ต้นขาของหม่าเหลาเอ๋อ “นายชอบดูกบกระโดดมากเลยใช่ไหม?!”
หม่าเหลาเอ๋อมองไปยังฉินอวี่ด้วยแววตาหวาดกลัวถึงขีดสุด
“นั่งคุกเข่า!” ฉินอวี่สั่ง
หม่าเหลาเอ๋อตัวสั่นพลางลุกขึ้นเดินถอยห่างออกไปสองสามก้าว
“บอกให้คุกเข่า!” ฉินอวี่ชี้ไปที่พื้นและมองด้วยสายตาอาฆาต
หม่าเหลาเอ๋อผงะก่อนจะพูดอย่างติดๆ ขัดๆ “ยะ...อย่ายุ่งกับฉัน!”
ฉินอวี่ยกขาขวาขึ้น!
ปัก!
ก่อนที่ฉินอวี่จะเตะ หม่าเหลาเอ๋อก็รีบคุกเข่าลงทันที
“กระโดดกบจนกว่าฉันจะพอใจ! หากหยุดโดยไม่ได้รับอนุญาต ฉันจะเตะนายให้ตาย!” ฉินอวี่กล่าวพร้อมกำผมของหม่าเหลาเอ๋อไว้แน่น “แกได้ยินไหม?!”
สองนาทีต่อมา...หม่าเหลาเอ๋อเริ่มกระโดดกบ “แม่ง! เอาคืนกูเหรอ!...อย่าให้ถึงทีกูบ้าง! กูจะจำจนตาย!”
…
ด้านนอกห้องสืบสวน
“เราจะสอบสวนเขาทั้งคืนเลยไง?” ฉีหลินถาม
“เราอดนอนเพราะเรื่องนี้ไม่ได้นะ” ฉีหลินกล่าวพลางส่ายหัว “ให้เวลาเขาสักคืน พรุ่งนี้เช้าเราต้องไปสืบสวนลูกสมุนทั้งสองคนนั้นต่อ ฉันคิดว่าไอ้ลุงสามและหม่าเหลาเอ๋อคงไม่คายความลับออกมาง่ายๆ”
“อืม” ฉีหลินพยักหน้า “กลับบ้านยังไง? ให้ฉันไปส่งไหม?”
“ไม่เป็นไร คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่” ฉินอวี่ส่ายหัว “พรุ่งนี้เช้าคงแวบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับมาทำงานใหม่”
“อืม”
หลังจากทั้งคู่คุยกันจบ ฉินอวี่ตรงไปยังห้องน้ำทันที
…
สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขตพื้นทมิฬ
หยวนเค่อรับสายพร้อมดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ “จริงเหรอ? ฉินอวี่นำทีมไปยังตรอกเถ้าธุลีเพื่อจับพวกลักลอบขายยาและทำได้สำเร็จ? ฮ่าๆ ไอ้เด็กคนนี้ทำให้ฉันประหลาดใจทุกวันจริงๆ”
………………………………….