px

เรื่อง : ระบบการ์ตูนในโลกนารูโตะ
ตอนที่ 6 การทดสอบวิชานินจา


ตอนที่ 6 การทดสอบวิชานินจา

 


ในช่วงบ่ายหลังจากเวลาพักเที่ยง

 

“ชั่วโมงนี้จะทดสอบคาถาแปลงร่าง”

 

“ต้องแปลงร่างให้เหมือนครู!!”

 

“ คนแรก อุจิวะ ริวยู”

 

ริวยู ผู้นำในอนาคตของตระกูลอุจิวะ

 

เขาเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นของตระกูลอุจิวะ อย่างไรก็ตามเขามักจะอยู่ในอันดับที่ 2 รองจาก โอโรจิมารุ มาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

 

ริวยู เดินไปหน้าชั้นเรียนอย่างมั่นใจพร้อมกับผสานอิน

 

ในเวลาไม่ถึงวินาที ฮิรุเซ็น อีกคนก็ปรากฏต่อหน้าทุกคนอย่างไร้ที่ติ

 

“ดีมาก! 

 

“คนต่อไป จิไรยะ."

 

คาถาแปลงร่างเคยเป็นจุดอ่อนของ จิไรยะ แต่ตอนนี้เขาเดินไปหน้าชั้นเรียนด้วยความมั่นใจ เขากำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า?

 

ฮิรุเซ็น ส่งสัญญาณให้เขาเริ่ม

 

 

“ เอาล่ะ! แปลงร่าง!”

 

บูม !!

 

กลุ่มควันฟุ้งกระจายเต็มห้องเรียน

 

หลังจากที่ควันหายไปอย่างช้าๆหญิงสาวสวยผิวขาวที่มีเพียงเสื้อชั้นในและกางเกงชั้นในได้ปรากฏตัวขึ้น

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่านี่มันคาถามหารัญจวนของ นารูโตะ ในการ์ตูนไม่ใช่เหรอ? เขาถึงกับเอามาใช้ในการสอบครั้งนี้!” อาคาบาเนะ หัวเราะลั่น

 

“ว๊าว จิไรยะ นายนี่มันสุดยอดจริงๆสามารถสร้างคาถาแบบนี้ขึ้นมาได้ช่างเป็นอัจฉริยะในด้านลามก ฮ่าๆ” เพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ต่างก็หัวเราะ

 

มีความสับสนวุ่นวายในห้องเรียนไปชั่วขณะหนึ่งบางคนหัวเราะและบางคนก็ปิดตาอย่างอับอาย

 

“ไอ้เด็กเวรนี่ !!! อย่าสร้างคาถาเองตามใจชอบซิเฟ้ย!!!”

 

ฮิรุเซ็น ได้รับผลกระทบมากที่สุด เขาดุ จิไรยะ ในขณะที่พยายามห้ามเลือดกำเดาไม่ให้ไหลออกมามากไปกว่านี้

 

แม้แต่คนที่มีความสามารถผ่านสนามรบมามากมายอย่างเขายังตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้

 

“กลับไปนั่งที่ จิไรยะ หลังจากนี้เธอจะถูกลงโทษ” ฮิรุเซ็น พูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองไม่หาย

 

“ทำได้ดีในระดับปานกลาง จิไรยะคุง แต่นายยังต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกมาก”

 

เหมือนจะชมแต่ไม่ได้ชม ดูเหมือนว่า โอโรจิมารุ จะไม่ได้รับผลกระทบจากคาถามหารัญจวนของ จิไรยะ

 

“ ขอโทษครับครู แฮ่ๆ”

 

บูม!

 

คาถามหารัญจวนของ จิไรยะ ถูกยกเลิก

 

“หึ! คาถาแบบนั้นมันก็แค่คาถาของเด็กน้อยที่ในหัวมีแต่เรื่องลามก”

 

ริวยู แค่พึมพำกับตัวเอง แต่ จิไรยะ ได้ยินคำพูดของเขา

 

"นี่แก!!!"

