หลังจากออกจากโรงเรียน เซอิจิก็เดินไปยังสถานที่ก่อสร้างเมื่อวานและขึ้นรถที่แกงค์ จูมอนจิ เป็นเจ้าของ
เมื่อมาถึงที่พักของพวกเขา เขาได้เข้าไปยังห้องศึกษาของ มิชิโระ จูมอนจิ อีกครั้งและเริ่มเล่าเรื่องราวที่เขาเตรียมมาไปให้กับ มิชิโระ เพื่อให้แกงค์จูมอนจิ สามารถเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันได้ เซอิจิไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก
ขณะที่มิชิโระ จูมอนจิมีสีหน้าซาบซึ้ง เซอิจิก็มีโอกาสที่จะขอความช่วยเหลือจากเขาและไม่ได้คิดถึงเรื่องของ มิชิโระ มากเท่าไรที่เขาตอบรับอย่างรีบเร่งแบบนั้น
นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ในความเป็นจริงการดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น สิ่งนี้ทำให้ เซอิจิ รู้สึกแปลก ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้
มิชิโระ จูมอนจิ เป็นบอสมาเฟียและแม้ว่าเขาจะปฏิบัติกับ เซอิจิ อย่างสุภาพ แต่มันก็ควรเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างแอบซ่อนอยู่เบื้องหลังคำขอนี้ เซอิจิ ไม่ได้คิดเอาไว้ว่า มิชิโระ จะยอมรับได้อย่างง่ายดายแบบนี้
แม้ว่าเซอิจิจะคิดว่ามันแปลก แต่เขาไม่ได้แสดงสีหน้าไม่ดีบนใบหน้าของเขา ตราบใดที่ มิชิโระ เห็นด้วย เซอิจิก็ถือว่าภารกิจของเขาประสบความสำเร็จ
หลังจากนั้น มิชิโระ เชิญ เซอิจิ ไปทานอาหารเย็น แต่ เซอิจิ ปฏิเสธโดยบอกว่าเขายุ่งอยู่
ด้วยความแปลกใจอีกครั้ง มิชิโระไม่ได้คัดค้าน ทั้งหมดที่เขาทำก็คือการพูดประโยคที่เต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้งขณะที่พวกเขาแยกทางกัน
"ในอนาคต ข้าหวังว่า ... ฮารุตะซามะ จะดูแลลูกสาวและลูกชายของข้าและให้คำแนะนำพวกเขาเยอะๆ"
เซอิจิไม่เข้าใจความหมายอันลึกซึ้งอยู่เบื้องหลังประโยคนี้
ช่างมันเถอะ มันก็เรียบร้อยแล้วตราบเท่าที่มิชิโระยอมที่จะช่วยเหลือ
"ประธาน แกงค์จูมอนจิ ได้ตกลงที่จะช่วยพวกเรา"
เซอิจิโทรไปหาประธานเพื่อรายงานผล ในขณะที่เดินไปที่ร้านขายขนมหวาน
"ไม่มีปัญหาอะไรเลย ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจริงๆ ... ถึงแม้ว่าบอสมาเฟียจะมีท่าทีแปลกหน่อย ๆ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่น่ากังวล ผมยอมรับความซาบซึ้งของคุณ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรที่สุดยอด แค่รับไป เพื่อตอบแทนที่เคยช่วยเหลือผม "
' เอาละ เราก็ปล่อยเรื่องนี้ไปก่อนแล้วกัน ' เซอิจิจิงวางโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างสบายใจ
ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ นัทสึยะ ผู้ที่ยังอยู่ในห้องสภานักเรียน ตรงกันข้ามกับการผ่อนคลายอย่างสิ้นเชิง
ปัญหายุ่งยากที่เธอเจอก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้รับการแก้ไขจากเด็กผู้ชายที่เพิ่งโทรหาเธอ ตราบใดที่เธอสามารถสร้างยันต์จำนวนมาก มันเป็นไปได้ที่จะเพิ่มความสามารถของอาคมตรวจสอบ เธอจะสามารถจับบริวารประทับวิญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ !
"ฉันติดหนี้เขาครั้งใหญ่ ... "
หญิงสาวที่มีผมสีดำเงายาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สงวนไว้สำหรับประธานสภานักเรียน ตอนนี้เธอมีสีหน้าที่ต่างออกไปในท่าทีท้อแท้
แม้ว่าเซอิจิฮารต้าทำเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา และบางทีสำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากเลย นัทสึยะให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือของเขาด้วยเรื่องนี้เธอติดหนี้เขาก้อนใหญ่
ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของเซอิจิและด้วยสถานการณ์ปัจจุบันนัทสึยะจถถูกบังคับให้ใช้แผนสุดท้าย นอกจากนั้นเธอยังไม่มีวิธีการอื่น ๆเลย แม้ว่าเธอจะใช้ ไพ่ใบสุดท้ายมันก็ยังมีโอกาสที่จะล้มเหลว
ถ้าสถานการณ์ยังดำเนินไปแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ผลสุดท้ายอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อนัทสึยะและบริวารประทับวิญญาณทั้งสองคน ฮิทากะและรานะ .... และจบลงด้วยผลลัพธ์อันน่ากลัวที่นัทสึยังไม่กล้าคิดเรื่องนี้
ดังนั้นไม่ว่า เซอิจิ ฮารุตะ จะมองเรื่องนี้ยังไง มันก็ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือเล็กๆในสายตาของนัทสึยะ โยรุฮานะ
การให้เงินเขาเป็นวิธีที่ตรงที่สุด แต่ทายาทคุณหนูผมดำผู้แสนสุภาพกลับมองว่ามันเหมือนเป็นการดูถูกเขา
ถ้า เซอิจิ ฮารุตะ ต้องการเงิน เขาน่าจะขอมันไปแล้วด้วยการที่เขาเป็นคนตรงๆ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ขอเงินหรืออะไรอื่นซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาได้ช่วยเธอเพื่อมิตรภาพจริงๆ
นัทสึยะต้องการตอบแทนความจริงใจของเขาด้วยตัวเอง
ดังนั้นตอนนี้เธอถึงได้ทำหน้าเหมือนเจอปัญหายุ่งยากอยู่ในตอนนี้
นับตั้งแต่เกิด นัทสึยะ โยรุฮานะ ที่สวยงาม ฉลาด สูงส่ง และ ยังเป็นประธานสภานักเรียน ไม่เคยมีประสบการณ์กับตัวตนของเด็กผู้ชายจริง ๆ !
เธอจะตอบแทนเด็กผู้ชายผู้ที่ให้ความช่วยเหลือเธอมากเช่นนี้ได้อย่างไรดี? เธอต้องการให้ของขวัญที่ไม่ใช่ของเดิมๆซ้ำซาก ต้องทำให้เขารู้สึกยินดีแลำแสดให้เห็น ; หนึ่งที่จะทำให้เขายินดีและยังแดงให้เห็นถึงความซาบซึ้งและความจริงใจของเธอ ... การให้ของขวัญด้วยความจริงใจเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคิดถึงมันมมาก่อนเลย !
"ฮิทากะบอกชั้นที ชั้นจะตอบแทนเค้ายังไงดี ?" หลังจากผิดหวังในการแก้ปัญหานี้สักพัก เธอก็ได้ขอคำแนะนำจากเด็กสาวผมแดงข้างๆเธอ
ฮิทากะ ชูโฮ ได้จ้องมองอย่างว่างเปล่าไปที่ นัทสึยะ
' ดีมาก ! เพื่อนของชั้นและบริวารประทับวิญญาณมีประสบการณ์น้อยกว่าชั้นซะอีกในเรื่องนี้ ! ฉันเป็นคนงี่เง่าจริงๆที่พยายามถามเธอ 'นัทซึยะบ่นอยู่ในใจ
แต่จริงๆแล้วเธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ... เธอควรจะส่งกองสินค้าโอตาคุไปเป็นของขวัญดีไหม ?
