แม้ว่าตอนเด็กเซี่ยฉิงกงจะไม่ได้อาศัยอยู่ในตระกูลเซี่ยที่มีชื่อเสียง และเธอก็ไม่ได้รับการศึกษาจากผู้ดีมีตระกูลใด ๆ แต่เธอก็ได้รับการศึกษาอบรมมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้แม่บุญธรรมของเธอก็ยังสอนหลักการดำเนินชีวิตหลายอย่างให้กับเธอด้วย
ไม่ว่าจะเจอคนอ่อนน้อมกับเรา หรือหมายจะข่มเรา เราก็ไม่ควรแสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาบนสีหน้า
ดังนั้นแม้ว่าจะเสียใจแค่ไหน ต่อท่าทีดูหมิ่นของมารดามู่เฉินฮ่าว ฉิงกงก็ยังคงยิ้มและไม่พูดอะไรออกมา
ประการแรกผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอ คือ ว่าที่แม่สามี หากเธอหลุดการกระทำที่ไม่ดีออกไป ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการสืบสวนเรื่องราวต่าง ๆ ของเธอในวันหน้า
ประการที่สอง เซี่ยฉิงกงเหนื่อยล้า อีกทั้งแขนของเธอก็ยังเจ็บอยู่ เธอจะมีเรี่ยวแรงไปทะเลาะกับคนอื่นได้อย่างไร ?
“นายหญิงน้อยอะไรกัน ? ฉันยังไม่ยอมรับว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลมู่ของฉันสักหน่อย เธอนี่มันยังไงกัน ? ทำไมแค่เสี่ยวเฉินไปรับเธอจากบ้านก็ต้องมาโรงพยาบาลแล้ว ?”
ครั้นรู้ว่าลูกชายของเธอไม่ได้รับบาดเจ็บ ซิงเหวินจิ้งก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ทว่าเธอก็ยังแสดงทีท่าดุดัน คิ้วของเธอขมวดแน่น ใบหน้าของเธอเย็นชา และฉิงกงก็เห็นร่องรอยของการดูถูกอย่างชัดเจนในแววตาของเธอ
"ระหว่างเดินทาง ฉันเจอคนลักพาตัว"
ภายใต้สายตาอันคมกริบของซิงเหวินจิ้ง เซี่ยฉิงกงเอ่ยตอบอย่างสงบนิ่งไม่ถ่อมตัว หรือพยายามเอาอกเอาใจแต่อย่างใด
คุณผู้หญิงไม่ยอมรับฉันเป็นสะใภ้ตระกูลมู่งั้นเหรอ ? เยี่ยมไปเลย !
ฉัน..เซี่ยฉิงกงก็ไม่ต้องการหมั้นกับมู่เฉินฮ่าวตั้งแต่แรกแล้ว
“ลักพาตัว ? เธอถูกลักพาตัวได้ยังไง ? เธอเติบโตในบ้านคนธรรมดา มีอะไรให้ต้องลักพาตัว ?”
ใบหน้าที่ตกแต่งอย่างประณีตนั้นแสดงให้เห็นชัดว่าไม่พอใจเซี่ยฉิงกง ก็ลูกสาวตระกูลเซี่ยคนนี้หายตัวไปตั้งแต่เด็กไม่ใช่รึ ?
ไม่มีเหตุผลที่จะเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวเพราะเรื่องธุรกิจ
นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
ความประทับใจของซิงเหวินจิ้งที่มีต่อเซี่ยฉิงกงยิ่งลดลงไปอีก
“คุณแม่ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ ?”
ก่อนที่เซี่ยฉิงกงจะพูดอะไร เสียงของมู่เฉินฮ่าวก็ดังมาจากบริเวณประตู
"คุณแม่มาที่นี่ทำไม ?"
มู่เฉินฮ่าวสวมเสื้อผ้าตัวใหม่ที่สะอาดเรียบร้อย ดูเหมือนเขาจะอาบน้ำมาแล้วด้วย เส้นผมของเขาก็ยังไม่แห้งดีเลย
โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นสมบัติของตระกูลมู่ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่มู่เฉินฮ่าวจะสามารถอาบน้ำที่นี่ได้
"เสี่ยวเฉิน ตอนที่แม่ลงจากเครื่อง แม่ก็ได้ยินว่าลูกมาที่โรงพยาบาล แล้วตัวลูกก็เต็มไปด้วยเลือด แม่ตกใจมาก แม่คิดว่าต้องเป็นเพราะผู้หญิงจากตระกูลเซี่ยดวงไม่สมพงษ์กับลูกเป็นแน่ หาไม่ ทำไมเจอกันครั้งแรกก็ถึงกับเลือดตกยางออกแล้วล่ะ ?”
แม้ว่าซูเฟยจะบอกซิงเหวินจิ้งไปแล้วว่า ไม่ใช่มู่เฉินฮ่าวที่ได้รับบาดเจ็บ ทว่าซิงเหวินจิ้งก็ยังคงมองสำรวจร่างมู่เฉินฮ่าวขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นเวลานาน
“ผมเปื้อนเลือดไปทั้งตัวจริง ๆ"
หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวพยักหน้า บทสนทนาของเขาก็เปลี่ยนไป
"แต่ ... ไม่ใช่เลือดของผม แขนฉิงกงถูกแทงเพราะเธอพยายามช่วยผม"
“ยังไงก็เป็นลางไม่ดี ไม่ว่าจะช่วยลูกหรือไม่ก็เถอะ แม่ต้องกลับไปบอกคุณพ่อของลูกแล้วว่าจะขอยกเลิกสัญญาการแต่งงานนี้ซะ จะเอาเรื่องที่พูดเล่นกันเมื่อสิบกว่าปีก่อนมาเป็นจริงเป็นจังได้อย่างไร ? นี่หยานเอ๋อก็กำลังจะกลับประเทศจีนแล้ว ลูกควรจะไปทำความสนิทสนมกับหยานเอ๋อดีกว่า เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลผู้ดี ทั้งยังมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง... ลุงของเธอก็อยู่ในแวดวงการเมือง ..."
ก่อนที่ซิงเหวินจิ้งจะพูดจบ มู่เฉินฮ่าวก็เดินผ่านหน้าซิงเหวินจิ้ง แล้วไปนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าเซี่ยฉิงกง ดวงตาที่แลดูขี้เล่นคู่นั้นอ่อนโยนลงมากจนทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัด
"ที่รักยังเจ็บอยู่มั้ย ? ผมขอโทษนะ เป็นความผิดของผมเอง ที่ทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ กลับกันเถอะ ผมจะดูแลคุณเอง"
"เสี่ยวเฉิน ! นี่ลูกชอบผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เหรอ ?"
ซิงเหวินจิ้งที่ถูกลูกชายของเธอเพิกเฉยใส่ รู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างฉับพลัน
"คุณแม่ ผมไม่สนใจผู้หญิงคนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงจากตระกูลฉีนั่น !"
***จบตอน ผู้หญิงจากตระกูลฉี !***