ตอนที่8 ปู่
สองวันต่อมาครอบครัวแอนเดอร์สันก็ขับรถไปที่ถนนชาร์ล ปู่และย่าของอัลเบิร์ตอาศัยอยู่ บ้านเลขที่21บนถนนชาร์ล
ครอบครัวแอนเดอร์สันใช้เวลาไปเยี่ยมทั้งสองคนทุกปี ในช่วงวันหยุดฤดูร้อนอัลเบิร์ตมักจะอยู่ที่นี่ประมาณสองสามวัน
"พ่อผมมาถึงแล้ว"
"อัลเบิร์ต มาๆให้ปู่ดูหน่อยเร็ว!" ลุคไม่สนใจลูกชายของเขาโดยสิ้นเชิง เขาก้าวไปข้างหน้าและจ้องมองที่หลานชายของเขา "เฮเบอร์บอกว่าหลานได้รับจดหมายจากฮอกวอตส์สินะ ถ้ามีอะไรอยากซื้อก็บอกปู่ได้เลยปู่จะซื้อให้หมดเลย ... "
*เฮเบอร์คือชื่อเต็มๆคือเฮิร์บ เฮิร์บคือการเรียกย่อๆคล้ายชื่อเล่นที่คนสนิทกันใช้เรียก
"พ่อครับผมพาอัลเบิร์ตไปซื้อของที่ตรอกไดแอกอนเรียบร้อยแล้วครับ" เฮิร์บมองไปที่พ่อของเขาอย่างช่วยไม่ได้กระแอมและพูดว่า "ผมยังเอาของขวัญมาฝากให้พ่อด้วยนะ"
"ฉันไม่ใช่เด็กๆแล้ว แกคิดว่าฉันยังอยากได้ของขวัญแบบไหนกัน" ลุคเหลือบมองลูกชาย แล้วจับมือเล็ก ๆของอัลเบิร์ตแล้วพูดว่า "เข้ามาในบ้านแล้วบอกปู่ว่าหลานเรียนรู้เวทมนตร์อะไรมาบ้างแล้วกันเถอะ"
“ฮ่าๆ ลุคตื่นเต้นมาหลายวันแล้วเหมือนเขากลับไปเป็นเด็กเลยแหละ ” ซานซ่ากล่าวกับเฮิร์บ “ เขาไม่เคยบอกฉันเรื่องนี้มาก่อนเลย ฉันเองก็เพิ่งรู้เมื่อ 2-3 วันก่อนนี่เอง อะ!ไม่ได้เจอกันนานเลยนีย่า หลานคิดถึงย่าหรือเปล่าจ๊ะ”
“คิดถึงค่ะ! คุณย่าคะพี่อัลเบิร์ตไม่ยอมให้หนูแตะไม้กายสิทธิ์ของเขาเลย เขามักจะทำเหมือนหนูเป็นขโมยตลอดเลย” นีย่ารีบฟ้องย่าของเธอทันที
"เฮิร์บดูทอมไว้นะ อย่าให้มันวิ่งไปมา" เดซี่หยิบห่อในรถและขอให้สามีใส่แมวไว้ในกรงแมว เธอกลัวว่ามันจะวิ่งหนีออกจากกรงแมวทันทีที่เขาออกจากกรง
“ อัลเบิร์ตสามารถใช้เวทมนตร์ได้จริงงั้นเหรอ?” ซานซ่าคิดว่าสิ่งนี้น่าสนใจมาก แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าหลานชายของเธอจะเป็นพ่อมดในตำนานจริงๆ
"ใช่ค่ะ พี่เขาทำให้ไม้กายสิทธิ์เปล่งประกายได้แถมยังแอบฝึกฝนอย่างลับๆในห้องทุกคืนเลย" นีย่าจับมือย่าของเธอและบอกว่า “ พี่เขายังบอกอีกว่าถ้าหนูเอาไม้กายสิทธิ์ไปเล่น หนูจะต้องทำให้บ้านระเบิดเป็นชิ้นๆแน่”
"แม่ครับ แม่ไม่รู้หรอกว่าไม้กายสิทธิ์นั่นอันตรายจริงๆนะขอบอก ... " เฮิร์บจับกรงแมวแล้วเดินตามพวกเธอไปข้างหลังโดยที่ยังคงนึกถึงสิ่งที่เขาเคยเห็นในตรอกไดแอกอน
"อัลเบิร์ตคิดว่าการลองใช้เวทมนตร์ตามอำเภอใจเป็นเรื่องอันตรายค่ะ" เดซี่เสริมขึ้น เพราะว่าเธอได้อ่านประวัติของเวทมนตร์และรู้ว่าส่วนหนึ่งของสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกเวทมนตร์และเธอยังคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกเวทมนตร์อยู่บ้าง
“ เดซี่มันอาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด”
“ ไม่ค่ะแม่จริงๆแล้วแม้แต่ในโลกของพ่อมดแม่มดเด็ก ๆ ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ถือไม้กายสิทธิ์ได้ง่ายๆ” เดซี่อยู่ข้างเดียวกับอัลเบิร์ตอย่างสมบูรณ์และลูกชายของพวกเขาก็ไว้ใจได้มาก
"คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน?" เฮิร์บถามอย่างสงสัย
"ถ้าคุณอ่านหนังสือพวกนั้นทั้งหมดคุณก็จะรู้" เดซี่มองสามีอย่างตำหนิ“ คุณช่วยใส่ใจอัลเบิร์ตหน่อยได้ไหม เขาเป็นลูกชายที่มีค่าของเรานะ!”
