ตอนที่ 10 คำเตือนของ โอโรจิมารุ
“ หรือนี่จะเป็นผลกระทบจากภาพลวงตาของมัน? ฉันอยู่ในภาพลวงตาของมันรึเปล่า?”
ริวยู ยังทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เขาคิดว่าตัวเองยังตกอยู่ในภาพลวงตาของ อาคาบาเนะ
จิไรยะ ดูมีความสุขกับผลลัพธ์นี้ เขารู้สึกเหมือนว่าเป็นตัวเขาเองที่สามารถเอาชนะ ริวยู
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าหมอนั่นบ้าไปแล้วถึงกับพึมพำอยู่คนเดียวหลังจากแพ้ อาคาบาเนะ”
“ขอบใจมากนะ อาคาบาเนะ นายคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”
อาคาบาเนะ ยิ้มแล้วถามว่า“นายดูมีความสุข? แล้วการต่อสู้ของนายจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่”
“ ใช่ ฉันมีความสุขมากและจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ฉันจะสู้ในนัดที่ 13”
จิไรยะ เพิ่งตอบเสร็จและพบว่า อาคาบาเนะ ซึนาเดะ และ โอโรจิมารุ ได้หายไปหมดแล้ว
“ เฮ้พวกนายไม่อยากดูฉันประลองเหรอ!”
อาคาบาเนะ อยากกลับไปนอน ส่วน ซึนาเดะ และ โอโรจิมารุ พวกเขารู้สึกเบื่อหน่าย
“ขอโทษนะเพื่อน ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว โชคดี!”
ทันใดนั้น โอโรจิมารุ ก็เดินเข้ามาหา อาคาบาเนะ และกระซิบว่า
“ นี่ก็เพื่อประโยชน์ของนายเองโปรดระวังตระกูลอุจิวะ”
อาคาบาเนะ รู้ว่าตระกูลอุจิวะขึ้นชื่อเรื่องคำสาปแห่งความเกลียดชัง และเป็นเวลานานแล้วที่ทั้ง 2 ตระกูลไม่ลงรอยกัน
ในเวลานี้ตระกูลอุจิวะยังขาดตัวตนที่แข็งแกร่งถ้าไม่อย่างงั้นแล้วคงสร้างความกดดันให้กับเจ้าหนูอย่างเขาเป็นอย่างมาก
โอโรจิมารุ รู้สึกกังวลหลังจากที่ อาคาบาเนะ เอาชนะ ริวยู
บางคนจากตระกูลอุจิวะอาจทำการแก้แค้นโดยการวางแผนบางอย่างที่ชั่วร้าย
“ไม่ต้องห่วง ฉันยังมีตระกูลของฉันคอยหนุนหลังอยู่ เราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำอะไรได้ง่ายๆ”
อาคาบาเนะ ตอบอย่างมั่นใจ
ปัจจุบันตระกูลคุรามะยังคงมีอิทธิพลต่อหมู่บ้านโคโนฮะและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยอมให้ตระกูลอื่นมาหาเรื่องง่ายๆ
สำหรับ โอโรจิมารุ เขาเป็นนักเรียนที่มีความสามารถพอ ๆ กับ อาคาบาเนะ ซึ่งถูกจับตามองโดยโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ดังนั้นตระกูลอุจิวะจะไม่ทำอะไรเขา
“นายจะกังวลไปทำไม? ฉันคิดว่าหลังจากนี้พวกอุจิวะคงจะไม่กล้าทำตัวเย่อหยิ่งอีกแล้ว”
แม้ว่า ซึนาเดะ จะพูดเช่นนั้นแต่สีหน้าของเธอก็ดูกังวลเล็กน้อย
ในขณะที่เธอรู้ว่าตระกูลเซนจูของเธอนั้นกำลังหายไปอย่างช้าๆด้วยการรวมเป็นหนึ่งเดียวกับหมู่บ้านโคโนฮะตามที่ โฮคาเงะ รุ่นที่ 1 คาดหวัง
เนื่องจากพวกเขาคำนึงถึงการพัฒนาหมู่บ้านโดยรวมมากกว่าตระกูลของตนเอง
แต่ตระกูลอุจิวะนั้นต่างออกไปพวกเขาคำนึงถึงตนเองมากกว่าส่วนรวม
อาจมีการปะทะกันภายในหมู่บ้านซึ่งรวมถึงความไม่พอใจของอุจิวะในอนาคต
…………………
กลับมาที่ห้องเรียน โอโรจิมารุ หยิบหนังสือที่เขาศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองออกมาดู อาคาบาเนะ ล้มตัวลงนอนและเตรียมพร้อมที่จะงีบหลับอีกครั้ง
แต่ในขณะที่เขากำลังจะหลับตา ซึนาเดะ จับคางของเขาไว้ด้วยมือของเธอและพูดใกล้ ๆ ใบหน้าของเขา “ อีกไม่กี่วันทุกคนที่นี่ก็จะจบการศึกษาและแยกกันไป นายไม่มีสิ่งที่ต้องทำนอกจากนอนหรือยังไง?”