ในท้ายที่สุด นี่เป็นความคิดที่ดีที่สุดที่เธอพอจะนึกออก
'ลืมมันไปก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาคิดมันภายหลัง ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างยันต์ให้มากที่สุด! '
ในที่สุดนัทสึยะก็เลือกที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาของเธอไปก่อนในขณะนี้
...
หลังจากทำงานเสร็จแล้วเซอิจิก็กลับบ้าน
เขาไม่ได้เห็น โฮชิ อามามิ ในที่ทำงานวันนี้ แต่ เซอิจิ ไม่ได้คิดอะไรมากเลยเพราะเขาคิดว่ายังไงซะพวกเขาคงจะพบกันอีกไม่ช้าก็เร็ว
ในอพาร์ทเม้นของเขาหลังจากใช้ตัวเลือก [เขียนไดอารี่] และ [วาด] เหมือนตาามปกติ เซอิจิ ใส่หน้ากากของเขาและ โปรแกรมไลฟ์สตรีมของเขา
"ปลารักแมว" เข้าร่วมสตรีมของเขาในทันที
เธอทักทายเขาทันทีด้วยความความยาวๆและ อีโมตีคอนที่แสดงอารมณ์โกรธและงอน
เซอิจิ หัวเราะเบา ๆ
"เมื่อคืนนี้หายไปไหนมา!? สตรีมเมอร์งี่เง่า ! สตรีมเมอร์โง่!" ข้อความเป็นชุด มีสีสันมากมาย ปรากก็บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเซอิจิ
" ถ้าให้อธิบายมันก็ยาวเลย เมื่อวานนี้ผมมมีเรื่องมากมมาย เกิดหลายๆอย่างขึ้นมาแบบปุปปัปที่โรงเรียน ก่อนที่ผมจะจบลงด้วยการถูกเชิญไปที่บ้านมาเฟียเพื่อพูดคุย และ สุดท้ายผมก็กอยู่ในสงครามอันโหดร้าย ผมไม่มีเวลาว่างเลย!"
'อ๋อ ผมไม่ได้โกหกเลยนะ ! สงครามมอันโหดร้าย นั่นคือ การเล่นเกมส์ทั้งคืนที่ผมเล่นกับ ฮิซาชิ จูมอนจิ ผมเป็นคนซื่อสัตย์ "เซอิจิยกย่องตัวเองอยู่ในใจ
" นายก็แค่แต่งเรื่องเท่านั้นละ !!!"
เขาได้เผชิญหน้ากับเครื่องหมายอัศเจรีย์หลากสี ผสมกับข้อความเป็นชุดกับอีโมคอนโกรธและงอน
' เฮ้อ ทำไมไมไม่มีใคเชื่อความจริงบนอินเตอร์เน็ตกันน้า?'
เซอิจิ แกล้งทำเป็นเจ็บปวด
"ฉันไม่ได้โกหก - ทำไมคุณไม่เชื่อผมบ้างเลย ? "
"ใครจะเชื่อ! ฮึ่ม นายลืมเวลาตอนที่เล่นเกมส์กับบางคนอยู่ และ บังเอิญว่ามันลากยาวไปทั้งคืน !"
ความพูดที่สว่างไสวลอยมาบนหน้าจอของเขาเห็นผ่านความจริงครึ่งนึง
" ผมขอโทษด้วย แต่คุณไม่ได้ผิดทั้งหมด ปลาบินแสนสวย ... " เซอิจิกระดิกนิ้วผ่านเว็บแคมและทำท่าทางเท่และหยิ่ง
"ผมไม่ลืมเวลาและไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ มันเป็น ... ผมได้รู้จักกับเพื่อนโอตาคุที่ร่ำรวยคนใหม่และจงใจที่จะค้างคืนกับเขา !"
