มันไม่เพียงแต่วันนั้น ทุกวันหลังจากนั้น ฉาวซวนจะพบชุดบันทึกของหมอผีม้วนใหม่นอนอยู่บนโต๊ะหินที่มุมห้องเมื่อเขามาถึงบ้านยา
เนื้อหาที่แตกต่างกันจากการคัดเลือกขั้นพื้นฐานและการจัดการพืชสมุนไพร วิธีการล่อและจับสัตว์มาทำเป็นยา; จากวิธีการปฎิบัติเหล่าสัตว์,วิธีการจัดการกับพืช
จากข้อมูลทั้งหมดที่ถูกบันทึกลงบนม้วนหนังสัตว์ในชุดบันทึกของหมอผี ทุกครั้งเมื่อฉาวซวนอ่านพวกมัน เขาจะได้เห็นฉากจริงสะท้อนให้เห็นในสายตาของเขา
เพราะภาพในชุดบันทึกของหมอผีใหม่ทั้งหมดเชื่อมต่อกันแทนที่จะแยกกันอย่างแต่ก่อน ดังนั้นเมื่อเจ้าอ่านพวกมันร่วมกันเจ้าจะได้เห็นฉากจริงที่เกิดขึ้นใหม่ออกมา บางครั้ง ฉาวซวนอาจจะรู้สึกว่าตัวเขาเองเคลื่อนไหว เขาสามารถเข้าถึงเนื้อหาของมันได้มากขึ้นหรือสักเล็กน้อย,ให้ความรู้สึก,ความแข็งแรง,ฯลฯ ...
ชุดบันทึกของหมอผีทุกม้วนมีค่ามาก เห็นได้ชัดว่าหมอผีรู้แล้วว่าฉาวซวนสามารถเข้าใจเนื้อหา ตั้งแต่เขานำชุดบันทึกใหม่ๆ ออกมาทั้งหมดเหล่านั้นสำหรับให้ฉาวซวนอ่าน
หมอผี ... อึ่ม เจ้าไม่สามารถเก็บความลับใด ๆ จากเขา
และ ปริมาณชุดบันทึกของหมอผีที่มากขึ้นเรื่อยๆ บนโต๊ะหินทำให้ฉาวซวนมีความเข้าใจที่ชัดเจนต่อทัศนคติของหมอผี
วันหนึ่ง เมื่อฉาวซวนกำลังอ่านม้วนชุดบันทึกของหมอผีที่มุมห้อง เขาได้ยินใครบางคนวิ่งตรงมาที่บ้านยาขณะที่ตะโกน“กุยซี! หมอผีถามหาเจ้า! ทีมล่าสัตว์กลับมาแล้ว!”
มีบ้านขนาดเล็กที่บ้านยา ซึ่งหมอผีนำมาใช้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของพวกเขา ทุกครั้งเมื่อทีมล่าสัตว์กลับมา พวกเขาจะส่งนักรบที่ได้รับบาดเจ็บตรงมาที่บ้านหลังเล็ก มันอยู่ใกล้เคียงกับบ้านยาจึงประหยัดเวลาส่งสมุนไพร หมอผีก็สามารถได้รับสมุนไพรจากบ้านยาเมื่อเขาต้องการ
กุยซีไม่ชักช้าลังเล เธอหยุดทุกสิ่งที่เธอกำลังทำและไปหาหมอผีทันที สำหรับฉาวซวน ... เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องรักษา ทุกคนที่ไม่ได้รับอนุญาตไม่สามารถเข้าไป ในกรณีที่อาจจะเป็นการรบกวนการรักษา
ฉาวซวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาต้องการดูว่าหมอผีรักษาอาการบาดเจ็บของนักรบอย่างไร แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือ นั่งอยู่ในบ้านยาและรอ ตั้งแต่เขาถูกกันจากการเข้าไปในห้องรักษา
กุยซีวิ่งกลับไปที่บ้านยาอย่างรวดเร็วหลังจากที่เธอออกไป และเธอคว้าสองสามชุดของสมุนไพรไป หลังจากครึ่งนาที เธอก็มาอีกครั้ง
“ต้นขมชาเจน, เจ็ดง่าม,ผลแพรพัส, ก้านเจาะใจ ...”
