"ก่อนที่คุณพ่อจะพบหนู และบอกให้หนูกลับมา หนูก็คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน หนูเลยรู้สึกว่าตัวหนูเองยังไม่พร้อมสักเท่าไหร่ แต่หนูก็ยังอยากตอบแทนตระกูลเซี่ยบ้าง ดังนั้นเมื่อหนูได้ยินว่า บริษัทของคุณพ่อกำลังประสบปัญหา หนูจึงอยากจะช่วยคุณพ่อในสิ่งที่พอจะทำได้ เพื่อที่หนูจะได้มีคุณสมบัติพอที่จะกลับมายังตระกูลเซี่ย ... "
เซี่ยฉิงกงรู้สึกตื้นตันใจกับวาทศิลป์ของตนเองจนน้ำตาแทบร่วง ก่อนหน้านี้ ที่เธอไม่อยากกลับมาที่บ้านตระกูลเซี่ย นั่นก็เป็นเพราะบ้านหลังนี้สงบสุขดีอยู่แล้ว เธอไม่อยากกลับมาเป็นตัวปัญหา แต่หลังจากที่เจินเมี่ยวหยูส่งคนไปลอบฆ่าเธอ หวังให้เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์
เธอจึงต้องการกลับมา สำหรับเธอแล้ว หากจะปล่อยให้ศัตรูหาโอกาสเข่นฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว ก็น่าจะดีกว่าหากเราชิงลงมือก่อน !
เซี่ยเจิ้งหัวมองเซี่ยฉิงกงด้วยความชื่นชม เขาไม่สนใจแล้วว่าเธอจะสวมชุดอะไรอยู่ตอนนี้ เขาถอดเสื้อนอกของเขาออก จากนั้นก็สวมให้เซี่ยฉิงกงแทน
"งั้นที่ลูกไปผับคราวน์คลับนั่นก็เพื่อช่วยพ่อใช่ไหม ?"
"ใช่ค่ะ ... "
เซี่ยฉิงกงจงใจห่อตัว ทำให้เซี่ยเจิ้งหัวรีบสั่งให้คนไปเตรียมน้ำร้อน และพาเซี่ยฉิงกงไปที่สนามหน้าบ้าน
เซี่ยชิงฉวนเดินตามมาข้างหลังอย่างไม่สบอารมณ์ เธอกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิดรำคาญใจ !
ทันทีที่เซี่ยฉิงกงเดินไปถึงทางเข้าห้องโถง ขณะที่ยื่นขาข้างหนึ่งออกไป เธอก็เห็นเงาสีเทาวิ่งเข้ามาหา
"โฮ่ง โฮ่ง !"
สุนัขขนสีขาวกระดิกหาง จากนั้นก็กัดขาของเซี่ยฉิงกงอย่างแรง
"อ๊า !"
เซี่ยฉิงกงผงะ เธอรีบสะบัดขาเพื่อเหวี่ยงสุนัขนั่นออกไป
จังหวะนั้น สุนัขก็กัดเข้าที่ถุงน่องของเซี่ยฉิงกงจนขาดเป็นรูขนาดใหญ่ เธอเหยียดปากเยาะเย้ย เธอมองเจ้าสุนัข ก่อนจะทิ้งตัวลงบนพื้น แล้วกลิ้งตัวไปพร้อมกับเจ้าสุนัขขนขาว
"รีบช่วยคุณหนูใหญ่ไว ๆ !"
เซี่ยฉิงกงมองบรรดาบอดี้การ์ดข้าง ๆ ขณะแสร้งทำทีว่ากำลังรับมือเจ้าสุนัขขนขาวนี่
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นต่างวิตกกังวล พวกเขากลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ หากแต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะลงมือ
สุนัขขนขาวตรงหน้าแลดูเหมือนหมาบ้า ทว่าขนของมันกลับนุ่มราวกับได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ
ครั้นเหลือบไปเห็นเซี่ยชิงฉวนที่ยืนกอดอกดูการแสดงที่น่าสนุกนี่จากระยะไกล ๆ เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ต้อนรับกันด้วยวิธีนี้เนี่ยนะ !
ทันทีที่เห็นว่ากลุ่มบอดี้การ์ดกำลังจะเข้ามาล้อมกรอบเธอ เซี่ยฉิงกงก็ตะโกนออกมาทันที
“อย่าขยับ !”
กลุ่มบอดี้การ์ดถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขาไม่สามารถทำร้ายสัตว์เลี้ยงของคุณหนูรองได้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้สุนัขทำร้ายคุณหนูใหญ่ได้เช่นกัน
ครั้งนี้เป็นเซี่ยฉิงกงที่สั่งให้พวกเขาหยุดเอง และนั่นทำให้พวกเขารู้สึกกดดันน้อยลง หากแต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้สบายใจก็ได้ยิน เซี่ยฉิงกงตะโกนออกมาเพื่อเคลียร์ทางด้วยเสียงที่ฟังดูน่ากลัว
“นี่มันหมาบ้า อย่าเข้ามา เดี๋ยวมันจะกัดเอา !”
เซี่ยชิงฉวน และเจินเมี่ยวหยูยืนดูอย่างเฉยเมย นี่ถือเป็นบทเรียนสำหรับ เซี่ยฉิงกงที่สะเออะอยากเป็นคนตระกูลเซี่ย !
แม้ว่าเซี่ยฉิงกงจะเพิ่งตะโกนจบ ทว่าจู่ ๆ ก็ไม่รู้ว่าเธอหยิบมีดออกมาจากไหน ใบมีดที่แหลมคมส่องประกายอย่างเย็นเยียบภายใต้แสงไฟ
เพียงไม่ช้าใบหน้าของเซี่ยชิงฉวนก็เปลี่ยนไป หัวใจของเธอแทบกระโจนออกมานอกอก ก่อนที่เธอจะทันได้ตะโกนออกไป เธอก็ได้ยินเสียงร้อง "เอ๋ง" แข้งขาของเธอพลันอ่อนยวบ
เซี่ยฉิงกงเตะสุนัขขนสีขาวที่ถูกแทงจนตายออกไป จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เธอหยิบเสื้อผ้าที่ถูกสุนัขกัดขาดขึ้นมา พร้อมกับโยนมีดในมือลงไปที่พื้น
เสียงดังโวยวายนี้ ทำให้เซี่ยเจิ้งหัวและคนอื่น ๆ ตื่นตัว เซี่ยเจิ้งหัวรีบวิ่งมาคว้าแขนของเซี่ยฉิงกงพลางไถ่ถาม
"ลูกเป็นอะไร เป็นอะไรมากไหม หมาตัวนี้กัดหนูตรงไหนบ้าง ?"
นัยน์ตาของเซี่ยชิงฉวนร้อนผ่าว เธอกำลังจะก้าวไปข้างหน้า เพื่อจะด่าทอฉิงกง หากแต่แม่ของเธอกลับคว้าตัวเธอไว้เสียก่อน
มันคือสุนัขฮังกาเรียนแชพเพริ์ดตัวโปรดของเธอ !
"หนูไม่เป็นไร"
เซี่ยเจิ้งหัวหันไปมองแม่บ้านอย่างตำหนิ "สุนัขตัวนี้มาจากไหนกัน ? ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย"
“ดูเหมือนว่าจะเป็นของคุณหนูรองค่ะ ... ” ใครบางคนที่อยู่ข้าง ๆ เธอพยายามเตือนเธอให้เงียบ ๆ
“สุนัขนี่เป็นของชิงฉวนงั้นเหรอ ?”
***จบตอน ไงล่ะ..สุนัขของคุณหนูรอง ?***