 

จิไรยะ มอง ริวยู ด้วยความโกรธ แต่เขารู้ดีว่าในการสอบครั้งนี้ ริวยู ทำได้ดีกว่าเขา

 

แม้ว่าจะทำได้ไม่เลวแต่ยังมีช่องว่างที่ห่างจาก อุจิวะ ริวยู เล็กน้อย

 

ริวยู ยิ้มเยาะ

 

โอโรจิมารุ เลียริมฝีปากดวงตาของเขาเป็นประกาย ดูเหมือนเขาจะสนุกกับการโต้เถียงของคนทั้ง 2

 

"อะแฮ่ม! จิไรยะ เพื่อเป็นการลงโทษพรุ่งนี้เขียนรายงานการสอบของวันนี้มา!”

 

ฮิรุเซ็น ยังคงไม่สามารถรักษาความสงบได้หลังจากภาพนั้นยังติดตา

 

“ ครับครู”

 

เขายังคงจ้องไปที่ ริวยู ในขณะที่เดินไปยังที่นั่ง ดูเหมือนว่าจะมีการแข่งขันกันระหว่างทั้ง 2 คน

 

“เอาล่ะ คนต่อไป คุรามะ อาคาบาเนะ”

 

อาคาบาเนะ เดินไปที่หน้าชั้นเรียนด้วยความมั่นใจ

 

โดยไม่ต้องกังวลใจเขาเริ่มทันที “แปลงร่าง!”

 

อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะแปลงเป็น อุจิวะ ริวยู

 

ใบหน้าที่เย่อหยิ่งเหมือนกันไม่มีผิด. ราวกับว่าเป็นคู่แฝดของ ริวยู จริงๆ

 

เขาพูดคำบางคำที่ ริวยู อาจจะอยากพูด“ ฮ่าฮ่าฮ่า…ฉันคือ อุจิวะ ริวยู นินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในนี้ ฮ่าฮ่าฮ่าแน่นอนว่าอ่อนแอกว่า โอโรจิมารุ…”

 

“ อาคาบาเนะ! ไอ้สารเลว!"

 

ริวยู ลุกขึ้นจากโต๊ะด้วยความโกรธ แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออก

 

เพราะร่างแปลงของ อาคาบาเนะ แทบจะเหมือนกันกับเขาและเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อก่อนเขาคิดอะไรแบบนั้นจริงๆ

 

“ครูฮิรุเซ็น การแปลงร่างของผมเปรียบเทียบกับเขาเป็นอย่างไร”

 

อาคาบาเนะ ชี้ไปที่ ริวยู

 

“พวกเธอทำได้ดีมาก แต่ฉันจะให้คะแนนเธอเต็ม”

 

เขารู้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่า อาคาบาเนะ เข้าใจ คาถาแปลงร่าง ดีกว่านักเรียนคนอื่น ๆ ในชั้นเรียน

 

ริวยู พูดไม่ออก เขาต้องการเป็นดาวเด่นแต่กลับถูก อาคาบาเนะ แย่งไป

 

“ฉันขอแนะนำอะไรหน่อยคราวหน้าอย่าได้ดูถูกใครเร็วเกินไป พวกเขาอาจจะมีดีกว่าที่นายคิด”

 

อาคาบาเนะ เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มเยาะ

 

ริวยู ยังคงโกรธเป็นอย่างมากในตอนนี้

 

“เหอะ! ฉันยอมรับในความสามารถของนาย แต่ในการต่อสู้จริงนายไม่มีทางเอาชนะพวกเราตระกูลอุจิวะได้

 

อุจิวะอีกคนได้พูดปกป้อง ริวยู ที่เป็นความภาคภูมิใจของตระกูลเขา

 

“ภาพลวงตาของนายไม่มีประโยชน์กับเนตรของเรา ฉันจะพิสูจน์ให้นายได้เห็นในการสอบพรุ่งนี้ว่าอุจิวะนั้นน่ากลัวเพียงใด!”

 

ริวยู ยังคงพูดออกมาด้วยความเย่อหยิ่งเหมือนเดิม

 

“โอ้? น่าเสียดายที่นายเป็นคนของโคโนฮะ แต่ก็เอาเถอะพรุ่งนี้ฉันจะทำให้นายได้รู้ว่าความอับอายนั้นเป็นยังไง”

 

อาคาบาเนะ เหลือบมอง ริวยู แล้วเดินไปยังที่นั่งของเขา

 

ดูเหมือนว่าตอนนี้จะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่าง อาคาบาเนะ  และ อุจิวะ แล้ว

 

ริวยู รู้ดีว่า อาคาบาเนะ สามารถปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดได้แล้ว แต่เขาคือ อุจิวะ ที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร

 

