ตอนที่ 13
ค่ำคืนที่เงียบเหงา ผ่านไปอีกวัน
หัวหน้าหมู่บ้านเดินมาปลุกซูฮยอนแต่เช้ามืด
“เจ้าหนุ่มตื่นหรือยัง”
ไม่มีเสียงขานรับจากภายในเต๊นท์ ทุกอย่างเงียบสงบ
หัวหน้าหมู่บ้านตะโกนเรียกเขาอีก 2-3 ครั้ง แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบเหมือนเดิม
หัวหน้าหมู่บ้านเริ่มทนไม่ไหว เขาถือวิสาสะเขาไปในเต๊นท์ของซูฮยอนเองเลย
“เจ้าหนุ่ม เจ้าจะออกเดินทางเมื่อไหร่กัน…” เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเดินเข้ามาภายในเต๊นท์
ข้างในกลับว่างเปล่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย
หัวหน้าหมู่บ้านมองไปรอบเต๊นท์เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าสายตาเขาไม่ได้มองผิด “เจ้าหนุ่ม คนนั้นไปไหนกัน”
อืม..สงสัยเจ้าหนุ่มจะออกไปเดินเล่นยืดเส้นยืด
เมื่อคิดได้ดังนั้น หัวหน้าหมู่บ้านถึงเริ่มตามหาซูฮยอนรอบๆหมู่บ้าน
“ท่านหัวหน้า ท่านจะไปไหนครับ” ชาวบ้านคนหนึ่งร้องทัก
“ข้ากำลังตามหานักผจญภัยคนเมื่อวาน เจ้าเห็นมันหรือไม่” หัวหน้าหมู่บ้านตอบกลับพร้อมสอดส่องสายตาไปมา
“ไม่เห็นนะครับ มีเรื่องอะไรเหรอครับท่านหัวหน้า”
“ข้าไปหาเขาเมื่อเช้ามืด แต่เขาไม่ได้อยู่ภายในเต๊นท์ ข้าสังหรณ์ใจว่า เขาอาจจะขโมยของภายในหมู่บ้าน แล้วหนีไปแล้วก็ได้”
เมื่อชาวบ้านได้ฟังคำบอกเล่าของหัวหน้าหมู่บ้าน เขาก็รู้สึกกระวนกระวายไปด้วย
การปล้นสะดมเกิดขึ้นตามหมู่บ้านต่างๆเป็นประจำ
มันเกิดเหตุจากคนนอกที่เข้าหมู่บ้านมาในฐานะแขกผู้มาเยือนเหมือนซูฮยอน
เมื่อคนในหมู่บ้านหลับกันหมด พวกมันจึงเริ่มแผนการขโมยของตามบ้านต่างๆแล้วจากไป
“อะไรกัน เรื่องจริงเหรอครับ”
“ซู่ เบาเสียงหน่อย อย่างพึ่งตื่นตูมไป ข้าแค่สันนิฐานเท่านั้น”
“แต่ว่ามัน...”
“ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวข้าจัดการเอง เจ้าอยู่เงียบๆก็พอ เข้าใจไหม”
“เข้าใจแล้วครับ”
หัวหน้าหมู่บ้านมองชาวบ้านตรงหน้าของเขา ที่มีอาการหวาดกลัวเล็กน้อย
แท้จริงเข้ามีแผนการที่ว่างไว้อยู่ แต่เขาไม่สามารถบอกคนอื่นได้
หัวหน้าหมู่บ้านหยิบขวดขนาดเล็กขึ้นมาไว้ในมือ
มันคือขวดยานอนหลับที่มีอานุภาพร้ายแรงมากที่สุด
แต่จิบนิดเดียวมันสามารถทำให้คุณหลับไหลได้ถึง 10 กว่าวัน
แผนดังเดิมของหัวหน้าหมู่บ้านคือ
เขาจะแอบวางยานอนหลับซูฮยอน
จากนั้นจึงขโมยอาหารของซูฮยอนมาให้หมด
แต่ก่อนที่แผนของเขาจะสำเร็จ
เขาต้องหาซูฮยอนให้เจอก่อน
หัวหน้าหมู่บ้านยังคงไม่ล้มเลิกความพยายาม เขาเริ่มเดินตามหาตัวซูฮยอนอีกครั้ง
ทว่าตอนนั้นเอง ได้มีหญิงสาวนางหนึ่งวิ่งมาหาหัวหน้าหมู่บ้านอย่างเร่งรีบ
“หัวหน้าหมู่บ้านค่ะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”เธอวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหัวหน้าบ้านพอดีเป๊ะๆ
เธอหยุดอยู่สักพักเพื่อปรับลมหายใจ
“อะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“ที่ลานค้าขายของหมู่บ้าน…”
เมื่อผู้ใหญ่บ้านได้ฟังเรื่องที่เธอเล่า สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีนัก เขารีบเดินไปลานค้าขายด้วยความกระวนกระวายใจ
ลานค้าขายมันเป็นย่านที่ผู้คนไปซื้อของกิน ของใช้ในครอบครัว
แต่ตอนนี้มันกลับถูกปล่อยทิ้งล้าง เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ใกล้ล้มสลายเต็มที
อาหารการกินก็หายาก ผักก็ไม่สามารถเพาะปลูกได้ ชาวบ้านจึงไม่มีของอะไรมาขายเลยแม้แต่อย่างเดียว
ย่านแห่งนี้เวลาปกติ ชาวบ้านมักบางตา
ทว่าตอนนี้ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้ชาวบ้านมามุงดู จนสถานที่แห่งนี้เริ่มแออัด
“เกิดอะไรขึ้น”เสียงของหัวหน้าหมู่บ้านเรียกความสนใจจากฝูงชน
ใบหน้าของชาวบ้านต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว บางคนก็ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
เมื่อ ฝูงชนเห็นหัวหน้าหมู่บ้านมาแล้ว
ชาวบ้านก็พากันแหวกทาง จนในที่สุดหัวหน้าหมู่บ้านก็มายืนอยู่ตรงหน้าของซูฮยอน
ซูฮยอนเมื่อพบว่าผู้ใหญ่บ้านมาถึงแล้ว
เขาจึงทักทายกลับไป “ผู้ อาวุโสมาช้าจัง ผมรอตั้งนาน”
“ข้าถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“พอดีผมเจอสิ่งนี้นะครับ”
ตุบ..
ซูฮยอนโยนหัวงูยักษ์ที่เขาแบกมันมานานลงกับพื้น
“ผู้ อาวุโส เคยเห็น มอนสเตอร์ ตัวนี้ไหมครับ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากหัวหน้าหมู่บ้าน
แต่ภายในใจหัวหน้าหมู่บ้านตอนนี้เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ
ซูฮยอนมองหัวหน้าหมู่บ้านที่มัวแต่เงียบไม่พูดไม่จา เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“ผู้ อาวุโส ท่านเป็นอะไรหรือป่าวครับ สีหน้าดูไม่ค่อยดีเลย ท่านนอนไม่พอเหรอครับ พอดีผมเบื่อๆเลยออกไปเดินเล่นรอบๆ
แต่เผอิญไปเจอ มอนสเตอร์นอนหลับอยู่ชั้นใต้ดิน ผมจึงตัดสินใจฆ่ามันทิ้งซะเลย”
