px

เรื่อง : เทพอสูรบรรพกาล -Ancient Strengthening Technique
บทที่ 58 - ความลับของ ซือตู หลวน


 

บทที่ 58 - ความลับของ ซือตู หลวน

 

 

“ชิงสุ่ย รูปแบบกระบี่ที่เจ้าใช้จัดการ สือตู ปู้ฝานกับพักพวก คือ เคล็ดกระบี่พื้นฐาน ใช่หรือไม่”

 

ชิงอี้ เต็มไปด้วยความสุขและประหลาดใจขณะที่สอบถาม หลังจากทุกอย่างผ่านไป ชิงอี้ คุ้นเคยกับกลุ่มผู้เยาว์ที่ได้พ่ายแพ้ให้กับ ชิงสุ่ย และรู้ถึงระดับความแข็งแกร่งของพวกเขา ช่วยไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกภูมิใจ เป็นช่วงเวลาที่มารดา ภาคภูมิใจในความ รุ่งโรจน์ ของลูกๆ อย่างแท้จริง นี่เป็นเรื่องที่น่าประทับใจที่สุดในชีวิตของเธอ

 

“ถูกต้อง ท่านแม่ สิ่งนี้ไม่จะถูกผู้คนดูถูก เคล็ดกระบี่พื้นฐาน มีบางอย่างซ่อนอยู่ในรากฐาน มันจะทำให้ท่านเข้าใจในเรื่องของกระบี่อย่างลึกซึ้ง” ชิงสุ่ย ตอบอย่างจริงจัง

 

“ชิงสุ่ย เจ้าทำได้ยังไง? ในบรรดาพวกนั้นมี สือจงเหยา ซึ่งข้าเองก็รู้จักเป็นการส่วนตัว ความแข็งแกร่งของเขาแทบจะดูถูกไม่ได้เลย” ลุงสามขมวดคิ้วขณะถาม

 

“อันที่จริง มันก็ไม่ใช่ความลับอะไร พวกท่านรู้จักรูปแบบต่างๆที่ระบุใน เคล็ดกระบี่พื้นฐาน  ใช่ไหม ทุกรูปแบบจะเป็นการ ทะลวง และ รวดเร็ว ข้าฝึกแบบนั้นมาหลายร้อยล้านครั้งจนได้ตรัสรู้บางอย่างเกี่ยวกับ “สัจธรรม” ของกระบี่ข้าเชื่อว่าถ้าคนอื่นๆได้รับการฝึกแบบเดียวกับข้า ก็สามารถเข้าใจเกี่ยวกับ “สัจธรรม” นี้เช่นเดียวกัน” ชิงสุ่ย รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ มันไม่ใช่ว่าจะมีคนจำนวนมากที่สามารถจะขยายเวลาได้เหมือนเขา

 

ทุกคนรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่ ชิงสุ่ย กล่าวไว้ ต้องใช้เวลาถึง 10 ปีในการขัดเกลาทักษะกระบี่ของเขานี่คือสิ่งที่ทุกคนรู้ อย่างไรก็ตาม เทคนิคกระบี่ที่เรียบง่ายอาจมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ซ่อนอยู่ภายในถ้าพวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก ต้องแลกด้วยอะไร ต้องมีอำนาจจิตเท่าไหร่ที่ผู้ใช้กระบี่ต้องการ สายตาของทุกคนมองไปยัง ชิงสุ่ย ด้วยความเคารพและยกย่อง

 

รอยยิ้มที่เปล่งประกายผุดขึ้นมาบนใบหน้า ชิงอี้ ขณะที่เธอขยี้ผมของ ชิงสุ่ย และมีอารมณ์ที่ซับซ้อนเกิดขึ้นในใจ เธอรู้สึกว่า ชิวสุ่ย กำลังเติบโตขึ้นอย่างลึกลับ ความประหลาดใจที่ ชิงสุ่ย มอบให้เธอนั้นเกินความคาดหมายทั้งหมดของเธอ ช่วยไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกประทับใจกับชายชราโบราณผู้สอน ชิงสุ่ย

 

----------------------

 

ห้องพักหรูหราแห่งหนึ่งในเมืองร้อยไมล์

 

ชายที่แข็งแกร่งแต่งตัวหรูหรากำลังเอนกายอยู่บนเตียงที่แสนสบาย ขณะที่ข้างๆเขามีหญิงสาวสวมผ้าเช็ดตัวกำลังนวดให้กับชายหนุ่ม

