px

เรื่อง : ระบบการ์ตูนในโลกนารูโตะ
ตอนที่ 3 วางแผน


ตอนที่ 3 วางแผน



โดยธรรมชาติแล้ว อาคาบาเนะ ไม่รู้ว่าปากกาในมือของ ฮิรุเซ็น กำลังกำหนดทิศทางในอนาคตของเขา

 

เขากลับไปที่บ้านในตระกูลคุรามะพร้อมกับการ์ตูนนารูโตะตอนแรกที่เขาวาดขึ้นและเรียบเรียงมาตลอดครึ่งเดือน

 

“ พ่อ แม่ นี่คือภาพวาดที่ทำเป็นเรื่องราว ผมเรียกมันว่าการ์ตูนผมอยากให้พ่อกับแม่ได้อ่านมัน…”

 

อาคาบาเนะ ส่งการ์ตูนให้พ่อกับแม่ของเขา

 

พ่อของเขาคือ คุรามะ จิอากิ โจนินพิเศษในหมู่บ้านและ คุรามะ ซากิ ผู้เป็นแม่อยู่ในระดับจูนิน

 

ถ้าเป็นไปตามที่เขาคิด 2 คนนี้สามารถทำแต้มให้เขาได้เป็นอย่างมาก

 

“เอาล่ะให้ฉันดูว่าลูกชายสุดที่รักของฉันวาดอะไร…”

 

จิอากิ หัวเราะฮิฮะและรับการ์ตูนจาก อาคาบาเนะ แล้วก้มลงดู“ ฮ่า ๆ ๆ นารูโตะ เหรอ?…อาคาบาเนะ ลูกอยากเป็นแบบ นารูโตะ หรือเปล่า”

 

“ แน่นอนครับเพราะว่า นารูโตะ เป็นแบบอย่างของผม”

 

อาคาบาเนะ ตอบ

 

“เอ๋ นี่คือท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 3 หรือเปล่า”

 

ซากิ ชำเลืองมองและถูกดึงดูดโดยตัวละครในการ์ตูนของ อาคาบาเนะ ทันที

 

พ่อแม่ของเขาสังเกตุเห็นตัวละครตัวหนึ่งเนื่องจากฝีมือการวาดภาพของ อาคาบาเนะ นั้นดีมากและเสื้อผ้าประจำตัวของตัวละครก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกคุ้นเคยและระบุตัวตนได้อย่างง่ายดาย

 

“ เรื่องราวน่าสนใจมาก ดูใบหน้าของรูปปั้นหินที่อยู่บนหน้าผาเหล่านั้นสิ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เฮ้ ที่รักคุณคิดว่าโฮคาเงะรุ่นที่ 4 นี่เป็นใครกัน”

 

“เด็กคนที่ชื่อ นารูโตะ นี่ซนจริงๆเขากล้าทาสีบนใบหน้ารูปปั้นหินของโฮคาเงะด้วย!”

 

2 สามีและภรรยาต่างก็จมอยู่กับเรื่องราวในการ์ตูนอย่างรวดเร็ว

 

อาคาบาเนะ พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

 

เท่านี้ผู้อ่านการ์ตูนนารูโตะก็ไม่ได้มีเพียงแค่เด็กเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ใหญ่ในโลกนี้ด้วย

 

ในเวลาเดียวกันเขาเรียกแผงระบบเพื่อตรวจสอบแต้มในปัจจุบันของเขา แต่การตรวจสอบครั้งนี้เขาก็ต้องสะดุ้งโหยง

 

58 แต้ม

 

“ ทำไมถึงมีมากมายขนาดนี้”

 

ระบบไม่มีการบันทึกที่มาของแต้มดังนั้นโดยปกติแล้วเขาไม่สามารถดูรายละเอียดว่า 50 แต้มนี้มาจากที่ใดบ้างได้

 

อาคาบาเนะ จำได้อย่างละเอียดว่าไม่มีโจนินคนไหนได้ดูหนังสือการ์ตูนของเขาหลังจากกลับบ้านดังนั้นจึงเป็นไปได้มากว่า …

 

“มีคนแอบดู!”