“ทำไม ทำไมแกถึงฆ่ามัน ทำไม”
“ ทำไมล่ะครับ ผมฆ่ามันไม่ได้เหรอ มันเป็นมอนสเตอร์อันตรายมากเลยนะครับ”
“ใช่ แกฆ่ามันไม่ได้ เพราะมอนสเตอร์ตัวนี้กำลังปกป้องหมู่บ้านของพวกเราอยู่”
รอยยิ้มบนใบหน้าของซูฮยอนค่อยๆหายไป “ทำไมผู้อาวุโส ถึงคิดว่ามันกำลังปกป้องหมู่บ้านอยู่หล่ะครับ ท่านคิดเองเออเอง หรือป่าว”
“ข้าไม่ได้คิดไปเอง มอนสเตอร์ตัวนี้เป็นผู้พิทักษ์ของหมู่บ้านแห่งนี้”
“อ่อเหรอ แต่ว่าเพื่อการนั้น..”ซูฮยอนมองดูชาวบ้านรอบๆแล้วกล่าว
“เพื่อให้ มอนสเตอร์ตัวนี้เป็นผู้พิทักษ์ ผู้อาวุโสถึงกลับสังเวยชีวิตของชาวบ้านให้มันกินเลยงั้นเหรอ”
นัยน์ตาของผู้ใหญ่บ้านเบิกกว้างจากคำพูดของซูฮยอน
เขาก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย ก่อนกัดฟันตอบกลับ
“แก.. แกพูดเรื่องบ้าอะไรกัน” เรื่องนี่หัวหน้าหมู่บ้านเก็บมันไว้เป็นความลับตลอด
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมซูฮยอนถึงรู้เรื่องนี้ได้
“ผมเองก็พอจะรู้เรื่อง มอนสเตอร์ตัวนี้มาบางเล็กน้อย”
“ชื่อของมันคือ ‘อสรพิษล่าเนื้อ’ เมื่อมันเขมือบเหยื่อของมันจนอิ่ม ร่างกายของมันจะอ่อนล้า มันจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอนพักผ่อน”
ทันทีที่ซูฮยอนบอกชื่อของมอนสเตอร์ตัวนี้
ทั้งชาวบ้านแล้วหัวหน้าหมู่บ้านต่างตกใจ
พวกเขาไม่รู้จักชื่อมอนสเตอร์ตัวนี้เลยซักคน
“ มอนสเตอร์ตัวนี้ มันไม่สนอะไรทั้งสิ้น มันสนแต่อาหารของมันเท่านั้น เมื่อมันอิ่มท้อง มันต้องการนอนพักผ่อน เพื่อใช้เวลาในการย่อยอาหาร ความสามารถของมันคือ เมื่อมันกำลังย่อยอาหารอยู่มันจะปล่อย ฟีโรโมน ออกมา เพื่อแสดงหลักฐานว่าที่นี่คือที่ของมัน เมื่อมอนสเตอร์ที่อ่อนแอกว่ามาได้กลิ่น มันจะไม่กล้าเข้าใกล้ในอาณาเขตของอสรพิษล่าเนื้อ”
“หยุด หยุดพูดซะ”หัวหน้าหมู่บ้านตะโกนสั่งให้ซูฮยอนกยุดพูด
ร่างกายที่แก่ชรากำลังเดินไปหาซูฮยอนอย่างช้าๆ
ซูฮยอนยังคงยิ้มแล้วพูดต่อ “ผู้ อาวุโส ได้ หลอกลวงชาวบ้านเพื่อมาเป็นอาหารของมอนสเตอร์ตัวนี้ ผมพูดถูกไหม”
“ข้าบอกให้แกหยุดพูด”
“ มอนสเตอร์ตัวนี้มีความจำที่ดี เมื่อมันเห็นว่ามีคนมาเสริฟอาหารให้มันถึงที่ มันจึงไม่ทำร้ายหัวหน้าหมู่บ้านใช้ไหมครับ”
“อะไรกันเรื่องจริงงั้นเหรอ”
“เขาพูดเรื่องจริงเหรอ”
“ถ้างั้น ที่พวกเรามีชีวิตอยู่ ก็เพื่อเป็นอาหารของมันสินะ”
“แต่มันก็มีข้อสงสัยอยู่เหมือนกัน ในเมื่อหัวหน้าเจอมันครั้งแรก แต่ทำไมมันถึงไม่กินหัวหน้าล่ะ”
“ข้าเคยลองให้มันกินข้าเข้าไปแล้ว แต่มันไม่สนใจเลยแม้แต่นิดเดียว”หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวให้เหุตผล
หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวอ้างว่าเคยเสนอตัวเองไปให้มัน แต่มันไม่สนใจเขาเลยสักนิด เพราะฉะนั้นเคราะห์กรรมจึงไปตกที่ชาวบ้านอย่างช่วยไม่ได้
“จริงเหรอ ผมว่าท่านคงสังเวยชีวิตชาวบ้านไปแล้ว จึงค่อยนำกลับมาหมู่บ้านมากกว่า”ซูฮยอนตอบกลับด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
“แก..”
