px

เรื่อง : Neet
บทที่ 46: สงบไว้สิ มือขวาข้า !



คำถามที่เซอิจิถามมานั้นคือประเด็นที่กำลังถกเถียงกันมากที่สุดในอนิเมะเรื่อง "เด็กสาวลูกอมรสน้ำผึ้ง" เมื่อเร็ว ๆ นี้ มันคือกลุ่มที่ถูกแบ่งออกมาตามความชื่นชอบตัวละครที่ผู้เขียนเรื่องพีชเซ็นเซย์ในเรื่องต้นฉบับดังเดิม

ตราบใดที่ฮิซาชิเป็นโอตาคุที่แท้จริงมันจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะต่อต้านมันได้!

ฮิซาชิ จูมอนจิตกหลุมพลางของ เซอิจิได้ง่ายๆ, ตรงๆและถลำลึก และเขาก็ไม่ได้ปกปิดข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเป็น โอตาคุ ทำให้เห็นได้ชัดว่า ฮิซาชิ เป็น โอตาคุ ที่ไม่ยอมใครง่ายๆ

นอกจากเซอิจิแล้ว คำพูดของฮิซาชิที่โอเวอร์และเปี่ยมด้วยอารมณ์ ทำให้ทุกคนที่นั่นตกใจ

ใช่แล้วว่า ความตกใจจากพ่อของเขา มิชิโระ จูมอนจิ มีมากกว่าทุกคน

บอสแกงค์มาเฟีย คนนี้ตกตะลึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ทุกอย่างที่เขารู้ก็คือ ฮารุตะซามะ ที่นั่งอยู่เขาถามคำถามที่เขาไม่อาจเข้าใจได้ ซึ่งกระตุ้นให้ลูกชายคนเล็กของเขาได้มากแบบนั้น ฮิซาชิแทบจะไม่รู้จบเรื่องอะไรที่เขาพูดออกมาเลย เขาไม่อาจทำความเข้าใจได้และจบลงด้วยการทำท่าทางสงสัย ... นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย !

สำหรับคนอื่น ๆ ทุกคนนั้น เริ่มจากคาเอเดะ จูมอนจิ ไปจนถึง ทากาชิ โคบายาชิ และ คาเฮย์ วาตาริ ด้วยการที่อายุน้อยกว่า นั่นหมายความว่าพวกเขาคุ้นเคยกับอะนิเมะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะซากุระ ดังนั้นพวกเขาจึงพอจะคาดเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

พวกเขายังคงพูดไม่ออกเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้ !

แน่นอนว่า คาเอเดะ รู้จักตัวตนที่แท้จริงของน้องชายเธอแล้วและเธอก็รู้สึกอาย

โคบายาชิ และ วาตาริ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าลูกชายของบอสมาเฟียจะติดการตูนแบบนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงตะลึงอยู่!

เซอิจิ เป็นคนเดียวที่เพิ่งเข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นและเขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งเสียงหัวเราะออกมาได้

ฮิซาชิ หันไปเผชิญหน้ากับเซอิจิ

* แค่ก แค่ก ...* เซอิจิในที่สุดก็ห้ามปรามตัวเองได้สำเร็จและแกล้งทำไอ

" ผมก็อยู่ฝ่ายไอเดเลีย ผมยินดีที่ได้พบคุณ ฮิซาชิ จูมอนจิซัง "

" สหายร่วมอุดมการณ์ ! ยินดีที่ได้พบคุณ เซย์โก ฮาราโนะซามะ!"ฮิซาชิ นั่งลงขณะที่เขาชูหัวแม่มือขนาดใหญ่ขึ้นควบคู่กับรอยยิ้มสดใส