"ไม่ต้องกังวลหรอกเดซี่ อัลเบิร์ตไม่เคยทำให้เรากังวลตั้งแต่เขายังเด็กแล้ว" เฮิร์บรู้นิสัยของลูกชายเขาเป็นอย่างดีและอัลเบิร์ตก็ทำให้ทุกคนสบายใจอยู่เสมอ
“ ถึงอย่างนั้นคุณก็ควรสนใจหน่อยนะ” เดซี่หยิบของเข้าไปในบ้านและเปิดประตูเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น
หลังจากถูกขังตลอดทางทอมก็ถูกปล่อยออกจากกรงแมวและเริ่มวิ่งไปรอบ ๆ ซานซ่าและเดซี่ไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมขนมหวานและชาดำส่วนลุคกำลังฟังลูกชายและหลานชายของเขาพูดถึงตรอกไดแอกอน ถ้ามีส่วนไหนที่ขาดหายไป พวกเขาก็จะคอยเสริมซึ่งกันและกัน
แน่นอนลุครู้ว่าภาพเหมือนของพ่อมดที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ แน่นอนว่าเขารู้จักดัมเบิลดอร์
เขาใส่ช็อกโกแลตกบที่เฮิร์บนำมาใส่ขวดแก้วขนาดใหญ่และวางไว้ในห้องนั่งเล่นเพื่อเป็นของตกแต่ง
“ ตอนนั้นฉันเคยเขียนถึงดัมเบิลดอร์ด้วยซ้ำเพื่อที่จะถามว่าทำไมฉันถึงไม่ได้รับจดหมายเชิญ” หลายปีผ่านไปลุครู้สึกโล่งใจ“ เพราะฉันไม่มีความสามารถในใช้เวทย์มนตร์ ซึ่งเรียกกันว่าสควิบ ตอนฉันอายุสิบเอ็ดขวบ ฉันก็ถูกครอบครัวส่งตัวไปใน 1 ปีและถูกส่งให้ไปอยู่กับญาติห่างๆของครอบครัว”
"พวกเขาทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!" เฮิร์บทั้งสับสนและโกรธ เขารู้สึกว่าครอบครัวของพ่อเขาทำเกินไป
“ สควิบถือเป็นความอับอายของครอบครัวพ่อมด” ลุคกระซิบว่า "พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกปิดความลับนี้ให้มากที่สุดและทำเป็นว่าไม่มีคนแบบนี้ในครอบครัวของพวกเขา"
“คุณปู่ไม่เศร้านะคะ ไม่เศร้าๆ” นีย่าปลอบใจคุณปู่ของเธอ
"หลังจากผ่านไปหลายปีฉันได้ละทิ้งสิ่งเหล่านี้และฉันได้ตัดการติดต่อกับครอบครัวที่นั่นโดยสิ้นเชิง" ลุคอุ้มนิยาาขึ้นมาวางบนตักของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "อย่างไรก็ตามอัลเบิร์ตกลายเป็นพ่อมดได้อย่างน่าประหลาดใจ ปู่ประหลาดใจมากเพราะว่าเฮิร์บที่เป็นพ่อของหลานยังไม่ได้รับจดหมายเชิญเลย”
ในการพูดคุยเล็ก ๆ อัลเบิร์ตได้แสดงเวทมนตร์ใหม่ให้พวกเขาเช่นคาถาเรืองแสง คาถาซ่อมแซมและคาถาทำความสะอาดและคาถาปลดล็อก นี่คือเวทมนตร์ทั้งสี่ที่เขาเชี่ยวชาญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมาจากผลของการอัพเกรดทักษะสายเลือดพ่อมด ขึ้นเป็นระดับ2
แม้ว่าอัลเบิร์ตจะไม่เชี่ยวชาญมากนัก แต่มันก็น่าแปลกใจมากที่เห็นถ้วยชาที่แตกร้าวค่อยๆซ่อมแซมและน้ำชาที่เทลงบนโต๊ะจะแห้งไปเองโดยที่ไม่ต้องเช็ด
“ หนูก็อยากลองเหมือนกัน!” นีย่ามองไปที่ปู่ของเธออย่างอ้อนวอนและกระซิบว่า "หนูก็อยากลองใช้เวทย์มนตร์เหมือนกันนะคะคุณปู่ พี่อัลเบิร์ตขี้โกงเกินไป"
ลุคมองไปที่หลานชายของเขาและขอความเห็นจากเขา เขารู้ว่าอัลเบิร์ตมีความคิดเห็นของตัวเองและเขาจะไม่ตัดสินใจในบางเรื่องตามที่ใจต้องการ
“เธอจะทำตามที่พี่บอกเท่านั้น!เข้าใจไหม” อัลเบิร์ตมองไปที่น้องสาวของเขาและเขาเองก็สงสัยมากว่านิยามีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์หรือไม่