เขาเปิดเผยความลับของเขา
"ไปลงนรกซะ-!"
ข้อความหลากสีได้ส่งมาไมม่หยุดและอีโมติค่อนโต้ตอบนับถ้วนเต็มมหน้าจอของเขา
เซอิจิ หัวเราะออกมาดัง ๆ
นับตั้งแต่ที่เขาเริ่มเล่นสตรีมมิ่งไลฟ์สด มันก็ถึงหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เขาได้พบกับผู้ชมที่น่ารักคนนี้
เขาได้กลายเป็นเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตกับเธอแล้ว
นอกเหนือจากสตรีมมิงไลฟ์สดพวกเขายังได้พูดคุยกันเป็นครั้งคราวในการส่งข้อคววามโต้ตอบกัน แม้ว่าพวกเขาไม่ได้คุยกันบ่อยนัก เซอิจิรู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเข้ากันได้ดี
เขาไม่แน่ใจว่าเธอรู้สึกเช่นนั้นหรือไม่ แต่การตัดสินจากคำพูดของเธอดูเหมือนมันจะเป็นไปได้สูง
ถ้าเป็นในชีวิตจริงพวกเขาอาจกลายเป็นเพื่อนสนิทกันกได้ แต่นี่เป็นอินเทอร์เน็ต
เธอดูเหมือนจะตั้งใจที่จะไม่เข้าใกล้เขามากกว่านี้และเซอิจิก็ร่วมมือในการทำเช่นเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาแค่คุยกันเกี่ยวกับงานอดิเรกของพวกเขา ข่าว และ สิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ
ไม่ว่ายังไง เธอก็เพื่อนเพื่อนน่ารักบนอินเตอร์เน็ต แต่ในตอนท้าย เธอก็เป็นเพื่อนทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น
อืม ... เท่านั้น ... ?
พูดตามตรง เซอิจิ ได้พิจารณาความเป็นไปได้อื่นแล้ว
บางที ... ผู้หญิงคนนี้ที่อยู่เบื้องหลังหน้าจอ จริงๆ ... เป็นคนที่เซอิจิคนก่อนรู้จัก !
เพราะพวกเขานั้นเข้ากันได้อย่างน่าทึ่งกับอีกฝ่าย !
นับตั้งแต่เพลง "หอยทากและนกกระจอก" เพลงเก่า ๆ หนังการ์ตูนอนิเมะเกมและทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่วัยเด็ก - สิ่งที่พวกเขาชอบและเกลียด - เหตุผลในการชื่นชอบและเกลียด ... ทุกรายละเอียดดูเหมือนจะเหมือนกัน
ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมห้องในวัยเด็กที่แยกจากกันและบังเอิญเจอกันอีกครั้งบนอินเทอร์เน็ตหลังจากโตขึ้น
ในทะเลที่เต็มไปด้วยผู้คนในนี้ การพบกับบางคนที่สนใจเหมือนกันกับคุณ ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้
แต่ก็ไม่ได้หมายถึงคนสองคนที่รู้จักกันและกัน เติบโตในสภาพแวดล้อมเดียวกนและเล่นด้วยกันแบบนี้ ? พวกเขาเห็นและชอบสิ่งเดียวกันและเกลียดสิ่งเดียวกันด้วยกัน ...มันจะเป็นไปได้งั้นเหรอ ?
ความเป็นไปได้สองข้อใด ที่เป็นไปได้มากที่สุด?
' เฮ้ , ปลารักแมว พวกเรารู้จักกันจริงๆรึเปล่า ? ผมขอถามชื่อในชีวิตจริงของคุณได้ไหม ? เซอิจิคิดกับตัวเอง
By ZetTransation
ติดตามอัพเดทและแนะนำการแปลได้ที่นี่นะครับ