คนอื่นๆเห็นพฤติกรรมของทั้งคู่ที่แสดงออกมาก็พูดไม่ออก

"ฮาราโนะซามะ มันเรื่องอะไร ... " มิชิโระอดที่จะถามออกมาไม่ได้ 

"โอ้ ... ฮิซาชิซัง และ ผมต่างก็เป็นแฟนของอะนิเมะเรื่องเดียวกัน พวกเราแค่พูดถึงเรื่องนั้นกันเฉยๆ "

"อะนิเมะ? ในใจบอสสมาเฟียเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

"พ่อ... เป็นการ์ตูนที่เรียกว่า "เด็กสาวลูกอมรสน้ำผึ้ง" "คาเอเดะ ถอนหายใจ" ปัจจุบันเป็นอะนิเมะยอดนิยมในเกาะซากุระ วัยรุ่นส่วนใหญ่รู้เรื่องนี้และ ชั้นเองก็พอได้ดูมันอยู่บ้าง ... สำหรับ ฮิซาชิ เขาน่าจะดูมันทุกตอน

"แน่นอน!"

ฮิซาชิ ปรับแว่นสายตาของเขาและดูเหมือนเลนส์ของเขากระพริบแสงแว่บออกมา

"'เด็กสาวลูกอมรสน้ำผึ้ง' เป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมแบบที่สิบปีจะมีสักครั้ง ! ในฐานะที่เป็นแฟนตัวจริง ผมต้องดูแต่ละตอนอย่างน้อยสามรอบ ! มันแค่เพราะว่า ... ผมไม่คิดเลยว่าแขกผู้มีเกียรติที่พ่อเชิญมา ... ก็เป็นแฟนตัวยงด้วยเช่นกัน ... "

ฮิซาชิ แลกเปลี่ยนรอยยิ้มเหมือนรู้กันกับเซอิจิ

การสื่อสารระหว่าง โอตาคุ ไม่จำเป็นต้องเปล่งออกมาเป็นคำพูด

"มันเป็นแบบนั้นละ พ่อ"

คาเอเดะ รู้สึกราวกับว่าเรี่ยวแรงของเธอนั้นได้หายไปหมด

ฮาราโนะซามาะถามคำถามเกี่ยวกับอะนิเมะเรื่องนี้และ ฮิซาชิ ตอบกลับในทันทีทันใด "

"โอ้ ... " สุดท้ายมิชิโระก็เข้าใจคร่าวๆกับเรื่องราวที่ได้เกิดขึ้น 

ฮาราโนะ ... ไม่, ฮารุตะซามะ ได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของลูกชายเขาได้ในทันที; นั่นคือเหตุผลที่ ฮารุตะซามะ ถามลูกชายของเขาในคำถามแบบนั้นเพื่อเป็นการทดสอบ ... พลังหยั่งรู้อะไรกันนี่ !

'อนิเมะ ... นั่นคือสิ่งที่วัยรุ่นชอบดู ... อืม บางทีข้าควรจะหาเวลาว่างบ้างในการดูด้วยเช่นกัน เพื่อที่ข้าจะได้รู้ว่าวัยรุ่นในสมัยนี้คิดอะไรกันบ้าง "มิชิโระ จูมอนจิ คิด

"เรื่องราวของอะนิเมะเรื่องนี้เป็นยังไงรึ?"มิชิโระ เริ่มพูดถึงหัวข้อนี้เพื่อให้เหมาะกับวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น

ฮิซาชิ ปรับแว่นของเขาอีกครั้งและเลนส์ของเขาส่องประกายชัดเจนในครั้งนี้ !

"เกี่ยวกับอะนิเมะเรื่องนี้ ... พ่อ ขอให้ผมอธิบายสั้น ๆ ... "

ดังนั้นการบรรยายก็ได้เริ่มต้นขึ้น

...

หลังจากทานข้าวเย็นได้ข้อสรุป ทากาชิ โคบายาชิ และ คาเฮย์ วาตาริ ก็ยังคงสับสนอยู่ดี

ในที่สุด พวกเขาก็ฟื้นสติกลับมาได้และคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ พวกเขาพบว่ามันไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว

พวกเขากินอาหารที่บ้านบอสมาเฟียและหัวข้อหลักของการสนทนาคือเรื่องราวเกี่ยวกับอะนิเมะงั้นเหรอ !?