“ ฉันจะทำให้นายพ่ายแพ้อยู่ใต้เท้าของฉันคอยดูไปเถอะ อาคาบาเนะ”

 

เขาบอกตัวเองในใจ

 

ในทางกลับกัน อาคาบาเนะ ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

 

แม้ว่าเขาจะต่อสู้กับใครบางคนจากตระกูลอุจิวะ แต่พวกเขาก็ยังเป็นเพียงแค่เด็กที่ยังไม่ได้ปลุกพลังเนตร

 

“ ขอบใจนะ อาคาบาเนะ”

 

จิไรยะ บีบกำปั้นเอาไว้แน่น เขารู้ดีว่าเรื่องนี้เขาควรจัดการด้วยตัวเอง แต่ความแข็งแกร่งของเขามีไม่เท่า ริวยู 

 

"ไม่เป็นไร อันที่จริงพรสวรรค์ในการต่อสู้ของนายนั้นดีและอาจจะเป็นนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในอนาคตก็ได้”

 

อาคาบาเนะ หัวเราะ

 

“อืม ฉันจะฝึกฝนตนเองให้หนักขึ้น!”

 

จิไรยะ พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

 

อาคาบาเนะ นั่งลงบนเก้าอี้และเอนหลังพิงพนักพิงจากนั้นเฝ้าดูคนอื่น ๆ ทำการทดสอบต่อไป

 

ในขณะเดียวกันเขาก็เปิดแผงระบบของเขาขึ้นมาดู

 

“ 94 แต้ม อืม เกือบถึงแล้ว”

 

คาถาแยกเงาพันร่าง อยู่ใกล้แค่เอื้อม

 

วิชานินจาระดับ B นี้มีความสำคัญอย่างมากสำหรับเขาไม่เพียงแต่ช่วยในการวาดการ์ตูนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้ภาพลวงตาและเอฟเฟกต์ทางยุทธวิธีอื่น ๆ ด้วย

 

และแน่นอน…

 

แม้ว่าจะไม่มี แยกเงาพันร่าง เขาก็ยังสามารถเอาชนะ ริวยู ได้

 

แต่ด้วยแยกเงาพันร่างนี้ เขาสามารถทำให้ ริวยู พ่ายแพ้ได้ง่ายขึ้น

 

……………

 

ไม่นานหลังจากสอบเสร็จ ฮิรุเซ็น ก็กลับไปที่ห้องทำงานของโฮคาเงะและในขณะเดียวกันหน่วยลับอันบุกำลังรอส่งข้อมูลบางอย่างให้เขา

 

“ อาคาบาเนะ ได้ปลุกการควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง 5 แล้วหรือ?”

 

“ ใช่ครับ ท่านโฮคาเงะ ไม่เพียงแค่นั้นแต่ อาคาบาเนะ ยังแสดงให้เห็นถึงการควบคุมจักระที่ยอดเยี่ยมและจากสิ่งที่ฉันได้ยินจากตระกูลคุรามะ จักระของเขาอยู่ในระดับจูนิน”

 

ข้อมูลจำนวนหนึ่งดังออกมาจากปากของสมาชิกหน่วยลับอันบุและการแสดงออกของ ฮิรุเซ็น ก็เคร่งขรึมขึ้น“ อืม อยู่ในระดับของจูนินแล้ว...”

 

“ เขาอาจจะเป็นอัจฉริยะด้านภาพลวงตาในยุคนี้”

 

ฮิรุเซ็น ถามอย่างครุ่นคิด“ ตระกูลคุรามะทำอะไรหลังจากรู้เรื่องนี้”

 

สมาชิกหน่วยลับอันบุ ตอบด้วยน้ำเสียงสับสน

 

“เอ่อ .. พวกเขาทำการแจกจ่ายการ์ตูนของ อาคาบาเนะ ภายในตระกูล”

 

“เข้าใจแล้ว นายออกไปได้”

 

ฮิรุเซ็น บอกให้สมาชิกหน่วยลับอันบุออกจากห้องทำงานของเขา

 

จากนั้นเขาก็ใช้ลูกแก้วเวทย์มนต์ดูว่า อาคาบาเนะ กำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้

 

อาคาบาเนะ นั่งอยู่คนเดียวในสวนพร้อมพู่กันและกระดาน ดูเหมือนเขากำลังจะวาดรูป

 

