px

เรื่อง : Neet
บทที่ 43: ผมแค่บอกชื่อเองนะ ทำไมพวกคุณต้องคุกเข่ากันหมดด้วยล่ะ !



หนักแน่น สงบ และ เยือกเย็น นั่นคือความรู้สึก มิชิโระ จูมอนจิ ได้รับจากเด็กที่เขารู้จักว่า เซย์โก ฮาราโนะ

แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาควรจะรับมือเด็กคนนี้ยังไง 

ถ้าเด็กชายคนนี้เป็นคนที่มีอำนาจลึกลับ เขาก็จะเต็มใจที่จะดูแลฃเขาอย่างฟุ่มเฟือย แต่มันก็ยังไม่ได้รับการยืนยันเป็นที่แน่นอนและ ... เนื่องจากเด็กคนนี้ได้รับเชิญมาที่นี่อย่างประสบความสำเร็จ มันก็เป็นไปได้น้อยมากที่เด็กคนนี้จะเป็นผู้ใช้ความสามารถลึกลับนั่น

มิชิโระเชื่อว่าจะเป็นการยากที่จะเชิญบุคคลที่มีอำนาจลึกลับอย่างเหลือเชื่อมาได้

ในฐานะที่เป็นผู้ใช้ความสามารถลึกลับน่าจะเย่อหยิ่งและถือตัว พวกเขาจะดูถูกคนทั่วๆไป นั่นรวมถึงแกงค์มาเฟียของเขาด้วย มันน่าสงสัยถ้าพวกเขาจะต้องการเข้าร่วมกับพวกเขา ... อย่างน้อยก็ฉากหน้านี่

เมื่อมิชิโระได้ยินว่าคำเชิญนี้ประสบความสำเร็จและเด็กผู้ชายคนนี้ได้ตกลงที่จะพบเขา มิชิโระขุ่นเคืองและลดความคาดหวังของตัวเองลง

ถ้าความสัมพันธ์ก้าวหน้าไปอย่างที่เขาคาดเอาไว้ ถ้าเด็กชายคนนี้เป็นผู้ใช้อำนายลึกลับ คาเอเดะน่าจะถูกปฏิเสธบางทีอาจถูกเตือนและข่มขู่และในที่สุดเขาก็จะต้องเชิญเด็กคนนั้นอย่างสุภาพและเป็นทางการ 

แต่สถานการณ์ในปัจจุบันมันแตกต่างไปจากที่เขาคาดไว้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเขารู้สึกว่ามีโอกาสน้อยที่เด็กคนนี้จะเป็นผู้ใช้ที่มีความสามารถลึกลับ ...กล่าวได้ว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน

หลังจากที่ได้พบปะกับเขาเป็นการส่วนตัว มิชิโระสามารถบอกได้ว่าเด็กผู้ชายคนนี้มีความมั่นใจในตัวเองมากเลยทีเดียว 

ดังนั้นเด็กคนนี้เป็นผู้ใช้ความสามารถลึกลับรึเปล่า?

มิชิโระ จูมอนจิ รู้สึกหมดหนทาง ไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้

ดังนั้นเมื่อเด็กชายถามเขาถึงสิ่งที่เขาต้องการจะพูดคุยกัน เขาจึงครุ่นคิดถึงสถานการณ์ด้วยความเร็วฟ้าแลบในใจขณะที่ในจิตใจกำลังขมวดคิ้วอยู่ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ได้เลือกที่จะถามตรงๆ 

"สิ่งที่ข้าต้องการพูดคุยหลักๆคือเรื่องตัวตนของเจ้านั่นละ ... เจ้าบอกข้าได้ไหมจริงๆแล้ววเจ้าเป็นใครกันแน่ ?"

'ผมเป็นใครเหรอ?' เซอิจิยกคิ้วขึ้น

"คุณยังตรวจสอบไม่เสร็จอีกเหรอครับ?"