กุยซีหยิบพืชสมุนไพรบางชนิดจากหม้อหินและกล่องไม้ขณะที่เธอกำลังพึมพำชื่อของสมุนไพร
เห็นว่าเธอทำท่าทางเร่งรีบ ฉาวซวนเดาว่าบางทีอาจมีนักรบที่ได้รับบาดเจ็บมากขึ้นส่งตัวมาถึงห้องพักรักษาในครั้งนี้มากกว่าที่พวกเขาคาดไว้ สมุนไพรที่ผสมแล้วได้หมดลง ดังนั้นกุยซีต้องทำพวกมันเพิ่ม ตั้งแต่ชุดยาที่เธอทำล่วงหน้าไม่เพียงพอ
กุยซีไม่จำเป็นต้องกะขนาดส่วนผสม เธอก็สามารถคว้าสมุนไพรไว้ในกำมือ และเกือบจะไม่มีความแตกต่างในการเปลี่ยนแปลงปริมาณของยาจำนวนมากฉาวซวนได้ดูเธอทำทั้งวัน
ทักษะดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลาอันสั้น บางทีอาจจะเป็นหมอผีที่ได้ฝึกฝนกุยซีตั้งแต่วัยเด็กของเธอ
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในชนเผ่าสันนิษฐานว่าชุดสมุนไพรถูกผสมด้วยตัวหมอผีเอง ตอนนี้ดูเหมือนว่าค่อนข้างมากของพวกมันจะต้องทำจากกุยซี
“ต้องการความช่วยเหลือไหม ?” ฉาวซวนถาม
กุยซีอยากที่จะปฏิเสธในตอนแรก แต่ในความคิดที่สองเธอพยักหน้า แต่ เธอไม่ได้สั่งฉาวซวนให้จัดการสมุนไพรเหล่านั้น แต่เธอขอให้เขาช่วยยกสิ่งเหล่านี้ให้เธอ
"เป็นยังไงบ้าง ? ขาดชุดสมุนไพร? นักรบได้รับบาดเจ็บจำนวนมากในครั้งนี้ใช่ไหม” ฉาวซวนถาม
“มีเก้าคน.” กุยซีตอบ
แน่นอน มีเพียงนักรบที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจะถูกส่งกลับมาอันดับแรก นักรบเก้าคนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ... อันที่จริง จำนวนมันผิดปกติ แต่โชคดีที่ไม่มีใครถูกฆ่าตาย
“มีก้านเจาะใจไม่พอ ช่วยข้าหยิบกล่องที่มีก้านเจาะใจ.” กุยซีกล่าวอย่างรีบร้อน
"ได้เลย"
ฉาวซวนได้จำที่ที่แตกต่างกันของสมุนไพรที่เก็บไว้ ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องให้กุยซีบอกเขา แต่ตรงไปหยิบกล่องไม้ขนาดใหญ่
ก้านเจาะใจเป็นพืชชนิดที่เกิดจากทุ่งหญ้า มันมีขนาดเพียงความกว้างของนิ้วเล็ก ๆ และมีเปลือกนอกบางๆ ภายในของมัน มีเส้นด้ายบางๆ สีดำ เปลือกไม่สามารถนำมาใช้ได้ และภายในที่มีด้ายสีดำบางๆ ก็เป็นพิษเช่นกัน เมื่อต้องจัดการก้านเจาะใจ หนึ่ง ต้องปอกเปลือกชั้นนอกและดึงด้ายภายในเช่นกัน
ถึงแม้ว่าจะรีบ กุยซีก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว
แต่เธอก็ยังไม่เร็วพอ
ก้านเจาะใจเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการ และมันจะใช้เวลามากกับการจัดการมันสักชิ้น ฉาวซวนได้เห็นวิธีจัดการมันของเธอ เธอต้องการอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงในการลงมือทำแต่ละก้าน เพราะอย่างนั้น กุยซีจึงมีเหงื่อปรากฎบนหน้าผากของเธอ เธอยังคงถือมีดไว้แน่น แต่เธอก็เร่งความเร็วขึ้น และงานที่ทำก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบตามปกติ อย่าลืมว่า เธอนั้นรีบร้อนที่จะช่วยชีวิตนักรบ ดังนั้นเธอควรใช้วัตถุดิบมากขึ้นเพื่อแลกกับการประหยัดเวลาในการส่งสมุนไพรให้หมอผี
