เซี่ยฉิงกงก้มหน้าลงไม่พูดไม่จาอะไร เซี่ยชิงฉวนมองรูปลักษณ์ และใบหน้าที่งดงามของพี่สาวตนเองแล้ว ก็ยิ่งเกลียดพี่สาวตนเองมากยิ่งขึ้น
ทำไมจู่ ๆ เธอก็กลับมาแล้วคว้าอะไรดี ๆ ไปหมด แต่งเนื้อแต่งตัวน่าเกลียดแบบนี้ยังคิดสะเออะแต่งงานกับตระกูลที่มีฐานะร่ำรวยแบบนั้นอีกงั้นรึ ?
"ฉิงกง.. เอ๊ะ !"
ตอนแรก เซี่ยฉิงกงยังคงก้มหน้าก้มตาอดทนต่อการเยาะเย้ยของเซี่ยชิงฉวน หากแต่เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอเบา ๆ เธอก็รีบเงยหน้าขึ้นมอง เสียงนั้นมาจากเซี่ยเจิ้งหัว - พ่อของเธอนั่นเอง
เซี่ยเจิ้งหัวออกมาจากบ้าน เพื่อจะถามว่าทำไมยังออกันอยู่ที่ประตู ทำไมไม่พาคุณหนูใหญ่กลับไปที่ห้องนั่งเล่นเสียที ? ทว่าเวลานี้เขาเห็นเสื้อผ้าของเซี่ยฉิงกงแล้ว
ชุดเดรสรัดรูปเว้าสูงแถมโชว์หน้าอก กระโปรงสั้นนั่นก็ปกปิดได้แค่โคนขา เป็นชุดกระโปรงที่แลดูน่าละอายจริง ๆ
"นี่มัน…"
"คุณพ่อ ถามพี่หยุนเซินสิคะว่า ไปพาตัวพี่ฉิงกงมาจากที่ไหน ?"
ครั้นเห็นเซี่ยเจิ้งหัวลังเล เซี่ยชิงฉวนก็ก้าวไปข้างหน้าทันที เธอจับมือของเซี่ยเจิ้งหัวพลางพูดอย่างไม่พอใจ
"ผับคราวน์คลับ"
ครั้นโจวหยุนเซินเห็นเซี่ยเจิ้งหัวมองมา เขาจึงต้องตอบตามตรง
เซี่ยเจิ้งหัวรู้ดีว่าผับคราวน์คลับนั่นเป็นเช่นไร ? ดวงตาของเซี่ยเจิ้งหัวมืดมนลง ขณะหันไปมองเซี่ยฉิงกง
เซี่ยฉิงกงก้มหน้า ไม่พูดไม่จาใด ๆ เท่ากับยอมรับทุกสิ่ง
ด้วยชีวิตที่ยากลำบากของเซี่ยฉิงกงเมื่ออยู่ภายนอก...การเป็นพนักงานเสิร์ฟก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร
เซี่ยเจิ้งหัวถอนหายใจ ในขณะที่เขากำลังจะปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไป เขาก็ได้ยิน เจินเมี่ยวหยูพูดขึ้นว่า
"คุณหนูใหญ่อาศัยอยู่ข้างนอกมานานหลายปี อย่ารุนแรงกับเธอนักเลย อย่างไรเสียเธอก็ยังเด็กอยู่ เด็กย่อมไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร"
เซี่ยชิงฉวนหงุดหงิด เธอทำหน้ามุ่ยพลางหันไปมองแม่ตนเอง
“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ควรรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ? คุณพ่อส่งคนไปตามหาพี่ แล้วคนอื่นจะมองบ้านเรายังไง หากเห็นพี่แต่งตัวแบบนี้ ?”
ทันทีที่สองแม่ลูกรวมหัวกัน คิ้วของเซี่ยเจิ้งหัวที่ยืดออกมาแล้วก็กลับย่นจนยับอีกครั้ง
ฐานะของเซี่ยฉิงกงกลายเป็นข่าวที่แพร่สะพัดไปทั่วเมืองแห่งนี้นานแล้ว เดิมทีตระกูลเซี่ยไม่สามารถหาข้อยุติในการเจรจาหาความร่วมมือทางธุรกิจได้ เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านเงินทุน ยิ่งมีเรื่องอื้อฉาวการโจมตีก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น
เมื่อหวนนึกถึงเรื่องนี้ เซี่ยเจิ้งหัวก็หันไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยความรังเกียจ แต่ครั้นเขาจ้องมองเซี่ยฉิงกง เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
เซี่ยฉิงกงยังคงมีท่าทีนุ่มนวลและอ่อนน้อม หากแต่นัยน์ตาของเธอกลับแจ่มชัด เธอมองประสานตาเขาด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง
คำพูดของเซี่ยเจิ้งหัวติดค้างอยู่แค่ลำคอ แล้วเซี่ยฉิงกงก็ขัดจังหวะเขาก่อนที่เขาจะทันพูดอะไรออกมา
เซี่ยฉิงกงดึงสัญญาออกมาจากเอวของเธอ จากนั้นก็ส่งมอบให้เซี่ยเจิ้งหัวด้วยมือทั้งสองข้าง สายตาของเธอดูขลาดอายเหมือนกระต่ายตัวน้อยที่หวาดหวั่น
เซี่ยเจิ้งหัวผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือออกไปหยิบกระดาษปึกนั้นออกมา และหลังจากเอามาอ่านใกล้ ๆ มือของเขาก็สั่นสะท้านทันที
นี่มัน ... นี่มัน ...
เจินเมี่ยวหยูมองตามอย่างสงสัย เธอพูดพึมพำกับตนเอง
นั่นมันสัญญาที่ก่อนหน้านี้ฉันพยายามเจรจากับบริษัทโจวเอ็นเตอร์ไพรซ์หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จนี่ !
มือของเซี่ยเจิ้งหัวสั่นเล็กน้อย สัญญาของบริษัทโจวเอ็นเตอร์ไพรซ์เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ตระกูลเซี่ยรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเนื่องจาก บริษัทเติ้งหยุนเอ็นเตอร์ไพรซ์ต้องการที่จะร่วมมือกับบริษัทโจวเอ็นเตอร์ไพรซ์มาโดยตลอดเช่นกัน และโจวตันเองก็ตั้งใจที่จะลงนามในข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับเติ้งหยุน แม้เซี่ยเจิ้งหัวจะพยายามเข้าพบพูดคุยกับโจวตันเป็นการส่วนตัวด้วยความจริงใจหลายต่อหลายครั้ง หากแต่โจวตันกลับไม่เคยลงนามในสัญญา
"ลูก ลูกทำให้เขาเซ็นมัน ... "
เซี่ยเจิ้งหัวมองเซี่ยฉิงกงด้วยความประหลาดใจ ลูกสาวคนนี้ ลูกสาวที่พลัดพรากจากกันมาเกือบสองทศวรรษ หากแต่กลับทำให้เขาต้องประหลาดใจครั้งใหญ่เมื่อเธอกลับบ้านมา
เซี่ยฉิงกงก้มหน้าลงเพื่อสร้างอารมณ์ ไม่นานเธอก็เงยหน้าขึ้นมองเซี่ยเจิ้งหัวพร้อมกับดวงตาที่ชุ่มชื้น
***จบตอน พ่อของเธอ***