คนรับใช้สกุลมู่คุณภาพสูงมากขนาดนี้เลยเหรอ ? พวกเขาดูดีมาก ทั้งยังทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกเหมือนตนเองสง่างามราวกับไข่มุกที่กลิ้งอยู่บนจานหยก ทั้งผ่อนคลาย สบายและราบรื่น
เพียงไม่ช้าสาวใช้ก็นำชุดกระโปรงผ้าไหมมาให้เซี่ยฉิงกง ตระกูลเซี่ยได้ส่งเสื้อผ้าที่ออกแบบมาเพื่อเซี่ยฉิงกงโดยเฉพาะจำนวนหลายชุดมาไว้ที่นี่แล้ว
หลังจากที่เซี่ยฉิงกงผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก หากแต่เธอกลับไม่เห็นมู่เฉินฮ่าวเลย ทำไมเขาถึงหายตัวไปทันทีหลังจากพาเธอมาที่นี่ ?
เธอยังมีอีกหลายอย่างที่อยากจะถามเขา !
เซี่ยฉิงกงไม่มีทางเลือก เธอจึงไปถามเอากับอาเจิ้ง เพราะยังมีอะไรหลายอย่างที่เธอยังไม่เข้าใจ เซี่ยฉิงกงยังไม่กระจ่างอีกหลายเรื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเฉินเหวินกัง
เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนที่เห็น
ตกลงว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ? เป็นแม่เลี้ยงของเธอหรือเปล่า ?
"อาเจิ้ง นายน้อยอยู่ที่ไหน !" เซี่ยฉิงกงถาม
“ตอนนี้นายน้อย น่าจะอยู่ในห้องหนังสือครับ แต่เดิมวันนี้ บริษัทของท่านมีเรื่องต้องทำมากมาย แต่ช่วงบ่ายคุณถูกลักพาตัว นายน้อยเป็นกังวลมาก ด้วยความรีบร้อน ท่านจึงทิ้งงานการทุกอย่าง เพื่อรีบไปช่วยชีวิตคุณ" อาเจิ้งตอบอย่างนอบน้อม
ริมฝีปากของเซี่ยฉิงกงยกโค้ง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อคำพูดของอาเจิ้ง
"โอเค ขอบคุณ !" เซี่ยฉิงกงกำลังจะไปหามู่เฉินฮ่าว หากแต่ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหันกลับมาถามว่า "ว่าแต่อาเจิ้ง เธอชื่ออะไร ? ชื่ออาเจิ้งแค่นี้จริง ๆ เหรอ ?"
อาเจิ้ง ยิ้ม “ผมชื่อมู่เจิ้ง แต่ผมไม่ใช่คนตระกูลมู่โดยตรง ผมเป็นเด็กกำพร้า ตอนที่ผมอายุ 10 ขวบ ผมก็ได้พบกับนายท่านของตระกูลมู่ นายท่านมู่พาผมกลับมาที่ตระกูลมู่ และให้ผมใช้แซ่ของท่าน”
เซี่ยฉิงกงพยักหน้า เธอไม่คิดอะไรมากนัก เธอหันหลังกลับเดินไปหามู่เฉินฮ่าว
ครั้นผลักประตูเข้าไป มู่เฉินฮ่าวก็ปิดโน้ตบุ๊คลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาเคร่งขรึม
"ไม่มีใครสอนคุณหรือว่า คุณควรต้องเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องผู้อื่น ?"
ใบหน้าของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา นัยน์ตาที่เขาจับจ้องมองเซี่ยฉิงกงราวกับนกอินทรี เธอรู้สึกหนาวสันหลังวาบ
ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้อารมณ์แปรปรวนนักนะ ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกหวั่นเขาอยู่นิด ๆ แต่เธอก็ยังพูดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ว่า
"ถ้าสั่งให้ฉันเคาะประตู แล้วฉันเคาะ ก็เหมือนฉันกลัวคุณล่ะสิ ?"
มู่เฉินฮ่าวผงะไปชั่วขณะ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มักจะหงายไพ่ที่ทำเขาพูดไม่ออกเสมอ
สามวินาทีต่อมา
"ไปให้พ้น"
แล้วริมฝีปากบาง ๆ ของมู่เฉินฮ่าวก็เอ่ยออกมาอย่างดุ ๆ
"ก็ได้ ฉันออกไปก็ได้ แต่ฉันมีเงื่อนไขนะ !"
เซี่ยฉิงกงพูดพลางก้าวตรงไปที่โซฟาในห้องหนังสือ
หลังจากจัดการกับงานสุดท้ายของบริษัทแล้ว มู่เฉินฮ่าวก็ปิดโน้ตบุ๊ค เขาหันไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยความสนใจ
"มีอะไรก็ว่ามา ตอนนี้ผมกำลังอารมณ์ดี บางทีผมอาจจะยอมรับปากคุณ"
“ฉันอยากพบเฉินเหวินกัง !”
เงื่อนไขของเซี่ยฉิงกงนั้นไม่ผิดจากที่มู่เฉินฮ่าวคาดเดาไว้ในใจ
แต่…
"คุณไม่มีวันได้พบเขาแล้ว" มู่เฉินฮ่าวกล่าว
"ทำไม ?"
“เพราะเขาตายแล้ว”
เซี่ยฉิงกงตกใจแค่วันเดียวเอง ทำไมเฉินเหวินกังถึงตายได้
"ทำไมเขาถึงตายได้ล่ะ ? บ้าไปแล้ว มู่เฉินฮ่าว นี่คุณคงไม่ได้ส่งอาเจิ้งไปฆ่าเขาใช่มั้ย ? ในประเทศนี้ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิตนะ คุณผลักอาเจิ้งไปลงนรกได้อย่างไร ?"
มู่เฉินฮ่าวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาทั้งไม่รู้จะหัวเราะ หรือร้องไห้ให้กับผู้หญิงตรงหน้าเขาดี ?
เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ...
บางครั้งก็ฉลาดเป็นกรดจนมู่เฉินฮ่าวรู้สึกทึ่ง
แต่บางครา ... ก็ดูเหมือนว่าเธอสมองค้างจำเป็นต้องรีสตาร์ทใหม่
"คุณยังไม่คู่ควรกับการส่งคนสนิทของผมไปลงนรกเพื่อคุณหรอก"
นัยน์ตาของมู่เฉินฮ่าวเผยให้เห็นประกายอันตราย ดวงตาของเขากึ่งเล่นกึ่งจริง
“เขาตายที่ไหน ? เมื่อตอนบ่ายเป็นคุณที่พาเขาไป ? แล้วคุณพาเขาไปพบใคร ?”
***จบตอน เฉินเหวินกังตายแล้ว***