px

เรื่อง : ระบบการ์ตูนในโลกนารูโตะ
ตอนที่ 47 ความมืดอันไร้ขอบเขต


ตอนที่ 47 ความมืดอันไร้ขอบเขต



“ให้ฉันได้ทำเถอะนะค่ะ พี่อาคาบาเนะ พ่อบอกให้ฉันดูแลพี่ดีๆ”

 

สึกิฮะ เอ่ยขึ้นอย่างกังวลใจจากนั้นก็เทน้ำชาใส่ในแก้วให้ อาคาบาเนะ

 

เมื่อน้ำชาถูกเทลงไปที่แก้ว อาคาบาเนะ ก็เห็นว่ามีกลีบใบชา 2-3 กลีบลอยอยู่ในนั้นมันส่งกลิ่นหอมที่ชวน… อบอุ่นใจ…

 

ลูกสาวของตระกูลอุซึมากิ ดูแลแขกดีถึงเพียงนี้?

 

น่ารัก มีน้ำใจ และมีมารยาท เธอมีเสน่ห์…

 

เอ๊ะ! นี่ฉันกำลังคิดบ้าอะไร…

 

“พี่อาคาบาเนะ ทำไม นารูโตะ ถึงมีผมสีเหลือง ทั้งๆที่เขาเป็นคนของตระกูลอุซึมากิ?”

 

สึกิฮะ ถามด้วยความอยากรู้

 

จากความรู้ของเธอ อุซึมากิ ทุกคนมีผมสีแดงที่สวยงาม

 

“ผมสีเหลืองของเขาได้รับมรดกมาจากพ่อของเขา ซึ่งไม่ได้มาจากตระกูลอุซึมากิ”

 

อาคาบาเนะ ตอบด้วยรอยยิ้ม

 

“มรดกคืออะไร”

 

“มันคือ… ลักษณะบางอย่างของพ่อแม่จะส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไป”

 

“โอ้ แล้วทำไม นารูโตะ ถึงควบคุมคาถาเงาแยกร่างไม่ได้? ตระกูลอุซึมากิเต็มไปด้วยพรสวรรค์ คาถานินจาแบบนี้น่าจะควบคุมได้ง่าย”

 

“…...”

 

หลังจากตอบคำถามบางอย่างแล้ว อาคาบาเนะ ก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นพ่อของ นารูโตะ

 

เขาถอนหายใจ

 

“พี่อาคาบาเนะ ฉลาดมาก พี่รู้ทุกอย่างเลย!”

 

เมื่อเธออ่านและถามคำถาม สึกิฮะ ก็ชอบ อาคาบาเนะ มากขึ้นเรื่อยๆ

 

“อ่า นั่นก็เพราะว่าฉันชอบอ่านหนังสือ”

 

อาคาบาเนะ ตอบกลับอย่างไร้ยางอาย

 

สึกิฮะ ไม่รู้จักนิสัยขี้เกียจของ อาคาบาเนะ และถ้า ซึนาเดะ ได้ยินคำพูดนี้ เธอจะต้องเยาะเย้ยและต่อยเขาทันที

 

“ว่าแต่ แม่ของเธออยู่ที่ไหน”

 

ฮิรุเซ็น และ ชิไค กำลังคุยกันว่าสมาชิกคนไหนควรถูกพาไปที่โคโนฮะ และ อาคาบาเนะ เดาเอาเองว่า สึกิฮะ จะต้องถูกบังคับให้เข้าสู่ตระกูลคุรามะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรู้ภูมิหลังของเธอ

 

“ฉันเป็นเหมือน นารูโตะ แม่ของฉันจากไปนานแล้วตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก”

 

สึกิฮะ ตอบด้วยสีหน้าเศร้า

 

“โอ้… ฉันขอโทษ เอ่อจริงสิ สึกิฮะ มีการ์ตูนและโปสเตอร์มากมายในบ้านของฉัน ถ้าพ่อของเธอขอให้เธอไปที่บ้านของฉัน เธอจะยินดีไหม?”

