px

เรื่อง : เทพอสนีบาต God of Thunder
บทที่ 16 – บาดแผลที่ได้รับ ช่วงปลาย



   “ท่านปู หู่ น่าเสียดายที่พวกเราไม่อาจล่าได้ !!” ซินฟง กล่าว



   “ไม่เป็นไร !! เท่านี้ก็นับว่าสูญเสียมากไปแล้ว พวกเราควรกลับไปกันก่อน !!” หู่ คัง พยักหน้ารับ ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ต้าถาน เจ้าพา เสี่ยวฟง กลับไปก่อน !!”



   “ไม่มีปัญหา !!” เก่อ ต้าถาน พยักหน้ารับพร้อมกับนั่งยองๆ ก่อนจะประคองร่างของ ซินฟง และ เก่อ จื่อ ขึ้นมาบนหลังของเขา



หลังจากนั้น หู่ คัง ก็ได้ช่วยรักษาคนบาดเจ็บทั้งหมด ก่อนจะฝังร่างของคนที่เสียชีวิตกว่าสิบสี่ถึงสิบห้าคนอย่างรวดเร็ว 



ภายใต้การต่อสู้ครั้งนี้ นับว่าเป็นความสูญเสียของพวกเขาอย่างมาก แม้ว่าจะมีคนตายไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่ทว่าจำนวนเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นเหล่านักล่าของปราการผาพยัคฆ์ทั้งสิ้น 



อีกทั้งในตอนนี้ เหล่านักล่าของปราการผาพยัคฆ์ต่างก็ตระหนักได้อย่างชัดเจนว่า หากว่าวันนี้ไม่มี เล่ย ซินฟง อยู่กับพวกเขาแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย



หลังจากที่ ซินฟง ลงมาจากหลังของ เก่อ ต้าถาน ได้แล้วนั้น เขาก็ผล็อยหลับไปในทันที ในขณะที่คนอื่นๆ ก็ได้กลับเข้ายังปราการผาพยัคฆ์ทั้งหมด



ในเวลาเดียวกันนั้น ทางด้านคนของป้อมอินทรีย์ พวกเขาก็ได้มุ่งหน้าหายลับเข้าไปในป่าทึบเช่นกัน



ในเวลานั้น ต้าเฟย ก็ได้นำขวดใสขนาดเท่านิ้วมือ ซึ่งมีน้ำสีเขียวๆ ออกมาจากใต้เสื้อเกราะหนังของเขา ก่อนที่จะใช้น้ำสีเขียวนั้นป้ายลงบนบาดแผลบนร่างกาย



ขวดแก้วเล็กๆ ใบนี้ มันเป็นน้ำยาในการรักษาอย่างดี ซึ่งมันมีค่ามากกว่าหนึ่งพันทอง แม้ว่ากระทิงป่าจะเป็นสัตว์ที่สามารถล่าได้อย่างยากลำบากก็ตาม แต่ทว่าเนื้อของมันก็มีราคาเพียงสิบทองเท่านั้น นั่นหมายความน้ำยาสีเขียวนี้มีค่าสูงอย่างมาก



หลังจากที่ ต้าเฟย ได้ใช้น้ำยาสีเขียวนี้รักษาบาดแผลของเขาแล้ว เพียงไม่นานบาดแผลของเขาก็ตกสะเก็ดขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นนับว่าเป็นความอัศจรรย์อย่างมากของน้ำยาสีเขียวนี้ หลังจากที่เขาได้รักษาบาดแผลของตัวเองแล้ว เขาก็ได้เข้าไปดูอาการบาดเจ็บของพี่ชายของเขาในทันที



แต่ในขณะที่เขากำลังตรวจอาการบาดเจ็บอยู่นั้น พี่ชายของเขากลับตบลงมาบนใบหน้าของเขาด้วยความไม่พออย่างไม่น่าเชื่อ 



   “ท่านลุง ท่านตีข้าทำไม !?” ต้าเฟย กล่าวถามออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน



ในเวลานั้น ใบหน้าของ ต้าเฟย เต็มไปด้วยความสับสน พร้อมกับแววตาที่เบิกโพรงอย่างชัดเจน มันสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า เขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้แม้แต่นิดเดียว



ภายใต้สิ่งที่เกิดขึ้นเช่นนี้ เหล่านักล่าของปราการกรงเล็บอินทรีย์คนอื่นๆ ต่างก็สับสนอย่างมากเช่นกัน



แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ก็ตาม แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเงียบปากโดยไม่กล้ากล่าวอะไรอออกมาแต่อย่างใด



ในเวลานั้น แววตาของท่านลุงของเขาก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความกราดเกรี้ยวที่ลุกฮือขึ้นมาอย่างมาก นั่นทำให้ ต้าเฟย หวาดกลัวขึ้นมาในทันทีก่อนจะรีบกล่าวออกมาว่า “ท่านลุง ท่านใจเย็นๆ ลงก่อน !!”