“ทุกคนอย่าไปเชื่อมัน มันโกหก”หัวหน้าหมู่บ้านตะกลับไป
ความนับถือของชาวบ้านเริ่มหายไปเรื่อยๆ
หัวหน้าหมู่บ้านไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่ก็มีบางคนอยู่ข้างเขา
“ต้องขอบท่านหน้าหมู่บ้านจริงๆ ถ้าไม่ได้หัวหน้าหมู่บ้านพวกเราคงนอนหลับสบายแบบทุกวันนี้ไม่ได้ ท่านคือ วีรบุรุษ ของพวกเรา”
“ขอบคุณท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้อยู่รอดปลอดภัย”
“หัวหน้าหมู่บ้าน…”
“ช่วยไม่ได้เพื่อความเป็นอยู่ของหมู่บ้าน ย่อมต้องมีคนเสียสละเป็นธรรมดา”
“ลูกชาย ลูกชายของฉัน หัวหน้าหมู่บ้านได้โปรดคืนลูกให้ข้าด้วย”
“เธอใจเย็นๆ อย่างน้อยลูกชายของเธอก็ช่วยชีวิตชาวบ้านได้หลายสิบคนเพราะงั้น..”
“หัวหน้าหมู่บ้านได้โปรด ฮื้อฮือ…”
“ชาวบ้านทุกคน อย่าไปเชื่อมัน”
“ใช่ มันเป็นคนหลอกลวง อย่าไปเชื่อมัน”
“ข้าเห็นด้วย พวกเราอย่าไปตกหลุมพรางจากคนนอก พวกเราต้องเชื่อใจกัน”
“ไม่ พวกเราต่างหาก ที่ถูกหลอก พวกแกเชื่อจริงๆเหรอว่า มอนสเตอร์ตัวนี้จะไม่กินหัวหน้าหมู่บ้าน”
“ทุกคนใจเย็นๆ และ ตั้งสติ”
“ท่านกล้าหลอกลวงสามีของข้า ไปให้เจ้าตัวอัปรีย์นั้นกิน ท่านหัวหน้า ทำไมท่านถึงทำแบบนั้น ข้าไม่เข้าใจ สามีข้าฮือ....…”
ดูเหมือนความคิดจะแตกออกเป็น 2 ฝ่าย
คำอธิบายของซูฮยอนดูมีน้ำหนักมากกว่า
ถ้าเขาไม่มีความรู้เรื่อง มอนสเตอร์ตัวนั้น เขาคงไม่สามารถอธิบายเรื่องราวของมันได้ คล่องปรื๋อขนาดนั้นแน่
แต่ก็มีชาวบ้านบางคนหลับหูหลับตาเชื่อคำแก้ตัวของหัวหน้าหมู่บ้านอยู่
“ ลูกแม่ ฮื้อฮือ”
“พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดช่วยลูกช้างด้วย”
“นางสวรรค์ช่วยบอกข้าที่ว่ามันเป็นแค่ความฝัน ไม่ใช่ความจริง”
ซูฮยอนมองดูชาวบ้านที่กำลังเสียใจจากคนในครอบครัวที่จากไป
การเสียสละมันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นก็จริง แต่ถึงขนาดต้องปิดบังกันแบบนี้เลยเหรอ
ปกป้องหมู่ และ มีชีวิตรอด
ปกป้องจากอะไร ดูเหมือนคำบอกใบ้ของ ผู้อารักขา จะเชื่อถือได้
เวลานี้แผนของหัวหน้าหมู่บ้านคง ผังพินาศ
“ขั้นตอนต่อไป…”
ปัง
ซูฮยอนกระทืบพื้นเสียงดังสนั่น ด้วยความที่เขาอัดพลังเวทย์ลงไปในเท้า มันจึงเกิดคลื่นลมกระจายออกไปเบาๆ
ความโกลาหลของชาวบ้านหลุดลงกระทันหัน
“ทุกคนครับ โปรดอยู่ในความสงบด้วย”
ความเงียบปกคลุมทั่วลานค้าขาย
“พวกคุณคงรู้แล้วสินะ ว่าหัวหน้าหมู่บ้านของคุณเป็นคนยังไง ผมแนะนำให้พวกคุณแตะเขาออกจากตำแหน่งซะ หรือไม พวกคุณก็ให้เขาอยู่ต่อไป แล้วเตรียมตัวเป็นอาหารงูเป็นรายต่อไป พวกคุณคิดเองละกันว่าจะเอาไงต่อ”