"หนูจะทำ! สัญญาๆหนูสัญญา" นีย่าพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว
"สัญญาเร็วไปไหม เธอไม่ได้ฟังที่พูดเลย" อัลเบิร์ตจ้องไปที่น้องสาวของเขาและพูดอย่างจริงจัง
"อะไร! หนูตั้งใจฟังนะ" นีย่ารีบโต้กลับ
"เฮ้อ พูดตามพี่ ลูมอส”
"ลูมอส" นีย่ารีบทำตามเธอรู้ว่าเป็นคาถา
"ค่อยๆพูดอีกสองสามรอบ อย่าอ่านผิดมิฉะนั้นจะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" อัลเบิร์ตกล่าวว่า "พี่จะให้เธอยืมไม้กายสิทธิ์ของพี่ แต่อย่าชี้มันไปทั่ว อย่าใช้มันกับคน อย่าท่องคาถาสาปแช่งแม้ว่าเธอจะไม่ได้ใช้เวทมนตร์ ที่สำคัญเธอต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี"
"หนูเข้าใจแล้ว!" นีย่าพูดอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
"พูดทวนสิ่งที่พี่เพิ่งพูดไป" อัลเบิร์ตถามอย่างกะทันหัน
"อย่าใช้ไม้กายสิทธิ์ของเธออย่า ... " นีย่าลืมพูดเธอเม้มริมฝีปากและบ่น "หนูไม่ใช่พี่นะ หนูจะจำหลาย ๆ อย่างได้ยังไง"
“ ถ้าเธอจำไม่ได้ พี่ก็คงจะให้ไม้กายสิทธิ์เธอไม่ได้หรอก” อัลเบิร์ตกล่าวอย่างจริงจัง
“ แต่ ... เมื่อกี้พี่พูดว่าจะให้หนูลองนะ” นีย่าพยายามประนีประนอม
มองดูอัลเบิร์ตที่กำลังพูดกับนิยาจนเถียงไม่ออก ครอบครัวแอนเดอร์สันทุกคนก็หัวเราะออกมา เด็ก ๆ ชอบทำตัวซนอยู่เสมอและสถานการณ์ของนิย่าก็คล้าย ๆ กัน
อย่างไรก็ตามอัลเบิร์ตก็มีวิธีจัดการความซุกซนของเธอ
หลังจากที่นีย่าจำคำพูดของเขาได้อัลเบิร์ตก็มอบไม้กายสิทธิ์ให้เธอ
นีย่าหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาอย่างตื่นเต้นและหลังจากถูกอัลเบิร์ตจ้องมองเธอก็สงบลงและท่องคาถาอย่างเชื่อฟังและพยายามใช้คาถาเรืองแสง แต่ใช้คาถาไม่สำเร็จ
"หายใจเข้าลึก ๆ ตั้งสมาธิแล้วลองอีกครั้ง" อัลเบิร์ตยื่นมือออกมาวางบนไหล่ของนิยาและพูดเบา ๆ
คาถาเรืองแสงเป็นหนึ่งในคาถาที่ง่ายที่สุด หากไม่สามารถใช้งานได้นั่นอาจหมายความว่า นิยาอาจไม่มีพรสวรรค์ในการเป็นพ่อมด
"ลูมอส!" นีย่าพยายามอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
“เธอกังวลมากเกินไป ไม่ต้องกังวลยิ่งกังวลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งล้มเหลวได้ง่ายขึ้นเท่านั้น” อัลเบิร์ตลูบผมน้องสาวของเขาและหันหน้าไปมองปู่ของเขา
ลุคส่ายหัวอัลเบิร์ตรู้ว่ามันหมายถึงอะไร
"หนูไม่มีความสามารถที่จะเป็นแม่มดงั้นเหรอ..." นีย่าร้องไห้และมีสีหน้าที่ดูเศร้ามาก
“ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” อัลเบิร์ตปลอบใจ“ บางทีอาจเป็นเพราะเธอยังเด็กอยู่ก็ได้นะ”
"ฮึ่ม!พี่อัลเบิร์ตขี้โกหก หนูต้องไม่มีพรสวรรค์ในการเป็นแม่มดแน่ๆ" นีย่าทิ้งไม้กายสิทธิ์แล้ววิ่งหนีไป
อัลเบิร์ตหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาด้วยท่าทางทำอะไรไม่ถูกมองไปยังทิศทางที่นีย่าวิ่งหนีไปและเตรียมพร้อมที่จะตามไปดูน้องสาวของเขา
เด็ก ๆ ดูเหมือนจะมีปัญหา
“ ปู่จะไปดูนิยาเอง” ลุคลุกขึ้นยืนและเดินไปตามทางของหลานสาว เขาเข้าใจอารมณ์ปัจจุบันของนิยาเป็นอย่างดี เพราะเขาเองก็เคยเป็นเช่นเดียวกัน