การแสดงออกของเซี่ยเจิ้งหัวผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาเหลือบมองเซี่ยชิงฉวน จากนั้นก็พูดกับเซี่ยฉิงกง
"ฉิงกง หนูเป็นคนมีเหตุมีผล ชิงฉวน ต่อไปในภายหน้าควรต้องเรียนรู้เรื่องนี้จากพี่สาวของเธอให้มาก ๆ รู้หรือไม่ ?"
เซี่ยชิงฉวนยังคงกุมใบหน้าน้ำตาพราก เธอไม่ก้มศีรษะแม้สักนิด เจินเมี่ยวหยูรีบดึงตัวลูกสาวเข้ามากระซิบว่า
"ลืมที่แม่พูดกับลูกเมื่อเช้าแล้วหรือไง ?"
เซี่ยชิงฉวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอาเถอะ อย่างไรเสียวันดี ๆ ของเซี่ยฉิงกงก็กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว เธอจึงกล่าวคำขอโทษอย่างขอไปที
"ขอโทษด้วยพี่สาว ชิงฉวนไม่ควรพูดกับพี่แบบนั้นเลย"
เซี่ยฉิงกงยังคงแย้มยิ้มอย่างใจดี
“อืม..ไม่เป็นไร”
มู่เฉินฮ่าวไม่ได้พูดอะไรเลยนับแต่ต้นจนจบ เขาเอาแต่มองครอบครัวนี้ด้วยสายตาเย็นชา แววตาสีเข้มและโปร่งแสงของเขาปรากฏรอยยิ้มที่ยากคาดเดา
"เอาล่ะ เอาล่ะ อย่างไรเสียก็เป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าให้เรื่องนี้บ่อนทำลายความสุขของพวกเราเลย" เจินเมี่ยวหยูกล่าวออกมา
ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเถอะ..
วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 50 ปีของเซี่ยเจิ้งหัว เซี่ยฉิงกงขี้เกียจที่จะสนใจสองแม่ลูกนี่แล้ว
หลังจากคุยกันต่ออีกไม่กี่คำ เธอก็หาที่นั่ง เพียงไม่ช้าก็ได้เวลาเริ่มรับประทานอาหาร
เซี่ยเจิ้งหัว และเจินเมี่ยวหยูกล่าวทักทายแขกเหรื่อที่เหลือ ทิ้งเซี่ยฉิงกงกับมู่เฉินฮ่าว และเซี่ยชิงฉวนที่ดูไม่มีความสุขไว้ที่โต๊ะ
หลังจากหย่อนกายลงนั่งได้ไม่นาน มู่เฉินฮ่าวก็กระซิบข้างหูเซี่ยฉิงกงว่า
"ผมมีหุ้นส่วนทางธุรกิจรออยู่ที่ห้องติดกันนี่ ผมจะไปทักทายเขาก่อน หากบริกรนำไวน์มาเสริฟ คุณก็ดื่มซะนะ"
"หือ ?"
เธอเข้าใจครึ่งแรกของประโยค หากแต่ครึ่งหลังหมายถึงอะไร ?
“คุณไม่ต้องกังวล แค่ทำตามที่ผมบอกก็พอแล้ว”
หลังจากกล่าวจบ มู่เฉินฮ่าวก็ลุกขึ้นและผละจากไป อาเจิ้งเองก็เดินตามไปด้วย
ไม่กี่นาทีหลังจากที่มู่เฉินฮ่าวผละจากไป บริกรก็เดินเข้ามาพร้อมด้วยถาดที่มีไวน์แดงสองสามแก้ววางอยู่
"คุณผู้หญิงเชิญชิมไวน์แดงสูตรพิเศษของโรงแรมเราขอรับ"
บริกรยิ้มอย่างสุภาพ พลางยื่นแก้วไวน์ให้เซี่ยฉิงกง
เซี่ยฉิงกงหยิบไวน์แดง จากนั้นก็วางไว้บนโต๊ะ
ครั้นเห็นว่า เซี่ยฉิงกงยังคงไม่ดื่มไวน์ เซี่ยชิงฉวนก็เริ่มเป็นกังวลเล็กน้อย เธอขยิบตาให้บริกร แล้วบริกรก็ยื่นไวน์แดงให้เซี่ยชิงฉวนอีกหนึ่งแก้ว
“พี่ฉิงกง เป็นน้องที่พูดจาไม่ดีทำให้พี่ต้องขุ่นเคือง ตอนนี้น้องขอชนแก้วกับพี่ หวังว่าพี่จะไม่ถือสาน้องนะ”
เซี่ยชิงฉวนยกแก้วไวน์ขึ้น เธอพูดกับเซี่ยฉิงกงพร้อมรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความอึดอัดเคอะเขิน
หากมู่เฉินฮ่าวไม่ได้บอกเซี่ยฉิงกงไว้ก่อนผละไป เธอคงจะไม่ดื่มไวน์ของเซี่ยชิงฉวนอย่างแน่นอน
ดังนั้น ในขณะนี้ เซี่ยฉิงกงจึงหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา พูดพร้อมรอยยิ้มว่า
"เอาสิ"
จากนั้นเธอก็ดื่มไวน์แดงในแก้วนั้นจนหมด
ไวน์แดงที่นุ่มนวลไหลผ่านลำคอของเธอ ตุ่มรับรสของเซี่ยฉิงกงสัมผัสได้ถึงรสชาติทั้งหมดของมัน ช่างเป็นรสชาติที่แตกต่างจากไวน์อื่น ๆ และมันก็เป็นไวน์ที่ดีจริง ๆ
หลังจากที่ เซี่ยฉิงกงดื่มหมดแก้ว เธอก็เหลือบมองเซี่ยชิงฉวน ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกเสมอว่าแววตาของเซี่ยชิงฉวนนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เธอมีความสุขเรื่องอะไรกันนะ ?
หรือไวน์นี้มีอะไรผิดปกติ ?
เธอเชื่อใจมู่เฉินฮ่าว หากมีปัญหากับไวน์แก้วนี้ มู่เฉินฮ่าวจะไม่ปล่อยให้เธอดื่มอย่างแน่นอน
“พี่ดื่มแล้ว เธอไม่ดื่มเหรอ ?”
เซี่ยชิงฉวนยกแก้วขึ้น พลางหมุนแก้วอย่างอวดดี ก่อนจะละเลียดดื่ม
หลังจากดื่มหมดแก้ว เซี่ยชิงฉวนก็ลุกขึ้น และผละจากที่นั่งไป
ยามนี้เหลือเพียงเธอคนเดียวบนโต๊ะ
เนื่องจากเซี่ยฉิงกงเพิ่งจะกลับมาที่บ้านสกุลเซี่ยได้ไม่นานนัก ดังนั้นเซี่ยฉิงกงย่อมไม่รู้จักบุคคลสำคัญของเมืองนี้ เธอไม่รู้จักบรรดาหญิงสาวจากครอบครัวมั่งคั่งเหล่านั้นเลย ดังนั้นจึงไม่มีใครเข้ามาสนทนากับเธอ หากแต่เธอก็มีความสุขที่ได้นั่งสบาย ๆ อยู่เพียงลำพัง
หลังจากนั้นประมาณสองสามนาที
"คุณหนูเซี่ย นายน้อยมู่เชิญคุณไปพบที่ห้องน้ำ เขามีบางอย่างจะต้องทำ แล้วเขาจะตามไปพบคุณที่นั่น"
เสียงของพนักงานเสิร์ฟดังมาจากด้านหลังเธอ
***จบตอน เชิญชิมไวน์แดงสูตรพิเศษ***