px

เรื่อง : เทพอสนีบาต God of Thunder
บทที่ 5 – ระเบิดเคลื่อนสายฟ้า ช่วงต้น



   “ข้ารู้สึกว่าในร่างกายของข้าเหมือนกับมีช่องว่างอยู่ แต่ข้าไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริง หรือเพียงแค่ข้าคิดไปเองเท่านั้น !?”



ซิน ฟง กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ



   “เยี่ยม !! ฟงเอ๋อ หลังจากที่เจ้าฝึกฝนพลังได้ถึงสิบชั้น มันก็จะทำให้เจ้ามีพื้นที่กักเก็บพลังเคลื่อนในร่างกายของเจ้า แล้วพื้นที่กักเก็บที่เจ้าสัมผัสได้มันใหญ่ไหม !?” ชายชรา กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม



    “บอกตามตรงก็ใหญ่มากทีเดียว แต่ว่านั่นมันคือพื้นที่กักเก็บพลังเคลื่อนหรือ !?” ซิน ฟง กล่าวพลางครุ่นคิด



    “ตอนนี้พื้นที่กักเก็บพลังเคลื่อนยังไม่มีความจำเป็นสำหรับเจ้า ตราบใดก็ตามที่เจ้าฝึกฝนพลังได้หมื่นชั้น พื้นที่กักเก็บที่เป็นทรงกลมในร่างกายของเจ้า จะมีเส้นผ่านศูนย์กลาถึงสองฟุต และหากเจ้าฝึกฝนจนกลายเป็นผู้ใช้พลังเคลื่อนระดับขุนพลได้แล้ว เส้นผ่านศูนย์กลางนั่นจะมีความยาวถึงหนึ่งเมตร ซึ่งเจ้าสามารถนำสิ่งต่างๆ เข้าไปซ่อนไว้ภายในนั้นได้ !!” ชายชรา กล่าว



    “แล้วมันจะเป็นไปได้ไหมที่ในตอนนี้พื้นที่กักเก็บของข้ามีเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งเมตร !?” ซิน ฟง กล่าวออกมาด้วยความแคลงใจ



    “เป็นไปไม่ได้หรอก !!” ชายชรา กล่าวพลางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “แต่จะว่าไปมันก็มีประโยชน์สำหรับเจ้าอยู่ เพราะมันสามารถใช้เก็บเคลื่อนได้ !!”



    “เคลื่อนอะไรหรือ !?” ซิน ฟง กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ



    “เคลื่อนก็คืออาวุธสำหรับผู้ที่มีพลังเคลื่อน สำหรับเจ้ามันก็ต้องเป็นอาวุธสายฟ้า ไม่อาจใช้อาวุธของพลังเคลื่อนสายอื่นๆ ได้ !!”



    “เคลื่อนยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกนอกจากการนำไปใช้เป็นอาวุธ มันยังสามารถสะสมเอาไว้เพื่อเสริมพลังการฝึกฝนของเจ้าได้เช่นกัน !!” ชายชรา กล่าว



    “ท่านปู่ แล้วข้าจะสามารถนำพลังเคลื่อนไปใช้ได้ไหม !?” ซิน ฟง กล่าวถาม



    “ย่อมได้ สำหรับคนที่มีพลังเคลื่อนแล้ว การนำพลังเคลื่อนออกมาใช้ย่อมทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ต้องหาวัสดุมาผสานเข้ากับพลังเคลื่อนของแต่ละคนเท่านั้น !!” ชายชรา กล่าว



   “แบบไหนหรือ !?” ซิน ฟง กล่าวถาม



    “สิ่งนี้คือระเบิดเคลื่อนสายฟ้า มันจะสามารถใช้งานได้โดยพลังเคลื่อนของเจ้า !!” ชายชรา กล่าวพร้อมกับหยิบเข็มสีดำออกมา



ซิน ฟง ผายฝ่ามือออกไปรับเข็มเล่มนั้น ก่อนจะกล่าวถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “มันสามารถทำอะไรได้หรือ !?”



    “หากกระตุ้นมันด้วยพลังเคลื่อน มันก็เพียงพอที่จะสามารถฆ่ากระทิงได้ !!” ชายชรา กล่าวพร้อมกับมองไปที่ ซิน ฟง ด้วยความเอ็นดู



กระทิงเป็นสัตว์ป่าที่มีกระดูกซึ่งเปรียบได้กับสมบัติ เพราะมันสามารถนำมาทำเป็นคันธนูที่แข็งแกร่งได้ เนื้อของมันมีประโยชน์และให้พลังงานอย่างมาก และที่สำคัญคือหนังของมันสามารถนำมาสร้างเป็นเกราะหนังที่แข็งแกร่งได้เช่นกัน แม้แต่ชนเผ่าโบราณก็ยังคงรวมตัวเพื่อไล่ล่ากระทิงป่าเช่นกัน



