มู่เฉินฮ่าวพูดอย่างสบายใจ
"แล้วไงล่ะ คู่หมั้นของมู่เฉินฮ่าวก็ควรแล้วที่จะทำให้คนอื่นอิจฉาและเกลียดชัง นั่นก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเธอคนนั้นจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว"
ครั้นเซี่ยฉิงกงได้ยิน เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เธอยกมือเล็ก ๆ ขึ้นปิดริมฝีปากสีแดงอมชมพูของเธอ นัยน์ตาของเธอก็ยิบหยีราวพระจันทร์เสี้ยว
“พูดได้ไม่อายปากเลยจริง ๆ”
เซี่ยฉิงกงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
บรรดาสาว ๆ และบรรดาคุณชายรอบข้างต่างก็คาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างนายน้อยมู่ และคุณหนูเซี่ยอยู่ในใจ
นายน้อยมู่ชอบคุณหนูเซี่ยคนนี้จริง ๆ หรือ ?
ไหนว่าการแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นจากคำสัญญาระหว่างเจ้าบ้านมู่กับเจ้าบ้านเซี่ยเมื่อตอนที่นายน้อยมู่ยังเด็กไงล่ะ ?
หากแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ... ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองจะเหมือนคู่รักที่รักกันจริง ๆ
เรื่องของมู่เฉินฮ่าวทำให้หญิงสาวหลายคนจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงพากันเสียใจเล็ก ๆ หากแต่พวกเธอก็ยังคงคิดเสมอว่ามู่เฉินฮ่าวจะไม่ได้ชอบคุณหนูตระกูลเซี่ย และอีกไม่นานก็คงจะล้มเลิกการแต่งงาน
เซี่ยฉิงกงกอดแขนของมู่เฉินฮ่าว พลางก้าวเข้าไปในห้องรับรองของโรงแรมระดับห้าดาว
ภายในล็อบบี้ ผู้จัดการโรงแรมมาเป็นคนช่วยนำทาง และตรวจสอบบัตรเชิญเป็นกรณีพิเศษ
ครั้นผู้จัดการเห็นมู่เฉินฮ่าว เขาก็กล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มที่ค่อนข้างประจบประแจงโดยไม่เอ่ยถามถึงบัตรเชิญใด ๆ
“นายน้อยมู่ ดีจริง ๆ ที่นายน้อยมู่กรุณามาเยือนโรงแรมของเรา นายน้อยมางานวันเกิดของท่านเจ้าบ้านเซี่ยใช่หรือไม่ ? เชิญทางนี้ขอรับ”
เขาพยักหน้า และโค้งคำนับในครั้งเดียว
เซี่ยฉิงกง รู้สึกได้ทันทีว่ารอยยิ้มของชายคนนี้ไม่มีความจริงใจเลย
ยามที่ผู้คนแสดงความเคารพ และยิ้มอย่างจริงใจ มุมปากของคนผู้นั้นมักจะเชิดขึ้น นัยน์ตาก็จะหยีเล็กน้อย บุคคลนี้ไม่เพียงแต่ไม่มีอาการดังกล่าวเท่านั้น หากแต่ยังรู้สึกเหมือนยิ้มแบบไม่ใช่รอยยิ้มอีกด้วย
มู่เฉินฮ่าวพาเซี่ยฉิงกงตรงเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง ส่วนอาเจิ้งที่ติดตามเขามาก็ส่งการ์ดเชิญให้ผู้จัดการโรงแรม
ยามนี้ ในห้องรับรองเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากมาย และแน่นอนว่าทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ทรงอำนาจ และมีอิทธิพลในนครเซี่ยงไฮ้ ทำให้ที่นี่แลดูค่อนข้างมีชีวิตชีวามาก
ครั้งนี้มีผู้คนมากมายที่ต่างถูกดึงดูดไปกับความเจิดจ้าของตระกูลมู่ เว้นแต่เพียงเซี่ยเจิ้งหัวคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้เข้าร่วมในฉากใหญ่เช่นนี้
อย่างไรเสีย เซี่ยเจิ้งหัวก็เป็นบิดาผู้ให้กำเนิดเซี่ยฉิงกง เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ วันเกิดปีที่ 50 ของเขา เซี่ยฉิงกงเองก็มีความสุขมากเช่นกัน
เมื่อกวาดตามองโดยรอบ ก็เห็นเซี่ยเจิ้งหัวกำลังคุยกับชายผู้ซึ่งสวมสูทอย่างเป็นทางการ ชายผู้นั้นสวมแว่นตากรอบทอง ดูจากสีหน้าท่าทางของคนทั้งคู่ก็เหมือนกำลังคุยกันอย่างมีความสุขมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากก้าวเข้ามาในงาน เซี่ยฉิงกงก็เห็นเพียงอาเจิ้ง ไม่เห็นหมั่นโถวเดินตามมาพร้อมกับอาเจิ้งเลย
เซี่ยฉิงกงไม่คิดอะไรมาก เธอคิดเพียงว่าหมั่นโถวคงจะไปเข้าห้องน้ำ
เจินเมี่ยวหยู และเซี่ยชิงฉวนยืนอยู่ข้าง ๆ เซี่ยเจิ้งหัว เจินเมี่ยวหยูแต่งกายด้วยชุดราตรีที่งดงามเหมาะกับรูปร่างทั้งหรูหรา ทั้งสง่างามควบคู่ไปกับรอยยิ้มที่เผยออกเป็นครั้งคราว ยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกว่าภรรยาของเซี่ยเจิ้งหัวเป็นคุณนายที่มีพฤติกรรมเหมาะสมกับตระกูลชั้นสูงเช่นนี้อย่างดีเยี่ยม
เซี่ยชิงฉวนเองก็เป็นคนที่มีบุคลิกดีอยู่แล้ว เธอเองก็แต่งตัวได้ดีมากเช่นกัน และตราบใดที่เธอไม่ได้พูดจาอะไร เธอก็ยังดูเป็นคุณหนูที่มีกิริยามารยาทงดงามสำหรับทุกคน
มู่เฉินฮ่าว และเซี่ยฉิงกงเดินหาสถานที่ที่ถูกใจ จากนั้นก็หย่อนกายลงนั่ง
ทันทีที่เซี่ยฉิงกงนั่งลง เธอก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่บั้นเอว เพราะมือใหญ่ ๆ ของเขากำลังโอบเอวเล็ก ๆ ของเธอไว้นั่นเอง
"มู่เฉินฮ่าว นั่นคุณกำลังทำอะไรอยู่น่ะ ?"
เซี่ยฉิงกงกำลังจะผลักมู่เฉินฮ่าวออก ผู้ชายคนนี้แต๊ะอั๋งเธอทุกวันจนติดเป็นนิสัยแล้วรึไง ?
"คุณไม่เกลียดแม่เลี้ยงกับน้องสาวของคุณหรอกหรือ ? ผมจะบอกคุณให้นะ ยิ่งเราสนิทสนมกันมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะน้องสาวของคุณ"
มู่เฉินฮ่าวกระซิบข้างหูเซี่ยฉิงกง หากคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวใด ๆ เห็นภาพนี้เข้า ย่อมต้องคิดว่ามู่เฉินฮ่าวกำลังกระซิบคำรักกับเธอเป็นแน่
***จบตอน พูดได้ไม่อายปาก***