 

แต่แล้วเขาก็คิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถ้าหาก โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ไม่แอบดูผ่านลูกแก้วเวทย์มนต์ เขาก็คงไม่สามารถทำแต้มได้เร็วขนาดนี้

 

อาคาบาเนะ เดาว่า 50 แต้มคงได้มาจาก โฮคาเงะ ส่วน 8 แต้มน่าจะได้มาจากคนอื่น ๆ 

 

ในท้ายที่สุดเขาได้แต้มจากพ่อแม่ของเขา 15 แต้ม 10 แต้มมาจากพ่อ ส่วน 5 แต้มได้มาจากแม่

 

ตอนนี้ อาคาบาเนะ มีแต้มรวม 73 แต้ม

 

73 แต้มเพียงพอที่จะทำอะไรได้มากมาย

 

ตัวอย่างเช่นเพิ่มค่าร่างกายของเขาซึ่งจะทำให้ร่างกายเป็นปกติไม่อ่อนแออีก

 

อาคาบาเนะ มองไปที่พ่อแม่ของเขาและดูเหมือนว่าพวกเขาจะจมอยู่ในความคิดหลังจากอ่านถึงหน้าสุดท้าย

 

“พ่อยอมรับว่า ... การ์ตูนเรื่องนารูโตะของลูกน่าสนใจมาก”

 

“ แต่นินจาที่แท้จริงไม่ง่ายและโง่เหมือนตัวละครของลูก”

 

ใบหน้าของ จิอากิ ดูแปลกๆ แต่เขาก็เผยใบหน้าที่เย็นชาทันที

 

คนที่เขาหมายถึงก็คือ นารูโตะ ที่ขโมยม้วนคำภีร์ ในสายตาของนินจาเช่นพวกเขา โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ฉลาดมากพอที่จะไม่ปล่อยให้เด็กคนนั้นขโมยของออกไปได้

 

นอกจากนี้ยังมีหน่วยลับอันบุ?

 

“ แน่นอนก็มันเป็นการ์ตูนและผมก็เป็นแค่เด็ก…”

 

อาคาบาเนะ ไม่ต้องการโต้เถียง

 

เด็กไร้เดียงสาเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของเขา

 

“ แต่เรื่องราวยังคงน่าสนใจมาก ตระกูลของเรามีลูกหลานหลายคน ลูกอยากให้พวกเขาได้อ่านการ์ตูนนี้ด้วยหรือไม่"

 

ซากิ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

"ครับ!"

 

อาคาบาเนะ พยักหน้าด้วยความตื่นเต้น

 

เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจะได้รับแต้มเพิ่มมากขึ้นแล้วทำไมเขาจะไม่ต้องการ

 

“พ่อผมมีอะไรจะบอก ดูเหมือนว่าผมจะปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดได้และน่าจะเป็นการควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง 5”

 

เพื่อให้แผนการของเขาประสบความสำเร็จอย่างเต็มที่เขาจะต้องเปิดเผยการปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดของเขาออกมา

 

"เมื่อกี้ลูกพูดว่าอะไรน่ะ?"

 

“ ปลุกขีดจำกัดทางสายเลือด?”

 

จิอากิ มองไปทาง อาคาบาเนะ ด้วยความประหลาดใจใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

 

ในฐานะแม่ ซากิ ก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน

 

ทุกคนในตระกูลคุรามะมีจักระที่สูงมาก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดได้ และตอนนี้ดูเหมือนว่าลูกชายของพวกเขาจะสามารถทำได้

 

เช่นเดียวกับ คุรามะ จิอากิ แม้ว่าจะเป็นโจนินพิเศษ แต่ก็ไม่สามารถปลุกขีดจำกัดทางสายเลือด

 

ถ้า อาคาบาเนะ สามารถปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดขึ้นมาจริงๆมันคงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นข่าวใหญ่สำหรับตระกูลคุรามะ

