ตอนที่ 40 ทางออก
“วันนี้จะต้องจบตอนที่ 10!”
เมื่อกลับมาที่บ้าน อาคาบาเนะ ก็เรียกร่างแยกเงาของเขาและตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง จากนั้นเขาก็นอนลงและพักผ่อนโดยไม่สนใจสายตาที่กำลังโกรธของร่างแยกเงา
นี่เป็นครั้งแรกในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาที่เขาสัมผัสกับเตียงจริง วันนั้นเขาเหนื่อยเกินไปและผล็อยหลับในบ้านบนภูเขาที่พวกเขาโจมตี แม้ว่ามันจะเลอะเทอะไปด้วยเลือดก็ตามที
“เฮ้!! เป้าหมายของนายมันมากเกินไปสำหรับฉัน ฉันไม่สามารถวาดจบตอนได้ด้วยตัวคนเดียว!”
ร่างแยกเงาของเขาตะโกนขึ้น
“มั่นใจได้ ฉันจะเรียกอีกร่างในภายหลัง ตอนนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ถ้าฉันหมดสติไปตอนนี้ นายก็จะหายไปด้วย”
อาคาบาเนะ ดูเหนื่อย แต่เขาเหนื่อยจริงงั้นเหรอ?
เขาไม่ได้ทำอะไรเลยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา อย่างมากที่สุดก็แค่วิ่งกลับไปกลับมาก็เท่านั้นเอง
สรุปคือเขาแค่ขี้เกียจ!
อย่างที่บอกตนเองรู้จักตนเองดีที่สุด ร่างแยกเงาก็อดไม่ได้ที่จะแอบบ่น
การวาดการ์ตูนคืบหน้าไปอย่างช้าๆ แต่ภาระงานสำหรับร่างแยกเงาอย่างเขามีมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม อาคาบาเนะ ไม่ได้ซาดิสม์เหมือน ครูดันโซ ของเขา และหลังจากพักสักครู่ เขาก็เรียกร่างแยกเงาร่างที่ 2 ออกมาช่วยเขา
“ฉันควรไปเยี่ยม คุณย่ามิโตะ ดีไหมนะ?”
“ลืมมันไปเถอะ 2-3 วันมานี้ก็เหนื่อยเกินไปและควรวาดการ์ตูนให้เสร็จก่อน ยังไงก็ตามเรื่องในแคว้นน้ำวนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน...”
ระหว่างทางกลับมาหมู่บ้าน อาคาบาเนะ ยังคงคิดที่จะไปหา มิโตะ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในแคว้นน้ำวน....
แต่ทันทีที่หัวของเขาวางลงบนหมอน เขาก็ลืมเรื่องอื่นๆ ไปในทันที
และเขาก็ขี้เกียจออกไปข้างนอก
………………………
ที่บ้านของตระกูลเซ็นจู คาซามะ มาที่นี่หลังจากที่เขาพูดกับ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 และในมือของเขาก็มีเหรียญตราสัญลักษณ์กองคาราวานของตระกูลเซ็นจูและตระกูลอุซึมากิอยู่ด้วย
“ขอโทษนะ โปรดช่วยส่งเหรียญตรานี้ไปให้ ท่านหญิงมิโตะ บอกท่านว่า คาซามะ จากหมู่บ้านน้ำวนมาขอพบท่านหญิง”
คาซามะ มอบเหรียญตราให้ยามที่หน้าบ้านด้วยความเคารพและจริงใจ
“คุณมาที่นี่เพื่อพบกับ ท่านมิโตะ?”
"โปรดรอสักครู่…"
ยามเหลือบมองเขาด้วยความประหลาดใจ เขาจำตัวตนของ คาซามะ ได้ หลังจากนั้นก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเหรียญตรา
ผ่านไปไม่กี่วินาที ยามก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
“ท่านมิโตะ กำลังพักผ่อนอยู่ ท่านบอกให้คุณรอก่อนเมื่อถึงเวลาท่านจะเรียกตัวคุณเข้าไปพบเอง”
เขาพูดเบาๆ
"โอ้ ขอบคุณ."