"ไม่ๆ พวกเรายังไม่ได้ทำการตรวจสอบเรื่องของเจ้าอย่างละเอียดเลย พวกเรารู้แค่เพียงว่าชื่อของเจ้าคือ เซย์โก ฮาราโนะ และเมื่อเร็ว ๆ นี้เจ้าได้ย้ายไปเรียนที่ โรงเรียนมัธยมปลายเก็นฮาน่า ในฐานะนักเรียนปีหนึ่ง... พวกเรารู้ว่าเจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับประธานสภานักเรียนที่นั่น นัทสึยะ โยรุฮานะ ... เช่นเดียวกับความจริงที่ว่าเจ้ามีความชำนาญในศิลปะการต่อสู้มากกว่าคนทั่วไป นั่นเป็นข้อมูลทั้งหมดที่รู้ "มิชิโระ บอก เซอิจิ อย่างใจเย็น

"คุณเชิญผมด้วยความรู้แค่นี้อ่ะนะ?"

"พวกเราพิจารณาข้อเท็จจริงว่า เจ้าอาจเป็นคนที่มีอำนาจลึกลับ ดังนั้นจึงเป็นการหยาบคาย ถ้าพวกเราจะสอดรู้ด้วยการตรวจสอบอย่างละเอียด พวกเราเลยเชิญเจ้ามาด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เพราะพวกเราต้องการทำอันตรายเจ้าแต่อย่างใด "

ห้องยังคงเงียบอยู่พักหนึ่ง

' ผมก็คิดไปว่าพวกเขาจะหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับผมเสร็จหมดแล้วในเวลาสั้นๆแบบนี้ ... ปรากฎว่าพวกเขาไม่ได้สนใจที่จะตรวจสอบมันอย่างละเอียด พวกเขาเชิญผมเพียงเพราะพวกเขามั่นใจว่าผมเป็นคนสวมหน้ากาก 'เซอิจิ คิดกับตัวเอง' ดีแล้ว มันเป็นแค่เรื่องปกติธรรมดาเท่านั้น เหมือนกับว่ามันเป็นเพราะศิลปะการต่อสู้ที่ผมแสดงเมื่อคืนมันน่าเหลือเชื่อ "

บอกตามตรง เซอิจิ ไม่ได้คิดเอาไว้เลยว่าความสามารถในการต่อสู้ของเขาจะกลายเป็นเรื่องไร้สาระได้ทันทีหลังจากที่เปิดใช้งานการ์ดต่อสู้ เขารู้สึกราวกับว่าเขากลายเป็นตัวละครหลักของวิดีโอเกมการต่อสู้

ล้อเล่นรึเปล่า เขายังไม่ได้เป็นโดดเด่นในฐานะตัวละครเกมต่อสู้จะอยู่ในชีวิตจริง แต่ถ้าเขายังคงเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาผ่านระบบ มันอาจถึงระดับนั้นได้จริงๆก็เป็นไป พอมานึกดูอีกที เขาน่าจะได้เทคนิคทที่เรียกว่า กระสุนเวลา ในอีกไม่นานนี้ ...

" แค่ก แค่ก หยุดคิดก่อนดีกว่า - อย่าลืมสิ นี่หัวหน้าแกงค์มาเฟียนั่งอยู่ตรงข้ามผมอยู่ตอนนี้ !" เซอิจิ หยุดตัวเองจากการหมกมุ่นอยู่กับมมัน

"ตัวตนที่แท้จริงของผม... แม้ว่าจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่ผมหวังว่าพวกคุณจะไม่กระจายเรื่องนี้ออกไป " เซอิจิ พูดด้วยเสียงปกติขณะที่เขามองตรงไปที่ มิชิโระ จูมอนจิ

"เซย์โก ฮาราโนะ เป็นชื่อปลอม - ชื่อจริงของผมคือ ... เซอิจิ ฮารุตะ "

ฮารุตะ ... หลังจากใช้เวลาไม่กี่วินาทีในรับรู้มัน สายตาของ มิชิโระ ที่มีต่อเขาก็เปลี่ยนไปทันที!

"ฮารุตะ ... เจ้ากำลังพูดถึง ฮารุตะ จาก ' เจ็ดตระกูลหลัก ... ' "

' เจ็ดตระกูลหลักเหรอ?' เซอิจิ กระพริบตาและเขานึกขึ้นได้ว่า นัทสึยะ โยรุฮานะ ก็เคยพูดถึงเริ่องนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเพื่อเป็นการยืนยันเรื่องนี้

สีหน้าทั้งหมดของ มิชิโระ บิดเบี้ยวลง เด็กคนนี้อ้างว่านามสกุลที่แท้จริงของเขาคือ "ฮารุตะ" และได้ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลหลัก ... เขาจะโกหกรึเปล่า? มิชิโระไม่คิดว่ามัันจะเป็นแบบนี้ ... เพราะเขาไม่สามารถมองเห็นสัญญาณของการโกหกจากเด็กคนนี้ได้เลย ในฐานะผู้นำกลุ่ม จูมอนจิ เขาค่อนข้างมั่นใจในตัดสินคนอื่นจากการมองด้วยตัวเอง!

ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อลองพิจารณาความสามารถพิเศษในศิลปะการต่อสู้ที่เด็กผู้ชายคนนี้ มันได้แสดงออกออกมา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่มีอำนาจลึกลับ แต่เขาก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่รู้จักและรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับอำนาจลึกลับจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของชื่อตระกูล ฮารุตะ และจะเข้าใจถึงจุดจบอันน่ากลัวที่เขาจะได้พบ ถ้าเขาอ้างว่ามาจากตระกูล ฮารุตะ ทั้งที่มันไม่จริง !

มิชิโระยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า แม้ว่าเขาจะมีอยู่สิบชีวิต เขาก็ไม่กล้าที่จะอ้างชื่อ ฮารุตะ ด้วยการโกหก คนเหล่านี้อยู่ห่างไกลเหนือมนุษย์ธรรมดาและ ใครก็ตามที่ทำให้ชื่อตระกูลของเขานั้นแปดเปื้อนเช่นนั้น จะถูกลงโทษด้วยชะตากรรมในนรกที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย! การที่จะมีนักต้มตุ่นที่จะปลอมตัวเป็น "ฮารุตะ" โดยไม่เปลี่ยนท่าทีสักนิดแบบนี้นั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย!

คำตอบนี้มันบอกมาได้ชัดเจน มิชิโระ จูมอนจิ ระเบิดเหงื่ออันเย็นเฉียบออกมา

เขายังนั่งอยุ่ในทางเตรียมพร้อมเช่นเดิน แต่ได้ถอยหลับออกไปสามก้าว

" ข้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง ... " ด้วยแขนเสื้อที่ใหญ่โตของเขา เขาวางมือทั้งสองข้างลงบนพื้นแล้วก็คารวะมาทาง เซอิจิ!

" เจ้าเป็นสมาชิกคนสำคัญของตระกูล ฮารุตะ ... ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยทำมาก่อนหน้านี้ มันเป็นไม่สุภาพเกินไปสำหรับเจ้า ข้าขอโทษอย่างสุดซึ้งและหวังว่าเจ้าจะให้อภัย!"

เซอิจิตกใจมาก เกิดเชี่ยไรเนี่ย ทั้งหมดที่เขาทำคือการพูดชื่อของเขา - ทำไมคนนี้ก็คุกเข่าและ คารวะเขาแบบนี้ !?

เป็นไปได้ยังไง ที่สมาชิกมาเฟียทั้งหมดถึงได้ทำท่าทางเช่นนี้!? การเคลื่อนไหวของเขาดูเหมือนถูกฝึกมา !!

หลังจากที่ตกอยู่ในสภาพตกใจเป็นเวลาหลายวินาที เซอิจิก็นึกถึงคำพูดของนัทสึยะ โยรุฮานะก่อนหน้านี้ เขาได้รับความประทับใจกลับมาเมื่อตระกูลของเขาทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เซอิจิคนเก่าก็ไม่ได้มีความทรงจำเกี่ยวกับอิทธิพลจากตระกูลของเขาเลย ดังนั้นคำอธิบายของ นัทสึยะ จึงไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับ เซอิจิ มากเท่าไร

ตอนนี้เซอิจิตระหนักแล้วว่าความสามารถที่แท้จริงของชื่อ "ฮารุตะ" มันน่าเหลือเชื่อ !

แค่บอกชื่ออกมาดังๆก็ทำให้หัวหน้าแกงค์มาเฟียทำท่าทางเช่นนี้ได้ .... 

