หลังจากพูดจบ เซี่ยฉิงกงก็ไม่รอให้เซี่ยชิงฉวนตอบคำ เธอก้าวออกจากห้องนอนตรงไปที่สวน
เซี่ยฉิงกงบอกให้สาวใช้นำเก้าอี้นอนไปจัดวางในสวน เพื่อให้เธอใช้งีบ
ครั้นเซี่ยฉิงกงตื่นขึ้น เซี่ยชิงฉวนก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว
เธอถามสาวใช้ก็ได้คำตอบว่า หลังจากที่เซี่ยชิงฉวนเยี่ยมชมห้องพักของเธอเสร็จ ก็รีบแก้ตัวว่าต้องกลับไปทำธุระด่วนที่ตระกูลเซี่ยแล้วก็จากไป
“หมั่นโถว นายน้อยของเธอจะกลับมาเมื่อไหร่ ?”
เซี่ยฉิงกงยืดอกคลายกล้ามเนื้อเผยให้เห็นรูปร่างที่สวยงามของเธอ
เธอนอนหลับไปเป็นเวลาสามชั่วโมง การหลับนานขนาดนี้เป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับเซี่ยชิงฉวนในการก่ออาชญากรรม
"นายน้อยจะกลับมาตอนรับประทานอาหารเย็นค่ะ"
สาวใช้คนนี้คอยดูแลเซี่ยฉิงกงตลอดสองสามวันที่ผ่านมา
และเป็นสาวใช้คนเดียวกับที่เซี่ยฉิงกงบอกให้ไปหาเสื้อผ้ามาให้เธอในวันนั้น ชื่อของเธอคือ ลู่หมั่น และมีชื่อเล่นว่า ‘หมั่นโถว’
ตอนที่เซี่ยฉิงกงถามชื่อของสาวใช้นั้น เธอกำลังจิบน้ำเปล่าอยู่เต็มปาก ทันทีที่ได้ยินชื่อ ‘หมั่นโถว’ เธอก็พ่นน้ำออกมาเต็มหน้าสาวใช้
หมั่นโถวบอกว่า เธอเป็นเด็กกำพร้า และเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลมู่มาตั้งแต่เธอยังเด็ก ตอนเด็ก ๆ เธออ้วนมาก และชอบกินหมั่นโถวมาก ๆ จึงได้รับฉายานี้ และเธอก็ใช้มันมากว่าสิบปีแล้ว
เซี่ยฉิงกงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เด็กผู้หญิงอายุ 18 ปีถึงจะโตเป็นสาวแล้ว หากต่อไปเมื่อโตกว่านี้หมั่นโถวจะต้องสวยมากแน่ ๆ
เซี่ยฉิงกงมารู้ในภายหลังว่า หลังจากที่ตระกูลมู่รับหมั่นโถวเป็นลูกบุญธรรม หมั่นโถวก็ได้รับการฝึกพิเศษในฐานะทหารหญิงหน่วยรบพิเศษเป็นเวลาถึงเจ็ดปี ความขมขื่น หยาดเหงื่อ และหยาดน้ำตาไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถทนรับได้ง่ายดายนัก
แล้วก็เป็นไปตามที่หมั่นโถวพูด มู่เฉินฮ่าวกลับมาในเวลารับประทานอาหารค่ำ
ครั้นเห็นเซี่ยฉิงกงนั่งรอเขาอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว และยังไม่ได้เริ่มกินอาหารใด ๆ ในหัวใจของมู่เฉินฮ่าวก็รู้สึกอบอุ่น
ชั่วขณะนั้น เขาพลันรู้สึกดีที่พบว่ามีคนรอเขาอยู่ที่บ้าน
หากแต่ปากของเขากลับเอ่ยออกไปอย่างไม่น่าให้อภัยว่า
"จุ๊ จุ๊ คุณหนูเซี่ยกำลังรอสามีกลับบ้านเพื่อกินข้าวด้วยกันหรือจ้ะ ?"
เซี่ยฉิงกงกวาดตาไปมองมู่เฉินฮ่าว เธอพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า
"อย่าหลงตัวเองนักเลย ฉันไม่ได้รอคุณกลับมากินข้าวพร้อมกันสักหน่อย"
ตอนที่มู่เฉินฮ่าวกำลังประชุมคณะกรรมการบริษัท เขาก็ได้ข่าวว่าเซี่ยฉิงกง ถามถึงเขา ว่าวันนี้เขาจะกลับบ้านกี่โมง ?
"โอ้ ! ไม่ได้รองั้นเหรอ? งั้นสงสัยว่าอาหารที่พ่อครัวบ้านมู่ปรุงให้นั้นจะไม่ตรงตามความประสงค์ของคุณหนูเซี่ยล่ะสิ ?"
"เอาล่ะ มู่เฉินฮ่าว ถ้าคุณไม่กวนโมโหฉัน คุณจะตายรึไง"
เซี่ยฉิงกงพูดอย่างอดไม่ได้
ทำไมนายน้อยมู่คนนี้ชอบยั่วโมโหเธอจัง ?
"นายหญิงน้อย นั่นหมายความว่าคุณยอมรับว่า คุณกำลังรอนายน้อยกลับบ้าน เพื่อมารับประทานอาหารเย็นพร้อมกับคุณใช่ไหม ?"
อาเจิ้งที่อยู่ข้าง ๆ เผลอพูดมาก ทำให้มู่เฉินฮ่าวจ้องเขาอย่างดุดัน
"อาเจิ้ง วันนี้พูดมากจัง"
“ครับ นายน้อย ผมจะหุบปากให้สนิท !” อาเจิ้งก้มศีรษะลง
ที่เซี่ยฉิงกงนั่งรออยู่ที่นี่ก็เพราะมีเรื่องต้องคุยกับมู่เฉินฮ่าว
"วันนี้..เซี่ยชิงฉวน น้องสาวของฉันมาที่นี่"
"อืม ผมรู้แล้ว แต่กินข้าวกันก่อนเถอะ"
มู่เฉินฮ่าวพยักหน้า พลางหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างสง่างามและเริ่มกิน
เซี่ยฉิงกงเองก็หิว เธอเริ่มใช้ตะเกียบคีบอาหาร พ่อครัวของตระกูลมู่ได้รับการว่าจ้างเป็นพิเศษมาจากโรงแรมระดับห้าดาว อาหารที่ทำออกมาทั้งสวยงามทั้งอร่อย
และแล้ว…
เซี่ยฉิงกงก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจอะไร แต่แล้วก็หยุดชะงัก
ครั้นหมั่นโถวซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นท่าทีของเซี่ยฉิงกงผิดแปลกไปเล็กน้อย เธอก็รีบถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า
"นายหญิงน้อยเป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ ?"
เซี่ยฉิงกงรู้สึกอายเล็กน้อย แล้วมู่เฉินฮ่าวก็ยังอยู่ที่นี่ด้วย
“ไม่ไม่ ... ไม่เป็นไร”
"ไม่เป็นไรได้ไง ? ผมคิดว่าสีหน้าของคุณดูไม่ดีเลย อาหารต้องมีปัญหาอะไรแน่ ๆ ?"
เซี่ยฉิงกงกวักมือให้หมั่นโถว ส่งสัญญาณให้หมั่นโถวย่อกายต่ำลง
หมั่นโถวยื่นหูเข้าไปใกล้เซี่ยฉิงกงด้วยความสับสน
***จบตอน รอสามีกลับมากินข้าว***