TFS 33: การแสดงความแข็งแกร่ง (ตอนที่ 3/3)
ฉินเฟิน มองดูทหารอีกคนหนึ่งเดินไปข้างหน้า มองหาความท้าทายของ หัวหน้าหน่วยฮ่าว เขาส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้คนอาจคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ แต่ก็ไม่ควรคิดแบบนี้ หัวหน้าหน่วยนี้ไม่ใช่คนง่ายที่จะรับมือ
เมื่อฉินเฟินจบรอบที่สิบสองของเขา การรับสมัครคนที่สองเพื่อท้าทายหัวหน้าหน่วยฮ่าวก็พ่ายแพ้ในที่สุด
แม้ว่าทหารเกณฑ์จะยังเด็กและยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่ หัวหน้าหน่วยฮ่าว เอาชนะทหารเกณฑ์สองคน หอบหายใจตลอดเวลา แต่ผู้คนเริ่มสงสัยว่าเขาเป็นเสือปลอมตัว มองหากินหมู
“ควรจะถึงตานายแล้ว จินขุย” หัวหน้าหน่วยฮ่าว ชี้ไปที่ทหารเกณฑ์คนอื่น ยิ้มกว้าง
ศิลปะการต่อสู้เป็นที่แพร่หลายและเป็นที่นิยมในสังคมปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมกองทัพมีร่างกายที่แข็งแรง พวกเขาทั้งหมดถือได้ว่ามีร่างกายที่แข็งแรงและแข็งแรง คล้ายกับมีหลังเสือและเอวของหมี จินขุยเป็นคนพิเศษแม้ว่า ร่างของเขาไม่สามารถพูดได้ว่าเขามีรูปร่างผิดปกติ แต่เขามีไขมันเล็กน้อยในตัวเขา เขาสูงร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร และหนักหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าปอนด์
“รายงานตามคำสั่งครับท่าน ฉัน… ฉันควรไปเข้าร่วมในตัวเลือกแรกของการฝึก” จินขุยพูด ขาดความมั่นใจ
หัวหน้าหน่วยฮ่าว มองไปที่ จินขุย ด้วยท่าทางผิดหวัง “นายทำให้ฉันผิดหวังอย่างมาก ในฐานะทหาร คำพูดมีน้ำหนักมหาศาล นายมุ่งมั่นที่จะท้าทายฉัน ดังนั้นนายต้องเคารพในคำมั่นสัญญาของนาย หากนายยืนยันที่จะทำตัวเลือกแรกสำหรับการฝึกทหาร ฉันจะต้องเพิ่มปริมาณการฝึกของนายเป็นสองเท่าเพื่อเป็นการลงโทษสำหรับการฝ่าฝืนคำมั่นสัญญาของนาย”
สองเท่า? ไขมันบนใบหน้าของ จินขุย กระตุกเล็กน้อย โปรแกรมการฝึกอบรมนั้นนานพอแล้ว ถ้ามันเพิ่มเป็นสองเท่า มันก็เหมือนกับการโยนเขาลงน้ำเพื่อว่ายกับปลา
การเกณฑ์ทหารคนอื่น ๆ ของหน่วยที่สองที่ท้าทายหัวหน้าหน่วยฮ่าว ก็รู้สึกว่าพวกเขาเข้าร่วมการหลอกลวงร่วมกัน หัวหน้าหน่วยฮ่าว อ้าปากค้างต่อหน้าต่อตา ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวยิ่งกว่าผู้นำกลุ่มอื่น ๆ ที่แสดงลักษณะที่ดุร้าย
“ฮ่าๆๆๆ….”
หัวหน้าหน่วยของหน่วยที่หนึ่งและหน่วยที่สามปิดท้องของพวกเขาขณะที่พวกเขาตะโกนด้วยเสียงหัวเราะอย่างเต็มอิ่ม
“ท่านหัวหน้าหน่วยเฒ่า ยังซนเหมือนเดิม"
“ท่านหัวหน้าหน่วย ท่านสมัครเพื่อรับมอบอำนาจที่นี่หลายครั้งมาก เป็นการล้อเล่นกับทหารใหม่หรือ?”
“พวกหัวนม นายโดนหลอกมาหมดแล้ว อย่ามองว่าหัวหน้าหน่วยเฒ่าหน้าตาดีขนาดไหน เขาล้อเล่นเหมือนในสมัยก่อน เขาเมาเราค่อนข้างดี”
"ถูกตัอง. เขาดูมีอัธยาศัยดีเพราะเขาต้องการให้นายคิดว่านายสามารถรังแกเขาได้ง่าย พวกนายโดนแน่!”