อุปส์ เขาอยู่ในท่าทางนั้นมานานแล้ว

"จูมอนจิซัง ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ดังนั้นลุกขึ้นก่อนเถอะครับ " เซอิจิบังคับตัวเองให้สงบเท่าที่เป็นไปได้ "ถึงแม้ว่าผมจะมาจากตระกูลฮารุตะ ... ผมก็ถูกไล่ออกมาจากบ้าน ดังนั้นไม่ต้องตึงเครียดมากนักก็ได้ "

'ถูกไล่ออกจากบ้านเหรอ ? เด็กผู้ชายผู้ที่สามารถล้มสมาชิกหนึ่งต่อสามคนได้ด้วยตัวเองแค่เพียงหมัดเดียวทุกครั้ง ยังรวมถึงฟุรุจังผุ้ที่เล็งปืนไว้แล้ว ยังไม่รวมถึงลูกของเขานักสู้อันดับหนึ่งของแกงค์ ? เขา ... เขาเป็นแค่คนที่ถูกไล่ออกจากตระกูลงั้นเหรอ !? ' มิชิโระ เพิ่งจะตระหนักได้ถึงภาพลางๆของตระกูล "ฮารุตะ" ที่พล่าเบลอมาตลอดก่อนหน้านี้ เขาจิตนาการออกทันทีว่าตระกูลนี้นั้นน่ากลัวเพียงไหน!

ถ้าคนที่ถูกไล่ออกจากบ้าน มีอำนาจขนาดนี้ สมาชิกในครอบครัวหลักของ ฮารุตะ จะแค่ไหนกัน ? บางทีอาจใช้คนเพียงคนเดียวก็สามารถทำลายกลุ่ม จูมอนจิทั้งกลุ่ม ได้อย่างง่ายดาย!

หลังจากที่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ มิชิโระ จูมอนจิ รู้สึกหนักอยู่ในท้องของเขา

"ไม่ ... ถึงแม้ว่า เจ้าจะอยู่สถานการณ์พิเศษอยู่บ้าง เจ้ายังคงเป็น 'ฮารุตะ' อยู่ สำหรับคนอย่างข้าที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมใต้ดิน พวกเราต้องแหงนหน้ามองการคงอยู่ของเจ้าอยู่เสมอ" เขาค่อยๆยกหัวขึ้น " ข้า ข้า .... ขออภัยจริงๆสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราได้ทำกับเจ้าก่อนหน้านี้ "

เอาล่ะได้รับการขอโทษมาหลายครั้งแบบนี้ เซอิจิเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ

"ผมยอมรับคำขอโทษของพวกคุณ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องทำซ้ำอีกแล้ว" เขาเกาหน้าของเขา "เห็นพฤติกรรมของคุณแล้ว ... ผมคิดว่าผมคงไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องตัวตนจริงๆของผมเพิ่มแล้ว ดังนั้น ... คุณต้องการพูดคุยอะไรกับผมอีกไหม ?"

"ก่อนหน้านี้ โปรดให้ข้าแสดงความนอบน้อมจากกลุ่ม จูมอนจิ " มิชิโระ จูมอนจิ คำนับอีกครั้งแล้วยกแขนขึ้นตบมือ ทันใดนั้นมีหญิงสาวสองคนสวย ๆ สวมเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของเกาะซากุระเดินเข้าไปในห้อง ผู้หญิงคนหนึ่งถือถาดขนาดใหญ่ที่บรรจุจานเล็ก ๆ มากมายเต็มไปด้วยขนมหวานพราวในขณะที่ผู้หญิงคนอื่น ๆ มีถาดใส่กาน้ำชา แก้วชา ใบชา ช้อนต้ม ... และอื่น ๆ หลังจากที่ทั้งสองเดินเข้ามาพวกเขาคุกเข่าลงที่โต๊ะและวางจานลงบนโต๊ะทีละจาน หลังจากวางถาดของหวานไว้บนโต๊ะและของชาไว้ข้างมิชิโระ พวกเธอก็โค้งคำนับและจากไปอย่างไร้คำพูด 

" ให้ข้าชงชาให้เจ้า ลองลิ้มรสชาติของขนมหวานนี่ก่อนสิ "มิชิโระ ชี้ไปที่ เซอิจิ

เซอิจิ สามารถบอกได้ว่า มิชิโระ จูมอนจิ ดูเหมือนว่าไม่มีเจตนาร้ายกับเขาและดูเหมือนจะเคารพเขามากเกินไปด้วยซ้ำเพราะฉะนั้นเขาจึงผ่อนคลายความรู้สึกของเขาลงเล็กน้อยเช่นกัน หยุดการเกรงใจและหยิบขนมหวานที่ต้องตาเขาขึ้นมา 