 

“ ตอนที่ผมวาดรูปผมรู้สึกว่าภายในร่างกายของผมมีบางเปลี่ยนไป เมื่อผมวาดการ์ตูนเสร็จในวันนี้ความรู้สึกนั้นก็ชัดเจนยิ่งขึ้น”

 

อาคาบาเนะ พูดพร้อมกับหยิบพู่กันออกมาวาดภาพบนกระดาษ

 

เขาวาดภาพแม่ของเขา

 

จากนั้นเติมพื้นหลังด้วยทุ่งหญ้าลงในภาพวาด

 

แม่ของเขาที่ไม่เชื่อในตอนแรกก็สังเกตุเห็นถึงความผิดปกติ

 

วินาทีต่อมาสามีและลูกชายของเธอก็หายตัวไปและสภาพแวดล้อมโดยรอบก็กลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยดอกไม้ในทันที

 

หลังจากนั้นไม่นาน จิอากิ สามีของเธอก็ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่นี้ด้วยเช่นกัน

 

ที่นี่สามารถสัมผัสได้ถึงสายลมกลิ่นดอกไม้และแสงแดดที่สดใสทุกอย่างดูเหมือนจริงมาก

 

“มันเป็นความจริง…นี่คือขีดจำกัดทางสายเลือด!”

 

วินาทีต่อมาพื้นที่ลวงตาก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ

 

อาคาบาเนะ วางพู่กันลงและสูดลมหายใจ 2-3 ครั้ง แต่อันที่จริงเขาไม่ได้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอะไร

 

จักระ 48 แต้มช่วยให้เขาก้าวหน้ามากขึ้นในการสร้างภาพลวงตาแม้ว่าอีกด้านหนึ่งจะเป็น โจนินพิเศษ และ จูนิน แต่หากไม่มีการต่อต้านอย่างแข็งขันเขาก็สามารถควบคุมได้ง่ายและจักระที่ใช้ก็ไม่มาก

 

ดังนั้นการหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้าจึงเป็นสิ่งที่เสแสร้งแกล้งทำ

 

“ลูกพ่อ…ลูกทำให้พ่อแปลกใจมากจริงๆ”

 

คำพูดของ จิอากิ เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูกเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่อ่อนแอกว่าปกติ ปรากฎว่า…ลูกมีมรดกของตระกูลเรา”

 

น้ำตาของ ซากิ กำลังจะร่วงหล่น เธอคิดเสมอว่าลูกของเธออ่อนแอ และคงไม่สามารถเป็นนินจาที่ยิ่งใหญ่ได้แต่ไม่คิดเลยว่าร่างกายที่อ่อนแอกว่าคนปกตินั้นเป็นผลมาจากขีดจำกัดทางสายเลือดนี่เอง

 

นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ

 

“ ฉันจะบอกทุกคน นี่เป็นข่าวใหญ่…”

 

…………………...

 

หลังจากนั้นไม่นานคนทั้งตระกูลก็รู้ว่าลูกชายของ จิอากิ สามารถปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดได้

 

ในช่วงสงครามครั้งที่ 1 ตระกูลคุรามะมีผู้ปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดมากมายซึ่งเป็นยุคที่เฟื่องฟูที่สุดของตระกูล

 

แต่ตอนนี้คนรุ่นใหม่ที่สามารถปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดได้นั้นมีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย

 

ในรุ่นของ อาคาบาเนะ เขาเป็นคนที่ปลุกขึ้นมาได้เป็นคนแรก

 

หลังจากนั้นไม่นานหัวหน้าตระกูลและเหล่าผู้อาวุโสก็มาเยี่ยม

 

“ท่านผู้นำตระกูล โปรดตรวจสอบลูกชายของผม……”

 

จิอากิ ปฏิบัติต่อผู้นำตระกูลด้วยความเคารพ

 

“ เด็กคนนี้เหรอที่สามารถปลุกขีดจำกัดทางสายเลือด?”