คาซามะ เต็มไปด้วยความเคารพ เขาไม่กล้าสร้างปัญหา”
มิโตะ เป็นเจ้าหญิงแห่งหมู่บ้านน้ำวน และเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม…
ในฐานะร่างสถิตสัตว์หาง เธอถูกกำหนดให้อยู่ในโคโนฮะเท่านั้น เมื่อเธอก้าวออกจากโคโนฮะ มันจะมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย
เพราะเธอมีจักระที่น่าสะพรึงกลัวและเป็นที่ต้องการครอบครองของใครบางคน
ในลานบ้าน มิโตะ นั่งเงียบๆ อยู่กับ ซึนาเดะ
“เจ้าหนูนั่นกลับมาจากภารกิจแล้ว แต่กลับไม่มาเยี่ยมฉัน?”
มิโตะ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เจ้าตัวขี้เกียจนั่นกลับบ้านทันทีหลังจากกลับมา เขาบ่นเหนื่อยเหมือนอย่างเคย และเร็วๆนี้เขาคงจะไม่ออกจากบ้าน”
ซึนาเดะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเธอไม่คิดว่า อาคาบาเนะ จะมาที่นี่หลังจากจบภารกิจ
“โอ้ อย่างนั้นเหรอ”
มิโตะ หัวเราะเยาะ แล้วเธอก็มองด้วยความสงสัย “ถ้าเขาขี้เกียจแล้วคราวที่แล้วทำไมเด็กคนนั้นถึงมาที่นี่ตั้งแต่เช้า!”
“คุณย่า เรื่องนี้หนูเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
ซึนาเดะ ส่ายหน้า เธอยังตกใจในวันนั้น ไม่ค่อยเห็น อาคาบาเนะ ตื่นเช้าในวันหยุดมาก่อน
“อ๊าาา หยุดพูดจาไม่ดีใส่เขาสักทีเถอะ ทุกวันนี้การ์ตูนของเขาสร้างความบันเทิงให้ย่ามากกว่าสิ่งใดๆเลยรู้ไหม”
“อ่อ..จริงสิ หลานรักของย่า ถ้าเล่มถัดไปของเขาออกวางขายเมื่อไหร่อย่าลืมซื้อมาให้ย่า ย่าอยากอ่านจนใจแทบขาดอยู่แล้ว”
มิโตะ ยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ว่าแต่ใครมาเยี่ยมฉันในเวลานี้...แต่ก็ช่างเถอะ”
ก่อนหน้านี้เธอได้รับเหรียญตราสัญลักษณ์กองคาราวานที่รับผิดชอบการทำธุรกรรมระหว่างโคโนฮะและหมู่บ้านน้ำวนของตระกูลอุซึมากิ
มิโตะ เอนหลังพิงเก้าอี้ หลับตาและครุ่นคิด
เธอครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งและทันใดนั้นก็จำบางอย่างได้
“หลานรักของย่าช่วยเอาการ์ตูนเล่มนั้นมาให้ย่าที”
ซึนาเดะ รู้สึกสับสนเมื่อได้ยิน ย่าของเธออ่านมันมา 3 รอบแล้ว แต่ทำไมย่าของเธอยังต้องอ่านอีก?