'อิม.. อร่อย! พวกเขามีฝีมือด้านการทำขนม รสชาติดีกว่าที่ขายในร้านขนมหวาน รสชาติศักดิ์ศิทธิ์ซะอีก ดีแล้วล่ะ อย่าลืมว่าร้านขนมหวานนั้นได้ทำอาหารในปริมาณมาก 

ความคิดนั้นได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในใจของเซอิจิ: ของหวานริกะ อามามิทำด้วยตัวเองจะเป็นยังไงนะ ? ไม่เพียง แต่เธอเป็นเจ้าของและผู้จัดการร้านเท่านั้น ขนมหวานทั้งหมดในร้านได้รับการออกแบบจากเธอด้วยตัวเอง 

ในฐานะที่เป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ด้านหน้า เขาไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสชาติอาหารฝีมือเธอมาก่อนเลย ส่วนใหญ่แล้วคนที่ทำงานในห้องครัวเท่านั้นที่มีโอกาส เซอิจิคิดเรื่องทั้งหมดนี้ขณะที่เขาลิ้มรสขนมหวานที่วางไว้ด้านหน้าเขา

ในขณะเดียวกัน มิชิโระ จูมอนจิ กำลังทำอะไรสักอย่างด้วยเครื่องมือเพื่อทำชาที่เซอิจิไม่เข้าใจ เขาต้มน้ำ และใส่ใบชาเพิ่มและคนให้มันเข้ากัน... การกระทำของเขาดูเหมือนจริงจังในขณะที่เขาอยู่ในระหว่างพิธีชงชา

"นี่อาจไม่ใช่พิธีชงชาจริงๆก็ได้ ... แค่ทำตัวเก๊กหล่อและหลอกให้สาว ๆ บางคนตกหลุมรักเขา ถ้าเขาเป็นศาสตราจารย์ของวิทยาลัยจริงๆ "เซอิจิคิดง่ายๆ 

หลังจากที่มันเป็นไปอย่างไหลลื่นและดูโอ้อวด ... ในไม่ช้า พิธีชงชาก็เสร็จลง, มิชิโระจัดถ้วยชาร้อนในมือของเขาเพื่อให้เซอิจิรับมันไป

นี่เป็นครั้งแรกที่ มิชิโระให้ความเคารพแก่ชายหนุ่มด้วยชาที่เขาชงด้วยตัวเอง แม้กระทั่งลูก ๆ ของเขาเองก็ไม่เคยได้รับสิ่งนี้จากเขามาก่อน!

มิชิโระไม่คิดว่าทั้งหมดนี้เป็นการดูถูก แต่ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ทำเช่นนั้น นั่นเป็นเพราะมี "ฮารุตะ" อยู่ตรงหน้าเขา!

ถึงแม้ว่าเซอิจิจะถูกเนรเทศออกจากครอบครัวของเขา ... ไม่สิ มิชิโระได้รับโอกาสนี้เพราะ เซอิจิ ถูกไล่ออกมาจากครอบครัวของเขา

นี่คือคำตอบของข้อสงสัยก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าเซอิจิไม่หยิ่งเท่าที่เขาคิดไว้ และเห็นด้วยกับคำเชิญเพราะเขาถูกไล่ออกจากครอบครัวของเขาเอง

มิฉะนั้นเขาอาจไม่มีทางได้รับโอกาสที่จะได้พบกับคนที่มีอำนาจลึกลับในทั้งชีวิตทั้งหมดของเขา!

"โปรด ลองชิมน้ำชาสักหน่อย"

"โอ้.... ขอบคุณ."

เซอิจิหยิบถ้วยชาและค่อยๆจิบมัน

"อืม. นี่ รสชาติดี ... เป็นชาที่ดี " 

มิชิโระ จูมอนจิ ยิ้มอย่างจาง ๆ เมื่อได้ยินคำชมเชยของ เซอิจิ เขาคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาแห่งชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุดของชีวิตของเขา

 

By ZetTransation

ติดตามอัพเดทและแนะนำการแปลได้ที่นี่นะครับ

 

รีวิวผู้อ่าน