 

"จริงเหรอ!?"

 

หลังจากมีสีหน้าเศร้าสร้อย ดวงตาของเธอก็สว่างเป็นประกายขึ้นอีกครั้ง แต่แล้วเธอก็มองเข้าไปในบ้านของเธออย่างกังวล

 

“ไม่ต้องห่วง สึกิฮะ ทุกคนใน โคโนฮะ เป็นมิตร ลูกสามารถอยู่ที่นั่นได้สักพักถ้าลูกต้องการ…”

 

ในเวลานี้ ชิไค ก็เดินกลับมาแล้ว

 

"แล้วคุณพ่อล่ะค่ะ”

 

“พ่อก็อยากจะไปกับลูกที่นั่น แต่ลูกรักพ่อมีธุระที่ต้องทำที่นี่ให้เสร็จก่อน พ่ออาจจะไปหาลูกที่นั่นในภายหลัง…”

 

ชิไค ลูบผมของเธอด้วยความรัก

 

ในฐานะหัวหน้าหมู่บ้าน เขาไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ของเขาได้ มิฉะนั้น อุซึมากิทั้งตระกูลจะล่มสลาย

 

“ถ้าอย่างนั้น… ขอหนูคิดดูก่อนนะค่ะ….”

 

“เรามีเวลาไม่มาก ฉันและเพื่อนของฉันจะอยู่ในหมู่บ้านนี้อีกแค่ไม่กี่วัน”

 

สาวน้อยแสนหวานคนนี้ไม่ควรตายในสงคราม แม้แต่คนเกียจคร้านอย่าง อาคาบาเนะ ก็ยังพยายามเกลี้ยกล่อมเธอให้หลีกเลี่ยงชะตากรรมนี้

 

อาคาบาเนะ มองเธอและได้แต่ยิ้ม…

 

ดูเหมือนว่าความคิดของเขาเกี่ยวกับการเชื่อมความสัมพันธ์ 2 ตระกูลจะเปลี่ยนไปครั้งใหญ่

 

“อะแฮ่ม!”

 

ฮิรุเซ็น กระแอมขึ้นพร้อมกับเตะ อาคาบาเนะ อย่างลับๆ

 

อาคาบาเนะ รีบเปลี่ยนท่าทางของเขาอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ใครเห็น

 

เขารู้สึกประหลาดใจจริงๆ

 

นี่ฉันกลายเป็นคนไร้ยางอายแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ คิดแต่เรื่อง..…

 

อาคาบาเนะ เหลือบมอง ชิไค แต่โชคดีที่ ชิไค ไม่ได้สังเกตุเห็น มิฉะนั้น เขาคงต้องเปลี่ยนแผนและความพยายามในการปฏิเสธก่อนหน้านี้คงจะสูญเปล่า

 

ว่าแต่ฉันเป็นอะไร…?

 

เขาตัดสินใจเลิกคิดเรื่องรักๆไคร่ๆเพราะสุดท้ายแล้วเขาเพิ่งจะ 9 ขวบ

 

“อาคาบาเนะ ตามฉันมา”

 

ฮิรุเซ็น พูดเบาๆ

 

“ครับ ครู”

 

อาคาบาเนะ ตาม ฮิรุเซ็น ออกมานอกบ้าน และเห็น ฮิรุเซ็น ยืนสูบไปป์อยู่ที่ลานบ้าน

 

อาคาบาเนะ ถามความสงสัยในใจว่า “ครู… คุณพบว่าผมคิดฟุ้งซ่านได้อย่างไร?”

 

“เพราะฉันเห็นเธอทำตัวเหมือน จิไรยะ”

 

เหมือน จิไรยะ?

 

การแสดงออกของ อาคาบาเนะ นั้นกลายเป็นเฉื่อยชา นี่เป็นการดูถูกเขาอย่างเจ็บปวดที่สุด!

 

“ทิ้งเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เกี่ยวกับ ชิไค เราตกลงที่จะส่งเด็กบางคนไปที่โคโนฮะ เธอคิดอย่างไร?”