แต่ในขณะที่ ต้าเฟย กำลังคุกเข่าลงไปอยู่นั้น ท่านลุงของเขาก็ได้ประฝ่ามือแนบไปที่หูของเขา ก่อนจะกระซิบบางอย่างออกมา



เมื่อได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น แววตาของ ต้าเฟย ก็ลุกฮือขึ้นมาด้วยเพลิงโทสะ และความเจ็บปวดในทันที



ความจริงแล้วมันเป็นเพียงคำกล่าวง่ายๆ เท่านั้น ซึ่งมันเป็นคำกล่าวที่ว่า “หากว่าข้าไม่อาจจัดการกับไอ้ลูกหมาจากปรากการผาพยัคฆ์นั่นได้ ข้าจะไม่ขอเป็นคนอีกต่อไป !!”



   “ใช่ !! ข้าจะไม่ยอมรามือเด็ดขาด แต่ว่าไอ้หนูนั่นก็เป็นคนที่ยากจะจัดการได้ !!” ต้าเฟย พยักหน้ารับพร้อมกับกล่าวออกมา



   “ข้าจะขอความช่วยเหลือจากสหายเกาของข้า เขาเป็นผู้ใช้พลังเคลื่อนที่แข็งแกร่งมาก !!” ท่านลุงขอ ต้าเฟย กล่าว



   “ท่านลุง นี่ท่านรู้จักผู้ใช้พลังเคลื่อนด้วยหรือ !?” ต้าเฟย กล่าวถามออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง



***** โป๊ก *****



ท่านลุงของ ต้าเฟย ตบลงบนศีรษะของ ต้าเฟย ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “หากข้าไม่รู้จัก แล้วข้าจะไปขอความช่วยเหลือได้ยังไง !?”



   “จริงสิ !! ข้านี่มันโง่จริงๆ !!” ต้าเฟย กล่าวพลางลูบศีรษะด้วยความขวยเขิน



***** โป๊ก *****



   “หากว่าเจ้าเป็นคนโง่ แล้วข้าเป็นอะไรงั้นหรือ !?” หยิงยู่ ท่านลุงของ ต้าเฟย กล่าว



ในเวลานั้น ใบหน้าของ ต้าเฟย ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความสลด ในตอนนี้ เขาเพิ่งจะตระหนักได้ว่าท่านลุงของเขานั้นไมได้เป็นคนธรรมดาแต่อย่างใด ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก



   “ตามข้ามา !!” หยิงยู่ กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุดันอย่างมาก



   “อืม !!” ต้าเฟย กล่าวรับด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน



หลังจากนั้นสองวันผ่านไป เล่ย ซินฟง ก็ได้ฟื้นขึ้นมาในที่สุด



   “ที่นี่คือที่ใดกัน !?” ซินฟง พึมพำออกมา หลังจากที่สายตาของเขายังไม่อาจมองโดยรอบได้อย่างชัดเจน



   “พี่ชายฟื้นแล้ว !! ท่านปู่ พี่ชายฟื้นแล้ว !!” เล่ย ซิงเหยา ตะโกนขึ้นมาด้วยความยินดีอย่างมาก



   “น้องสาว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ ตาเจ้ากลายเป็นสีแดงหมดแล้ว !!” ซินฟง กล่าวพร้อมกับใช่ฝ่ามือของเขาลูบลงบนศีรษะของน้องสาว เขารู้ได้ทันทีว่านางดูแลเขามาตลอดเวลาที่เขาหมดสติไป



   “พี่ชาย ข้ายังไม่เหนื่อย ข้าจะไปทำซุปมาให้ท่านกินก่อน !!” เล่ย ซิงเหยา กล่าว



   “เยี่ยม !! ข้ากำลังหิวอยู่พอดีเลย !!” ซินฟง กล่าว หลังจากที่เขาหมดสติไปกว่าสองวันนั้น มันก็ทำให้ท้องของเขาว่างเปล่าจนแทบที่จะได้ยินเสียงร้องของมันดังขึ้นมาได้อย่างชัดเจน



   “ฟงเอ๋อ !!” ในขณะเดียวกันนั้น เสียงของ เล่ย เปา ก็ดังขึ้นมาด้วยความกังวล



   “ท่านปู่ ไม่ต้องห่วง ข้าคิดว่านี่เป็นเรื่องที่โชคดีจริงๆ !!”



