ตอนที่ 23 ลดให้ก็ได้
ก่อนเข้าสู่ยุคอันทรหด โลกเคยเป็นสถานที่ที่วุ่นวายมาก่อน คนมักพูดกันว่า ‘ความรักนั้นราคาถูกและซื้อได้ด้วยเงิน’
เมื่อก่อน...มันอาจเป็นแค่คำบ่นทั่วไป แต่ใครจะคิดว่าเงินซื้อความรักได้จริงในยุคนี้
ผู้หญิงทุกคนที่ถูกขายโดยหญิงชราล้วนมาจากเขตพัฒนา พวกหล่อนไม่ใช่ทาสหรือตัวประกันที่ถูกบังคับ แต่พวกเธอมาด้วยความเต็มใจเพราะอยากได้ชีวิตที่มั่นคงและสงบสุข และด้วยความที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนต่างด้าวจึงต้องเข้าเขตปกครองพิเศษที่เก้านี้อย่างถูกกฎหมายโดยการแต่งงานหรือถูกขาย ไม่ฉะนั้นหากโดนจับได้ต้องถูกส่งกลับ
ฉีหลินเดินไปมาเกือบสิบนาทีก่อนถามหญิงชรา “หญิงจีนสองคนนี้มีครอบครัวไหม?”
“ไม่มี” หญิงชราตอบทันที
“คุณรู้หรือเปล่าว่าผมทำงานอะไร?” ฉีหลินขมวดคิ้วถาม
หญิงชรากะพริบตามองอย่างสงสัย
“อย่าหลอกผม ตอบมาตามตรงว่าพวกหล่อนมีครอบครัวไหม?” ฉีหลินถามต่อ
หญิงชราชั่งใจก่อนกล่าวตอบ “โอ้ ฉันคงลืมไป…ใช่ สองคนนี้มีครอบครัวแล้ว...แต่อยู่ที่เขตพัฒนา”
“งั้นผมขอผ่าน” ฉีหลินส่ายหัว “ไม่งั้นมีปัญหาทีหลังแน่”
“...ลองดูคนอื่นก่อนสิ”
“หญิงรัสเซียคนนั้นชื่ออะไร?” ฉีหลินเอ่ยถาม
“เบลล่า” หญิงชราตอบพลันชูนิ้วโป้ง “พ่อหนุ่มคนนี้รสนิยมดีจริงๆ ผิวสวยสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร...หากได้ไปอยู่ด้วยรับรองมีความสุขแน่นอน”
“เธอพูดภาษาจีนได้ไหม?”
“เธอเติบโตในเขตพัฒนาใกล้กับเขตปกครองพิเศษที่เก้า เธอเก่งภาษาจีนกว่าฉันซะอีก...รับรองว่าไม่มีปัญหาแน่นอน”
“งั้นผมเลือกเธอ” ฉีหลินพยักหน้า “เท่าไหร่ครับ?”
“แปดพัน” หญิงชราตอบทันที
เมื่อได้ยินราคา ฉีหลินกวักมือเรียกฉินอวี่และแมวเฒ่าพร้อมกล่าว “กลับกันเถอะ”
ฉินอวี่และแมวเฒ่าตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนเดินตามฉีหลินไป
“เดี๋ยวพ่อหนุ่ม ทำไมใจร้อนนักล่ะ? ฉันยังพูดไม่จบ” หญิงชราเรียกทั้งสามกลับมา “คุยกันก่อน ฉันลดให้ได้อีกสิบเปอร์เซ็นต์”
“ราคาแปดพัน...แบบนี้มันปล้นกันชัดๆ” ฉีหลินตอบอย่างไม่แยแส “ผมไม่มีเงินจ่ายขนาดนั้นหรอก”
“ฉันลดให้หนึ่งพัน” หญิงชราพุ่งเข้าคว้าแขนฉีหลินไว้พลันกล่าวเสริม “พ่อหนุ่ม...พวกหล่อนไม่มีบัตรคนต่างด้าว ฉันเสียเงินไปเยอะกว่าจะได้มา...ลดให้มากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ”
“สามพัน”
“พูดเป็นเล่น...สามพันคงให้ได้แค่ขาเท่านั้นแหละ” หญิงชรากลอกตา
“งั้นไม่เป็นไร”
“เฮ้ๆ ทำไมจ้องจะกลับอย่างเดียวเลยล่ะ?” หญิงชราเริ่มวิ่งตาม “ฉันลดให้มากสุดได้แค่หกพันแปดร้อยดอลลาร์ เพราะเงินที่ฉันจ่ายไปนั้นสามารถเลี้ยงดูพวกเธอได้ถึงสองเดือน!”
“ผมมีแค่สี่พันห้าดอลลาร์ ถ้าคุณโอเคก็ยื่นหมูยื่นแมว” ฉีหลินกล่าว “แต่มีข้อแม้ ถ้าเธอหนีกลับมาภายในสองวันอย่าโทษผมแล้วกัน”
“ไม่เอา เงินสี่พันห้าซื้อได้แค่คนแก่อย่างฉันเท่านั้นแหละ” หญิงชรากล่าวพลันโบกมือปัด “ถ้าอยากกลับก็กลับ ฉันลดราคาให้ได้แค่หกพันแปด!”