สำหรับนักล่าของป้อมผาพยัคฆ์แล้วนั้น หากว่ามีจำนวนไม่ถึงสิบคน และไม่ได้วางกับดักเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว พวกเขาจะเลี่ยงในการล่ากระทิงป่าทันที ดังนั้น ซิน ฟง จึงรู้ดีว่าการล่ากระทิงป่านั้นเป็นเรื่องยากยิ่ง



   “ถึงยังไงเจ้าก็แตกต่างจากคนทั่วๆไปมาก เจ้ามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะล่ากระทิงป่าได้ ระเบิดสายฟ้านี้เป็นทางเลือกสุดท้าย หากว่าไม่จำเป็นก็อย่าได้ใช้มันออกมา !!” ชายชรา กล่าว



   “แล้วระเบิดสายฟ้าเหล่านี้ข้าสามารถเก็บไว้ในพื้นที่กักเก็บพลังเคลื่อนได้ไหม !?” ซิน ฟง กล่าวถาม



   “แน่นอนว่าย่อมได้ !!” ชายชรา กล่าวพลางพยักหน้าช้าๆ



ซิน ฟง จ้องมองเข็มสีดำบนฝ่ามือของเขาด้วยการเพ่งความคิดลงไป หลังจากนั้นเข็มบนฝ่ามือของเขาก็หายลับไปอย่างไร้ร่องรอย แต่เขาก็ยังคงตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าเข็มสีดำเหล่านั้นได้เข้าไปอยู่ภายในพื้นที่กักเก็บพลังเคลื่อนของเขา และเพียงแค่ใช้ความคิดเขาก็สามารถเรียกมันออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย



แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าคนอื่นๆไม่สามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของมันได้ก็ตาม แต่เขาก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องระมัดระวังไม่แพร่งพรายมันออกไป และทันใดนั้น ซิน ฟง ก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า “ระเบิดสายฟ้ามันสามารถปรับแต่งได้อีกไหม !?”



    “เจ้ายังไม่สามารถปรับแต่ระเบิดสายฟ้าได้หรอก หากว่าเจ้ายังไม่มีพลังถึงหนึ่งพันชั้น และหากว่าเจ้ายังมีพลังไม่ถึงหนึ่งร้อยชั้น เจ้าก็ยังไม่สามารถสร้างเคลื่อนของเจ้าออกมาได้เช่นกัน เจ้าจำเป็นต้องฝึกฝนให้เร็วที่สุดในตอนนี้ !!”



    “แต่ว่าสำหรับพลังร้อยชั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เจ้าจะต้องฝึกฝนไปจนถึงหนึ่งพันชั้น และหนึ่งหมื่นชั้น หลังจากนั้นค่อยว่าเรื่องนี้กันใหม่ !!” ชายชรา กล่าว



    “ท่านปู่ ตอนนี้ก็ใกล้จะเข้าฤดูหนาวแล้ว หากเป็นเช่นนั้นข้าคิดว่าข้าออกไปล่ากับนักล่าคนอื่นๆ ไม่เช่นนั้นแล้วเกรงว่าพวกเราจะลำบาก !!” ซิน ฟง กล่าว



    “อืม !! เป็นเรื่องที่ดีที่เจ้าจะไปล่ากับนักล่าคนอื่นๆ แต่หลังจากนั้นเจ้าควรจะออกล่าเพียงลำพังมากกว่า เพราะถึงยังไงเจ้าก็เป็นผู้ใช้พลังเคลื่อนระดับต้นแล้ว มันจะเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับตัวเจ้าเอง !!” ชายชรา กล่าว



   “ข้าจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการล่าก่อน จึงจะออกไปล่าด้วยตัวเอง !!” ซิน ฟง พยักหน้ารับก่อนจะกล่าวออกมา



   “ตอนนี้กลับกันก่อน ไว้ค่อยมาฝึกฝนกันใหม่ !!” ชายชรา กล่าว



ภายในป้อมผาพยัคฆ์นั้นคนส่วนมากจะมีเพียงแค่แซ่ หู่ และ เก่อ เท่านั้น นอกจาก ซิน ฟง แล้วคนอื่นๆ ก็มีแซ่เพียงแค่นั้นเท่านั้น



สำหรับ ซิน ฟง แล้วเขาเป็นคนของตระกูล เล่ย แม้ว่าคนอื่นๆ จะเรียกเขาว่า เสี่ยวฟง , ฟงเอ๋อ ก็ตาม แต่จริงๆ แล้วเขาชื่อว่า เล่ย ซินฟง ส่วนชายชรามีชื่อว่า เล่ย เปา และน้องสาวของเขาที่ถูกเรียกว่า เหยาเหยา ก็มีชื่อ เล่ย ซิงเหยา แต่การที่ชายชราเรียก ซินฟง ว่า ฟงเอ๋อ นั้น เป็นเพราะว่าหลังจากที่ลูกชายของเขาได้ตายจากไป เขาก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่ใช้แซ่นั้นอีก