ผู้ชายยิ้มกว้างแต่เจตนาร้าย? นี่คือความคิดที่แวบเข้ามาในหัวของ หน่วยสอง
เติ้งเปียว กำลังวิดพื้นอยู่บนพื้น เขามองไปที่ ฉินเฟิน ซึ่งเกือบจะเสร็จแล้วด้วยสายตาที่อิจฉา มันเลยกลายเป็นข้อดีของการเป็นคนขี้ขลาด อย่างน้อยคนขี้ขลาดจะไม่ถูกคนอื่นโกง
————-
พลบค่ำล่วงไป และแสงตะวันที่ลับขอบฟ้าก็ทอแสงลงสู่ผิวมหาสมุทร ภาพสะท้อนเป็นระลอกคลื่นคล้ายกับการเต้นของยูนิคอร์น
ทหารเกณฑ์จำนวนไม่น้อยยังคงเสร็จสิ้นภารกิจการฝึกอบรมของวันนี้ ฉินเฟิน ยืนอยู่ที่ราวบันไดของเรือ ทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว เขามองไปไกลสุดปลายมหาสมุทร
เขาเป็นส่วนหนึ่งของทหารเกณฑ์กลุ่มแรกเพื่อรับประทานอาหารเย็น โดยปกติ มันค่อนข้างดีสำหรับผู้จ้างคนหนึ่งที่จะทำสิ่งนี้จากทีม กองร้อยที่สอง หมวดที่หนึ่ง กองร้อยที่สาม กองพันที่สองมีทหารเกณฑ์สองคนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของชุดอาหารเย็นชุดแรก ทำให้ครูฝึกบางคนตกใจเล็กน้อย
ผู้เข้ารับการฝึกอบรมคนอื่นๆ ที่เสร็จสิ้นการฝึกพร้อมกับ ฉินเฟิน คือ ตู้เฟิง เขายืนอยู่ไม่ไกลจากราวบันไดเรือเช่นกัน พวกเขากำลังรอให้หัวหน้าหน่วยฮ่าว ปรากฏตัว
นี่เป็นข้อความที่พ่อครัวซึ่งบรรจุอาหารไว้เต็มตู้ พูดย้อนกลับไปในช่วงเวลาของ ถ่ายทอดคำพูดของหัวหน้าหน่วยฮ่าว
“ตอนเย็นนะทั้งสองคน”
เสียงของหัวหน้าหน่วยฮ่าว ฟังดูใจดีและมีเมตตาตามปกติ แต่ ฉินเฟิน รู้สึกถึงคำพูดเก่า ๆ ว่า 'ระวังคนน่าสงสัยที่มีของขวัญมาให้ พวกเขาคงมีเจตนาไม่ดี' เมื่อหัวหน้าหน่วยฮ่าว พูด
“สวัสดีครับหัวหน้าหน่วย”
การแบกรับทางทหารของตู้เฟิงเป็นเหมือนมาตรฐานมากกว่าของฉินเฟิน เขาเป็นเหมือนมืออาชีพที่ช่ำชองซึ่งรับใช้มาหลายสิบปี
"สวัสดี." หัวหน้าหน่วยฮ่าวกลับมาพร้อมคำนับ “ตู้เฟิง นายมาจากครอบครัวทหารหรือเปล่า”
“รายงานตามคำสั่งครับท่าน! ฉันมีครอบครัวที่รับราชการทหารครับท่าน!” คำพูดของตู้เฟิงมีความแม่นยำทางกลไก เผยให้เห็นรัศมีของทหารที่โดดเด่น
นั่นเอง! หัวหน้าหน่วยฮ่าวหัวเราะ ไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับทหารเกณฑ์คนนี้อีกต่อไป ซึ่งอาจมาจากครอบครัวทหาร เขาโบกมือ “ไปได้แล้ว”
"ใช่! ท่าน!"
“นายชื่อ ฉินเฟิน ใช่ไหม” รอยยิ้มของหัวหน้าหน่วยดูน่ารักกว่าเมื่อก่อน แต่ ฉินเฟิน อยากจะเอาหางยาวไว้ข้างหลัง หัวหน้าหน่วยฮ่าว จริง ๆ นะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ด้วยวิธีนี้ หัวหน้าหน่วยฮ่าว จะสอดคล้องกับอารมณ์เจ้าเล่ห์ของเขามากขึ้น
"ครับท่าน!"
