ตอนที่ 9 อาคาบาเนะ VS ริวยู
“อย่าเอาแต่หลบมาเผชิญหน้ากับฉันตรงๆเดี๋ยวนี้!”
ซึนาเดะ ยืนอยู่ตรงกลางลานประลองโดยที่พื้นรอบ ๆ ตัวเธอเต็มไปด้วยรูที่ถูกเจาะ
“แฮก…แฮก…”
อีกด้านหนึ่ง ซาคุโมะ หอบหายใจในขณะที่มือของเขาถือดาบสั้นเอาไว้
ทั้ง 2 คนมีความสามารถพอๆกัน แต่ความแข็งแกร่งด้านพละกำลังนั้น ซึนาเดะ มีมากกว่า ซาคุโมะ
แม้ว่าตระกูลฮาตาเกะ จะมีวิชานินจาหลายรูปแบบและมีวิชาดาบสั้นที่น่ากลัว แต่วิชาของพวกเขาถูกออกแบบมาเพื่อการสังหารที่ไม่สนกฏเกณฑ์ใดๆ ซึ่งไม่ใช่การประลองเช่นนี้
ความแข็งแกร่งทางร่างกายและจักระของ ซาคุโมะ ก็เริ่มจะหมดไปเรื่อยๆซึ่งใกล้จะถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว
แต่ดูเหมือน ซึนาเดะ จะไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อย
เขารู้ว่าเขาไม่สามารถลากเวลาได้อีกต่อไป
“ก็ได้. เรามาจบเรื่องนี้กัน”
มีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่ ซาคุโมะ จะพลิกสถานการณ์ และ อาคาบาเนะ พยายามใส่ใจอย่างใกล้ชิดกับการปะทะกันในครั้งนี้
ในพริบตาทั้ง 2 กระโจนเข้าหากัน
พวกเขาแลกหมัดและลูกเตะ ซาคุโมะ ใช้เทคนิคของนักฆ่าในขณะเดียวกัน ซึนาเดะ กระทืบเท้าลงพื้นแล้วกวาดเท้าเตะ
ทั้ง 2 พยายามโจมตีและป้องกันในเวลาเดียวกัน
ซึนาเดะ เห็น ซาคุโมะ เปิดเผยช่องโหว่เธอก็ทำการโจมตีโดยตรง
"แย่แล้ว!"
ซาคุโมะ สัมผัสได้ถึงอันตราย เขาไม่คิดเลยว่า ซึนาเดะ จะเห็นช่องโหว่เพียงน้อยนิดนี้แล้วโจมตีเขา
แม้ว่าเขาจะหลบการโจมตีของเธอได้อย่างน่าอัศจรรย์
แต่เมื่อเขาลงมาที่พื้นเขาก็เสียการทรงตัวไปชั่ววินาที และเมื่อ ซึนาเดะ เห็นโอกาสนี้เธอก็ปล่อยหมัดที่ 2 ของเธอเข้าใส่เขาโดยตรง
ซาคุโมะ ปลิวกระเด็นออกจากลานประลองความรู้สึกที่ถูกหมัดนี้ราวกับว่าโดนก้อนหินขนาดใหญ่กระแทกเข้าใส่
………………….
“ นัดที่ 2 ซึนาเดะ ชนะ!”
ฮิรุเซ็น ประกาศผลการประลองอย่างรวดเร็ว
“ นั่นคือ เจ้าหญิงซึนาเดะ ที่น่าทึ่งของเรา!” ฝูงชนระเบิดเสียงเชียร์ด้วยความตื่นเต้น
ทั้ง 2 โค้งคำนับให้กันและกันแล้วเดินออกจากลานประลอง
“ นัดต่อไป…”
แม้ว่าการประลองของเธอเพิ่งจบลงแต่ดูเหมือนว่า ซึนาเดะ จะไม่มีความเหน็ดเหนื่อย
หลังจากลงจากลานประลองเธอก็เห็น อาคาบาเนะ ดูการประลองของเธอจากข้างเวที
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุข และค่อยๆเดินเข้าไปหาเขา
“ ฉันคิดเอาไว้แล้วว่านายจะต้องออกมาดูการประลองของฉัน เป็นไงฝีมือของฉัน?
