บ่ายวันนี้ อุณหภูมิโดยรวมกำลังดี ทำให้อากาศสดชื่นมาก
แสงแดดสาดส่องไปทั่วทั้งลานบ้านสกุลมู่ ทั้งคฤหาสน์เต็มไปด้วยบรรยากาศสบาย ๆ เซี่ยฉิงกงนั่งอยู่ในสวน เธอดูบันทึกการโทรศัพท์ของเฉินเหวินกัง การหมุนเวียน และการฝากถอนเงินในบัญชี ตลอดถึงสถานการณ์ของภรรยาของเฉินเหวินกังในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอาเจิ้งลอบเอาข้อมูลมาให้ด้วยวิธีการพิเศษ
และที่สำคัญที่สุดก็คือวิดีโอก่อนที่เฉินเหวินกังจะฆ่าตัวตาย เซี่ยฉิงกงพยายามหาเบาะแสบางอย่างจากมัน
เฉิงเหวินกังสงบนิ่งมากก่อนเสียชีวิต หลังจากเข้าไปในเรือนจำที่ถูกคุมขังชั่วคราว เขาก็หย่อนกายลงนั่งที่มุมห้อง จ้องกำแพงนิ่งครู่หนึ่ง เธอมองเห็นสีหน้าของเขาได้ไม่ชัดเจนนัก ไม่นานเขาก็ล้วงขวดยานอนหลับที่แอบซุกซ่อนไว้ออกมาอย่างใจเย็น จากนั้นก็กลืนยาทั้งหมด ก่อนจะก้าวไปที่เตียง แล้วล้มตัวลงนอน
เห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนการเตรียมพร้อมที่จะตายไว้นานแล้ว
ทำไมถึงลงมือเด็ดขาดเพียงนี้ ? ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังสั่งให้เขากระทำเช่นนี้ เขาต้องได้รับเงื่อนไขบางอย่างที่สำคัญมาก เขาถึงได้ยอมสละชีวิต
นี่เป็นจุดที่เธอคิดไม่ออก และอาจเป็นจุดที่สำคัญที่สุดด้วย
ขณะที่เซี่ยฉิงกงกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นั้น
"นายหญิงน้อย มีผู้หญิงมารอที่ประตู เธออ้างว่าเป็นน้องสาวของคุณ"
"น้องสาวเหรอ ? น้องสาวของฉันอยู่ไหน ?"
เซี่ยฉิงกงตื่นเต้นมาก ว่านอิง กลับมาแล้วหรือนี่ ? "
สาวใช้พยักหน้า "ค่ะ เธอบอกว่า เธอชื่อ.. เซี่ยชิงฉวน"
เซี่ยฉิงกงเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที เซี่ยฉิงกงและเซี่ยชิงฉวน แม้ว่าชื่อจะฟังดูคล้ายกันมาก หากแต่คนที่เรียกเธอว่าพี่สาวคนนี้ ก็คือ คนเดียวกับที่คิดหาวิธีกำจัดเธออยู่ตลอดเวลา
ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาที่นี่ล่ะ ?
เซี่ยฉิงกงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเข้ากันไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อชิงฉวนอุตส่าห์มาถึง ว่ากันว่าทหารมาก็ต้องใช้ขุนพลต้านรับ น้ำเข้ามาก็ใช้แผ่นดินต้าน (ไม่ว่าจะมาไม้ไหนก็รับมือได้เสมอ) สำหรับน้องสาวที่ไอคิวต่ำคนนี้ของเธอ เซี่ยฉิงกงไม่สนใจอะไรนัก
แค่อยากดูว่าชิงฉวนจะเล่นเล่ห์อะไรอีก ?
ใบหน้าเซี่ยชิงฉวนที่กำลังรออยู่ตรงประตูเปลี่ยนเป็นสีเขียวเล็กน้อย นี่เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปงั้นหรือ ?