ซูฮยอนกล่าวเสร็จก็มองไปที่หัวหน้าหมู่บ้าน
เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านสบตากับซูฮยอน เขาก็กลัวจนแข้งขายืนไม่ไหว
“ทุกคนครับ ผมมีคำถาม”
มีชายหนุ่มคนหนึ่งผู้กล้าตั้งคำถามกลับซูฮยอน
“คุณนักผจญภัย คุณพึ่งฆ่า มอนสเตอร์ที่ดูแลหมู่บ้านไป จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกเราตายเพราะคุณล่ะ”
เมื่อพูดจบร่างกายของเขาก็สั่นเทา ดูเหมือนว่าเขาเป็นคนไม่ค่อยกล้าแสดงออกสักเท่าไหร่
นี่คงเป็นความกล้าที่เขารวบรวมมาเพื่อถามซูฮยอนโดยเฉพาะ
ถึงแม้วิธีการของหัวหน้าหมู่บ้านจะโหดร้าย แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า วิธีการของเขาสามารถทำให้หมู่บ้านปลอดภัยได้จริง
“หืม..หรือว่านายยินดีที่จะเป็นอาหารของงูเพื่อปกป้องหมู่บ้านล่ะ”ซูฮยอนตอบกับ
“ผะ..ผม..”
“จริงสิ ทุกท่านครับผมมีข่าวร้ายมาแจ้งให้ทุกท่านทราบ” ซูฮยอนกล่าว
“ข่าวร้าย.. เรื่องอะไรล่ะ”
“ อสรพิษล่าเนื้อ จะออกไข่ทุกๆ 3 เดือน ซึ่งตอนนี้มันออกไข่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวนไข่ของมันคือ 6-8 ฟองโดยประมาณ”
เมื่อชาวบ้านได้ยินว่าเจ้า อสรพิษ ได้ออกลูกของมันมาแล้ว ดวงตาของของทุกคนก็โตเป็นไข่ห่าน
“ถ้าหายพวกคุณยังคงสังเวยชีวิตคนในหมู่บ้านต่อไป จำนวนอาหารที่พวกคุณต้องให้มันจะมากตามไปด้วย คุณลองจิตนาการดูว่ามันน่ากลัวขนาดไหน”
ซูฮยอนยังคงถามต่อพร้อมกวาดสายตาไปรอบๆ “ผมเชื่อเลยว่า ใช้เวลาเพียงไม่นาน พวกคุณทุกคนคงไปอยู่ในท้องของ อสรพิษ อย่างแน่นอน”
ชาวบ้านทุกคนยังคงปิดปากเงียบ
ถึงแม้คนของหมู่บ้านจะมีเยอะพอสมควร
แต่ถ้าประชากร อสรพิษ เพิ่มขึ้น อาหารที่พวกมันต้องการก็เพิ่มขึ้นตามไปอีกหลายเท่า
ชาวบ้านทุกยังคงเงียบ…
“เฮ้อ พวกคุณเชื่อผมไหม ถ้าไม่เชื่อผมสามารถพาพวกคุณไปดูให้เห็นกับตาเลยก็ได้”
“อ่า.. อ่า..”
นี่สินะคือความสิ้นหวัง พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้จริงๆเหรอ
อีกกี่ปี กี่เดือน กันจึงจะเป็นเวลาตายของพวกเขา
บรรยากาศโดยรอบมืดมนลงอย่างเห็นได้ชัด
“พวกคุณอย่างทำหน้าอย่างงั้นสิ ผมพอมีวิธีอยู่บ้าง”
“มีทางรอดอยู่เหรอ”
“วิธีอะไร บอกพวกเราเร็วๆ”
ชาวบ้านทุกคนต่างตั้งอกตั้งใจฟังในสิ่งที่ซูฮยอนจะบอก
ความหวังที่ผังทลาย เริ่มกลับมาก่อตัวอีกครั้ง แต่มันจะใช้ได้ผลจริงเหรอ?