ฮิรุเซ็น ขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

“ เจ้าหนูนี่….กลายเป็นคนขยันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

 

ด้วยความที่ ฮิรุเซ็น เป็นครูประจำชั้นเขาจึงรู้เกี่ยวกับนิสัยของ อาคาบาเนะ ไม่มากก็น้อย

 

ไม่ใช่นักเรียนขี้เกียจ แต่ก็ไม่ใช่คนขยันเช่นกัน

 

“หรือว่า…”

 

ไม่ไกลจาก อาคาบาเนะ มี อาคาบาเนะ อีกคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้าอย่างเกียจคร้าน

 

ฮิรุเซ็น อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ดูเหมือนว่านิสัยของคนเราไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

 

แต่เขาก็รู้สึกทึ่งเล็กน้อย “ แยกเงาพันร่างอย่างงั้นเหรอ….ตั้งแต่อายุยังน้อยเขากลับเชี่ยวชาญวิชานินจาระดับ B แล้วและยังนำมาใช้งานเช่นนี้ด้วย”

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่าฉันไม่สามารถปฏิเสธพรสวรรค์ของเขาได้เลยจริงๆ”

 

การประเมิน อาคาบาเนะ ของเขาเพิ่มสูงขึ้น แต่นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขารู้สึกปวดหัว

 

ทันใดนั้น…

 

มีเสียงมาจากด้านนอกประตู

อ่านบทล่าสุดที่ WuxiaWorld เว็บไซต์เท่านั้น

“ ฮิรุเซ็น มอบ อาคาบาเนะ ให้ฉัน หน่วยรากต้องการอัจฉริยะแบบนั้น”

 

“ ไม่ อาคาบาเนะ ไปที่หน่วยรากไม่ได้”

 

ฮิรุเซ็น กล่าวอย่างแน่วแน่ว่า“ ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลคุรามะยังอยู่ในสถานะที่อ่อนแอที่สุดในตอนนี้ไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยตัว อาคาบาเนะ ไปได้และเขาก็ยังเป็นเด็กที่ต้องได้รับการฝึกฝน

 

“ถ้า อาคาบาเนะ ไม่ได้ งั้นก็เป็น โอโรจิมารุ…”

 

ตอนที่ 7 โคโนฮะมารุ



อาคาบาเนะ รู้ว่า ฮิรุเซ็น กำลังแอบมองเขาจากที่ทำงาน

 

“ อืม ครูฮิรุเซ็น ต้องใช้คนแอบมาสืบเรื่องของฉันหลังการสอบ ดูเหมือนว่าเขาคงจะเฝ้าติดตามฉันสักพัก”

 

อาคาบาเนะ นอนอยู่บนพื้นหญ้าพร้อมกับครุ่นคิด

  

หลังจากความสำเร็จที่โดดเด่นของเขาจากการสอบ ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเขาในฐานะนินจาอีกต่อไป

 

ถึงกระนั้น อาคาบาเนะ ก็ไม่ได้คิดหรือวางแผนว่าเขาจะกลายเป็นลูกศิษย์สายตรงของ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ได้

 

การอยู่ในรายชื่อทีมของโฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาแม้ว่าเขาจะต้องการมันก็ตาม

 

น่าจะมีชื่อของ ซึนาเดะ จิไรยะ และ โอโรจิมารุ ตามเนื้อเรื่องต้นฉบับอยู่แล้ว

 

ยิ่งไปกว่านั้น ฮิรุเซ็น อาจไม่ชอบผู้ใช้ภาพลวงตาอย่างเขา

 

“ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นลูกศิษย์สายตรงของ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ” แต่เมื่อเขาคิดอีกครั้งเขาก็ตระหนักได้ว่าการเป็น 3 เซียนในตำนานนั้นเหนื่อยมาก

 

แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยสนใจที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนินจา แต่โลกนี้ก็โหดร้ายเกินไป เขาต้องมีต้นทุนที่เพียงพอเพื่อความอยู่รอดดังนั้น อาคาบาเนะ จึงยังคงหวังว่าจะมีพี่เลี้ยงที่อย่างน้อยก็ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ

 

 

“ เฮ้! นายวาดได้กี่หน้าแล้ว?”

 

“ 1 ใน 3 นายควรช่วยวาดด้วยหรือไม่ก็หยุดบ่นอะไรพึมพำ มันทำให้ฉันไม่มีสมาธิ!”

 

ร่างแยกของเขาตอบอย่างโกรธ ๆ

 

“นายเองไม่ใช่เหรอที่กำลังบ่นฉันอยู่เนี่ย วาดต่อไป”

 

อาคาบาเนะ ต้องทำงานอย่างหนักก่อนที่เขาจะได้รับ คาถาแยกเงาพันร่าง

 

ตอนนี้เขาได้เรียนรู้มันแล้วดังนั้นก็ต้องใช้งานมันให้เต็มที่

 

“ ให้ตายเถอะนายต้องเรียกมาเพิ่มอีกคน นี่มันมากเกินไปสำหรับฉันคนเดียว!”

 

ร่างแยกเงาบ่นแต่ยังคงวาดการ์ตูนต่อไป

 

ดูเหมือนว่าร่างแยกเงาจะทำงานทั้งหมดมากเกินไปจริงๆ

 

“ต้องขอโทษด้วยฉันเองก็อยากจะทำเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ฉันไม่มีจักระเหลืออยู่แล้ว ถ้าฉันเรียกอีกคนออกมาฉันคงเป็นลมหมดสติไปซะก่อน”

 

อาคาบาเนะ กล่าวอย่างไม่แยแส

 

หลังจากเพิ่มแต้มอีก 2 จุดให้กับจักระแล้ว ค่าจักระของเขาก็ถึง 50 จุด ซึ่งเป็นระดับจูนิน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังหนักหนาเกินไปที่จะเรียกร่างแยกเงา 2 ร่างให้ออกมาทำงานที่มีความระเอียดสูงในเวลาเดียวกัน .

 

“หากสามารถลดภาระงานลงครึ่งหนึ่งที่ฉันทำ ฉันคิดว่ามันก็คุ้มค่า”

 

ร่างแยกเงากล่าวขณะที่ยังวาดรูป

 

“ แม้ว่าสงครามจะยังคงอยู่ห่างไกล แต่เราก็ต้องรีบเตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อน”

 

หลังจากที่ อาคาบาเนะ พูดจบเขาก็ไม่สนใจร่างแยกของเขาอีกและยังคงนอนอยู่บนพื้นหญ้า

 

เขาต้องเตรียมตัวให้ดีสำหรับสิ่งที่จะมาถึงมิฉะนั้นคงเสียทีที่ได้ย้ายมายังโลกนี้

 

ร่างกายของเขาดีขึ้นกว่าแต่ก่อนและความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

“ไม่คิดเลยว่านายจะมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ อาคาบาเนะ!”

 

ในตอนนี้เสียงของ ซึนาเดะ ดังมาจากทิศทางของโรงเรียนนินจา

 

“ให้ตายเถอะยัยเด็กคนนี้ตามตื้อไม่เลิก!”

 

อาคาบาเนะ ลุกขึ้นนั่งอย่างเร่งรีบพร้อมกับยกเลิกร่างแยกเงาของเขา

 

“พรุ่งนี้จะมีการสอบแล้ว นายยังจะมาวาดรูปอยู่ที่นี่อีก?”

 

ซึนาเดะ เดินมาหาเขาและเมื่อเธอเห็นหน้าการ์ตูนของ อาคาบาเนะ ที่กองอยู่บนพื้นเธอก็ประหลาดใจ“ โอ้! นี่นายกำลังวาดการ์ตูนนารูโตะตอนต่อไปอยู่ใช่ไหม!?”

 

“เธอคงจะสงสัยละสิว่าทำไมฉันถึงเลือกวาดการ์ตูนมากกว่าทำสิ่งอื่น”

 

อาคาบาเนะ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“ใช่ฉันสงสัย ถึงแม้ว่านายจะมั่นใจในตัวเองว่าสามารถเอาชนะ ริวยู ได้ในการสอบ แต่อย่างน้อยนายก็ต้องฝึกฝนให้มากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ”

 

ซึนาเดะ รู้ว่า อาคาบาเนะ มีความเชี่ยวชาญในภาพลวงตาและสามารถปลุกขีดจำกัดทางสายเลือดแล้ว

 

“ ฉันมีแผนของฉัน…”

 

เมื่อคุยกันได้ครึ่งทางเขาก็เหลือบไปเห็น ซึนาเดะ พุ่งเข้ามาเพื่อลอบโจมตีเขา

 

ตูมม!!

 

หลุมขนาดใหญ่ปรากฏอยู่บนพื้นทันที ด้วยหมัดนี้หากถูกเขาตรงๆเขาอาจถูกส่งไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยสภาพปางตาย

 

“นายบังอาจทำให้ฉันตกอยู่ในภาพลวงตาของนายโดยไม่บอกไม่กล่าว!”

 

ยัยเด็กคนนี้ยังคิดแก้มือ!

 

อาคาบาเนะ วิ่งไปในป่า เขาต้องการหาที่กำบัง

 

“อย่าคิดหนี!”

 

ซึนาเดะ วิ่งไล่ตามอยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว

 

อาคาบาเนะ ทำการผสานอินในขณะที่เขากำลังวิ่งแล้วแตะไปที่ต้นไม้อย่างรวดเร็ว….จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในป่า

 

ซึนาเดะ กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้โดยตรง ด้วยการกระโดดเพียงไม่กี่ครั้งเธอก็เข้าใกล้ อาคาบาเนะ มากขึ้น ในแง่ของความแข็งแกร่งทางร่างกาย อาคาบาเนะ ยังไม่สามารถเทียบ ซึนาเดะ ได้

 

แต่เมื่อ ซึนาเดะ กระโดดข้ามต้นไม้ 2-3 ต้นเธอก็ฉุกใจได้คิดและรู้สึกผิดปกติทันที“ อาคาบาเนะ มีร่างกายที่อ่อนแอเสมอมาแล้วจะรวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?

 

ภาพลวงตาอีกแล้ว!

 

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

 

ซึนาเดะ หยุดและถามอย่างสงสัย

 

“ในขณะที่เธอข้ามต้นไม้ต้นนั้น”

 

“อาคาบาเนะ!” ซึนาเดะ หันกลับไปมอง

 

ควับ!

 

มีดคุไนจำนวนหนึ่งพุ่งเข้าหา ซึนาเดะ เธอพุ่งตัวหลบ แต่เส้นผมก็ยังถูกตัดลงบางส่วน

 

ต่อจากนั้นผลของภาพลวงตาก็หายไปอย่างช้าๆ

 

ซึนาเดะ หนีออกมาจากภาพลวงตาได้ แต่เธอพบว่า ... ผมของเธอถูกตัดแล้วก็ลอยอยู่ในอากาศ

 

“ นี่…ฉันยังตกอยู่ในภาพลวงตาอยู่หรือเปล่า”

 

“ ไม่ฉันยกเลิกมันไปแล้ว

 

อาคาบาเนะ ปรากฏตัวจากหลังต้นไม้และยกกระดาษที่ขาดอยู่ในมือขึ้น

 

“มันเป็นภาพลวงตาแต่เส้นผมของฉันถูกตัด…ฉันจำได้ว่าตระกูลคุรามะของนายสามารถเปลี่ยนภาพลวงตาให้กลายเป็นความจริงได้”

 

ซึนาเดะ จับผมของเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอีกครั้ง“ แต่คนที่ฉันไล่…”

 

“ มันคือร่างแยกเงาของฉัน”

 

อาคาบาเนะ หาว ดูเหมือนว่าเขาจะใช้จักระไปมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

 

“ คาถาแยกเงาพันร่าง …วิชานินจาระดับ B นั่นนะเหรอ!?”

 

ซึนาเดะ รู้สึกประหลาดใจ แต่ก็โล่งใจอย่างเงียบ ๆ

 

นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า อาคาบาเนะ ยังมีไพ่อีกมากและคงจะสามารถจัดการกับ ริวยู ได้ไม่ยาก

 

“ ไม่ต้องห่วง คู่ต่อสู้ของฉันเป็นแค่เด็กจากอุจิวะเท่านั้น”

 

อาคาบาเนะ เก็บอุปกรณ์และภาพวาดเตรียมกลับบ้าน

 

“ใครเป็นห่วงนาย? ฉันแค่ไม่อยากให้นายแพ้ใครก่อนที่จะแพ้ฉัน”

 

ซึนาเดะ ตะคอกอย่างเย็นชา

 

“ เอาล่ะ เพื่อเป็นการขอบคุณที่เป็นห่วงฉัน ฉันจะให้เธอดูการ์ตูนที่ฉันเพิ่งวาด…..”

 

"ฉันบอกว่าฉันไม่ได้เป็นห่วง!"