หากเธอไม่ได้เข้าบ้าน วันนี้เธอก็มาเสียเที่ยวสิ ก่อนจะออกจากบ้าน เจินเมี่ยวหยูแม่ของเธอยังสำทับเป็นพิเศษว่า เธอต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดี เธอต้องสุภาพกับเซี่ยฉิงกง ห้ามโกรธ ทั้งต้องพูดคุยกับเซี่ยฉิงกงให้เหมือนญาติสนิท
เซี่ยชิงฉวนยังคิดในใจเลยว่า "คนทำการใหญ่ย่อมไม่ยึดติดกับเรื่องเล็กน้อย !"
อย่าลืมต้อง ‘สุภาพ’
หลังจากคิดได้เช่นนั้น ไม่นานสาวใช้ก็กลับออกมา
“นายหญิงน้อยเซี่ย ให้มาเชิญคุณเข้าไปข้างในค่ะ”
ชื่อนายหญิงน้อยเซี่ย ทำให้เซี่ยชิงฉวนรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย นอกจากเซี่ยชิงฉวนแล้ว ก็ไม่ควรมีใครได้ชื่อว่านายหญิงน้อยเซี่ยอีก ตอนนั้นเธอถึงกับนอนไม่หลับกระสับกระส่ายทั้งคืน เมื่อรู้ว่าตระกูลเซี่ยและตระกูลมู่มีสัญญาการแต่งงานกัน ในวันรุ่งขึ้นเธอยังคุยโวในวงสังคมไฮโซกับพวกเพื่อน ๆ คุณหนูของเธอว่าอีกไม่นานเธอก็จะได้แต่งงานกับมู่เฉินฮ่าว ผู้ซึ่งมีอิทธิพลกว้างขวางในนครเซี่ยงไฮ้นี้
พวกเพื่อน ๆ คุณหนูของเธอต่างก็อิจฉาริษยาเป็นการใหญ่
ไม่คาดคิดว่าบ้านตระกูลมู่กลับเจาะจงว่าจะต้องเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเซี่ยเท่านั้น
ตอนนี้เซี่ยชิงฉวนจึงกลายเป็นตัวตลกของวงสังคมไฮโซไปเสียแล้ว ...
เดิมทีวงสังคมไฮโซของเซี่ยชิงฉวนนั้นเต็มไปด้วยลูกสาวของบรรดาผู้ดีมีสกุลสูงที่ชอบเปรียบเทียบแข่งขันกัน มองผิวเผินพวกเธอก็ดูเป็นมิตรกันดี แต่ลับหลังพวกเธอต่างต่อสู้แข่งขัน และเปรียบเทียบกันทุกสิ่งทุกอย่าง ต่างคนต่างก็อวดตัวเองว่า ใครจะได้แต่งงานกับคนที่ร่ำรวย และมีฐานะทางสังคมดีกว่าครอบครัวของตนมากกว่ากัน ?
อย่างไรก็ตาม เซี่ยชิงฉวนก็พยายามระงับอารมณ์เพื่อแสดงให้เห็นถึงมารยาทของตระกูลเซี่ยที่มีชื่อเสียง
"โอเค นำทางไปสิ" เซี่ยชิงฉวนปั้นยิ้ม ‘อ่อนโยน’
เพื่อให้สาวใช้ประทับใจว่าคุณหนูรองของตระกูลเซี่ย เป็นลูกสาวจากตระกูลมีชื่อเสียงที่ทั้งงดงาม ทั้งได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี และยังสุภาพกับบ่าวไพร่เช่นพวกเขา
หลังจากเดินไปตามทางได้ประมาณหนึ่งนาที ก็มาถึงสวนขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง เมื่อเซี่ยชิงฉวนมาถึง เซี่ยฉิงกงก็กำลังดูการ์ตูนตลก เธอยิ้มให้อย่างจริงใจ
“พี่สาว สองสามวันที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ? บ้านสกุลมู่ทำอะไรให้พี่น้อยใจรึเปล่า ?
***จบตอน ตัวตลกของวงสังคมไฮโซ***