โดยปกติ ก้านเจาะใจถูกนำมาใช้ในการรักษาบาดแผลภายในรุนแรงที่นักรบหมดความสามารถในการรักษาตนเอง ซึ่งหมายความว่าอาการบาดเจ็บเหล่านี้ร้ายแรงอย่างยิ่ง พวกเขาจำเป็นต้องรักษาทันทีหลังจากนักรบถูกส่งไปยังห้องรักษา ดังนั้น ยาทั้งหมดและสมุนไพรที่จำเป็นจะต้องจัดเตรียมในเวลาไม่นาน ล่าช้าขึ้นเพียงหนึ่งนาที นั้นก็หมายความว่าอันตรายที่เพิ่มมากขึ้น
เห็นว่ามีเพียงไม่กี่ก้านในกล่องไม้ ฉาวซวนหยิบมาก้านหนึ่ง เขาจับที่ก้านเบา ๆ และเขาก็ขยับไปตามเกลียวจากล่างขึ้นบน
“เจ้าไม่ควรแตะ ...” กุยซีกำลังเอ่ยปากบอกให้ฉาวซวนหยุดเมื่อเธอตระหนักถึงสิ่งที่ฉาวซวนกำลังทำที่ด้านข้างเธอ เพราะเขาเป็นเพียงเด็กฝึกที่นี้ไม่นาน แต่เธอมองไปที่เขา และแล้วก็ตัดสินใจที่จะกลืนคำพูดที่เธออยากจะบอกหลังจากที่ได้เห็นการกระทำนี้
เธอเห็นฉาวซวนจับและทำได้อย่างรวดเร็ว เขาจับก้านเจาะใจที่ยาวครึ่งช่วงแขนด้วยมือข้างหนึ่งและมีดหินเล็ก ๆ ในมืออีกข้างหนึ่ง
มีดที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะของฉาวซวนเกิดจากแกนหินเนื้อดี แกนหินถูกส่งจากหมอผีเมื่อปีก่อน เมื่อฉาวซวนได้ทำผลงานที่สำคัญในเผ่า มันไม่ได้มีขนาดใหญ่ สำหรับแกนหินเนื้อดี มันเป็นเรื่องยากก็จะได้รับมัน หลังจากลงมือทำเครื่องมือหินขนาดเล็ก ฉาวซวนเก็บแกนหินส่วนที่เหลือไว้ วันแรกของเขาในยาบ้าน เมื่อเขาเห็นกุยซีใช้มีดหินขนาดเล็กปอกเปลือกสมุนไพร เขาทำให้ตัวเองอันหนึ่งที่คล้ายกันกับแกนหินที่เหลือ
แกนหินเนื้อดีไม่ง่ายที่จะลงมือทำ ดังนั้นมึนจึงใช้เวลาสองสามวันจึงจะเสร็จ อย่างไม่คาดคิดก็คือ มันได้ใช้งานในวันแรกที่ฉาวซวนพกมันมาพร้อมกับเขา
มีดหินขนาดเล็กขยับขึ้นและลงไม่กี่ครั้ง และจากนั้นก็ดึงกลับมา เช่นเดียวกับการปอกเปลือกกล้วย ฉาวซวนปอกเปลือกก้านเจาะใจจากปลายด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง มันเป็นไปอย่างราบรื่นมาก!
มันเป็นอะไรที่ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ เมื่อกุยซีพยายามอย่างหนักที่จะปอกเปลือกก้านเจาะใจ
กุยซีเพียงแค่จ้องมองไปที่เขาโดยลืมสิ่งที่เธอควรจะทำไปทันที ดวงตาของเธอเปิดกว้างจ้องมองไปที่ฉาวซวนกับทุกการเคลื่อนไหวของเขา
เมื่อฉาวซวนปอกเปลือกชั้นที่อยู่ใกล้กับส่วนอื่น ๆ เขาก็ควรจะตัดส่วนเล็ก ๆ ใกล้จะจบ พร้อมกับเปลือก หากเขาทำมันในขณะที่กุยซีสาธิตให้ดู ในขณะที่ด้ายชั้นใน ปกติแล้วกุยซีจะกรีดลำต้นออกเป็นสองส่วนจากด้านล่างขึ้นด้านบน แล้วจากนั้นดึงด้ายเหล่านั้นออกอย่างรอบคอบ
แต่ ฉาวซวนไม่ได้ทำสิ่งนั้น เมื่อเขาใกล้ที่จะเสร็จส่วนอื่น เขาบีบส่วนปลายขณะที่บิดมันเบา ๆ หลังจากที่บิดอย่างแผ่วเบา ด้ายบางๆ สีดำก็โผล่ออกมาพร้อมกับเปลือกที่ปอกออก
กุยซีตะลึง“......”
