ตอนที่ 48
จีว็อนจางฮยอคและพรรคพวกต่างวิ่งหนีตายกันไปคนละทิศคนละทาง
พวกเขาไม่กล้าหันกลับไปมองชายสวมหน้ากากเลยแม้แต่วิเดียว
“ให้ตายสิ นิสัยของพวกมันยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”
ซูฮยอนเกือบจะลืมพวกมันไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะพรมลิขิตลิขิตหรือป่าว ทำให้เขาหวนมาเจอกันพวกมันอีกครั้ง
ซูฮยอนรู้สึกสมเพชจริงๆที่พวกมันยังทำนิสัยแบบเดิมอยู่ ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจับพวกมันมาหักขาทิ้งซะจริง
“สงสัยถ้ามีเวลาว่าง ฉันคงต้องสละเวลาไปดูแลพวกมันสักหน่อย”
หลังจากบอลเพลิงถูกปล่อยออกไป ก็สร้างความปั่นป่วนให้กับประชาชนได้พอสมควร ที่แรกพวกเขาคิดว่ามันคือการแสดงดอกไม้ไฟ แต่เมื่อได้ยินเสียงประกาศเตือน
ประชาชนก็รู้ได้ทันทีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ การก่อการร้าย
วี้หว่อ วี้หว่อ
“ลุยต่อเลยดีกว่า..”ซูฮยอนพูดกับตัวเอง
ซูฮยอนกระทืบเท้าแล้วกระโดดขึ้นไปบนอากาศ ร่างกายของเขามุ่งหน้าไปทาง ย่านบอมแยดง ซึ่งตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของเมือง
ในเวลาแบบนี้ เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนออกมาเที่ยวเล่นกันอย่างพลุกพล่าน
และแน่นอน ระหว่างทางซูฮยอนก็ปล่อยบอลเพลิงออกไปด้วยตลอดเวลา
ตูม ตูม ตูม
เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วทั้งเมือง จนสร้างความโกลาหลให้แกประชนจำนวนมาก
ความกลัว..คือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่กับตัว หลังจากได้ยินเสียงการบอกเล่าปากต่อปาก ทำให้พวกเขาพาครอบครัวอันเป็นที่รักหลบหนีออกจากพื้นอันตรายโดยด่วนที่สุด
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ไหน แต่ด้วยคำพูดที่ยืนยันไปในทางทิศเดียวกัน เลยทำให้พวกเขาคล้อยตามกันไปอย่างง่ายดาย
“..เธอพูดว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นสินะ?”
หลังจากผู้อำนวยการทราบข่าว เขาก็สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
คิมดูอุย ผู้ตื่นขึ้น แรงค์ A พยักหน้าตอบกลับ
“ใช่ครับท่าน มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในพย็องชอนซึ่งมีประชากรอยู่กันอย่างหน่าแน่นมากที่สุดในเมืองอันยัง จากที่เราได้รับรายงานมา ผู้ก่อการร้ายกำลังโจมตีบ้านเรือนของประชาชนอยู่ ตอนนี้ประชาชนบางส่วนกำลังทยอยกันอพยพอยู่ครับ”
“แมร่งเอ้ย..เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่..”ผู้อำนวยการสบถออกมา
วันนี้คือวันที่ 31 มกราคม...เขาไม่ได้รับการรายงานข่าวของผู้ก่อการร้ายเลยซักฉบับ
ถึงแม้ข้อมูลของลีจุนโฮ จะมีความน่าเชื่อถือ แต่กิดล์ดัมพ์ก็ไม่น่าก่อความวุ่นวานในตอนนี้...
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกัน?”
“ผมก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่จากการรายงาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาจากบุคคลเพียงคนเดียว”คิมดูอุยกล่าว
“ด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอ?”
