เซี่ยเจิ้งหัวไม่สามารถบอกได้ว่า เวลานี้เขามีความสุข หรือเศร้ากันแน่ เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างแรงเท่านั้น
เซี่ยฉิงกงช่วยถอดเสื้อสูทของมู่เฉินฮ่าวออก จากนั้นก็ส่งเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนให้กับคนรับใช้ เรียบร้อยแล้วเธอก็เตรียมผละจากไป
หากแต่มู่เฉินฮ่าวกลับดึงเสื้อของเธอไว้
"นั่นคุณกำลังจะทำอะไร ?"
"คุณหนูเซี่ย..เพื่อดึงดูดความสนใจจากผมแล้ว คุณถึงกับส่งคนมายั่วยวนผม ทั้งยังแสร้งทำตัวเป็นบริกรเพื่อล่อลวงผม มาตอนนี้คุณยังพยายามหาโอกาสที่จะอยู่กับผมตามลำพัง ผมประเมินคุณต่ำไปจริง ๆ"
ผีสิที่ต้องการอยู่กับเขาตามลำพัง เซี่ยฉิงกงโกรธมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น !
"ฉันอธิบายให้คุณฟังกี่ครั้งแล้วว่า ฉันเป็นแค่บริกรของผับคราวน์ และฉันก็เข้าไปผิดห้อง !"
“คุณหนูเซี่ย ผู้งามสง่าไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในผับน่ะนะ”
เซี่ยฉิงกงขยี้หัวตนเอง เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอโกรธแทบบ้าแล้ว ผู้ชายคนนี้ไร้เหตุผลสิ้นดี ซ้ำยังน่ารำคาญมากอีกด้วย !
“ฉันขอบอกคุณเป็นครั้งสุดท้ายว่า ระหว่างเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน โอเค้ !”
ครั้นเซี่ยฉิงกงพูดจบ เธอก็สะบัดมือที่ถูกมู่เฉินฮ่าวเกาะกุมไว้ จากนั้นก็หันหน้ากลับจะเดินจากไป
“ใครบอกว่าเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ?”
เซี่ยฉิงกงระงับความโกรธในใจ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามระงับความต้องการที่จะทุบผู้ชายคนนี้
จากนั้นเธอก็หันหน้ากลับมาหาเขา พลางฉีกรอยยิ้มที่แลดูไร้เดียงสา
“เราเกี่ยวข้องอะไรกันมิทราบ คุณชายมู่ ?”
ครั้นเห็นเธอโกรธจัดจนหัวร้อนแทบระเบิด มู่เฉินฮ่าวก็มีสีหน้ายิ้มแย้ม ความรู้สึกดูหมิ่นพลันพวยพุ่งขึ้นในใจอีกครั้ง
เขาเห็นผู้หญิงแบบนี้มานักต่อนักแล้ว พวกผู้หญิงหน้าอย่างหลังอย่างแบบนี้น่ะ
"นี่..ครอบครัวของคุณไม่ได้บอกคุณเกี่ยวกับเรื่องแต่งงาน เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลของเราบ้างเลยงั้นหรือ ?"
เซี่ยฉิงกงตกตะลึง แต่งงาน..เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเซี่ยกับตระกูลมู่งั้นหรือ ?
เป็นเพราะเรื่องของธุรกิจ มู่เฉินฮ่าวจึงต้องการผูกมัดเซี่ยชิงฉวนงั้นสิ ?
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เซี่ยชิงฉวนจะขยันเอาอกเอาใจเขาอย่างนี้ !
"อ้อ ! งั้นก็ดีใจด้วยนะน้องเขย พี่สะใภ้ขอลาก่อนล่ะ"
เซี่ยชิงฉวนก้มตัวลงโค้งคำนับอย่างสุภาพพร้อมกับยิ้มเยาะ เธอเตรียมตัวที่จะผละจากไป
“คุณต้องเรียกผมว่าสามีต่างหากล่ะ”
เซี่ยฉิงกงหันกลับมาทันทีได้ยิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เวลานี้เธอรู้สึกไม่ต่างจากโดนสายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงกลางกระหม่อม
เป็นฉันที่ต้องแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าวงั้นเหรอ ?