อาคาบาเนะ ชะงักและพยายามเบือนสายตาออกไปจากเธอแต่ ซึนาเดะ ไม่ยอมเธอเอ่ยถามอย่างสงสัย
“มีอะไร?”
ซึนาเดะ อยากรู้อยากเห็นมากเธอไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเขาอยู่ใกล้กันเกินไป
“ ฉันอยากจะนอน ซึนาเดะ”
อาคาบาเนะ ขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับพูดขึ้น
“ฉันเพิ่งพูดไปหยกๆ นายอย่าเอาแต่นอน อาคาบาเนะ ฉันอยากให้นายวาดการ์ตูน ฉันอยากเห็นตอนต่อไปแล้ว!”
ด้วยคำพูดของเธอ อาคาบาเนะ และ โอโรจิมารุ ต่างก็เงียบ
“ โอเค โอเค วาดก็วาด”
อาคาบาเนะ ได้แต่ทำตามอย่างไม่เต็มใจและเริ่มเตรียมอุปกรณ์วาดรูป
เขาใช้โต๊ะเก่าจากโกดังมาเป็นฐานรองวาดรูปเนื่องจากกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีก
หาก ซึนาเดะ อารมณ์แปรปรวนแล้วมาพังโต๊ะอีกมันจะได้ไม่เสียดายของ
………..
อาคาบาเนะ ผสานอินอย่างรวดเร็ว“คาถาแยกเงาพันร่าง!”
“ช่วยฉันวาดการ์ตูน...”
โอโรจิมารุ และ ซึนาเดะ ต่างก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน
“ใช้คาถาแยกเงาพันร่าง?”
จากนั้นพวกเขาก็เห็นร่างแยกของ อาคาบาเนะ เริ่มวาดการ์ตูน
“ยอดเยี่ยม…ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่านายจะใช้ร่างแยกทำแบบนี้ด้วย”
ซึนาเดะ อดไม่ได้ที่จะชื่นชม
โอโรจิมารุ ก็อึ้งเช่นกัน คาถาแยกเงาพันร่าง เป็นวิชานินจาระดับ B แม้แต่ตัวเขาเองในตอนนี้ก็ไม่สามารถใช้มันได้
วิชานินจานี้ถูกสร้างขึ้นโดย โฮคาเงะ รุ่นที่ 2 ซึนาเดะ ในฐานะที่เป็นลูกหลานของเขา เธอจึงเคยเห็นวิชานี้มาบ้าง
จุดประสงค์เดิมของวิชานี้คือการสอดแนมและการลาดตระเวน แต่ไม่เคยมีใครใช้มันวาดภาพมาก่อน
นอกจากนี้เธอสังเกตุเห็นว่าร่างแยกกำลังวาดการ์ตูนอย่างรวดเร็ว
“ นี่แสดงให้เห็นว่า… อาคาบาเนะ เป็นคนขี้เกียจ!”
