px

เรื่อง : ระบบการ์ตูนในโลกนารูโตะ
ตอนที่ 45 อนาคตของตระกูลอุซึมากิ


ตอนที่ 45 อนาคตของตระกูลอุซึมากิ



“นี่คือหมู่บ้านน้ำวนอย่างงั้นเหรอ?”

 

“ว้าว ดูนั่นสิ! หัวของพวกเขาทั้งหมดเป็นสีแดง!”

 

“เลิกทำตัวงี่เง่าได้แล้ว ตระกูลอุซึมากิล้วนแต่มีเส้นผมสีแดง”

 

ด้วยความที่เป็นคนปากพล่อย จิไรยะ จึงถูกหมัดของ ซึนาเดะ เข้าที่ท้อง

 

อาคาบาเนะ ก็ตกใจเล็กน้อยเช่นกัน เขาไม่เคยเห็นผู้คนที่มีผมแดงมากขนาดนี้มาก่อน

 

หลังจากสังเกตุสภาพแวดล้อมโดยรอบตัวเขาแล้ว เขาพบว่ากองคาราวานไม่ได้เข้ามาในหมู่บ้านพร้อมกับพวกเขา แต่เดินไปทางอื่นแทน

 

“ฉันไม่เคยเห็นสมาชิกของตระกูลอุซึมากิมากขนาดนี้.…”

 

ทั้งหมู่บ้านเต็มไปด้วยสมาชิกของตระกูลอุซึมากิ และมีคนของตระกูลอื่นเพียงเล็กน้อย

 

“ยินดีต้อนรับสู่ หมู่บ้านน้ำวน แขกผู้มีเกียรติของฉัน ฉันจะพาพวกคุณไปพบหัวหน้าหมู่บ้านเดี๋ยวนี้”

 

คาซามะ แนะนำหมู่บ้านด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อนำทาง

 

นี่คือหมู่บ้านน้ำวน

 

“ถ้าไม่มีตระกูลเซนจู ชะตากรรมของโคโนฮะก็ไม่ต่างจากหมู่บ้านนี้”

 

ฮิรุเซ็น ถอนหายใจ

 

แม้ว่าจะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่ชื่อของตระกูลเซนจู ก็เคยน่ากลัวมาก่อน ดังนั้นชื่อนั้นเพียงชื่อเดียว ทั่วทั้งโคโนฮะ จึงได้รับการปกป้องและบุคคลภายนอกไม่กล้าสร้างปัญหา

 

“ผมคิดว่ามันเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างโฮคาเงะรุ่นแรกกับตระกูลอุจิวะต่างหากที่ปกป้องเรา”

 

อาคาบาเนะ ได้พูดแย้งขึ้น

 

“อ่า เธออาจพูดถูก”

 

ฮิรุเซ็น พยักหน้า

 

ตระกูลเซ็นจู ตระกูลอุจิวะ และตระกูลอื่นๆร่วมมือกันสร้างสถานการณ์ที่มั่นคงให้กับโคโนฮะหลังสงคราม

 

“เวลาสร้างวีรบุรุษ”

 

โอโรจิมารุ ครุ่นคิด

 

“ถ้าต้องการความสงบ ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม”

 

ซึนาเดะ พูดขึ้น เธอเป็นคนฉลาด แต่โดยส่วนใหญ่ เธอไม่คิดเรื่องเหล่านี้ เธอคิดแต่เรื่องการพนันและการต่อสู้เท่านั้น

 

“มีเหตุผล....”

 

จิไรยะ เอ่ยขึ้นมาบ้าง สำหรับเขา เขาทุ่มเทให้กับงานศิลปะ และเขาสนใจเรื่องเหล่านี้น้อยมาก

 

“นั่นคือที่ทำงานของหัวหน้าหมู่บ้าน”

 

ไม่นานหลังจากนั้น คาซามะ ก็ชี้ไปข้างหน้า

 

อาคาบาเนะ เงยหน้าขึ้นและเห็นอาคารที่มีสัญลักษณ์ของตระกูลอุซึมากิ 

 

เมื่อเข้าไปในสำนักงานก็เห็นร่างหนึ่งรออยู่ก่อนแล้ว

 

“ฮิรุเซ็น! ฉันไม่คิดเลยว่านายจะมาที่นี่ด้วยตนเอง”

 

แม้ว่า ฮิรุเซ็น จะอยู่ในสถานะแปลงร่าง แต่บุคคลนั้นก็สามารถเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาได้อย่างชัดเจน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ชิไค! เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว เมื่อฉันได้ยินว่า คาซามะซัง มาที่โคโนฮะ ฉันก็เลยอาสาที่จะปกป้องเขากลับมาที่นี่”

 

ฮิรุเซ็น ยกเลิกคาถาแปลงร่างของเขาและทักทายเพื่อนเก่าของเขาอย่างดีใจ

 

เขาคงจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านสินะ?

 

อาคาบาเนะ สังเกตุอย่างใจเย็น อายุของเขาไม่ต่างจาก โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 มากนัก และเขาเป็นคนตัวสูง ความแข็งแกร่งของเขาก็ต้องใกล้เคียงกับระดับของ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 อย่างแน่นอน

 

“ในฐานะแขกคนสำคัญ ฉันจะพาทุกคนไปดูรอบๆหมู่บ้าน”

 

ชิไค ดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าความตื่นเต้นของเขาจะปะปนกับความกังวล

 

“ไม่เป็นไรฉันเห็นมาบ้างแล้ว เรามาคุยเรื่องธุระของเราก่อน”

 

ฮิรุเซ็น ปฏิเสธตรงๆ

 

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เขาไม่มีอารมณ์ที่จะเดินเล่นรอบๆหมู่บ้าน

 

“เอาล่ะ งั้นเราไปคุยกันข้างใน…”

 

ชิไค เคยแต่คุยเล่น ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะพูดเข้าเรื่อง

 

จากนั้น คาซามะ ก็เดินไปรายงานถึงสถานการณ์ระหว่างที่เดินทางไปโคโนฮะ รวมถึงการถูกลอบสังหารไล่ล่า จากนั้นได้รับการช่วยเหลือจาก อาคาบาเนะ และเรื่องที่สนทนากับ มิโตะ

 

“คุณหมายถึงหนังสือเล่มนี้…”

 

ชิไค มองหนังสือการ์ตูนที่ คาซามะ มอบให้แล้วดู อาคาบาเนะ ด้วยสีหน้างุนงง

 

“หนังสือเล่มนี้มีความหมายบางอย่าง ท่านมิโตะ บอกว่าเมื่อท่านเห็นท่านจะรู้เอง”

 

คาซามะ อธิบายด้วยความเคารพ

 

"อ่อ?…"

 

หลังจากได้ยินดังนั้น ชิไค ก็เปิดหน้าแรก

 

จิ้งจอก 9 หาง?

 

นั่นไม่ใช่สัตว์หางของโคโนฮะหรอกเหรอ!

 

ทันใดนั้น เขาก็จำได้ว่าร่างสถิตสัตว์หางของโคโนฮะคือ อุซึมากิ มิโตะ?

 

แต่ในหนังสือนี้…

 

ปีศาจจิ้งจอก 9 หางได้อาละวาดทำลายโคโนฮะ และผู้สืบทอดของร่างสถิตสัตว์หางกลายเป็นคนงี่เง่าที่ไม่สามารถควบคุมร่างแยกเงาได้

 

“ต่อให้ตระกูลของฉันจะล้มลงไปมากแค่ไหน มันก็ไม่ถึงขั้นนี้!”

 

เมื่อ ชิไค เห็นสิ่งนี้ เขาเกือบจะฉีกการ์ตูนด้วยความโกรธ

 

เมื่อเห็นความโกรธบนใบหน้าของเขา อาคาบาเนะ ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบว่า “โอ้ คุณคิดอย่างนั้นเหรอ?”

 

“ถึงแม้ว่าหมู่บ้านน้ำวนกำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ แต่พวกมันจะไม่สามารถทำลายล้างตระกูลของเราได้”

 

ชิไค มั่นใจมาก

 

นินจาทุกคนในตระกูลของพวกเขามีพลังมหาศาล และอาจกล่าวได้ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ตระกูลของพวกเขาจะถูกกวาดล้าง

 

ฮิรุเซ็น ไม่ได้ขัดจังหวะและสูบไปป์อย่างสงบ ในขณะที่ อาคาบาเนะ หัวเราะและส่ายหน้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ

 

"เธอหัวเราะอะไร?!"

 

ชิไค เย้ยหยันและพูดว่า “ฉันไม่ได้พูดเกินจริง หากหมู่บ้านคิริงาคุเระต้องการทำลายดินแดนของเรา ชาติหน้าตอนบ่ายๆค่อยฝันเอาเถอะ!”

 

“แล้วถ้ามันไม่ใช่แค่คิริงาคุเระล่ะ?”

 

“หมู่บ้านน้ำวน อยู่อย่างสงบสุขมานานแล้ว นานเกินไปจนคุณกลายเป็นคนโง่เขลา”

 

อาคาบาเนะ พูดขึ้นอย่างไร้ความปราณี

 

ยังไงเขาก็เป็นแค่เด็ก การถูกเด็กดุเป็นเรื่องน่าละอาย แต่เขาต้องพูด หัวหน้าหมู่บ้านน้ำวนต้องรู้ถึงภัยพิบัติของพวกเขาที่กำลังจะมาถึง

 

“ถ้าหมู่บ้านอื่นต้องการโจมตีพวกเรา พวกมันต้องผ่านแคว้นไฟก่อน…”

 

“โอ้ แล้วแคว้นไฟกลายเป็นพันธมิตรของคุณไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบ โอโรจิมารุ ก็พูดขัดจังหวะ

 

"เรา……"

 

ชิไค ชี้ไปที่ ฮิรุเซ็น แต่ก็นึกขึ้นได้

 

พวกเขาเป็นพันธมิตรกับโคโนฮะ แต่ไม่ใช่ทั้งแคว้น!

 

“ชิไค เจ้าเด็กเหลือขอพวกนี้มันพูดเก่ง อย่าไปสนใจมันเลย”

 

ฮิรุเซ็น กระโดดออกมาตัดบทสนทนา เขารู้สึกแย่กับเพื่อนของเขา

 

ในฐานะหัวหน้าหมู่บ้าน มันน่าละอายที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเด็ก

 

หลังจากนั้น ชิไค ก็อ่านหนังสือต่อไป

 

เมื่ออ่านไปได้ 2-3 หน้า ชิไค ก็รู้สึกว่าโครงเรื่องมีความสมจริงมากขึ้น

 

หมู่บ้านของเขาถูกทำลายไปพร้อมกับตระกูลของเขา เหลือเพียงสมาชิกบางคนเท่านั้นที่สามารถลี้ภัยไปยังหมู่บ้านอื่นได้

 

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วนั่งลงอย่างอ่อนแรง

 

หากแคว้นไฟต้องการโจมตีพวกเขา หมู่บ้านน้ำวนจะสามารถป้องกันได้หรือไม่?

 

แน่นอน มันเป็นไปไม่ได้!

 

แม้ว่าพวกเขาจะมีโคโนฮะเป็นพันธมิตร แต่พวกมันก็ยังมีจำนวนที่มากกว่าและพวกเขาจะพ่ายแพ้อย่างช้าๆ

 

“โอ้.. ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายพานินจามาที่นี่เพียงไม่กี่คน…”

 

ชิไค เปิดการ์ตูนอีกครั้ง และหลังจากอ่านอีกหน้าหนึ่ง เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด

 

ในเวลานี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว

 

ทำไมโคโนฮะที่รู้ถึงสถานการณ์ของพวกเขา แต่กลับส่งนินจามาช่วยพวกเขาแค่เพียงไม่กี่คน และยังมาแบบภารกิจคุ้มกันกองคาราวาน นั่นก็เพราะว่าการมาของพวกเขาเป็นความลับและศัตรูที่หมู่บ้านน้ำวนกำลังเผชิญไม่ได้มีเพียงแค่คิริงาคุเระหากโคโนฮะตัดสินใจปกป้องพันธมิตรของเขา มันอาจจะนำไปสู่สงครามโลกนินจาอีกครั้ง

 

“ชิไค ยังไม่สายเกินไปที่นายจะเข้าใจสถานการณ์ นายต้องรักษาอนาคตของตระกูลนายเอาไว้ในระดับสูงสุด”

 

ฮิรุเซ็น พูดกับเพื่อนเก่าของเขา

 

"แล้วไงต่อ?"

 

เราจะไปที่ไหนหลังจากที่เรารอดชีวิตจากภัยพิบัตินี้?

 

ไดเมียว แห่งแคว้นไฟต้องวางแผนอย่างรอบคอบร่วมกับพันธมิตรถึงวิธีการโค่นล้มแคว้นน้ำวนและตระกูลอุซึมากิ และพวกเขาคงไม่ไว้ใจโคโนฮะขนาดนั้น ไม่เช่นนั้นจะสร้าง 12 องครักษ์นินจา ขึ้นมาเพื่ออะไร

 

เกรงว่าหมู่บ้านน้ำวนจะลากโคโนฮะเข้าสู่ภัยพิบัตินี้ด้วย.…

 

หลังจากที่ ชิไค วิเคราะห์ทุกอย่างแล้ว หัวใจของเขาก็กลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

ซึนาเดะ ตกตะลึง เธอคิดว่ามันเป็นเพียงสงครามปกติ แต่ตอนนี้ ฟังดูเหมือนจะเป็นการทำลายล้างตระกูล

 

“ร่างสถิตสัตว์หาง…”

 

ชิไค อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เขารู้ดีว่าปัญหาของพวกเขาไม่ใช่จุดยืนหรือความแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะความสามารถในการใช้ทักษะการผนึก

 

ทุกหมู่บ้านต้องการครอบครองพลังของสัตว์หาง และเป็นเรื่องปกติที่พวกมันต้องการกำจัดผู้ที่มีความได้เปรียบในเรื่องนี้ และมันคือตระกูลอุซึมากิ

 

ดังนั้นพวกมันจึงตั้งใจที่จะทำการกวาดล้างครั้งใหญ่

 

ยิ่งเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่า อาคาบาเนะ มีมุมมองที่น่าสะพรึงกลัวมากขึ้นเท่านั้น เด็กชายอายุ 9 ขวบสามารถทำนายสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร

 

“อาคาบาเนะคุง เธอคิดว่าตระกูลของพวกเราควรไปที่ใด”

 

ชิไค ยอมรับความไร้อำนาจของตนเองและถามอย่างลังเล

 

“คุณต้องกระจายสมาชิกในตระกูลออกไป และเปลี่ยนนามสกุลของพวกเขา”

 

อาคาบาเนะ ยังคงขยิบตาให้ ซึนาเดะ 

 

ซึ่งหมายความว่า…การเข้าร่วมกับตระกูลเซนจู?

 

ชิไค ตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นจึงวิเคราะห์ความเป็นไปได้

 

ถ้ากระจายเข้าสู่ตระกูลเซนจูโดยตรงอาจจะทำให้ ไดเมียว สงสัย

 

เดี๋ยวนะ! แล้วถ้าเป็นการแต่งงาน…

 

“อาคาบาเนะคุง ฉันจำได้ว่าเธอมาจากตระกูลคุรามะใช่ไหม?

 

เขาจ้องไปที่ อาคาบาเนะ ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

 

ขีดจำกัดทางสายเลือด สามารถส่งต่อไปยังทายาทสายตรงเท่านั้น และเด็กเหล่านี้จะต้องกลายเป็นนินจาที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย

 

อืม… เจ้าเด็กผมขาวหน้าตาซื่อบื้อคนนั้นไม่นับ

 

ชิไค มีความคิดเกี่ยวกับ โอโรจิมารุ และ อาคาบาเนะ อยู่ในใจ โดยเฉพาะ อาคาบาเนะ ซึ่งมาจากตระกูลคุรามะที่มีลักษณะร่างกายที่อ่อนแอ ดังนั้นพวกเขาต้องการร่างกายของตระกูลอุซึมากิเพื่อพัฒนารุ่นต่อไปของพวกเขา

 

สมบูรณ์แบบ!

 

อาคาบาเนะ เริ่มหงุดหงิดกับการจ้องเขม็งของ ชิไค แต่เขาเข้าใจในทันทีว่า ชิไค กำลังคิดอะไรอยู่

 

“ไม่! ฉันยังเป็นแค่เด็ก!” อาคาบาเนะ ตะโกนร่ำร้องอยู่ในใจ

รีวิวผู้อ่าน