พอหญิงชราพูดจบ ฉีหลินก็เดินออกไปพร้อมกับฉินอวี่และแมวเฒ่าทันที
ไม่กี่นาทีต่อมา หญิงชราก็วิ่งตามหลังเข้าจับแขนของฉีหลินอีกครั้งพลันตะโกนอย่างหอบเหนื่อย “ก็ได้! เห็นแก่ความจริงใจของนาย ฉันจะลดให้เหลือสี่พันห้า! กลับไปคุยกันก่อนเถอะ”
หลังต่อรองอยู่นานก็ตกลงกันได้ในที่สุด เบลล่า...หญิงรัสเซียที่ฉีหลินอยากได้ รับรู้บทสนทนาทั้งหมด
…
สองทุ่ม...แมวเฒ่าขับรถพาทั้งสามคนกลับเมืองซ่งเจียง
ระหว่างทาง ฉินอวี่มองสำรวจเบลล่าที่เนื้อตัวมอมแมมก่อนถามฉีหลินด้วยรอยยิ้ม “นายจะจัดงานแต่งงานไหม?”
“ฉันจะเอาเงินที่ไหนมาจัด” ฉีหลินส่ายหัว “พาเพื่อนไปเลี้ยงฉลองนิดหน่อยก็พอ”
“เมื่อไหร่?”
“พรุ่งนี้” ฉีหลินครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “ฉันจะบอกคนในทีมด้วย”
“เข้าท่า...ตามนั้นแล้วกัน” หลังผ่านเรื่องวุ่นวายมาทั้งวัน แมวเฒ่าเริ่มรู้สึกเหนื่อย เขาหันกล่าวกับเบลล่า “ถึงจะซื้อเธอมา แต่เพื่อนฉันเป็นคนดี เขาจะไม่ทำร้ายเธอ เพราะงั้นช่วยดูแลเขาให้ดีด้วย”
ตลอดการพูดคุย เบลล่าเอาแต่ก้มเอาผมปิดหน้าและตอบกลับเบาๆ “ร...รับทราบค่ะ”
“เอาล่ะ...ทั้งสองคนไปได้แล้ว” แมวเฒ่าโบกมือให้ฉีหลิน
เมื่อร่ำลากันเสร็จ แมวเฒ่าและฉินอวี่ก็ปล่อยให้ฉีหลินลงจากรถพร้อมผู้หญิงที่เพิ่งซื้อมา
ท่ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยหิมะ ฉีหลินเดินนำเบลล่าด้วยความเขินอายและหัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา
กระทั่งผ่านไปไม่นาน เบลล่าพลันเอ่ยถาม “คุณช่วย...เดินช้าลงหน่อยได้ไหมคะ? พอดีรองเท้าของฉันพัง...เลยรู้สึกเจ็บเท้านิดหน่อย...”
ฉีหลินหันมองหญิงสาวพลันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนถาม “ให้ฉันอุ้มไหม? เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”
หญิงสาวยืนนิ่งด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยก่อนดึงแขนเสื้อฉีหลิน “ ฉ…ฉันหิว”
“ฮ่าๆๆ” ฉีหลินหัวเราะก่อนคุกเข่าลง “ขึ้นมาเลย...กลับไปกินข้าวที่บ้านกัน”
…
คืนนี้...ดูเหมือนแมวเฒ่าจะออกไปเตร็ดเตร่ที่ไหนสักแห่ง เขาไม่ได้ขอไปบ้านฉินอวี่อย่างเคย แต่ทว่าขอไปที่อื่นแทน
กว่าฉินอวี่จะถึงบ้านก็ปาไปสองทุ่มแล้ว เขาตั้งใจจะต้มน้ำไว้และออกไปซื้อของกิน แต่กลับนึกได้ว่าให้ฉีหลินยืมเงินไปพันสามและเหลือแค่สองร้อยดอลลาร์ไว้ใช้จ่ายตลอดทั้งเดือน จึงทำได้เพียงบ้วนปากและเข้านอน
ณ เวลาสามทุ่ม
ขณะกำลังนอนอยู่บนเตียง ฉินอวี่ได้ยินเสียงตะคอกด้วยความโมโหของหลินเหนียนเล่ย “พวกนายทำบ้าอะไร? ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
ฉินอวี่รีบลุกสวมเสื้อโค้ตและชะโงกดูหน้าต่างทันทีที่ได้ยินเสียงเอะอะเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
หลินเหนี่ยนเล่ยยืนอยู่หน้าบ้านชี้ไปยังชายร่างท้วมสามคนที่ยืนอยู่ตรงทางเข้า ทั้งสามเดินไปมาเพื่อพยายามเข้าหาเธอ
“สาวน้อย...ไม่รู้จริงๆ เหรอว่ากำลังแส่เรื่องของใครอยู่? เคยเตือนไปครั้งหนึ่งแล้วยังไม่ยอมฟังอีก?” ชายหัวหน้าแก๊งลูบเคราก่อนยื่นมือออกไป “ส่งกล้องมา”
“กล้องไม่ได้อยู่กับฉัน...ถ้าพวกนายเข้ามาอีกก้าวเดียว ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
“ไม่นะ...กลัวจังเลย!” หัวหน้าแก๊งทำท่าเยาะเย้ยใส่หลินเหนียนเล่ย “โทรเลยสิ ฉันมีเพื่อนเป็นผู้หมวดหยวนเค่อ เอาสิ! โทรตอนนี้เลย กำลังอยากเจอเพื่อนรักอยู่พอดี”
หลินเหนียนเล่ยผงะ
ฉินอวี่กำลังจะออกไปช่วยหลินเหนียนเล่ย ทว่าต้องชะงักเมื่อได้ยินชื่อของหยวนเค่อ
‘ปัง!’
ทันใดนั้น มีชายหนุ่มอายุราวสิบหกปีสวมเสื้อโค้ตเดินออกมาพลันตะโกนลั่น “ดึกดื่นขนาดนี้แล้วแหกปากกันอยู่ได้!”
………………………………….