เมื่อซูฮยอนเห็นชาวบ้านทุกคนอยากรู้ เขาพูดกลับไปแค่ประโยคสั้นๆ
“ผมมีหนทางอยู่ มันจะทำให้พวกชาวบ้านทุกคนอยู่รอดปลอดภัยอย่างแน่นอน”ซูฮยอนพูดพร้อมกวาดสายตามองชาวบ้านที่มารวมตัวกัน
“พวกคุณสนใจไหม”
ชาวบ้านทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของซูมฮยอน
ส่วนทางด้านหัวหน้าหมู่บ้าน พวกเขาจะจัดการเอง
ชาวบ้านจับตัวหัวหน้าหมู่บ้านมาโบยหลัง
ข้อหาที่เขากล้ามาหลอกลวงชาวบ้านตาดำๆให้ไปเป็นอาหารแก่เจ้า อสรพิษ
เสียงร้องครวญครางดังไปทั่วหมู่บ้าน
“ทุกคน อย่าไปเชื่อมัน มันกำลังหลอกทุกคนอยู่”หัวหน้าหมู่บ้านตะโกนดังลั่น
มีชาวบ้านบางคนเชื่อในคำพูดของเขา
เหตุผลเพราะซูฮยอนเป็นแค่คนนอก ที่มาถึงหมู่บ้านแค่ไม่กี่วัน
แต่กลับกันหัวหน้าหมู่บ้านรับหน้าที่ดูแลพวกชาวบ้านมาตั้งนาน…
ถึงแม้หัวหน้าหมู่บ้านจะตะโกนดังสักแค่ไหน
ชาวบ้านก็ไม่สนใจเลยสัดนิด
ก็แน่ล่ะเล่นหลอกครอบครัวของชาวบ้านเพื่อไปเป็นเครื่องสังเวย ไม่แปลกที่ครอบครัวผู้สูญเสียจะโกรธเคือง
ซูฮยอนคัดเลือกชาวบ้านจำนวน 6 คน ที่มีร่างกายแข็งแรง เพื่อลงไปยังห้องใต้ดิน
“สภาพน่ากลัวเป็นบ้า” ชาวบ้านคนหนึ่งสบถออกมา แขน ขา ของสั่นไหวไปทั่วทั้งตัว
อสรพิษล่าเนื้อถูกเลี้ยงดูอยู่ชั้นใต้ดิน ซึ่งทางลงไปหามันอยู่ในบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน
ถึงแม้พวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่า ซูฮยอนได้ทำการฆ่า อสรพิษตัวแม่ไปแล้ว แต่เขาก็ไม่อยากไปด้วยอยู่ดี
“คุณบอกว่ามีหนทางช่วยชาวบ้าน”
“นี่คือหนทางที่คุณบอกเหรอ”
“อืมใช้แล้ว”
ภายในชั้นใต้ดินทั้งมืดและอับชื้น เมื่อพวกเขาเดินตามทางมาเรื่อยๆ พวกเขาก็เจอเข้ากับถ้ำขนาดยักษ์ ที่มีเสียงของสัตว์เลื้อยคลานอยู่ภายใน
ฟ่อ ฟ่อ
เมื่อสายตาเริ่มปรับสภาพได้ ความมืดที่มองไม่ค่อยเห็น กลับเริ่มเด่นชัดขึ้น
ชายหนุ่มที่ตามติดหลังซูฮยอนตะโกนเสียงดังลั่น
“มะ..มอนสเตอร์”
“ยี้..”
มอนสเตอร์ที่ปรากฏตรงหน้าของพวกเขาเป็นลูกของ อสรพิษล่าเนื้อ.
[ฝากติดตามแฟนเพจด้วยนะครับ >> อ๊ปไปแปล ]