ฉินเฟิน ไม่สามารถเปรียบเทียบกับ ตู้เฟิง ได้เมื่อพูดถึงการแบกรับทางทหาร แต่เขาได้ศึกษาว่าทหารควรปฏิบัติตนอย่างไรอย่างเหมาะสม ทุกอย่างที่เขาทำในวันนี้จะรวมอยู่ในบันทึกการประเมินการให้คะแนนของเขา ยิ่งคะแนนสูงเท่าไหร่ สิ่งของที่เขาได้รับก็จะยิ่งดีขึ้นเมื่อเขาเกษียณจากเกณฑ์ทหาร เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด
“ไม่ต้องเครียดขนาดนั้น” หัวหน้าหน่วยฮ่าวกระโดดเบา ๆ นั่งบนราวบันไดของเรือ เขายิ้มขณะพูดว่า “ฉันมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับนายมาก”
“ขอบคุณครับ!” ฉินเฟิน คาดเดาความลับของเจตนาของ หัวหน้าหน่วยฮ่าว เขาถูกเรียกตัวว่าหัวหน้าหมู่โดยหัวหน้าหมู่คนอื่นๆ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะหาคนเกณฑ์โดยไม่มีเหตุอันควร เขาต้องพูดอะไรมากกว่าแค่คำเหล่านี้
"ผ่อนคลาย. มาคุยกันราวกับว่าเราเป็นเพื่อนกัน” หัวหน้าหน่วยฮ่าวตบราวบันไดข้างเขา “มา! นั่งลง! มาคุยกันดีๆ”
ฉินเฟิน ไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆ เขานั่งบนราวบันไดของเรือ รอให้หัวหน้าหน่วยฮ่าว พูด
“ในความเห็นของฉัน นายควรจะเป็นนักสู้ที่เก่งที่สุดในบรรดาทหารเกณฑ์ในทีมของเรา” หัวหน้าหน่วยฮ่าวโบกมืออย่างแรง “นายไม่จำเป็นต้องคุยกับฉันในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาที่คุยกับหัวหน้าของเขา นี่คือการสนทนาระหว่างเราอย่างแท้จริง”
“ฉันถูกยกย่องมากเกินไป” ฉินเฟิน ส่ายหัวทันที เป็นการดีที่สุดที่จะระมัดระวังตัวเล็กน้อยเมื่อพูดคุยกับหัวหน้าหน่วย ชายที่มีรอยยิ้มกว้างและมีเจตนาชั่วร้าย
หัวหน้าหน่วยฮ่าวหัวเราะ แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธ ที่จริงแล้ว เขามองว่าตู้เฟิงเป็นนักสู้ที่มีความสามารถมากที่สุดในกลุ่มทหารเกณฑ์ เขาได้พูดสิ่งนี้กับ ฉินเฟิน เพื่อทำความเข้าใจเขา เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นว่าทำไม ฉินเฟิน เลือกที่จะฝึกฝนมากกว่าที่จะท้าทายเขาในช่วงเช้าของวัน
“ฉันมักจะดูแลคนที่ฉันมองโลกในแง่ดีเป็นพิเศษเป็นพิเศษเสมอ” หัวหน้าหน่วยฮ่าวหัวเราะ “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ทหารเกณฑ์ทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พลังของศิลปะการต่อสู้แนวดั้งเดิม และศิลปะการต่อสู้แนวใหม่สำหรับการฝึก นายสามารถพึ่งพาร่างกายในการฝึกฝนเท่านั้น”
“โอ้ เข้าใจแล้ว” สีหน้าของ ฉินเฟิน ไม่เปลี่ยนแปลง การฝึกอย่างวันนี้จะสำเร็จได้ไม่ยากเกินไป แม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้ทักษะปราณช้างมังกร
ความประหลาดใจเล็กน้อยปรากฏขึ้นจากดวงตาของหัวหน้าหน่วยฮ่าว การตอบสนองอย่างไม่เป็นทางการของ ฉินเฟิน นั้นเกินความคาดหมายเล็กน้อย
ปฏิกิริยาของ ฉินเฟิน ช้าหรือไม่ตระหนักถึงแรงโน้มถ่วงของสถานการณ์? หรือเขามีการ์ดอยู่บนแขนเสื้อของเขา? หัวหน้าหน่วยฮ่าว สังเกต ฉินเฟิน ในความเงียบ เขาทำได้แค่ลองสำรวจเพิ่มเติม “เพื่อพิจารณานาย ฉันตั้งใจจะต่อสู้เพียงลำพัง ถ้านายต้องการที่จะท้าทายฉัน ตราบใดที่นาย….”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ หัวหน้าหน่วยฮ่าว ก็ค้นพบบางอย่างผิดปกติกับวิธีที่ ฉินเฟิน มองเขาอยู่ เขาหยุดพยายามชักชวนฉินเฟินอย่างกะทันหัน และกลับถามด้วยความสงสัย “ว่าไง? มีอะไรหรือ?”
ฉินเฟิน เงียบไปครู่หนึ่ง เขากำหนดคำพูดของเขาเพื่อไม่ให้ขุ่นเคืองหัวหน้าหน่วย "ผู้เชี่ยวชาญระดับดาวตกจะมีโอกาสเอาชนะผู้เชี่ยวชาญระดับดาวหางที่มีมือเดียวได้หรือไม่"
“ไม่แน่นอน” การแสดงออกของหัวหน้าหน่วยฮ่าว เปลี่ยนไปทันทีที่เขาพูด เขาศึกษา ฉินเฟิน ด้วยสายตาแปลก ๆ
หัวหน้าหน่วยฮ่าวเป็นคนฉลาด ฉินเฟิน พูดถึงระดับดาวตกและระดับดาวหางอย่างชัดเจนเพราะเขาสามารถมองผ่านสถานะของหัวหน้าหน่วยฮ่าว ในการเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับดาวตกได้
“ดังนั้น” ฉินเฟินกระโดดลงจากราวบันไดของเรือ “เป็นไปได้อย่างไรที่นักรบสามดาวจะเอาชนะผู้เชี่ยวชาญระดับดาวตกได้?”