พวกเขาหลงทางเข้ามาผิดบ้านหรือเปล่า? หรือ โลกมันเป็นอะไรไปเแล้วเนี่ย !?

อย่างไรก็ตาม ตามเหตุผลแล้วมันบอกว่าสิ่งต่างๆนั้นได้เกิดขึ้นจริงๆ 

อย่างแรก ฮิซาชิ จูมอนจิ ได้อธิบายอย่างมีชีวิตชีวา และไม่มีที่สิ้นสุดเกี่ยวกับโครงเรื่องของอะนิเมะกับ เซย์โก ฮาราโนะ ที่บางครั้งก็พูดแทรกขึ้นมาขึ้น ก่อนที่ คาเอเดะ จะตัดสินใจเข้าร่วมด้วย ในที่สุดแม้ทั้งสองคนเริ่มคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ บอสแกงค์มาเฟียก็ฟังอย่างตั้งใจ ดูเหมือนเขาจะสนใจอย่างที่สุด และเขายังคงถามคำถามเกี่ยวกับอะนิเมะเรื่องนี้ ...

หัวข้อของการสนทนานี้ยังคงดำเนินต่อไปตั้งแต่ต้นจนจบในระหว่างมื้ออาหารทั้งหมด

บ้าอะไรเนี่ย ... !

โคบายาชิ และ วาตาริ ไม่สามารถหยุดคิดได้ตลอดการกินข้าว 

นี่เป็นบ้านของบอสมาเฟีย จริงๆหรือ? รึนี่ เป็นชมรมการสนทนาเรื่องอนิเมะกันแน่ !! ??

มันก็พอยอมรับได้ สำหรับวัยรุ่นที่จะพูดคุยเกี่ยวกับอะนิเมะเรื่องนี้ที่พวกเขาต่างรู้จักกันดี แต่ทำไมมันถึงได้เห็นบอสแกงค์มาเฟียดูเหมือนจะให้ความสนใจในหัวข้อนี้ด้วยล่ะ !?

นี่เป็นการทำลายภาพลักษณ์ของแกงค์มาเฟียที่ควรเป็นไปจนหมด !

ในฐานที่เป็นอันธพาลก่อนหน้านี้เขาจึงหวาดกลัวมาเฟีย โคบายาชิ และ วาตาริ มีความคิดมากมายที่ไหลผ่านจิตใจของพวกเขา

สำหรับคนที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นทั้งหมด เซอิจิชอบอาหารมื้อนี้มากและสนุกไปกับมัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพราะว่าเขาได้พบกับ ฮิซาชิ จูมอนจิ ... พวกเขาเข้ากันได้เป้นอย่างดีขณะที่คุยกับอีกฝ่าย และพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนกันในตอนนั้น 

"ฮาราโนะซามะ ถ้าผมได้พบคุณก่อนหน้านี้ในชีวิต ! คุณอยากไปดูห้องผมไหมครับ ? ผมจะโชว์ของสะสมให้ดู ... "ฮิซาชิเชิญเซอิจิมาด้วยความจริงใจ

จริงๆแล้ว เขารู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งกว่าเซอิจิ เนื่องจากเป็นเรื่องยากสำหรับโอตาคุในแกงค์มาเฟียที่หาเพื่อนโอตาคุคนอื่น !