อาคาบาเนะ ไม่ตอบเขาหาวแล้วล้มตัวลงนอนจากนั้นก็หลับไป
“ฮึ่ม นายนี่มันจริงๆเลย!”
ซึนาเดะ ขมวดคิ้วด้วยความโกรธ แล้วนั่งลงข้างๆ เขาพร้อมกับทำหน้าบึ้ง
ตอนแรกเธอคิดว่า อาคาบาเนะ แค่แกล้งเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พบว่า อาคาบาเนะ หลับไปแล้ว...…
หลังจากคู่ของ ซึนาเดะ ผ่านพ้นไปความตื่นเต้นของการประลองที่เหลือก็ลดลงอย่างมาก และไม่มีแมตช์ใหญ่อื่นให้ตื่นเต้น
หลังจากจบการประลองคู่ที่ 7 ก่อนที่ ฮิรุเซ็น จะเรียกชื่อ ริวยู ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่กลางลานประลอง ดูเหมือนว่าเขาได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
“ ต่อไป ริวยู กับ อาคาบาเนะ”
ริวยู มองไปทาง อาคาบาเนะ อย่างเย่อหยิ่ง
แต่…
อาคาบาเนะ ยังคงหลับสนิทอยู่ที่เดิม
“อา..คา..บา..เนะ..!?”
ฮิรุเซ็น ตะโกนเรียกชื่อของเขาเป็นครั้งที่ 2
เขาเห็น อาคาบาเนะ นั่งอยู่ข้างๆ ซึนาเดะ เขาตะโกนเสียงดังแต่แล้วทำไม อาคาบาเนะ ยังไม่ขึ้นมา?
“อาคาบาเนะ! ตื่นได้แล้ว!"
ซึนาเดะ ตะโกนใส่เขา 2-3 ครั้ง แต่ อาคาบาเนะ ก็ยังไม่ตื่น เธอจึงตบเขาไปครั้งหนึ่ง
เพี๊ยะ!
"โอ้ย เจ็บๆ!" อาคาบาเนะ สะดุ้งตื่นด้วยอารมณ์ที่ยังคงยุ่งเหยิงพร้อมกับลูบใบหน้าของเขาเบาๆ
“ถึงตานายแล้ว รีบขึ้นไป”
ซึนาเดะ กระซิบบอกเขา
ริวยู กำลังรอเขาอยู่บนลานประลองพร้อมกับจ้องมองเขาโดยไม่ว่างตา
“ขึ้นมา! ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้นอน อีกเดี๋ยวฉันจะส่งนายไปนอน แต่ไปนอนต่อที่โรงพยาบาลนะ”
ริวยู พยายามเหน็บแนม อาคาบาเนะ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจ
อาคาบาเนะ ยังคงง่วงนอนขณะที่เดินเขาหาวออกมาและพูดว่า“ ตั้งแต่เมื่อวานดูเหมือนว่านายกับฉันมีเรื่องต้องคุยกัน”
"อา."
ริวยู ยิ้มเยาะ
อาคาบาเนะ เดินไปที่ตำแหน่งของเขาโดยถืออุปกรณ์วาดภาพไว้ในมือรอให้ ฮิรุเซ็น ประกาศเริ่มการประลอง
…………….
“ พร้อมหรือยัง?
3..,
2 .. ,
1 .. ,
เริ่มได้! “
“คาถาเคลื่อนย้าย!”
ริวยู หายวับไปในพริบตาเดียว
อย่างไรก็ตาม……
อาคาบาเนะ สังเกตุเห็นตำแหน่งของเขาและขว้างมีดคุไนออกไปหนึ่งกำมือ
ริวยู จัดการปัดป้องมันด้วยการเตะของเขา
เขาคิดว่ามันจะง่ายในตอนแรก
แต่การประลองเพิ่งเริ่มต้น
เมื่อหันศีรษะไปเขาก็เห็น อาคาบาเนะ ไม่ได้ขยับจากตำแหน่งของเขาแม้แต่นิ้วเดียว
“ฉันจะสั่งสอนนายให้รู้สำนึก!”
