ตอนที่ 22
วูป
ทันใดนั้น ดาบของซูฮยอนก็มี ปฏิกิริยาพลังเวทย์ระเบิดออกมา
ซูฮยอนเล็งดาบ แล้วกระซวกแทงเข้าไปที่บริเวณดวงตาอีกครั้ง
ลิซาร์ดเมื่อโดนทิ่มดวงตาอีกข้าง
มันร้องโหยหวนออกมา
มันพยายามระงับความเจ็บปวด แลใช้แขนที่แข็งแกร่งของมัน จับยึดร่างกายของซูฮยอนเอาไว้ในอยู่กับที่
ตึ้ง
ไม่ทราบว่ามีลิซาร์ดคอพส์อีกตัว มายืนอยู่ด้านหลังของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
เมื่อซูฮยอนเห็นว่า สถานการณ์เริ่มไม่ดี
เขาจึงตัดสินใจบีบอัดพลังเวทย์เต็มกำลัง
แล้วต่อยเข้าไปที่ทรวงอกของมอนสเตอร์แบบเต็มรัก
จนในที่สุดเขาก็กลับมาขยับได้อีกครั้ง
ซูฮยอนตัดสินใจใช้สกิลกระโดดเพื่อหลบหนี
เขาเคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนสายตาของลิซาร์ดคอพส์จะตามความเร็วของซูฮยอนไม่ทัน
มันพยายามหันหัวไปมาเพื่อตามหาร่างของซูฮยอน
แต่ผิดคาด ซูฮยอนไม่ได้อยู่ทั้ง ซ้าย และ ขวา แต่เขาอยู่ด้านบนต่างหาก
ฉึก
ดาบของซูฮยอนได้เจาะเข้าไปในหัวกระโหลกของมัน จนดาบของเขา ทะลุออกมาจากลูกกระตา
ลิซาร์ดคอพส์กรีดร้องด้วยควาเจ็บปวด แล้วเริ่มคลุ้มคลั่งอีกครั้ง
มันพยายามจะจับซูฮยอนให้ได้
แต่ซูฮยอนไม่ยอม เขาเอาดาบปักเข้าไปให้ลึกกว่าเดิม
แล้วใช้แขนอีกข้างล็อกคอของลิซาร์ดคอพส์เอาไว้
เมื่อลิซาร์ดคอพส์เริ่มขาดอากาศหายใจ มันจึงเริ่มดิ้นรนสุดชีวิต เพื่อหาอากาศหายใจ
[คุณใช้ สกิล บ้าเลือด]
ซูฮยอนตัดสินใจใช้สกิลบ้าเลือด
ซึ่งมันเป็นสกิลที่มีคุณสมบัติเพิ่มความสามารถทางกายภาพใช้ช่วงเวลาสั้นๆ
เขาได้รับมันมาจากการฆ่าบอสแชร์จากชั้นที่ 2
ซูฮยอนใช้เวลานานมาก กว่าเขาจะได้สกิลนี้มาครอบครอง
ถึงแม้สกิลนี้จะทำให้สเตตัสบางส่วนของเขาลดลง
แต่ซูฮยอนก็ตัดสินใจใช้มันออกมาอย่างไม่ลังเล
[ ความแข็งแกร่งของคุณเพิ่มขึ้น ]
[ ความไวของคุณเพิ่มขึ้น ]
[สุขภาพของคุณลดลง]
ซูฮยอนใช้แรงแขนทั้งหมดที่เขามี
บีบคอของลิซาร์ดคอพส์เอาไว้
เมื่อมันถูกบีบคอเป็นเวลานาน
ร่างกายของมันก็เริ่มแข็งทื่ออย่างช้าๆ
ไม่นานร่างกายของมันก็ค่อยๆหยุดนิ่ง
ดูเหมือนมันขาดอากาศหายใจนานเกินไป
จนทำให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงร่างกายไม่ทัน
ตุบ
ซูฮยอนปล่อยร่างไร้วิญญาณของลิซาร์ดคอพส์ลงกับพื้น
สมาชิกปาร์ตี้ทุกคนต่างจ้องมองซูฮยอนด้วยสายตาว่างเปล่า
“นายเป็นอะไรไหม” ลีจุนโฮถาม
ซูฮยอนหันกลับไปมอง ลีจุนโฮแล้วกล่าว
“ไม่เป็นไร ไปดูคนอื่นเถอะ”
สถานการณ์ตอนนี้ของปาร์ตี้เริ่มทรงตัวขึ้น
มีลิซาร์ดคอพส์ตายแล้ว 2 ตัว
ส่วนอีก 3 ตัวก็ตาบอดกันหมด
ใช้เวลาไม่นาน มอนสเตอร์ลิซาร์ดคอพส์ก็ถูกจัดการจนหมด
เมื่อการต่อสู้ยุติลง ลีจุนโฮ ก็ไปเช็คสภาพร่างกายของสมาชิกปาร์ตี้ทุกคน
เพื่อดูว่ามีใครบาดเจ็บหรือไม่
ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่มีใครบาลเจ็บร้ายแรง ส่วนใหญ่จะเป็นแผลถลอกเล็กๆซะมากกว่า
“ทักษะการต่อสู้ของนาย ดีกว่าที่ฉันอีกนะ”ลีจุนโฮกล่าวหลังจากเดินถึงซูฮยอน
ซูฮยอนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเช็ดดาบที่เปื้อนเลือดอยู่ ก็เงยหน้าขึ้นมาตอบกลับ
“เป็นคำชมงั้นเหรอ ขอบคุณสำหรับคำชม มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”
“นายคงเป็นคิมซูฮยอนตัวจริงสินะ ไม่น่าถึงเก่งขนาดนั้น” เมื่อลีจุนโฮเห็นซูฮยอนครั้งแรกเขายังไม่มั่นใจว่า คิมซูฮยอนที่เขาเห็นใช้ตัวจริงหรือป่าว
แต่มาตอนนี้เขาต้องยอมรับเลยว่า คิมซูฮยอนที่อยู่ตรงหน้าเป็นตัวจริงอย่างแน่นอน
“หืม..ฉันคนเดียวคงทำไม่สำเร็จหรอก ผู้ตื่นขึ้นคนอื่นๆในปาร์ตี้ก็เก่งเหมือนกัน”
“อ่า..นั้นสินะ”
ลีจุนโฮตอบกลับไปอย่างเหม่อลอย
เขามีคำถามที่อยากจะถามกับซูฮยอนเต็มไปหมด
แต่เขาก็ทำได้แค่เก็บมันเอาไว้ในใจเท่านั้น
เพราะถ้าลีจุนโฮถามออกไป มันจะเป็นการเสียมารยาทซะเปล่าๆ
<>
ลีจุนโฮ ระดับเวทย์ 4 ผู้ตื่นตื่น แรงค์ B
เขามีความรู้สึกว่าซูฮยอนมีความแข็งแกร่งพอๆกับเขาหรือมากว่าด้วยซ้ำ
แต่ไม่ว่าซูฮยอนจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาก็เป็นผู้ตื้นขึ้น แรงค์ C เท่านั้น
“ซูฮยอนถ้านายมีโอกาศ ทำไมนายไม่ลองไปประเมินระดับพิเศษหล่ะ ฉันว่านายต้องได้เลื่อนแรงค์ ไปแรงค์ B แน่ๆ”ลีจุนโฮกล่าว
การประเมินระดับพิเศษมันไม่จำเป็นต้องใช้ ปัจจัยเวทย์หรือระดับเวทย์มาเกี่ยวข้อง
แต่เจ้าหน้าที่จะดูทักษะการใช้อาวุธ ไหวพริบ แล้วการเชียวชาญของสกิลเป็นหลัก
ทว่าผู้ตื่นขึ้นส่วนใหญ่ไม่ค่อยประเมินระดับพิเศษมากนัก
เพราะมันยุ่งยากและน่ารำคาญ
แต่ลีจุนโฮเชื่อว่า
ถ้าซูฮยอนลองไปทดสอบดูสักครั้ง เขาต้องผ่านการประเมินระดับพิเศษไปได้แน่
เนื่องจากการต่อสู้ที่ผ่านมาซูฮยอนพิสูจน์แล้วว่าเขามีฝีมือจริงๆ
<>
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ถ้าเคลียร์ดันเจี้ยนนี้เสร็จ ผมจะกลับไปคิดอีกทีแล้วกัน”
ซูฮยอนตอบหลับลีจุนโฮ พร้อมกับหันหน้าไปมองรอบๆ
หลังจากที่ซูฮยอนปล่อยของออกไปบางส่วน
เขาก็ค่อยสังเกตท่าทางของสมาชิกปาร์ตี้ ว่ามีใครมีท่ามีแปลกๆไปไหม
<>
หลังจากสังเกตอยู่สักพัก ซูฮยอนก็กลับไปรวมตัวกลับสมาชิกปาร์ตี้อีกครั้ง
<>
มอนสเตอร์ที่โผล่มาช่วงหลังๆมีความแข็งแกร่งคล้ายๆ ลิซาร์ดคอพส์
ในเมื่อปาร์ตี้มีลีจุนโฮอยู่ การจัดการกับพวกมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทักษะความสามารถของซูฮยอน ที่แสดงออกมา
กลับเกินความคาดหมายของสมาชิกไปไกล
ณ. เวลานี้ มันเหมือนกลับว่าในปาร์ตี้ มีแรงค์ B ถึง 2 คน นั้นก็คือ คิมซูฮยอน กับ ลีจุนโฮ
“ถ้าการโจมตีดันเจี้ยนราบลื่นแบบนี้ตลอดก็คงจะดี”
“เห็นด้วย ถึงแม้ตอนแรกจะกังวลเล็กน้อย แต่ตอนนี้สบายมาก พวกมอนสเตอร์ที่ออกมาก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเจ้าลิซาร์ดคิดส์เลยสักตัว”พวกเขาพูดคุยกันอยู่ด้านหลังของของลีจุนโฮอย่างอารมณ์ดี
ทันใดนั้นเอง คิมเยอึน ก็เดินหยุดอยู่ข้างๆซูฮยอน
“นายรู้อะไรไหม..”
“เฮ้อ รู้อะไรอีก”ซูฮยอนรู้สึกไม่ชอบใจคิมเยรึมจริงๆ
เพราะเธอชอบมาเกาะติดกับเขาแล้วถามแต่เรื่องที่น่ารำคาญ
ซึ่งส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องของเขามากกว่า
“เป็นอะไรของนาย รำคาญฉันหรือไง”
“หืม..เปล่า ก็เธอชอบถามแต่คำถามยากๆ ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว”
“อ๋อเหรอ แต่ฉันมีข้อมูลดีๆบางอย่าง นายอยากรู้ไหม”
ข้อมูลดีๆเหรอ ซูฮยอนแตะริมฝีปากแล้วใช้ความคิด เขาควรฟังเธอดีไหม?
จากประสบการณ์ของเขา
ถ้าเขาปฏิเสธ เธอต้องอารมณ์เสียอีกแน่ๆ
เธอไม่รอให้ซู่ฮยอนตอบกลับเลยสักนิด
อยู่ๆเธอก็เปิดปากพูดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“คุณเห็น 2 คนนั่นไหม ที่เดินอยู่ข้างหน้าตรงนั้นนะ”
ดวงตาของเธอพุ่งตรงไปที่ ลีจุนโฮ กับ คิมยารึม
ผู้เป็นหัวหน้าและรองหัวหน้าของปาร์ตี้
“ฉันไปขุดคุ้ยข้อมูลเก่าๆ จนไปเจอกับเรื่องที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่”
“เรื่องอะไรกัน”
“จะเรื่องอะไรอีกหล่ะ ก็เรื่องการแบ่งของจากดันเจี้ยนนะสิ พวกเขาแบ่งข้าวของที่ไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่ ต่อสมาชิกรวมทีม”
ดูเหมือนว่าเธอจะเคยได้ยินเรื่องเล่ามาจากปากของคนอื่น
ซูฮยอนคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ถ้ามีความละโมบมาบังตา
ยิ่งถ้าคุณเข้าไปเคลียร์ดันเจี้ยนกับปาร์ตี้และเกิดการปะทะขึ้นมาล่ะก็
คงต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่ต้องล้มหายตายจากไปแน่ๆ
ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์สร้างประวัติศาสตร์ของตัวเอง
“ขอบคุณสำหรับข้อมูล ฉันจะจำไว้” ซูฮยอนตอบกลับ
คิมเยอึน เหลือบมอง ซูฮยอนที่ตอบกลับด้วยอารมณ์เฉยเมย
ความจริง่ เรื่องนี้ซูฮยอนคิดว่ามันไม่ค่อยน่าสนใจเลยสักนิด
<>
มี 'ผู้ตื่นขึ้น' มากมายที่คิดแผนชั่วร้ายขึ้น และฆ่าสมาชิกปาร์ตี้ของตัวเองทิ้ง
เพื่อหวังแร่หินอีเธอร์ และ ของมีค่า
ถ้าคำพูดของ คิมเยอึน เป็นจริง อย่างน้อย ลีจุนโฮก็ยังดีกว่าพวกนั้น เพราะเขาไม่ได้ลงมือฆ่าสมาชิกปาร์ตี้ของตัวเอง แถมเขายังเป็นห่วงเป็นใยสมาชิกทุกคนอีกต่างหาก
ลีจุนโฮเดินนำพวกเขาเข้ามาให้ดันเจี้ยนลึกพอสมควร
จนขาของพวกเราเริ่มมีอาการปวด
แต่ตลอดทางไม่มีมอนสเตอร์เลยสักตัว
ดูเหมือนกันดันเจี้ยนแห่งนี้จะใหญ่โตมากกว่าที่พวกเขาคิดมากนัก
ไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปลึกแค่ไหน
แต่พวกเขาก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอทางตันสักที
<>
“เห้ พวก ดูนั้น มันเป็นประตูใช่ไหม” อามินซอกพูดพร้อมกลับเพ่งสายตาไปข้างหน้า
ที่ปลายทางของดันเจี้ยน มีประตูบานใหญ่ตั้งอยู่