"โอ้ ผมทำได้เลย ? แน่นอนผมอยากไปสิ !"เซอิจิ เห็นด้วยโดยไม่ต้องคิดอะไร

จากนั้นเขาก็หันกลับไปมองเพื่อนร่วมชั้นสองคนที่ยังคงจมอยู่ในความสับสน 

"โคบายาชิ ซังวาตาริซัง คืนนี้คงไม่มีอะไรแล้วละ กลับบ้านไปก่อนได้เลย ไม่ต้องรอผม ผมจะอยู่ที่นี่อีกสักพัก "

"โอ้ ... " โคบายาชิและวาตาริกลับมารู้สึกตัวเอีกครั้ง และ มองตากันอย่างอึดอัด " งั้น พวกเรากลับไปก่อนละกัน "

"ฉันจะจัดรถให้นำพวกคุณไปส่งที่บ้าน" คาเอเดะ บอกพวกเขา

และด้วยเหตุนี้เอง คาเอเดะ ได้ส่งโคบายาชิและ วาตาริ กลับไป เซอิจิได้ตามฮิซาชิไปที่ห้องของเขา

มิชิโระ มีความสุขมาก ที่ลูกชายของเขาที่เข้ากันได้ดีกับ เซอิจิ เขาคิดว่าลูกชายของเขาทำได้ดีมาก

ห้องของ ฮิซาชิ จูมอนจิ มีขนาดค่อนข้างใหญ อย่างไรก็ตามเนื่องจากความหนาตาของข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่ในห้อง มันจึงทำให้ห้องนี้แคบเป็นอย่างมาก 

มีชั้นวางมากมายที่เต็มไปด้วยรูปปั้นต่างๆในชั้นวางหนังสือ ชั้นหนังสือเต็มไปด้วยมังงะซีดี เทปและอื่น ๆ ส่วนที่เหลือของชั้นวางก็เต็มไปด้วยอะนิเมะต่างๆในขณะที่ภาพและโปสเตอร์ของอะนิเมะได้ถูกฉาบอยู่บนผนังทุกด้าน ...

มีหมอนและตุ๊กตาอะนิเมะวางอยู่บนเตียง มีโทรทัศน์แอลซีดีขนาดใหญ่จำนวน 2 เครื่องพร้อมระบบเกมรุ่นล่าสุดที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัด ห้องแล็ปท็อปที่มีความสามารถสูง มีจอภาพ 6 จอภ ป็นจุดศูนย์กลางของห้องและแว่นตา VR รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีราคาแพงที่สุดวางอยู่ข้างๆพวกเขา ...

วิธีการจัดห้องนี้ทำให้เซอิจิจำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับบทความที่เขาอ่านเกี่ยวกับในโลกก่อนหน้าเรื่อง "คนโอตาคุที่สุดในโลก" แม้ว่าห้องนี้อาจยังไม่อยู่ในระดับนั้นแต่ก็เกือบจะถึงแล้ว

เซอิจิก็รู้สึกอยากจะสร้างรายได้ด้วยความสามารถ Save และ Load ของเขาและสร้างที่หลบภัยของตัวเขาเองแบบนี้ ... ไม่ สวรรค์!

'อ้าาาก, ใจเย็น, อดทนไว้สิ เซอิจิ , โอ้ มือขวา ขอผม ! ผมไม่ควรปล่อยผนึกตัวเอง และ ใช้พลังในแบบผิดๆเพียงเพราะแค่เพราะของแบบนี้! '

เซอิจิใช้กำลังใจอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันไม่ให้ด้านมืดครอบงำเขาได้ 

เซอิจิยังคงนิ่งอยู่ตลอดเวลาในขณะที่ฮิซาชิได้กล่าวถึงเรื่องราวอันน่าภาคภูมิใจของเขา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถอนหายใจ 

"ฮิซาชิ ... ผมค้างที่นี่ได้ไหม?"

" ยิ่งกว่ายินดีซะอีก ฮาราโนะซามะ!"

" อย่าเรียกผมว่า ซามา (คุณ) เลย พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว !"

"อ่า ... ผมมีความสุขมาก!"

โอตาคุทั้งสองคนจับมือกันและกัน

 

By ZetTransation

ติดตามอัพเดทและแนะนำการแปลได้ที่นี่นะครับ

 

รีวิวผู้อ่าน