แต่นี่เป็นคำขอจากคุณย่าสุดที่รักของเธอ เธอตอบทันทีแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบหนังสือการ์ตูนออกมา
หลังจากได้รับแล้ว มิโตะ ก็เปิดหน้าแรก
“ปีศาจจิ้งจอก 9 หาง อุซึมากิ นารุโตะ อืม!…ลูกหลานของตระกูลอุซึมากิไม่เข้าใจวิชาผนึกของตระกูล…”
มิโตะ เปิดหน้าแรกด้วยเสียงหัวเราะ แต่ท่าทางของเธอก็เคร่งขรึมมากขึ้น
ถ้านี่เป็นเรื่องจริง…
“ซึนาเดะ เชิญแขกคนนั้นเข้ามาที่นี่”
เธอปิดการ์ตูนและนั่งตัวตรงพลางครุ่นคิด
หากเป็นเช่นนั้นจริง ไม่เพียงแต่ตระกูลอุซึมากิเท่านั้น แต่ทั้งแคว้นน้ำวนจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ไม่นาน ซึนาเดะ ก็พา คาซามะ เข้ามาที่ลานบ้าน
เมื่อเห็น มิโตะ คาซามะ ก็ตกใจในตอนแรก ตามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็รู้สึกว่าตนเองเสียมารยาทเขาจึงคุกเข่าและกล่าวขออภัย “ผมต้องขออภัยต่อ ท่านมิโตะ การที่ได้เห็นท่านผมอดที่จะตกตะลึงไม่ได้ ผมไม่คิดเลยว่าเจ้าหญิงแห่งตระกูลอุซึมากิจะสวยงามมากเช่นนี้”
"ไม่เป็นไร. ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงอีกต่อไปแล้ว”
มิโตะ พูดเบา ๆ "ลุกขึ้นก่อนแล้วนั่งลง"
“ขอบคุณครับ ท่านมิโตะ”
คาซามะ พบว่ารูปร่างหน้าตาของ มิโตะ ไม่ได้แก่เลย และเขาก็ไม่กล้าที่จะหยาบคาย
“คุณคือหัวหน้ากองคาราวานจากหมู่บ้านน้ำวนและโคโนฮะเหรอ?”
มิโตะ ถือเหรียญตราในมือของเธอและเอ่ยถาม
“ใช่ครับ เรามีหน้าที่แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างหมู่บ้านน้ำวนกับโคโนฮะ”
คาซามะ เอ่ยอธิบาย
“แล้วอะไรดลใจให้คุณมาหาฉัน”
มิโตะ วางเหรียญตราลง
หากเป็นเพียงแค่ธุรกิจธรรมดา สัญลักษณ์ของตระกูลเซ็นจูและอุซึมากิ ก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขาที่จะตั้งรกรากในโคโนฮะชั่วคราว และไม่จำเป็นต้องตามหาเธอ
“ครั้งนี้ ผมอยากขอให้ท่านช่วยแคว้นน้ำวน”
คาซามะ อธิบายความตั้งใจของเขาโดยตรงและคุกเข่าลงกับพื้นอีกครั้ง
“โอ้?”
มิโตะ หรี่ตาลง
“ตอนนี้แคว้นน้ำวน อยู่ในความโกลาหลเพราะพวกนินจาจากแคว้นอื่น บางคนเป็นนินจาถูกส่งมาจากแคว้นศัตรูโดยเจตนา ในขณะที่บางคนรู้ว่าแคว้นน้ำวนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่วุ่นวายก็จงใจสร้างสถานการณ์ให้โกลาหลขึ้น”
“ถึงแม้ว่านินจาแห่งหมู่บ้านน้ำวนจะถูกส่งออกมาแล้ว แต่ด้วยจำนวนที่มากมายก็ไม่มีทางกำจัดพวกมันได้ทั้งหมด”
“ก่อนหน้านี้มีจูนิน 3 คนคอยปกป้องเรา แต่พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าตายระหว่างทางมาที่นี่”
คาซามะ ร้องไห้ออกมา การถูกนินจาตามล่าทำให้เขาบอบช้ำมาจนถึงตอนนี้
มิโตะ จ้องมอง คาซามะ ที่สั่นเทาและดูน่าสงสาร
“แต่ฉันจำได้ว่าคาราวานควรได้รับการปกป้องโดย โจนิน?”