มันเปรียบเสมือนประตูมิติที่เชื่อมต่อดับดันเจี้ยน เพื่อไปดันเจี้ยนแห่งใหม่
“ประตู? ในที่แห่งนี้เนี่ยนะ”
แม้แต่ลีจุนโฮที่มีประสบการณ์มากที่สุด ก็ยังไม่เคยพบเจอประตูแบบนี้มาก่อน
เขาไปผจญภัยดันเจี้ยนมาหลายที่แล้ว
แต่เขากลับไม่เคยเห็นหรือได้ยิน เกี่ยวกับประตูแบบนี้มาก่อนเลยสักนิด
“พวกเราจะทำไงต่อไปดี” ความกังวลของลีจุนโฮเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
อามินซอกทุบหน้าอกของลีจุนโฮเบาๆแล้วกลว่า
“แน่นอน พวกเราต้องไปต่ออยู่แล้ว มันก็คงเป็นประตูธรรมดาแหละ”
“เห็นด้วย ประตูบานนี้อาจจะเป็นจุดสิ้นสุดของดันเจี้ยนก็ได้ ถ้าเราหันหลังกลับตอนนี้ สิ่งที่พวกเราทำมาคงเสียเปล่า”
คำตอบของสมาชิกปาร์ตี้ส่วนใหญ่เป็นไปในทางเดียวกัน
ซูฮยอนยืนดูเงียบๆไม่ออกความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น
ลีจุนโฮหันหน้ากลับไปมองซูฮยอนและถาม
“ซูฮยอนนายคิดว่าไง?”
“ถ้าเอาตามความคิดของฉัน ฉันว่าพวกเราควรถ่อยกลับก่อนดีกว่า”
มันเป็นคำตอบที่พวกเขานึกไม่ถึงว่ามันจะออกมาจากปากของซูฮยอน
เมื่อซูฮยอนพูดคำตอบของเขาออกไป
การแสดงออกของสมาชิกในปาร์ตี้ก็ดูหมองหม่นลง
ซูฮยอนเห็นว่าบรรยากาศรอบๆเริ่มไม่ค่อยดี เขาจึงพูดเสริมไปอีก “แต่ถ้าพวกคุณอยากไปต่อ ผมก็จะไปด้วย”
“ฟู่”
“ฮ่า”
สมาชิกคนอื่นๆถอนหายใจอย่างโล่งอก
ถึงแม้ลีจุนโฮจะไม่ค่อยอยากไปต่อสักเท่าไหร่
แต่ในเมื่อทุกคนอยากไปต่อ
เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องหันหลังกลับ
ลีจุนโฮเดินไปข้างหน้าช้าๆ เพื่อเปิดประตู
“เอาล่ะ ฉันจะเปิดมันแล้วนะ”
คลิ๊ก
เมื่อประตูยักษ์ถูกเปิดออก ลีจุนโฮ ก็พาสมาชิกปาร์ตี้เดินเข้าไปภายใน
ข้างในประตูยักษ์มันเปรียบเสมือนหลุมดำ เพราะข้างในมันมืดสนิท แม้แต่มือของตัวเองยังมองไม่เห็น
เมื่อก้าวผ่านประตูมาได้สักพัก แสงสว่างจากเปลวไฟก็เริ่มลุกขึ้น ข้างในของประตูมันก็เหมือนกับถ้ำแห่งใหม่ ที่ใหญ่กว่า และ กว้างกว่า
ถ้าไปเทียบกับถ้ำเมื่อครู่
ถ้ำแห่งนี้ใหญ่โตกว่าสิบเท่า
<>
คนอื่นๆอาจคิดว่าสถานที่แห่งนี้คือจุดจบของดันเจี้ยน แต่สำหรับซูฮยอน เขาไม่ได้คิดแบบนั้น
<>
เพราะภายในถ้ำแห่งนี้มีปริมาณพลังเวทย์ไหลเวียนอยู่มากมายมหาศาล ซึ่งมันมากกว่าถ้ำก่อนหน้านี้หลายเท่า
ดูเหมือนสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนก็รู้สึกด้วยเช่นกัน
พวกเขาเกาะกลุ่มกันเป็นก้อนและพูดคุยกันด้วยความหวาดวิตก
[ยินดีต้อนรับสู่ดันเจี้ยน]
[การทดสอบจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้]
เสียงที่ดังออกมา ซูฮยอนไม่ได้หูฝาดไปเพียงคนเดียว
คนอื่นๆในปาร์ตี้ก็ได้ยินด้วยเช่นกัน
ตูม
ประตูที่พวกเขาพากีนเดินเข้ามา
ถูกปิดลงด้วยเสียงที่ดังสนั่น