   “ยังไงหรือ !?” เล่ย เปา กล่าวถาม



    “ตอนนี้ข้าเกือบจะได้เป็นผู้ใช้พลังเคลื่อนแล้ว !!” ซินฟง กล่าว



    “อะไรนะ !?” เล่ย เปา กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ



   “ข้าถูกฟ้าผ่าถึงสองครั้ง ทำให้พลังเคลื่อนอัสนีของข้าเพิ่มขึ้นมากทีเดียว !!” ซินฟง กล่าว



   “นี่มันเป็นไปได้ยังไง !?” เล่ย เปา กล่าวพลางฝืนยิ้มบางๆ ออกมา เขาไม่อาจเข้าใจได้แม้แต่นิดเดียว ว่าหลังจากที่ ซินฟง ถูกฟ้าผ่าไปแล้วนั้น เขาไม่เพียงแต่ไม่ตาย แต่กลับทำให้พลังเคลื่อนเพิ่มขึ้นเช่นนี้



   “ทำไมหรือ !? ไม่ใช่ว่าการฝึกฝนพลังเคลื่อนอสนีจะได้ผลดีหลังจากที่ได้ฝึกยามที่มีฟ้าผ่าหรอกหรือ !?” ซินฟง กล่าวถามออกมาด้วยความสับสน หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความประหลาดใจของปู่ของเขา



ทว่า เล่ย เปา ไม่ได้กล่าวตอบออกมาแต่อย่างใด เขาเพียงจมดิ่งไปกับความคิดของตัวเองอย่างเงียบงัน



   “พี่ชาย ซุปมาแล้ว !!” ในขณะเดียวกันนั้น เล่ย ซิงเหยา ก็ได้ถือถ้วยซุปเข้ามาพอดี



มันเป็นซุปเนื้อกระทิงป่า ซึ่งแม้ว่ามันจะมีกลิ่นฉุนไปบ้างก็ตาม แต่มันกลับเป็นซุปที่มีประโยชน์อย่างมาก



   “พี่ชาย ข้าจะป้อนท่านเอง !!” เล่ย ซิงเหยา กล่าว



   “ดีเลย !!” ซินฟง กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มบางจากความสุข หลังจากทั้งหมดแล้วในชีวิตก่อนนั้น เขาไม่เคยมีน้องสาวมาก่อน นั่นจึงทำให้เขามีความเอ็นดูต่อ เล่ย ซิงเหยา อย่างมาก



เล่ย ซิงเหยา ตักซุปขึ้นมาด้วยช้อนไม้ก่อนจะป้อนใส่ปากของ ซินฟง อย่างอ่อนโยน พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “พี่ชาย ค่อยๆ กินก็ได้ ซุปนี่มีอีกเยอะ !!” 



เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซินฟง ก็ยิ้มออกมาด้วยความสุขอย่างมาก 



***** เพี๊ยะ *****



ในเวลานั้น จู่ๆ เล่ย เปา ก็ตบลงบนเข่าของตัวเอง ก่อนจะโพล่งออกมาว่า “จริงสิ !! มันเป็นไปได้นี่ ฮ่าๆ.........!!”



   “ท่านปู่ มีอะไรหรือ !?” เล่ย ซิงเหยา กล่าวถามพร้อมกับมองไปยัง เล่ย เปา ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น



   “ฮ่าๆ ปู่แค่คิดอะไรบางอย่างออกเท่านั้น เหยาเหยา เจ้านี่ช่างฉลาดจริงๆ !!” เล่ย เปา กล่าว



เมื่อได้ยินเช่นนั้น เล่ย ซิงเหยา ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก ก่อนที่นางจะตักซุปในถ้วยขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ



   “ท่านปู่ ท่านคิดอะไรได้หรือ !? เรื่องฟ้าผ่าหรือ !? หรือว่าท่านเคยถูกฟ้าผ่ามาก่อน !?” ซินฟง กล่าวถาม



   “ข้าไม่เคยถูกฟ้าฝ่ามาก่อนหรอก !!” เล่ย เปา ส่ายศีรษะไปมา พร้อมกับจ้องมองมาที่ ซินฟง เป็นเวลานานก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ฟงเอ๋อ !!”



   “ท่านปู่มีอะไรหรือ !?” ซินฟง กล่าวถามออกมาด้วยใบหน้าประหม่า



   “คุ้มค่าที่จะลอง!! เจ้านี่มันอัจฉริยะชัดๆ !!” เล่ย เปา โพล่งขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างมาก



เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซินฟง ก็จ้องมองไปที่ เล่ย เปา ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนอย่างมาก เพราะเขาสัมผัสได้ว่าตอนนี้ ปู่ของเขาดูสดใสขึ้นอย่างมาก หากเทียบกับในก่อนหน้านี้



   “ท่านปู่ อะไรคุ้มค่าที่จะลองหรือ !?” ซินฟง กล่าวถาม



   “ตอนนี้ข้ายังไม่อาจบอกเจ้าได้ ไว้ข้าต้องลองดูก่อนแล้วข้าจะบอกเจ้า !!” เล่ย เปา กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม



   “ท่านปู่ !!” ซินฟง โพล่งขึ้นมาด้วยแววตาที่เบิกกว้าง



   “ฟงเอ๋อ มีอะไรหรือ !?” เล่ย เปา กล่าวถาม 


By.GOT

รีวิวผู้อ่าน