การสวมแหวนที่นิ้วนางมักหมายถึงการหมั้นหมายหรือแต่งงาน
เซี่ยฉิงกงก้มลงมองแหวนหัวมังกรในมือของเธอ ด้วยท่าทางเหมือนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
“มู่เฉินฮ่าว คนเฮงซวย ทำแบบนี้กับฉันได้ไง ผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่แต่งงานแล้ว พวกเธอก็ต้องสวมแหวนเพชร แต่ดูที่คุณสวมให้ฉันสิ !"
ยิ่งมองแหวนหัวมังกรดำเมี่ยมวงนี้ เซี่ยฉิงกงก็ยิ่งไม่ชอบใจ
มู่เฉินฮ่าวคิ้วสั่น การแสดงออกบนใบหน้าของเขากระตุกเล็กน้อย ราวกับว่าเขาต้องการที่จะหัวเราะ หากแต่เขาก็พยายามสะกดกลั้นไว้
"สิ่งนี้สามารถช่วยชีวิตคุณได้ในช่วงเวลาวิกฤติ คุณสวมมันไว้ก่อนเถอะ สิ่งที่ผู้หญิงธรรมดามีได้ ผมไม่มอบให้คุณหรอก ผมจะมอบแต่ของที่ผู้หญิงธรรมดาไม่มีวันมี แบบนั้นแหละผมจึงจะมอบให้คุณ"
เซี่ยฉิงกงเม้มปากเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเลือดฝาดของเธอ พลางมองแหวนบนนิ้ว ในเมื่อมู่เฉินฮ่าวพูดเช่นนี้ เธอจะยังพูดอะไรได้อีก เธอจึงได้แต่พยักหน้า
"อืม ! อย่างไรก็ตาม ฉันเองก็กำลังจะแต่งงานเป็นครั้งแรก และแหวนวงนี้ก็เป็นของชิ้นแรกที่คุณมอบให้ คุณคงจะไม่ให้ของไม่ดีกับฉันหรอกน่า"
อีกากลุ่มหนึ่งบินผ่านศีรษะของ มู่เฉินฮ่าว
“เอาล่ะ นี่ก็สายแล้ว เมียจ๋า เราไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปชมการแสดงฉากใหญ่กัน” มู่เฉินฮ่าวยิ้มอย่างชั่วร้าย
การแสดงฉากใหญ่อะไรกัน เซี่ยฉิงกงได้แต่งงงวย หากแต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร เพราะเธอรู้ว่าถามไปมู่เฉินฮ่าวก็ไม่บอก
เซี่ยฉิงกงลุกขึ้นจากเก้าอี้ และตอนนี้เธอก็เหยียบบนส้นสูงคริสตัล 10 ซม.
มันเดินยากไปหน่อยนะ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวฝึกเธอบนทางด่วน ความสามารถของเซี่ยฉิงกงในการย่างก้าวบนรองเท้าส้นสูงนั้นก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก
ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้มู่เฉินฮ่าว เมื่อหวนคิดถึงเรื่องนี้ เซี่ยฉิงกงก็กัดฟันเล็กน้อย เธออยากจะกัดมู่เฉินฮ่าวให้เต็มเขี้ยว
ทว่าแค่เพียงก้าวออกไปสองสามก้าว เซี่ยฉิงกงก็สะดุดชายกระโปรง
เธอไม่อาจทรงตัวอยู่ได้ และกำลังจะหน้าคว่ำจูบพื้น
โชคดีที่มู่เฉินฮ่าวประสาทสัมผัสไว เขารีบคว้าเอวของเซี่ยฉิงกง รั้งเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขาได้ทันท่วงที
เซี่ยฉิงกงรู้สึกได้ถึงแผงอกของชายหนุ่มที่แนบชิดติดกับเรือนร่างของเธอ พร้อมกันนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็ขยายใหญ่ขึ้นในสายตา อุณหภูมิในกายที่แผดเผาออกมาจากฮอร์โมนเพศชายพลันหลั่งออกมารดทั่วร่างของเธอเริ่มทำให้เธอรู้สึกร้อนระอุ และนั่นก็ทำให้เซี่ยฉิงกงหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย ...
นัยน์ตาของคนทั้งสองสบกัน เซี่ยฉิงกงเห็นร่องรอยของอารมณ์บางอย่างที่ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนจากนัยน์ตาของชายหนุ่ม
ทันทีที่เซี่ยฉิงกงดึงสติกลับมาได้ เธอก็พูดอย่างตะกุกตะกักว่า
"ขอบคุณ !"
หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวประคองให้เซี่ยฉิงกงยืนได้อย่างมั่นคง เขาก็ปล่อยตัวเซี่ยฉิงกง จากนั้นก็ยกแขนขึ้นเป็นทีให้เซี่ยฉิงกงคล้องแขนของเขา
เซี่ยฉิงกงลังเลใจ เดิมทีเธออยากจะปฏิเสธ
หากแต่เมื่อพิจารณาแล้วว่า เธอสวมรองเท้าส้นสูงมากหากเดินเองคงจะลำบากมาก แต่ถ้าได้เดินกอดแขนมู่เฉินฮ่าว เธอก็จะสบายกว่านี้มาก
เวลานี้ แขนของมู่เฉินฮ่าวก็ยังคงยกค้างอยู่
มู่เฉินฮ่าวส่ายศีรษะพลางเลิกคิ้ว
"นี่ ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมถึงต้องมาเจอคู่หมั้นที่งี่เง่าอย่างคุณด้วยนะ ?"
ทันทีที่เซี่ยฉิงกงได้ยินประโยคนี้ หัวใจของเธอก็เต้นผิดจังหวะ หลังจากที่นิ่งเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีไปครู่หนึ่ง เธอก็คล้องแขนของมู่เฉินฮ่าวอย่างว่าง่าย พลางเดินไปที่รถ
หมั่นโถวและอาเจิ้งมองด้านหลังของคนทั้งสอง จากนั้นก็ก้าวตามไปโดยอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบแก่กันว่า
“พูดก็พูดเถอะ นายหญิงน้อยกับนายน้อยช่างเหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกจริง ๆ !”
"ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นนายน้อยเอาใจใส่ผู้หญิงขนาดนี้"
หลังจากขึ้นรถแล้ว เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกแปลก ๆ แม้ว่ารถคันนี้จะยังคงเป็น เอส 600 เหมือนเดิมก็ตามที
แต่คราวนี้ไม่ใช่ คนขับรถไม่ใช่อาเจิ้ง หากแต่เป็นคนขับที่เธอไม่คุ้นเคย อาเจิ้งและหมั่นโถวขึ้นรถอีกคันขับตามหลังพวกเขามา
***จบตอน นายน้อยเอาใจใส่ผู้หญิง***