ริวยู ผสานมือและวิ่งวนไปรอบ ๆ
“คาถาไฟ: ลูกบอลเพลิงยักษ์!”
"อะไร? เขาได้เรียนรู้คาถาลูกบอลเพลิงยักษ์แล้ว!”
“โอ้…” อาคาบาเนะ แปลกใจเล็กน้อย
“ อาคาบาเนะ!”
เพื่อนร่วมชั้นของเขาบางคนต่างก็จ้องมองด้วยความกังวล
"หยุดนะ!"
ฮิรุเซ็น ตะโกนห้าม แต่เนื่องจากเขามัวแต่แปลกใจที่ ริวยู สามารถใช้คาถานี้ได้ ดังนั้นกว่าจะรู้ตัวมันก็สายไปแล้วที่จะเข้าไปขัดขวาง
ลูกบอลเพลิงขนาดยักษ์กลืนกิน อาคาบาเนะ ในพริบตา
“ เขาเชี่ยวชาญคาถานินจานี้ได้อย่างไร!”
“ นี่อันตรายเกินไปสำหรับ อาคาบาเนะ!”
ตระกูลอุจิวะที่เหลือมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกัน
แม้ว่า คาถาลูกบอลเพลิงยักษ์ จะเป็นเพียงคาถาระดับ C แต่พลังทำลายของมันก็มากเกินพอที่จะจัดการกับนักเรียนของสถาบันการศึกษาได้
เพื่อนร่วมชั้นเข้าใจสถานการณ์และพวกเขาคิดว่า อาคาบาเนะ คงถูกจัดการไปแล้วและคงสายเกินไปที่เขาจะหลบหนี
พวกเขามองไปที่ลานประลองด้วยสีหน้ากังวล
ยกเว้น ซึนาเดะ
“ซึนาเดะ ไม่เห็นเหรอ! อาคาบาเนะ ถูกลูกบอลเพลิงกลืนเข้าไปแล้ว”
จิไรยะ รู้สึกหวาดกลัวและตกใจในเวลาเดียวกัน
แม้แต่ โอโรจิมารุ ก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่ก็วิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วว่า อาคาบาเนะ ต้องมีวิธีหลีกเลี่ยง เขาหลับตาลงทันทีและใช้จิตสัมผัส เขารู้ว่าคนปกติจะมีจักระมากมายอยู่ในร่างกาย แต่ถ้าเป็นร่างแยกจะมีจักระไม่มากและเขาสัมผัสได้ว่าบนเวทีมีเพียง ริวยู เท่านั้นไม่มี อาคาบาเนะ อยู่ที่นั่นเลย!
“ เขาโดนลูกบอลเพลิงยักษ์นั่นจริงๆเหรอ”ใครบางคนได้เอ่ยถามขึ้น
“ ไม่ เขาใช้ร่างแยกเงา”
โอโรจิมารุ กล่าวอย่างมั่นใจ
“ นอกจากนี้ผลการตัดสินได้รับการตัดสินแล้ว….”
เมื่อทุกคนหันไปมองบนลานประลองก็เห็น ฮิรุเซ็น ที่รีบมาบนลาน เขาพบว่ามีเพียงกระดาษที่ไหม้เกรียมอยู่ แต่ไม่พบ อาคาบาเนะ ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
ในขณะเดียวกัน ริวยู ก็หมดสติหลังจากใช้จักระทั้งหมดของเขาเพื่อปลดปล่อยคาถาลูกบอลเพลิงยักษ์
“อาคาบาเนะ!” ฮิรุเซ็น ตะโกนเรียก
“ผมอยู่ที่นี่ครับครู”
ทันใดนั้น อาคาบาเนะ ก็เดินออกมาจากฝูงชนด้านข้างโดยถือรูปวาดของเขาเอาไว้ในมือ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่…?"