 

แต่ทันใดนั้น ซึนาเดะ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างของ อาคาบาเนะ

 

อาคาบาเนะ มองผ่านโดยไม่พูดพร้อมกับยื่นการ์ตูนให้เธอแล้วพูดว่า "นั่งลงอ่านที่นี่ เร็วๆด้วยล่ะ ฉันต้องรีบกลับไปวาดต่อให้เสร็จ”

 

“ฮิฮิ”

 

ซึนาเดะ นั่งลงขณะที่เธอถือกองหน้ากระดาษและเริ่มอ่านมัน

 

เนื้อหาของตอนที่ 2 เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับ นารูโตะ และ โคโนฮะมารุ หลานชายของ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 แต่ ซึนาเดะ ไม่รู้เลยว่าเรื่องราวเหล่านี้คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

 

“เอ๋ โคโนฮะมารุ…เป็นหลานชายของ ลุงฮิรุเซ็น เหรอ?”

 

เมื่อเห็น โคโนฮะมารุ ซึนาเดะ ก็ถามอย่างสงสัยว่า“ เขาเป็นลูกใคร”

 

“ พ่อของเขาชื่อ ชินโนะสุเกะ”

 

อาคาบาเนะ กล่าว

 

ซารุโทบิ ชินโนะสุเกะ ลูกชายคนโตของ ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น และเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา

 

ในตอนนี้ อาสึมะ ยังไม่เกิด และแน่นอน ซึนาเดะ ย่อมไม่รู้จักคนที่ยังไม่เกิดดังนั้นเธอจึงถามอย่างสงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใครในตระกูลซารุโทบิ

 

“ลูกของ ชินโนะสุเกะ…ฉันคิดว่า นารูโตะ ตัวเอกของนายโง่มากแล้ว แต่เด็กคนนี้กลับโง่ยิ่งกว่าเสียอีก”

 

เมื่อเธอเห็นว่า โคโนฮะมารุ ไม่สามารถเข้าใจคาถามหารัญจวนได้ ใบหน้าของเธอก็แสดงสีหน้าขยะแขยงมากขึ้น“ โง่มาก เขาโง่ยิ่งกว่า จิไรยะ เสียด้วยซ้ำ”

 

“ จิไรยะ ค่อนข้างฉลาด แต่เขายังต้องการเวลาเรียนรู้มากกว่านี้”

 

อาคาบาเนะ ยักไหล่

 

“มันก็จริงอย่างที่นายพูด ฉันคิดว่า โคโนฮะมารุ ดูโง่กว่า จิไรยะ ฉันไม่รู้ว่า ลุงฮิรุเซ็น กับ ชินโนะสุเกะ จะจัดการกับนายยังไงหลังจากที่พวกเขาได้เห็น”

 

เมื่อ ซึนาเดะ พูดเช่นนี้ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสุขในความโชคร้ายของคนอื่น

 

“ นี่เป็นเพียงเรื่องเล่าเพื่อความบันเทิง ฉันคิดว่าพวกเขาจะให้อภัยต่อจินตนาการของเด็กอย่างฉัน”

 

อาคาบาเนะ พูดอย่างใจเย็น

 

หลังจากอ่านต้นฉบับเสร็จแล้ว ซึนาเดะ ก็ส่งคืนให้ อาคาบาเนะ และพูดว่า“ อาคาบาเนะ นายกลับไปพิมพ์เพิ่มอีก 2-3 ชุด ฉันจะเอาไปให้ย่าของฉันอ่าน ท่านจะต้องชอบมันแน่ๆ”

 

"ไม่มีปัญหา!"

 

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ อาคาบาเนะ ก็ดีใจจนไม่อาจจะปฏิเสธ

 

ถ้าจำไม่ผิดร่างสถิตของสัตว์หางในหมู่บ้านโคโนฮะคนปัจจุบันคือ อุซึมากิ มิโตะ ซึ่งเป็นย่าของ ซึนาเดะ

 

ก่อนหน้านี้เขาได้รับแต้มจาก โฮคาเงะ มา 50 แต้มหลังจากอ่านตอนแรกจบ แล้วคนอย่างร่างสถิตสัตว์หางจะให้แต้มเขาเท่าไหร่?

 

แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!

 

“ฉันจะรีบทำให้เสร็จแล้วนำมามอบให้เธอ...”

รีวิวผู้อ่าน