มิโตะ เผยสีหน้างุนงง
“ใช่ครับ แต่โจนินแยกตัวออกจากกองคาราวานของเราเพื่อขัดขวางพวกนินจาที่ทำการไล่ล่า”
คาซามะ อธิบาย
พูดตามตรงเขาไม่คิดว่าโจนินจะขัดขวางพวกมันเอาไว้ได้นาน ท้ายที่สุดคู่ต่อสู้ก็มีกลุ่มจูนิน 5 คนที่ถูกนำโดยโจนิน
ไม่ว่าจะมองอย่างไร การโจมตีของพวกมันได้ถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี
มิโตะ ถือหนังสือการ์ตูนพลิกหน้าไปมา
หลังจากผ่านไปนาน เธอนั่งตัวตรงและพูดว่า: “ตระกูลเซ็นจู ไม่มีอำนาจในโคโนฮะ ฉันเกรงว่าจะไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อีก”
คาซามะ รู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขานั่งอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
“แต่คุณสามารถนำการ์ตูนเรื่องนี้ไปพบหัวหน้าตระกูลอุซึมากิ เมื่อเขาเห็นหนังสือนี้เขาอาจจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังจะสื่อถึง”
“คำแนะนำอีกอย่างหนึ่ง คุณควรขอความคุ้มครองจากที่นี่ไปจะดีกว่า มิฉะนั้น ฉันเกรงว่าคุณอาจจะไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านน้ำวนในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่”
มิโตะ พูดอย่างตรงไปตรงมา
คาซามะ จะออกจากโคโนฮะในไม่ช้า ข้อมูลนี้อาจรั่วไหลไปยังศัตรูแล้ว และเขาอาจพบพวกมันทันทีที่เขาก้าวเท้าออกจากประตูหมู่บ้านโคโนฮะ
คาซามะ ชะงักไปครู่หนึ่งจากนั้นก็รับหนังสือการ์ตูนมาแล้วพลิกไปที่หน้าแรกของหนังสือ
เดิมที คาซามะ คิดว่านี่อาจจะเป็นหนังสือสงครามเชิงกลยุทธ์ แต่เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นเพียงหนังสือที่ถูกวาดขึ้นเป็นรูปภาพซึ่งรูปแบบทั้งหมดเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนเป็นการบอกเล่าเรื่องราว
แต่… มิโตะ มอบสิ่งนี้ให้เขามันหมายความว่าอย่างไร?
เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มันเป็นเหมือนนิยายแต่มีรูปภาพประกอบ ดังนั้นเขาจึงอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขานำหนังสือเล่มนี้ไปมอบให้หัวหน้าตระกูลอุซึมากิได้สำเร็จ
“ถ้าไม่มีอะไรที่คุณอยากจะพูดอีก เชิญคุณออกไปได้แล้ว นั่นคือทั้งหมดที่ฉันสามารถช่วยได้”
มิโตะ พูดอย่างหมดหนทาง
โดยปกติแล้วไม่ใช่ว่าตระกูลเซ็นจูจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่เรื่องนี้มันจะบานปลายเพราะมันเกี่ยวข้องกับสัตว์หาง จะต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ
ผู้คนที่ต้องการให้ ตระกูลอุซึมากิ ถูกทำลายไม่ได้มีเพียงหมู่บ้านหรือบางแคว้นเท่านั้น แต่เป็นทุกแคว้นและหมู่บ้านนินจาที่มีสัตว์หาง
หนึ่งตระกูลและหนึ่งหมู่บ้านจะเป็นศัตรูของโลกได้อย่างไร?
“ขอบคุณ ท่านมิโตะ ”
คาซามะ จากไปพร้อมกับถอนหายใจและค่อยๆ ถอยห่างออกไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่เขาก็ไม่ได้กลับไปมือเปล่า
“ถ้าตอนนี้คุณยังมีชีวิตอยู่ คุณจะทำอย่างไร ฮาชิรามะ...”
มิโตะ ถอนหายใจอย่างเศร้าๆ หาก ฮาชิรามะ ยังมีชีวิตอยู่จะมีหมู่บ้านนินจาแห่งใดในโลกที่จะกล้าสร้างความวุ่นวาย?
แต่...เขาตายไปแล้ว