จิไรยะ ตกใจเขาคิดว่า อาคาบาเนะ คงจะโดนลูกบอลเพลิงยักษ์กลืนไปแล้วจริงๆ
“อาคาบาเนะคุง น่าจะใช้คาถาเงาแยกร่างและคาถาเปลี่ยนตัวในเวลาเดียวกัน เมื่อ ริวยู ปล่อยลูกบอลเพลิงยักษ์ อาคาบาเนะคุง ก็เปลี่ยนตำแหน่งกับกระดาษที่อยู่ในฝูงชนทันที”
โอโรจิมารุ ครุ่นคิดอยู่ภายในใจ แต่สีหน้าของเขาก็ค่อนข้างตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ
มันเป็นเทคนิคที่ไม่ยากในการดำเนินการ แต่ความยากอยู่ที่ไม่มีใครสังเกตุเห็น ว่าเขาได้ลงมืออย่างไรจนถึงตอนนี้
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้เขาต้องมุ่งความสนใจไปที่จักระและใช้สมาธิเป็นอย่างมาก
“นายออกไปนอกลานประลอง!”
คาวากิ พยายามช่วยให้ ริวยู ชนะโดยหาข้ออ้างให้ อาคาบาเนะ แพ้ฟาวล์
“แล้วไง?”
อาคาบาเนะ เยาะเย้ยและไม่สนใจเขาอีก
“ก็นายแพ้..…”
คาวากิ ลุกขึ้นยืนเพื่อพูดให้มากขึ้น แต่ถูก ฮิรุเซ็น พูดขัดจังหวะทันที
“ เขาไม่ได้ทำผิดกฎใด ๆ คาวากิ เขาใช้ร่างแยกเงาไม่ใช่คาถานินจาที่อันตราย และนั่นคือจุดประสงค์ของการทดสอบนี้”
คำอธิบายนั้นทำให้ คาวากิ พูดไม่ออก
ฮิรุเซ็น ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการเข้าไปในฝูงชนของ อาคาบาเนะ
อาคาบาเนะ ทำความสะอาดอุปกรณ์วาดภาพของเขาขณะที่ ริวยู ฟื้นคืนสติขึ้นมาในไม่ช้า
“ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันชนะแล้ว!”
ปากของ ริวยู บวมเป่งด้วยคาถาของเขาเอง แต่เขาก็ยังหัวเราะ
เพราะสิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้คือเขาเอาชนะ อาคาบาเนะ ด้วย คาถาลูกบอลเพลิงยักษ์ของเขา แต่แล้วไม่นานเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ไม่มีใครฉลองในชัยชนะของเขาไม่เว้นแม้แต่เพื่อนร่วมตระกูลของเขา บางคนถึงกับหัวเราะเยาะเขานี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ผิดแล้ว เธอแพ้! นอกจากนี้เธอยังใช้คาถาลูกบอลเพลิงยักษ์ ซึ่งถูกห้ามจากการสอบครั้งนี้ ดังนั้นเธอจะต้องเรียนอยู่ที่สถาบันการศึกษานี้ต่อไปอีกหนึ่งปีเพื่อเป็นการลงโทษ”
ฮิรุเซ็น ตะคอกใส่เขาด้วยความโกรธแม้ว่า อาคาบาเนะ รอดมาได้อย่างน่าขอบคุณ แต่ ริวยู ได้ใช้คาถาที่รุนแรงในการสอบซึ่งถือว่าผิดกฏ
"อะไร? ฉันแพ้เหรอ?”
ความกังวลแรกของ ริวยู ไม่ใช่การเรียนซ้ำชั้น แต่เป็นการพ่ายแพ้ต่อ อาคาบาเนะ
“ พี่ชายก่อนที่คาถาลูกบอลเพลิงยักษ์ของนายจะถูกตัวเขา เขาก็ได้หายไปแล้ว”
คาวากิ รู้สึกอับอายที่ลูกหลานของอุจิวะพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
แต่เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ถ้า ริวยู ชนะเขาจะเป็นคนเดียวที่ถูกหัวหน้าตระกูลและผู้อาวุโสดุด่าเมื่อเขากลับบ้าน
แต่ตอนนี้เขามีเพื่อนที่พร้อมจะโดนด่าไปด้วยกันซึ่งอย่างน้อยๆเขาก็รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม