ตอนที่ 41 ภารกิจร่วม
“อะไรนะ! นี่ฉันต้องออกไปทำภารกิจที่แคว้นน้ำวนอีกแล้วเหรอ? ฉันเพิ่งจะพักผ่อนได้แค่วันเดียวเอง!”
“อาคาบาเนะ นี่เป็นวันหยุดวันที่ 3 ของเราแล้วนะ”
มุราซากิ รู้สึกปวดขมับกับความเกียจคร้านของเพื่อนเขาจริงๆ
ซาคุโมะ ยืนอยู่ข้าง มุราซากิ พร้อมกับมอง อาคาบาเนะ อย่างเหนื่อยหน่ายกับนิสัยที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงของเขา
อาคาบาเนะ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบสติอารมณ์แล้วพูดว่า “มีข่าวดีอะไรมากกว่านี้อีกไหม?”
"โอ้ใช่! ฉันเห็นหัวหน้ากองคาราวานที่เราช่วยชีวิตเอาไว้เมื่อวันก่อนซื้อหนังสือการ์ตูนของนายไปหลายเล่ม!”
มุราซากิ บอก “ข่าวดี” อย่างตรงไปตรงมา
“คุณคาซามะ? ทำไมเขาถึงซื้อไปมากขนาดนั้น ฉันล่ะสงสัยจริงๆ”
อาคาบาเนะ รู้สึกงงงวย เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าการ์ตูนของเขาจะถูกส่งไปหมู่บ้านอื่นในเวลาที่รวดเร็วเช่นนี้
“ยังไงก็ตาม ยังมีอีกข่าว”
ซาคุโมะ ขัดจังหวะและพูดว่า “คราวนี้เราจะไปทำภารกิจร่วมกับทีม 6”
"ทีม 6 ?"
อาคาบาเนะ มอง ซาคุโมะ ด้วยความสงสัย
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา ซาคุโมะ ก็พูดว่า “ใช่ทีม 6 ทีมของ ซึนาเดะ.. พวกนาย 2 คนเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ นี่นายไม่รู้?”
“โอ้ย ตาย! ฉันควรจะรู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นเธอใช่มั้ย!?”
น้ำเสียงประชดประชันของ อาคาบาเนะ ทำให้เพื่อนร่วมทีมของเขาพูดไม่ออก
นี่พวกเขาคิดว่าฉันสนิทกับ ซึนาเดะ มากแค่ไหนกัน?
และทันใดนั้นจู่ๆก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง
"ภารกิจนี้จะไม่มีฉันเข้าร่วม นั่นเป็นข่าวดีสำหรับเธอด้วยหรือเปล่า?”
ดันโซ!?
อาคาบาเนะ สะดุ้งเล็กน้อย และทั้ง 3 ก็หันศีรษะกลับไปมองพร้อมกันและเห็นว่าเป็น ดันโซ ที่ปรากฏตัวขึ้น
“ครูดันโซ ครูจะไม่ไปหมู่บ้านน้ำวนกับเราหรือ?”
มุราซากิ รู้สึกประหลาดใจ
“โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ตัดสินใจที่จะรวมทีมของเราและเขาจะเป็นผู้นำภารกิจของพวกเธอในวันนี้ ส่วนฉันในฐานะหัวหน้าหน่วยลับจะอยู่ที่โคโนฮะ”
หลังจากพูดจบ ดันโซ ก็หายตัวไป
“โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 จะเป็นผู้นำทีมในครั้งนี้!?”
ซาคุโมะ อดไม่ได้ที่จะพึมพำ
โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 นำทีมไปที่หมู่บ้านน้ำวนเป็นการส่วนตัว?
“แต่ทำไมถึงลากพวกเราไปด้วย…?”
อาคาบาเนะ คิดว่ามันไม่ถูกต้อง หากมี ฮิรุเซ็น เป็นผู้นำทีมแค่ทีม 6 ทีมเดียวก็เกินพอแล้ว
“เอาน่า เราจะเข้าใจรายละเอียดหลังจากพบ ครูฮิรุเซ็น”
…………………..
มุราซากิ ดึง อาคาบาเนะ ที่ไม่เต็มใจจะจากบ้านไปที่ประตูหมู่บ้านโคโนฮะ
ภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ อาคาบาเนะ มาที่ประตูนี้เป็นครั้งที่ 2
พวกเขาได้รับการต้อนรับจาก ซึนาเดะ โอโรจิมารุ และ จิไรยะ ที่รอพวกเขาอยู่ที่นั่น และเมื่อ อาคาบาเนะ และคนอื่นๆ มาถึง ฮิรุเซ็น ก็มาพร้อมกับ คาซามะ หัวหน้ากองคาราวาน
กองคาราวานที่เหลือตามหลังพวกเขา
“เธอคือ คุรามะ อาคาบาเนะ?”
“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ในวันก่อน.. ..”
คาซามะ ชำเลืองมองด้วยสายตา จากคำพูดของ ฮิรุเซ็น ในบรรดาเด็กเหล่านี้ อาคาบาเนะ ไม่เต็มใจที่จะไปมากที่สุด
“นี่ลุง ผมช่วยชีวิตลุง แต่ลุงตอบแทนผมด้วยการลากผมไปแคว้นน้ำวนด้วยเนี่ยนะ?”
อาคาบาเนะ พูดอย่างไม่พอใจ
คาซามะ ได้แต่เกาหัวอย่างเก้ๆกังๆไม่รู้จะตอบอย่างไร
“อาคาบาเนะ นี่เป็นคำสั่งของฉันเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา”
ฮิรุเซ็น พูดเบาๆ ขณะสูบไปป์
“เอ่อ...ครูฮิรุเซ็น ผมเพิ่งจะกลับมาเอง…”
“คุณคาซามะ ซื้อหนังสือการ์ตูนของเธอไปส่งที่หมู่บ้านน้ำวน อย่างน้อยเธอในฐานะผู้เขียนก็ควรจะขอบคุณเขาโดยไม่บ่นอะไรเกี่ยวกับภารกิจนี้”
โดยไม่รอให้ อาคาบาเนะ บ่นให้จบ ฮิรุเซ็น ก็ขัดจังหวะโดยตรง เขาไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป
“ก็ได้ ตกลง.. แต่ด้วยสภาพร่างกายของผม ผมเดินทางจากที่นี่ไปยังหมู่บ้านน้ำวนนานๆไม่ได้ ดังนั้นผมขอนั่งบนรถม้า”
อาคาบาเนะ ยื่นข้อเสนอ
“ได้!”
เนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอของตระกูลคุรามะ คำขอของเขาจึงเป็นที่ยอมรับสำหรับ ฮิรุเซ็น และดูเหมือนจะไม่มีใครไม่เห็นด้วย กับคำขอนี้ยกเว้น จิไรยะ ที่ดูอิจฉา
อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เต็มใจทำภารกิจ ฮิรุเซ็น ยังต้องการเขาอยู่ในทีม
โชคดีที่ คาซามะ ได้เสริมรถม้าที่ไม่ได้ใช้งาน ซึ่งเตรียมไว้ให้ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 เอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
เมื่อตกลงกันได้แล้ว กลุ่มคาราวานที่คุ้มกันโดยทีม 6 และ 7 ก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านน้ำวนของตระกูลอุซึมากิ
…………………….
ขณะอยู่บนรถม้า อาคาบาเนะ เรียกร่างแยกเงาของเขาออกมาวาดการ์ตูนต่อ ในขณะที่เขานั่งอยู่บนที่นั่งอย่างสงบและมองลงไปที่เพื่อนร่วมเดินทางของเขา
"วิ่งเร็วขึ้น นี่คือการออกกำลังกายและการฝึกฝน!"
"ทำไมฉันถึงต้องมาฝึกอะไรแบบนี้ด้วย แต่ อาคาบาเนะ กลับนั่งสบายๆอยู่บนรถม้า? ฉันก็อยากเป็นนักเขียนการ์ตูนบ้าง นี่มันไม่ยุติธรรม!"
เสียงคำรามของ จิไรยะ ก้องกังวาลอยู่ในป่า
“เจ้าบ้า ความแข็งแกร่งของ อาคาบาเนะ คืออะไร แล้วความแข็งแกร่งของเธอคืออะไร? ถ้าเธอไม่ตั้งใจฝึกรับรองได้เลยว่า ได้ตายห่าก่อนที่เราจะไปถึงแคว้นน้ำวนแน่”
ฮิรุเซ็น พูดออกมาด้วยความโมโห
“อ๊ากก…ครู ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดให้ร่างแยกเงาหยุดก่อน ฝึกแล้ว ผมยอมฝึกแล้ว อ๊ากกก…”
จิไรยะ ร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากถูกร่างแยกเงาของ ฮิรุเซ็น ทำโทษ
จะว่าไปก็ไม่รู้ว่า จิไรยะ ได้เรียนรู้การวาดภาพไปไกลแค่ไหน…
เมื่อได้ยินเสียงคร่ำครวญของ จิไรยะ อาคาบาเนะ ก็อดสงสัยไม่ได้เกี่ยวกับความก้าวหน้าของเขา
แน่นอน…
ในเวลานี้ จิไรยะ ยังเป็นเด็กอายุ 9 ขวบ ที่ไม่มีอะไรพิเศษและยังอ่อนแอกว่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ เขาจำเป็นต้องฝึกฝนให้หนักกว่าคนอื่น ดังนั้นเขาไม่ควรมาเสียเวลากับการวาดภาพที่มีฝีมืออยู่ในระดับปานกลางของเขา
กลุ่มคาราวานกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ทำให้ อาคาบาเนะ สามารถวาดภาพพร้อมกับชมทิวทัศน์ไปด้วยได้
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพวกเขามาถึงชายแดน อาคาบาเนะ ก็วาดตอนที่ 11 เสร็จแล้ว
และสิ่งที่ได้เพิ่มเข้ามาในระบบ!