จะเป็นไปได้ไง !
“ล้อเล่นแบบนี้ไม่ตลกเลยนะ ไม่ใช่คุณหนูรองของตระกูลเซี่ยหรอกเหรอที่ต้องเรียกคุณว่าสามีน่ะ ?”
เซี่ยฉิงกงหัวเราะเยาะ เธอเลิกเสแสร้งอีกต่อไป
ใบหน้าที่เลือดเย็นอย่างร้ายกาจ ทีท่าที่ดุดันโหดเหี้ยมแบบที่อยู่ในผับคราวน์คลับเมื่อคืนนี้ต่างหากที่เป็นโฉมหน้าอันแท้จริงของเธอ ทั้งที่เมื่อครู่เธอยังทำตัวเป็นเหยื่อแสนบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอยู่เลย
"ดูเหมือนว่าคุณจะพยายามอย่างหนัก เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผม"
ในเมื่อรู้ว่าเขาไม่พอใจกับการแต่งงานครั้งนี้ เธอจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่ไม่หยุดหย่อนสินะ
เพียงแต่ตอนนี้เธอยังไม่ยอมเปิดเผยเจตนาแท้จริงออกมาก็เท่านั้น
เซี่ยฉิงกงตกตะลึง นี่เขาพูดบ้าอะไรกัน !
ก่อนหน้านี้เธอเป็นเพียงคนธรรมดาที่วิ่งวุ่นพยายามหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวัน ๆ หากไม่ใช่เป็นเพราะจู่ ๆ ตระกูลเซี่ยตามหาเธอจนพบ เธอคงไม่รู้หรอกว่า เธอมีพ่อที่ร่ำรวยขนาดนี้
"ฉันไม่เข้าใจว่า คุณกำลังพูดถึงอะไร ? แต่ฉันได้อธิบายทุกอย่างชัดเจนแล้ว ... "
"เอาเลย เซี่ยฉิงกง ผมเองก็จะดูว่าคุณจะกล้าทำหน้าตาน่าเกลียดแบบนี้ต่อหน้าทุกคนไหม ?"
มู่เฉินฮ่าวพูดขัดจังหวะเธอ จากนั้นก็ก้าวผ่านเธอออกไป
เซี่ยฉิงกงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทันทีที่รู้สึกตัว เธอก็ชี้นิ้วไปที่มู่เฉินฮ่าวผู้ซึ่งเดินจากไป พลางกระโดดเร่า ๆ ด้วยความโมโห แต่กลับพูดไม่ออกสักคำ !
ไอ้ผู้ชายตัวเหม็น ไอ้คนน่ารังเกียจ ไอ้คนไร้ยางอาย.. !
เซี่ยฉิงกงกลับไปที่โต๊ะอาหารด้วยความโกรธจัด หมายจะถามเซี่ยเจิ้งหัว ให้รู้เรื่อง
แต่ไม่คาดคิดว่าเซี่ยเจิ้งหัวกลับเอ่ยออกมาก่อน
“ที่คุณชายมู่มาที่นี่ในครั้งนี้ก็เพื่อพาฉิงกงกลับไปที่บ้านสกุลมู่ และตระเตรียมการหมั้น”
เซี่ยฉิงกงได้แต่นิ่งอึ้ง เธอสะบัดหน้าไปมองมู่เฉินฮ่าวอย่างแรง แล้วเธอก็เห็นว่าเขายังคงรักษาทีท่าเย็นชาและเฉยเมยเฉกเช่นเดิม ราวกับว่าเหตุการณ์ที่เขา และเธอทะเลาะกันเมื่อครู่นั้นไม่เคยเกิดขึ้นเลย …
***จบตอน ต้องเรียกผมว่าสามี***