 

หัวหน้าตระกูลคุรามะ ถามอย่างสงสัย

 

“ ใช่เราประสบมาแล้ว เขาปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดด้วยการวาดรูปและได้รับการควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่แท้จริงมา”

 

จิอากิ เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ.

 

คนอื่น ๆ มองหน้ากันด้วยความตกใจเล็กน้อยและไม่ค่อยจะเชื่อ

 

ท้ายที่สุด…ไม่เคยมีมาก่อนที่จะใช้การวาดรูปเพื่อปลุกพลัง

 

“ขอฉันดูหน่อย”

 

ผู้อาวุโสมุราคุโมะ เป็นคนที่เก่าแก่ที่สุดในตระกูลคุรามะ และได้รับการยอมรับนับถือจากคนในตระกูล เขามีประสบการณ์มากมายนับตั้งแต่ตระกูลคุรามะเข้าร่วมกับโคโนฮะจนถึงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1

 

เรื่องขีดจำกัดทางสายเลือดของตระกูล ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา

 

มุราคุโมะ เดินไปหา อาคาบาเนะ ด้วยร่างกายที่สั่นสะท้านโดยมีโจนินช่วยพยุงอยู่ข้างๆ

 

“คุณปู่...”

 

อาคาบาเนะ โค้งคำนับอย่างเคารพ

 

มุราคุโมะ พยักหน้าอย่างตื่นเต้นและยื่นมือออกไปและพูดว่า:“ หลานชาย ปู่ต้องการทดสอบความสามารถของเธอ ลองใช้คาถาลวงตากับปู่หน่อย”

 

“คุณปู่ผมไม่รู้วิธีใช้คาถาลวงตาผมทำได้แค่เพียงวาดรูป”

 

อาคาบาเนะ ตอบ

 

เขายังไม่ได้เรียนรู้คาถาลวงตาเลย และเขาไม่มีเวลาฝึกฝน

 

"วาดรูป?"

 

ทุกคนมองหน้ากันและพูดเป็นเอกฉันท์ในที่สุดว่า“ ถ้าอย่างนั้นก็ลองดู”

 

“ครับ.”

 

อาคาบาเนะ พยักหน้าเริ่มวาดรูปทันที

 

ถ้าเขารู้จักคาถาลวงตาอื่นเขาก็ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ ดังนั้นหลังจากนี้เขาคงต้องเรียนรู้มันไว้บ้าง

 

หลังจากผ่านไปมากกว่าหนึ่งนาทีภาพวาดก็เสร็จสิ้น

 

มุราคุโมะ มองด้วยความมึนงงและดูเหมือนว่าจะตกอยู่ใน ภาพลวงตาแล้ว

 

เมื่อหัวหน้าตระกูลและคนอื่น ๆ ในตระกูลเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกประหลาดใจและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

 

ผู้ที่สามารถปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดขึ้นมาได้ล้วนเป็นความหวังของตระกูล ถึงแม้ว่าขีดจำกัดทางสายเลือดแห่งคุรามะจะเป็นแค่เพียงภาพลวงตาแต่ถ้ามีจักระที่แข็งแกร่งมันจะสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อการต่อสู้ได้เป็นอย่างมาก

 

ไม่กี่นาทีต่อมา อาคาบาเนะ ก็หยุดมือ และ มุราคุโมะ ก็หลุดพ้นจากภาพลวงตา เขาหอบหายใจและเหงื่อไหลออกมามากมาย

 

“ ท่านผู้อาวุโสท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม...”

 

ใบหน้าของ จิอากิ เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเขารู้สึกกระวนกระวายใจมาก

 

“ นั่งลงพักก่อน”

 

หัวหน้าตระกูล ช่วยพยุง มุราคุโมะ ให้นั่งลง เมื่อเห็นสภาพของผู้อาวุโสของตระกูล อาคาบาเนะ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย.

 

นี่ฉัน…ได้ทำร้ายผู้อาวุโสของตระกูลโดยไม่ได้ตั้งใจรึเปล่า?

รีวิวผู้อ่าน