ในตอนที่ 11 มีสิ่งแลกเปลี่ยนใหม่เพิ่มเข้ามาซึ่งทรงพลังมากมันถูกเรียกว่า ร่างกึ่งอมตะ
ร่างกึ่งอมตะ : ความแข็งแกร่งที่สืบทอดมาจากสายเลือดของตระกูลอุซึมากิ ที่มีความสามารถหลากหลาย ซึ่งต้องใช้ 4,000 แต้ม ในการแลกเปลี่ยน
ใช่ 4,000 แต้ม!
นี่คือรายการแลกเปลี่ยนที่ใช้แต้มมากที่สุดของเขาในตอนนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเมื่อเทียบกับความพิเศษที่ได้รับ
แต่ที่ทำให้เขาแปลกใจคือ ร่างกึ่งอมตะ ถูกแบ่งเป็นรายการย่อย
- พลังชีวิต 1,000 แต้ม
- จักระ 1,000 แต้ม
- การรับรู้ 1,000 แต้ม
- พลังฟื้นฟู 1,000 แต้ม
รวมทั้งหมด 4,000 แต้ม และทั้งหมดนี้สามารถเลือกเพิ่มแต้มรายการไหนก็ได้และสามารถเพิ่มแต้มแบบผ่อนชำระได้
ตระกูลอุซึมากิ เป็นที่รู้จักกันดีว่าสายเลือดของพวกเขามีคุณสมบัติ 4 ประการ ได้แก่ พลังชีวิต จักระ การรับรู้ และพลังฟื้นฟู
ในตอนที่ 11 นารูโตะ ได้รับพิษที่มือของเขาเพื่อกำจัดพิษนั้นเขาแทงมีดคุไนไปที่มือ หลังจากนั้นไม่นานมือของเขาก็ฟื้นฟูอย่างน่าอัศจรรย์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าร่างกายของเขาเป็นศูนย์รวมพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง
ร่างกึ่งอมตะ นี้มีความสำคัญสำหรับ อาคาบาเนะ ซึ่งจะเป็นหลักประกันที่สำคัญต่อการอยู่รอดของเขา
อย่างไรก็ตาม…
แม้ว่าจะสามารถเพิ่มแต้มแบบผ่อนชำระได้ แต่เขาก็ได้รับแต้มช้าลงมากในทุกวันนี้ และสามารถรอจนกว่าจะออกเล่มที่ 2 เท่านั้น
เล่มที่ 2 ได้ถูกส่งไปยังโรงพิมพ์แล้ว และตระกูลคุรามะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการจัดจำหน่ายในภายหลัง
เมื่อพร้อมจะปล่อยก็จะมีแต้มเพียงพอให้เขาแลกได้
แต่ปัญหาก็คือ ในตอนที่ 12 จะมีวิชานินจาที่มีประโยชน์อีกมากมาย เขากังวลว่าแต้มในตอนนั้นอาจจะไม่เพียงพอ
“ฉันหวังว่าการนำการ์ตูนของฉันไปที่หมู่บ้านน้ำวน จะช่วยเพิ่มแต้มได้มากกว่านี้… ไม่เช่นนั้น ฉันเกรงว่าฉันจะต้องทำงานล่วงเวลา และรอปล่อยเล่มที่ 3 ออกไป”
อาคาบาเนะ ถอนหายใจเบา ๆ รู้สึกหมดหนทางอย่างมาก
คิดแบบนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลยที่เขารับภารกิจนี้ ถึงแม้ว่า คาซามะ จะมีความรู้เรื่องการ์ตูนน้อยเกินไป แต่อย่างน้อยเขาก็มีความรู้ด้านการตลาด
สุดท้าย อาคาบาเนะ หวังว่าเมื่อถึงเวลา โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 จะไม่ใช้งานเขาหนักเกินไปในแคว้นน้ำวน