ผู้อำนวยการจมลงสู่ห้วงความคิด....ใช้เวลาไม่นานเขาก็พูดออกมาอย่างมั่นใจ “คิมซูฮยอน”
“อะไรนะ ท่าน”
“ผู้ชายคนนั้นคือคิมซูฮยอนไม่ผิดแน่”ผู้อำนวยการตะโกนออกมา
สิ่งที่ซูฮยอนกำลังทำอยู่ คือการสวมบทบาทผู้ก่อการร้าย เพื่อหวังให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวแล้วอพยพไปนอกเมือง...
“ท่านคิดว่าชายที่ก่อความวุ่นวายคือคิมซูฮยอนจริงๆเหรอครับ?”คิมดุอุยถาม
คิมซูฮยอนเป็นนามที่ผู้คนทั่วไปต่างรู้จัก ชื่อเสียงของคิมซูฮยอนดังขจรไปทั่วทุกสารทิศ
ข้อมูลส่วนตัวของคิมซูฮยอน ก็ไม่มีคนรู้เลย ถึงรู้ก็น้อยมากๆ จนเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
ขนาดใบหน้าที่แท้จริง ก็ยังไม่มีใครเคยเห็น ที่ผ่านมาคิมซูฮยอนไม่เคยเผยตัวตนต่อสาธารณชนเลยสักครั้ง
แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ ทำให้เขาต้องมาปรากฏตัวในฐานะผู้ก่อการร้าย เพื่อปั่นหัวประชนชนแบบนี้...
“ช่างหัวคิมซูฮยอนก่อน สิ่งที่เราต้องโฟกัสคือ เขากำลังก่อความไม่สงบอยู่”ผู้อำนวยการพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธจัด
“แต่สิ่งที่เขาทำอยู่ ก็ยังไม่มีใครเสียชีวิตเลยสักคน.....”
“ฉันไม่สน!”
ปัง
ผู้อำนวยการทุบโต๊ะของเขาเพื่อเป็นสัญญาณสั่งให้คิมดูอุยหุบปาก
คิมดูอุยที่เห็นดังนั่นก็ได้แต่ก้มหน้าลงแล้วหยุดพูด ถ้าเขายังคะยั้นคะยอพูดต่อ เขามีสิทธิ์โดนเด้งออกจากตำแหน่งได้..
“การระบาดของดันเจี้ยน? ภัยพิบัติที่เมืองอันยัง? มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระทั้งเพ เหตุการณ์ที่พูดมามันยังไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือ...คิมซูฮยอนกำลังก่อความไม่สงบอยู่ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉันจะสื่อไหม?”
“ครับท่าน ผมเข้าใจ”คิมดูอุยตอบ
“และจะยืนบื้ออยู่ทำซากอะไร ไปจับตัวเขามาซะ...ไม่สิ..ถ้าเป็นไปได้ ฆ่ามันทิ้งไปซะ”ผู้อำนวยการตะโกนสั่งออกมา
ฆ่าเขา? มันไม่เกินกว่าเหตุไปเหรอ?
‘ผู้อำนวยการช่างเป็นคนที่อำมหิตเสียจริง’คิมดูอุยหลับตาแล้วจมเข้าสู่ห้วงความคิด
‘ฉันควรทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ....ถ้าผู้ก่อการร้ายในเมืองอันยังคือคิมซูฮยอนจริงๆและข้อมูลที่เขาเคยบอกเป็นเรื่องจริง...เขาสมควรถูกสรรเสริญเป็นฮีโร่ของพลเมืองเสียด้วยซ้ำ....สิ่งที่คิมซูฮยอนทำอยู่ มันยากที่จะตีตราว่าเป็นการก่อการร้าย เพราะยังไม่มีประชาชนบาดเจ็บล้มตายเลยสักคน มีแต่บ้านเรือนเท่านั้นที่เสียหาย....แต่ถ้าให้คนที่มีแต่ขี้เลื่อยมาคิดวิเคราะห์ พวกเขาจะคิดว่ามันคือการก่อการร้ายก็ไม่แปลกใจ’
“รับทราบครับท่าน”คิมดูอุยพูดให้กับผู้อำนวยการ
อย่างน้อยในสายตาของเขา การกระทำของคิมซูฮยอนก็ไม่เห็นหน้ากลัวเลยสักนิด
คลิ๊ก
คิมดูอุยโค้งทำความเคารพให้ผู้อำนวยการก่อนเดินออกจากห้องไป
หลังจากที่คิมดูอุยจากไป ผู้อำนวยการก็หยิบมือถือขึ้นมาแล้วโอนสายไปหาที่ไหนสักที..