ภายในป้อมผาพยัคฆ์มีทีมล่าสัตว์อยู่จำนวนไม่น้อย และการจะสร้างทีมขึ้นมาได้ก็ต้องมีจำนวนคนอย่างน้อยสามคนขึ้นไป



หลังจากที่ฝึกฝนต่อมาอีกหลายวันนั้น ซินฟง ก็มีพลังเคลื่อนอยู่ในชั้นที่สามสิบ ในทุกๆวันที่เขาฝึกฝน เขาจะสามารถเพิ่มพลังได้ถึงวันละสิบชั้น สำหรับทีมล่าสัตว์ที่เขาต้องการจะเข้าร่วมแล้วนั้น ก็คือทีมล่าสัตว์ของลุง เก่อ



ลุง เก่อ มีชื่อว่า เก่อ ต้าถาน เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มล่าสัตว์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในป้อมผาพยัคฆ์ ดังนั้นตัวเลือกแรกที่ ซินฟง ต้องการก็คือทีมล่าสัตว์ของลุง เก่อ



ด้วยความคุ้นเคยของ ซินฟง ที่มีต่อ เก่อ ต้าถาน อยู่ก่อนแล้วนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่เขาจะได้เข้าสู่ทีมล่าสัตว์ของลุง เก่อ



เมื่อเป็นเช่นนั้น เล่ย เปา และ เล่ย ซิงเหยา ก็ได้เร่งมือในการทำเกราะหนังสำหรับ ซินฟง อย่างเร่งรีบ



เกราะหนังนั้นไม่เพียงแต่จะปกป้องช่วงลำตัวเท่านั้น แต่มันยังนับรวมไปถึงปลอกแขน สนับขา รองเท้า และหมวกที่ใช้ในการป้องกันศีรษะอีกด้วย



หลังจากที่สวมเกราะหนังจนพร้อมสำหรับการล่าแล้วนั้น ซินฟง ก็ได้เหน็บดาบสั้นเอาไว้ที่ข้างเอวของเขาอีกหนึ่งเล่มอีกด้วย



ในเวลาต่อมา ชายชรา ก็ได้ส่งคันธนูสีดำให้กับ ซินฟง อย่างไม่คาดคิด



    “ให้ข้าใช้ธนูหรือ !?” ซินฟง กล่าวถามออกมาด้วยความประหลาดใจ



ตามที่ ซินฟง จำได้นั้น คันธนู นี้เป็นสิ่งที่ชายชราใช้เวลากว่าสี่ปีในการสร้างมันขึ้นมา อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้ฝึกฝนพลังเคลื่อนนั้น เขาก็ไม่สามารถง้างคันธนูนี้ออกมาได้แม้แต่นิดเดียว ดังนั้นเขาจึงตระหนักดีว่ามันต้องมีความแข็งแกร่งและยากในการจะยิงธนูคันนี้



   “เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่าก่อนหน้านี้เป็นเพราะความอ่อนแอของเจ้า มันจึงทำให้เจ้าไม่สามารถใช้ธนูคันนี้ได้ แต่ว่าด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าในตอนนี้ ก็เพียงพอที่จะใช้มันได้แล้ว !!” ชายชรา กล่าว



    “ท่านปู่ ท่านคิดว่าข้าจะใช้มันได้จริงๆ หรือ !?” ซินฟง กล่าวออกมาด้วยความคาดหวังอย่างมาก เขารู้ดีว่าชายชราใช้เวลาอย่างมากในการสร้างธนูคันนี้ขึ้นมา เขาจึงไม่อยากทำไห้ชายชราผิดหวัง



    “พี่ชาย ท่านก็ลองดูก่อนสิ !!” ทันใดนั้น เล่ย ซิงเหยา ก็กล่าวออกมาอย่างกะทันหัน



ซินฟง พยักหน้ารับพร้อมกับหยิบเนื้อก้อนเล็กๆ ขึ้นมาพาดบนสาย เขาตระหนักดีว่าเขามีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งมันเพียงพอที่เขาจะใช้ธนูสีดำคันนี้แล้วอย่างแน่นอน



ก่อนหน้าที่เขาจะได้มายังโลกแห่งนี้นั้น เขาก็เคยได้ลองยิงธนูในชีวิตก่อนของเขามาบ้างเช่นกัน แต่ทว่ามันก็ยังไม่ยากเท่ากับการยิงธนูสีดำคันนี้ ดังนั้นจึงไม่ต้องกล่าวถึงการเล็งให้แม่นยำแต่อย่างใด



หลังจากที่เขาคลายนิ้วออกมาจากสายธนูแล้วนั้น ก็มีเสียงกระทบกับผนังขึ้นมาอย่างรุนแรงจนสามารถได้ยินชัดถนัดหู 


by.GOT

รีวิวผู้อ่าน