ซึนาเดะ รู้สึกหงุดหงิด แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ภาพตัวละคร ฉากต่างๆถูกวาดอย่างง่ายดาย ในตอนแรกเธอไม่คุ้นเคยกับวิธีการใช้ร่างแยกวาดภาพเช่นนี้ แต่หลังจากนั้นเธอก็คุ้นเคยกับมัน
ใช้เวลาไม่นานการ์ตูนก็ถูกทยอยวาดเสร็จไปทีละหน้า
ในขณะที่อ่านการ์ตูนที่วาดเสร็จแล้วอย่างมีความสุข ซึนาเดะ ก็กล่าวว่า
“อาคาบาเนะ นายเป็นคนที่ไม่เหมือนใครในการสร้างวิธีใช้คาถา และยังวาดรูปได้อย่างสวยงาม นี่ถือว่าเป็นสเน่ห์ของนาย”
อาคาบาเนะ ที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะได้หลับตาลง
"ขอบใจ. นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รับคำชมจากเธอ”
แม้แต่ โอโรจิมารุ ที่มีไอคิวสูงกว่าคนอื่น ๆ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะอ่านการ์ตูนของ อาคาบาเนะ และเอ่ยชื่นชมเล็กน้อย
แต่บุคลิกของเขาค่อนข้างเย็นชา
เขาไม่ค่อยพูดคุยกับคนอื่นและใช้เวลาส่วนใหญ่ในการอ่านหนังสือ
อาคาบาเนะ เองก็ไม่ได้พูดอะไรกับ โอโรจิมารุ มากนัก
แต่ทันใดนั้น อาคาบาเนะ ก็นึกถึงชีวิตเก่า ๆ ในโลกที่เขาจากมา
“ เพื่อนร่วมชั้นในชีวิตก่อนหน้าของฉันคงจะอิจฉาฉันแน่ถ้าพวกเขารู้ว่าภาพวาดของฉันได้รับคำชมจาก ซึนาเดะ และ โอโรจิมารุ” อาคาบาเนะ พึมพำอยู่ในใจ
ซึนาเดะ เฝ้าดูร่างแยกของ อาคาบาเนะ วาดการ์ตูนอย่างใกล้ชิด
ร่างแยกของเขามีฝีมือในการวาดรูปเช่นเดียวกับที่ อาคาบาเนะ มี
อย่างไรก็ตาม หลังจากวาดไป 2-3 หน้า ก็มีเสียงดังขึ้นที่ทางเข้าของห้องเรียน
อาคาบาเนะ ตื่นขึ้นมาและคลายคาถาแยกเงาพันร่างของเขา เขาไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นเห็นว่าเขาใช้ร่างแยกเงาวาดการ์ตูน
“ น่าจะเป็น ชิกาโตะ เขาคงจะกลับมางีบหลับด้วยเพราะเขาขี้เกียจเหมือน อาคาบาเนะ ไม่มีผิด”
ทันใดนั้น ชิกาโตะ ซาคุโมะ และ โจกิ ที่เพิ่งเดินเข้าห้องมาก็ได้ยินคำพูดของ ซึนาเดะ
ชิกาโตะ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอายใจขึ้นมาเล็กน้อย
ตระกูลนาราเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ตระกูลของหมู่บ้านโคโนฮะ พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการจัดการเงา
ชิกาโตะ ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีความสามารถในหมู่เพื่อนของเขาและเขาหวังว่าจะได้ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลในอนาคต แต่เขาก็ยอมแพ้อย่างช้าๆเพราะเขาขี้เกียจเกินไป….
“ ชิกาโตะ ฉันจำได้ว่าตระกูลของนายมีร้านเล็ก ๆ ในโคโนฮะใช่ไหม?”
อาคาบาเนะ จัดเรียงหน้ากระดาษที่เพิ่งทำเสร็จและทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่ามีร้านเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากตระกูลของเขา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นของตระกูลนารา
ชิกาโตะ นั่งครุ่นคิดแล้วถามว่า“ ร้านเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ๆตระกูลของนายนั่นนะเหรอ?”
“ ใช่”
อาคาบาเนะ มีความคิดที่จะเปิดร้านขายการ์ตูนของเขาด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับแต้มมากขึ้นและได้เงินจากการขายการ์ตูนนี่ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว!
ขายการ์ตูนให้กับคนทั้งหมู่บ้านโคโนฮะลองคิดดูสิว่าเขาจะได้แต้มเท่าไหร่!
“ อ่า ร้านนั้นเคยเป็นร้านขายยา แต่ตอนนี้ถูกปล่อยทิ้งไว้”
ชิกาโตะ พูดขึ้นพร้อมกับหอบเหนื่อย
เขาเพิ่งต่อสู้อย่างหนักกับ โจกิ แห่งตระกูลอาคิมิจิ ที่มีความสามารถในการขยายร่าง และมันก็เป็นการประลองที่ยาวนาน
“ อืม…นายจะขายให้ฉันได้ไหม”
ชิกาโตะ ลังเลครู่หนึ่งและตอบอย่างระมัดระวัง
“ เอ่อ...แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นของฉัน แต่ฉันก็สามารถช่วยนายพูดกับตระกูลของฉันได้”