“ใช่ ฉันเอง พวกเรามีคนเหลืออยู่เท่าไหร่?”
**********************
ตูม ตูม
เปลวเพลิงสีแดงฉานลุกไหม้ตามอาคารบ้านเรือนจนเกิดความเสียหาย ประชาชนที่อยู่บริเวณรอบๆต่างวิ่งหนีกันให้จ้าละหวั่น
ซูฮยอนผู้รับบทเป็นผู้ก่อการร้ายยืนอยู่ใจกลางเมือง แล้วมองดูผลงานของตัวเองที่รังสรรค์ขึ้นมา...
“เฮ้อ...ฉันไม่ชินกับการกระทำแบบนี้เลยจริงๆ”ซูฮยอนบ่นพึมพัมออกมา
เขารู้สึกไม่สบายใจเลยจริงๆที่ต้องมาปลอมตัวเป็นผู้ก่อการร้ายแบบนี้...
ประชาชนทุกคนเมื่อมาเผชิญหน้ากับซูฮยอน พวกเขาต่างวิ่งหนีตายด้วยอาการขวัญผวา
ในที่สุดซูฮยอนก็รู้ได้สักที่ว่าทำไมกิลด์ดัมพ์ถึงชอบสร้างปัญหานัก ที่แท้มันก็อยากเห็นสีหน้าตกใจของผู้คนนี้เอง...
“หึ ฉันละอยากเห็นจริงๆว่าตอนนี้กิลด์ดัมพ์จะมีอาการเป็นยังไง ฉันเดาว่าพวกมันคงมีน้ำโหอยู่แน่ๆ.”
กิลด์ดัมพ์ เป็นกลุ่มที่รวบรวมบรรดากากเดนของสังคมเอาไว้มากมาย ส่วนใหญ่พวกมันมักอาศัยอยู่ในวงการใต้ดิน...
เคยมีรายงานว่ามีกิลด์ใหญ่ๆบางกิลด์มีความเกี่ยวข้องกับกิลด์ดัมพ์.....แต่ก็ไม่มีข้อมูลบ่งชี้ได้ว่ากิลด์ไหนกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง
กิลด์ดัมพ์ไม่ว่าจะในอดีตหรืออนาคตมันก็น่ากลัวเสมอ แต่ซูฮยอนกลับกําเริบเสิบสานเอาชื่อกิดล์ดัมพ์มาอ้างแล้วยังเสแสร้งเป็นสมาชิกของมันอีก.....ต่อให้ไม่ใช่สมาชิกของกิลด์ดัมพ์ ก็สามารถคาดเดาได้ง่ายๆว่าตอนนี้พวกมันคงกำลังคลุ้มคลั่งอยู่แน่ๆ
วุป!!!
ทันใดนั้น...เปลวเพลิงที่เผาไหม้ตัวอาคารบ้านเรือนก็มอดดับลงไปอย่างกระทันหัน
แต่สภาพสิ่งก่อสร้างกลับไม่ไหม้เกรียมไปตามความร้อนของเปลวเพลิง...
หลังจากที่สกิลเพลิงพิโรธของซูฮยอนถูกยกระดับขึ้น เขาก็สามารถควรคุมมันได้ตามใจปรารถนา ว่าอยากให้มันเผาไหม้มากน้อยแต่ไหน...
“ประชาชนแถวๆนี้คงหนีกันไปหมดแล้วสินะ”
ซูฮยอนเริ่มโจมตีจาก ย่านบอมแยดง จนมาบรรจบที่ ย่านพย็องชอน ประชาชนที่อยู่ใน 2 ย่านนี้อพยพกันของไปหมดทุกคนแล้ว....
หลังจากข่าวการก่อการร้ายสู้เผยแพร่ออกไป ย่านต่างๆในเมืองอันยัง ก็เกิดการอพยพครั้งใหญ่
ถึงแม้ผู้ก่อการร้ายจะทำทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว แต่ผู้ก่อการร้ายที่ออกอาละวาด ไม่ใช่ประชนชนธรรมดา แต่เป็น ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่มากฝีมือ
ไม่ใช่แค่นั้น เพราะผู้ก่อการร้ายอ้างว่ามาจากกิลด์ดัมพ์ เลยทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่า เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว สมาชิกในกิดล์ดัมพ์คนอื่นๆคงกำลังหลบซ่อนกันอยู่ที่ไหนสักที่ เพื่อรอการโจมตี...
“เวลาตอนนี้ 20.00 น.แล้วสินะ”
หลังจากที่ซูฮยอนเริ่มแผนการ มันก็ผ่านมากแล้ว 2 ชั่วโมง
“ฉันก็อยากอาละวาดอีกสักหน่อย แต่ว่า..”
ซูฮยอนหยุดอยู่กับที่แล้วหันไปมองด้านหลัง....
“ดูท่าทางจะทำไม่ได้ซะแล้ว”
ฟรึ่บ ฟรึ่บ
ด้านหลังของซูฮยอน มีคนโผล่ออกมาจากไหนก็ไม่ทราบเต็มไปหมด...แค่มองด้วยหางตา ซูฮยอนก็รู้ได้ทันที ว่าคนที่มาเป็น ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่มีฝีมือร้ายกาจ
“หืม...เยอะใช่ได้เลยนี้”
ณ. เวลานี้ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ หลายคนต่างถูกสั่งการ...ให้ระดมพลด่วนพิเศษ...เพื่อจัดการดันเจี้ยนสีเขียวและระดับอื่นๆในประเทศเกาหลีออกไปให้หมด...
ซูฮฺยอนคิดว่ากำลังพลที่เหลือของ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ น่าจะเหลืออยู่อย่างร่อยหรอ
แต่ใครจะไปคิดใช่เวลาแค่ 2 ชั่วโมง กลับรวบรวม ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ได้มากขนาดนี้!
“ขออนุญาตถาม ไม่ทราบว่าคุณคือคิมซูฮยอนตัวจริงใช่ไหมครับ”
คิมดูอุยผู้ยืนอยู่ด้านหน้าสุดถามออกมา....เขาคือเลขาประจำตัวของผู้อำนวยการและยังเป็นผู้ตื่นขึ้นแรงค์ A อีกต่างหาก
โชคดีที่เขาไม่ได้รับเลือกให้ไปโจมตีดันเจี้ยนระดับสีเขียว จึงทำให้เขาเป็นหัวหน้าในการทำภารกิจครั้งนี้ ซึ่งเขาก็ดูเหมาะสมมากที่สุด เพราะคิมดูอุยมีความแข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่ม...
หลังจากที่ซูฮยอนได้ยินคำถามของคิมดูอุย เขาก็ใช้สายตาที่แหลมคมมองไปที่ใบหน้าของฝ้ายตรงข้าม...
ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคนมีสีพอสมควร เพราะเขาก็จักตัวจริงของซูฮยอนด้วย
“ใช่ ฉันเอง” ซูฮยอนตอบกลับไป
หลังจากที่ซูฮยอนเขียนกระทู้ในเว็บไซต์ อเวจีออนไลน์เสร็จ
ซูฮยอนก็รู้อยู่แล้วว่าตัวตนที่แท้จริงคงถูกเปิดเผยในเร็ววัน ฉะนั้นการโกหกจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป.......
“คิมซูฮยอน?”
“หืม?”
“เดี๋ยวนะ เขาไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายงั้นเหรอ?”
“แต่ทำไมฉันถึงได้รับรายงานมาว่า เขาคือคนของ กิลด์ดัมพ์ล่ะเนี่ย?”
“พวกเขาเป็นคนๆเดี่ยวกันจริงดิ?”
นอกจากคิมดูอุย สมาชิกคนอื่นต่างกระซิบกระซาบกันเบาๆ
พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเห็นการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจะมาจากฝีมือของซูฮยอน
คนที่พวกเขานับถือเป็นไอดอลกลับกล้าทำเรื่องเลวทรามแบบนี้ ทำให้พวกเขาอดเสียใจไม่ได้
เมื่อเรื่องทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย ทัศนคติที่มีต่อซูฮยอนก็เริ่มเบนไปอีกทาง......
“งั้น...คิมซูฮยอนก็เป็นสมาชิกของกิลด์ดัมพ์สินะ”
“ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงไม่เผยตัวตนออกมา ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”
“โอ้วว นั้นสินะ สิ่งที่นายพูดออกมาฟังขึ้นเลยที่เดียว”
มันเป็นข้อสรุปที่ค่อนข้างหน้าเชื่อถือ...ซูฮยอนไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อสาธารณะเลยสักครั้ง เขาหลบอยู่แต่ในมุมมืดอยู่ตลอด ซึ่งมันก็เหมือนกับกิลด์ดัมพ์ไม่มีผิด
หลังจากได้รับรายงานว่ามีการก่อการร้าย...ซูฮยอนกลับโผล่หน้าออกมา
เขาทำลายบ้านเรือนของประชาชนไปทั่ว... ไม่ว่าจะมองยังไง มันก็ไม่มีช่องว่างให้ซูฮยอนแกตัวเลยสักนิด
“ทุกคนเงียบก่อน”คิมดูอุยตะโกน
คิมดูอุยผู้มีข้อมูลและมีทัศนคติที่แตกต่างจาก ‘ผู้ตื่นขึ้น’ คนอื่นๆ ตะโกนบอกลูกทีมให้อยู่ในความสงบ
ในฐานะที่เขาคือหัวหน้ากลุ่มทำให้ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ เชื่อฟังคำสั่งของเขา
หลังจากทุกอย่างเงียบลง คิมดูอุยก็หันไปสังเกตบริเวณรอบๆ
‘อย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด มันไม่มีความเสียหายจริงๆด้วย’คิมดูอุยคิด
ในเวลาปกติ ขึ้นชื่อด้วยการก่อการร้าย..มันต้องเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนและการหลั่งเลือด
แต่ตลอดทางที่ซูฮยอนโจมตีออกไป มันไม่มีความเสียหายเลยแม้แต่น้อย....
ตรวจทานบ้านเรือนก็ไม่พบความเสียหาย เช็คชื่อประชากรในเมือง ก็อยู่กันครบทุกคน ไม่มีการเสียชีวิต..
“ผมขอถามอีกหน่อย ที่นายกำลังทำอยู่ เจตนารมณ์ของนาย นายทำไปเพื่ออพยพประชาชนใช่หรือป่าว”
หลังจากได้ยินคำถามของคิมดูอุย ดวงตาของซูฮยอนก็เปล่งประกายระยิบระยับ
คิมดูอุยเคยได้ยินเรื่องเล่าวีรกรรมของซูยอนหลายครั้งจากปากลีจุนโฮ เลยทำให้เขารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างลีจุนโฮแล้วซูฮยอนมากกว่าผู้อำนวยการหลายเท่า...
‘อืม...ไม่แน่บางที่ ถ้าได้เขามาช่วย...เรื่องราวต่างๆอาจง่ายขึ้นก็ได้’ซูฮยอนคิด
“ใช่ นายพูดถูก ผมกำลังอพยพประชาชนอยู่ ที่จริงผมอยากให้ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ มาเยอะกว่านี้”ซูฮยอนตอบ
“ผู้ตื่นขึ้น มากกว่านี้งั้นเหรอ”คิมดูอุยบ่นพึมพัม
คิมดูอุยพอจำเรื่องเล่าคร่าวๆของลีจุนโฮได้ขึ้นใจ
ซูฮยอนคือคนที่บอกให้ลีจุนโฮทราบ ว่าจะเกิดการระบาดของดันเจี้ยนขึ้นในคืนวันนี้...ไม่แน่บางที่สิ่งที่ซูฮยอนกำลังทำอยู่ อาจทำไปเพื่อเตรียมป้องกันสำหรับภัยพิบัติที่กำลังอุบัติขึ้นก็ได้ใครจะรู้?
“ไม่ทราบว่าพวกปลายแถวมาทำอะไรที่นี่ พวกแกเกะกะลูกตาฉันจริงๆ คิดจะมาหยุดฉันงั้นเหรอ? หึ..ไม่ประเมินความสามรถของตัวเองเลยหรือไง มาแค่ย่อมหนึ่งคิดว่าจะหยุดฉันได้งั้นเหรอ เจ้าพวกมดปลวก”
“ห๊า?”
“คำพูดคำจาชั่งยโสโอหังจริงๆ”
“นั้นสิ อวดดีเป็นบ้า คิดว่าตัวเองเป็นเทพเซียนหรือไง”
เสียงต่อว่าด้วยความโมโหดังขึ้นไปทั่วสารทิศ....และนี้คือสิ่งที่ซูฮยอนต้องการ
คำพูดที่ซูฮยอนพูดออกไปก่อนหน้านี้ เขาตั้งใจพูดสุมไฟเพื่อยั่วโมโห ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่มา
อย่างน้อยพวกเขาจะได้มีอารมณ์ร่วมไปกับฉากการแสดงด้วย..
‘และขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้พวกเขาร่วมมือด้วย’
วุป
เปลวเพลิงของซูฮยอนถูกเรียกใช้ออกมาอีกครั้ง ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่ยืนรวมกลุ่มกันอยู่ ถูกเปลวเพลิงของซูฮยอนโอบล้อมเอาไว้ จนหมดหนทางหนี
ถึงแม้เปลวเพลิงจะมีความน่ากลัว แต่มันก็ไม่สร้างบาดแผลให้พวกเขาเลยสักจุด
“ถ้าพวกแกแน่จริง แกก็มาจัดการฉันซะสิ”ซูฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงดูหมิ่น
‘ถ้าเป็นไปได้...ฉันอยากให้ผู้ตื่นขึ้นมาเยอะกว่านี้..’ซูฮยอนใช้หางตาไปมองคิมดูอุย
‘เขาจะตอบสนองแบบที่ฉันคิดไว้อยู่หรือป่าวนะ’
เมื่อสายตาของคิมดูอุยประสานเข้ากับสายตาของซูฮยอน
ทำให้คิมดูอุยเหมือนจะรับการสื่อสารจากซูฮยอนได้นิดหน่อย
‘เขาอยากให้ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ มาเยอะกว่านี้งั้นเหรอ อืม...ดูเหมือนแผนการของเขาน่าจะไปได้สวย’
เพื่อรอมอนสเตอร์โผล่ออกมา ซูฮยอนมีหน้าที่แค่ป้องกันการโจมตีจากกลุ่มพวกเขาเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร..
เพราะ...ความสามารถของซูฮยอนแข็งแกร่งยิ่งกว่าจินตนาการของคิมดูอุยซะอีก
ก็อย่างที่เขาเคยบอกไป คนแค่นี้ไม่มีปัญญาไปหยุดซูฮยอนได้....แต่ถ้าไปกำลังสนับสนุนแรงค์ A มาเพิ่ม สถานการณ์อาจพลิกกลับจากหัวเป็นก้อยได้..
‘คงไม่แย่อะไร ถ้าลองเชื่อใจเขาสักครั้ง’คิมดูอุยคิดในใจก่อนชั่งใจพูดออกมา
“ติดต่อไปยังหน่วยสนับสนุน พวกเขาต้องการกำลังเสริมโดยด่วน”
“ดีมาก..มันต้องแบบนี้"ถ้าหัวใจดวงน้อยๆของซูฮยอนสามารถออกมาข้างนอกได้ มันคงกระโดดโลดเต้นด้วยความรื่นเริง