 

ผู้หญิงคนนี้มีผมสีดำยาวและมีผิวสีขาวนวลเอวของเธองดงามและมีเสน่ห์ หูของเธอมีขนาดเล็กและโค้งเล็กน้อยทำให้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น

 

เมื่อเวลาผ่านไปได้ยินกรีดร้องดังขึ้น ผ่านไปไม่นานก็เหลือเพียงความเงียบเท่านั้น ชายคนนั้นยิ้มอย่างเยือกเย็นขณะที่เขาขยับตัวและออกจากห้อง

 

 

ชายคนนั้นเดินตามทางเดินด้านนอกห้องขณะที่เขาเดินลงบันได นี่เป็นลานหรูหราที่เป็นอิสระ เจ้าของดูเหมือนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากในการออกแบบ พรมแดงถูกวางไว้ทุกที่จากทางเดินไปยังห้องโถงใหญ่ และดูเหมือนจะเหมาะสำหรับจะเป็นที่อาศัยของภรรยาลับ

 

 

ขณะที่ชายคนนั้นเข้าไปในห้องโถงใหญ่ เขาได้เผยภาพลักษณ์ที่เต็มไปด้วยความงดงามและหล่อเหลา เพื่อแสดงความมั่นใจสูงสุด แต่ในใจกลับเจ็บปวดและทุกทน ชายทุกคนในห้องโถงใหญ่ลุกขึ้นยืนและทักทายเขาขณะที่เดินผ่านหน้าชายคนนั้น

 

 

"พี่ชาย หลวน ยังคงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเรา" ชายหนุ่มที่ดูผอมและอ่อนแอเริ่มพูดขณะที่เขายกนิ้วให้กับชายชื่อ หลวน

 

 

ชายที่ชื่อ หลวน เป็นคนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแจ่มใส รอยยิ้มนี้เป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนเข้าใจ

 

 

ชายที่ชื่อ หลวน นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ซือตู หลวน จากตระกูล ซือตู ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนรุ่นใหม่ เขาดูเหมือนจะสบายใจในขณะที่กำลังขำขันและหัวเราะกับวงดนตรีของเขา แต่หัวใจของเขากลับมืดมัวเมื่อได้ยินคำชมเชย

 

 

“พี่ชาย หลวน ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มจากหมู่บ้านชิง ได้ท้าทาย น้องชายของท่าน และ สือจงเหยา ความแข็งแกร่งของเขาเทียบได้กับเสือดำและหมีป่ารวมกันเลยทีเดียว

 

“ติง ฉิน น้องชายเจ้า ติง เค่อ อยู่ในเหล่าคนที่พ่ายแพ้หรือไม่” ซือตู หลวน นั่งลงและที่เหลือก็นั่งตาม จากนั้นหญิงก็มาเสริฟชาอย่ารวดเร็ว

 

ถ้วยชาทำจากทรายม่วง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของตระกูล ซือตู คนกลุ่มที่รวมตัวกันเหล่านี้เป็นลูกหลานคนร่ำรวยหรือลูกศิษย์จากตระกูลใหญ่ อาหารที่เขาทานทุกมื้อนั้นล้วนแต่ราคาแพงและอร่อย

 

“ฮะๆ” ติง ฉิน หัวเราะอย่างอายๆ

 

“ติง ฉิน ข้ารู้จักเจ้าดี อย่าบอกนะว่าเจ้าต้องการให้ ติง หลาง ประสบความสำเร็จในตระกูล ติง และขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูล แล้วเจ้าที่เป็นบุตรคนโตล่ะ เจ้ายังคงสามารถสร้างเรื่องให้ ติง หลาง เสียชื่อเสียงและบังคับให้เขาออกจากตระกูล ติง ได้” แม้ว่า ติง ฉิน จะมองดูตรงไปตรงมาก็ตาม แต่ ซือตู หลวน รู้ดีว่าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความโง่ นั้นเป็นคนไร้ความปรานีและเลือดเย็น

 

“ยังไม่ถึงเวลา และเมื่อเวลานั้นมาถึงคงต้องรบกวนพี่ชายแล้ว” ติง ฉิน หัวเราะ

 

นับตั้งแต่ ซือตู หลวน ได้รับบาดเจ็บส่วนล่างของร่างกายในระหว่างการบ่มเพราะพลังของเขา เขาพยายามหาวิธีรักษาและแสวงหาหมอมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ความหวังของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ไม่ว่าผู้หญิงที่มีสเน่ห์ขนาดไหนก็ไม่ทำให้เขาดีขึ้น ภายใต้ความโกรธเขาฆ่าหมอทั้งหมดที่รู้ความลับทิ้ง เหลือแค่ตัวเองเท่านั้นที่รู้ความลับนี้

 

หลังจากนั้น เขาใช้ความพยายามทั้งหมดเจาะจงไปที่การบ่มเพาะ แต่แฟนเก่าของเขารู้เรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการใช้วิธีลวงเพื่อล่อลวงเธอ โดยขู่ว่าจะฆ่าครอบครัวของเธอทั้งหมด ไม่มีทางเลือก แฟนเก่าของเขาต้องทำตามเท่านั้น ไม่งั้นทุกคนจะตายหมด

 

“ติง หลาง รู้เรื่องนี้หรือไม่” ซือตู หลวน ถามขณะหันไปมอง ติงฉิน

 

“เขารู้ แต่เขาไม่ได้สนใจ เขาจะไปสนใจเรื่องของคนอื่นได้อย่างไร” ติง ฉิน พูดด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน

 

“หืม เพื่อนคนนี้เคยข้ามหัวข้าไปในอนาคตเมื่อเขาตาย ข้าเกรงว่าเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งอะไรที่ฆ่าเขา” ซือตู หลวน อุทานออกมา

 

“นอกจากนั้นคนอื่นๆยังข้ามหัวพวกเราไป ติง หลาง นั้นเป็นตัวแทนของเหล่ารุ่นเยาว์ในเมืองร้อยไมล์ เราไม่ควรทำอะไรในตอนนี้รอดูว่าเขาจะทนความอับอายได้นานแค่ไหน”

 

คนเหล่านี้ทุกคนเป็นสมาชิกตระกูลที่มั่งคั่งในเมืองร้อยไมล์ ติง ฉิน มาจากตระกูลติง แรงจูงใจของเขาที่ตีสนิทกับ ซือตู หลวน เพียงเพี่อให้ ซือตู หลวน ช่วยเขากำจัด ติง หลาง

 

------------------------

 

ชิงสุ่ย ซึ่งอยู่ในร้านขายสมุนไพรกำลังยุ่งอยู่กับงานของตนเอง เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับกลุ่มที่เขาได้เอาชนะไปเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่พวกนั้นไม่มาสร้างปัญหาให้กับเขา เขาก็จะไม่ทำอะไร แต่ถ้าพวกเขาต้องการที่จะยุ่ง เขาก็จะไม่ใจดีเพราะเขานั้นไม่ใช่พระเจ้า

 

ในช่วงเวลากลางคืน ชิงสุ่ย เข้าไปในดินแดน หยกยุพราชอมตะ เขาคิดถึงสมบัติ 2 ชิ้นที่เขาได้ซื้อมาเข้าต้องการที่จะศึกษามันก่อนจะดึงกิ่งไม้สีดำออกมาเพื่อศึกษา แม้จะสังเกตุเกือบครึ่งวัน เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจปลูกมันข้างๆ ต้นเสริมปราณ ก่อนจะเทน้ำจากบ่อน้ำคริสตัลลงไป

 

สำหรับ แก่นแท้แห่งโลหะ เขาวางบนดินที่เปียกน้ำใกล้ๆบ่อน้ำคริสตัล ในขณะที่เขานั่งลงเตรียมตัวบ่มเพาะพลัง นอกจากความขยันหมั่นเพียรที่อดทนฟันฝ่าจากความล้มเหลวใครการโคจรลมปราณให้ผ่านรอบที่ 49 ชิงสุ่ย ใช้เวลาหลังจากโคจรปราณล้มเหลวฝึกฝน หมัดอสูรสันโดด อย่างต่อเนื่อง และฝึกฝนวิชากระบี่จาก เทคนิคกระบี่พื้นฐาน

 

ชิงสุ่ย หวังว่า เขาจะสามารถก้าวเข้าสู่คลื่นสวรรค์ขั้น 4 ของเคล็ดวิชากายาบรรพกาลได้

 

 

รีวิวผู้อ่าน