ตอนนี้เธอไม่รู้จะแสดงออกทางสีหน้าอย่างไรบนใบหน้าของเธอ
มันไม่เหมือนกับที่เธอได้พยายามทำในสิ่งเดียวกัน แต่แน่นอนเพราะเธอได้พยายามมันมาก่อน เธอตระหนักดีว่ามันยากแค่ไหนที่จะดึงด้ายภายในสีดำออกมา แต่ เพียงตรงหน้าของเธอเอง เด็กฝึกงานทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบราวกับว่าเขาได้รับการฝึกฝนมันมาเป็นพัน ๆ ครั้ง ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างคล่องแคล่วเช่นเคย ปราศจากการลังเลแม้เพียงเสี้ยววินาที!
ในความเป็นจริง ฉาวซวนไม่รู้เช่นกันว่าทำไมเขาถึงสามารถจัดการมันได้อย่างไม่มีที่ติในครั้งแรกของเขา
มันรู้สึกเหมือน ... สัญชาตญาณ มันไม่ได้เป็นสัญชาตญาณของตัวฉาวซวนเอง แต่เป็นสัญชาตญาณของเขาหลังจากที่ได้อ่านชุดบันทึกของหมอผี มันก็ถูกย้ายจากชุดบันทึกของหมอผีมาที่ตัวเขา เช่นเดียวกับจิตสำนึกของสัญชาติญาณ เมื่อเขาได้สัมผัสกับตัวก้าน มันเหมือนมีใครบางคนกระซิบที่หูของเขาเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำต่อไป และวิธีการที่เขาควรจะทำมัน
ทั้งหมดของการลงมือทำเป็นเหมือนสำเนาเกือบทั้งหมดของภาพที่เขาอ่านบนม้วนหนังสัตว์เกี่ยวกับวิธีการที่จะจัดการกับก้านเจาะใจ
ด้วยฉาวซวนที่เพิ่มขั้นตอนการทำงาน, ชุดสมุนไพรจึงเสร็จได้อย่างรวดเร็ว กุยซีคว้าชุดสมุนไพรและวิ่งออกไป ทิ้งฉาวซวนและเต่าที่อยู่ในบ้านยามองกันไปมา [เขาเดิมพันเต่าหมดหน้าตักว่ามันมีความคิดที่ต้องการกัดฉาวซวน.]
หลังจากนั้นประมาณสองชั่วโมง หมอผีมา เขาดูค่อนข้างเหนื่อยล้า กุยซีอยู่ข้างหลังจะมองจากข้างหลังไปที่นักรบได้รับบาดเจ็บ และไม่ได้กลับมาพร้อมกับหมอผี
เมื่อหมอผีเข้ามา ฉาวซวนได้ให้อาหารเต่าด้วยขยะที่ทิ้งแล้ว
“ทางนั้นเป็นยังไงบ้างฮะ?” ฉาวซวนถามในขณะที่เขาถือถ้วยน้ำให้หมอผี
หมอผีนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้และจิบน้ำ ชั่วขณะ เขาตอบกลับไปว่า“มันเป็นเรื่องที่ดี.”
นั่นหมายความว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายในขณะนี้ ฉาวซวนยังคงให้อาหารเต่าด้วยขยะ
หมอผีจ้องไปที่ฉาวซวนชั่วขณะ ก่อนหน้านี้ กุยซีเคยบอกเขาเกี่ยวกับวิธีที่ฉาวซวนจัดการได้อย่างสมบูรณ์แบบของก้านเจาะใจ เขาก็ไม่ได้แปลกใจ มองไปที่ม้วนหนังสัตว์บนโต๊ะเขียนหนังสือและโต๊ะหิน เขาเป็นสุขใจแต่เรียกฉาวซวนอย่างเคร่งขรึม“อาซวน.”
"ฮะ?"
“เจ้าต้องการที่จะเป็นหมอหรือไม่?”
"ไม่เลยฮะ"
หัวใจของหมอผีแตกสลายทันทีเป็นชิ้น ๆ เช่นที่เขากล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวด้วยคำว่า “ไม่ฮะ” ...