 

ฮิรุเซ็น กำลังสูบไปป์และพ่นควันออกมา ท่าทางของเขาจริงจังอย่างมาก

 

อาคาบาเนะ ก็จริงจังเช่นกัน และหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาตอบว่า “แผนนี้เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาและเราเท่าเทียมกัน ถ้าสัตว์หางอาละวาดอีกครั้ง เราก็มีคนที่จะสามารถผนึกมันได้”

 

“นั่นคือสิ่งที่ ดันโซ พูด ส่วนตัวเธอล่ะคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

ฮิรุเซ็น รู้ว่านี่เป็นคำพูดของ ดันโซ เขาต้องการฟังความเห็นจริงๆของ อาคาบาเนะ

 

“จริงๆแล้วมันไม่เกี่ยวอะไรกับผม หากครูไม่ส่งพวกเขาไปโคโนฮะ ผมก็ยังสามารถขายการ์ตูนของผมได้อยู่ดี”

 

อาคาบาเนะ พูดอย่างเกียจคร้าน

 

“บางทีชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านของเราอาจมีความคิดเดียวกับเธอ แต่ก็ยังมีบางกลุ่ม…”

 

ฮิรุเซ็น พ่นควันออกมา

 

ในฐานะโฮคาเงะ เขาสามารถมองเห็นสถานการณ์ส่วนใหญ่ได้ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นไม่ใช่คำแนะนำที่แท้จริง แต่เป็นคนที่สามารถพูดคุยกับเขาได้ ช่วยเขาวิเคราะห์สถานการณ์

 

การรวมตระกูลอุซึมากิ เข้ากับหมู่บ้านโคโนฮะ อาจทำให้เกิดความวุ่นวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตระกูลที่เข้มงวดเช่น อุจิวะ หรือ ฮิวงะ

 

“พวกอุจิวะนั้นมักจะไม่พอใจกับตำแหน่งของพวกเขาอยู่เสมอไม่ว่าอุซึมากิจะเข้าร่วมโคโนฮะหรือไม่ก็ตามสุดท้ายพวกเขาก็ไม่พอใจอยู่ดี และต้องขอบคุณฮิวงะที่เป็นขุมพลังอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถยับยั้งอิทธิพลของอุจิวะในโคโนฮะได้”

 

อาคาบาเนะ พูดถึงมุมมองของเขาเกี่ยวกับปัญหาอื่นๆที่อาจเกิดขึ้น

 

แม้ว่า ฮิรุเซ็น เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นโฮคาเงะ แต่เขาก็อยู่ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด เขาสามารถเพิกเฉยต่อเสียงของคนบางกลุ่มได้ และนอกจากนี้เขารับแต่เด็กบางคนเท่านั้น ดังนั้นมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรและไม่มีผลอะไรกับโคโนฮะมากนัก

 

“อืม… หลังจากที่ สึกิฮะ อยู่ที่โคโนฮะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหมู่บ้านน้ำวน ช่วยปลอบเธอและเกลี้ยกล่อมให้เธอเปลี่ยนนามสกุล…”

 

“เฮ้ นี่หมายความว่ายังไง จะให้ผม...”

 

ใบหน้าของ อาคาบาเนะ เปลี่ยนไป

 

เมื่อผู้หญิงแต่งงานแล้ว เธอจะเปลี่ยนชื่อสกุลเป็นนามสกุลของสามี

 

ความหมายในคำพูดของ ฮิรุเซ็น นั้น….

 

หมายความว่าให้เขาแต่งงานกับ สึกิฮะ?

 

ฮิรุเซ็น ไม่รู้ว่า อาคาบาเนะ กำลังคิดอะไรเขากล่าวต่ออย่างเคร่งขรึมว่า “ทุกวันนี้ ไดเมียว มีการเคลื่อนไหวมากมาย อย่างแรก เขาได้ปรับใช้ระบบป้องกันนินจา ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะต้องสร้างกลุ่มองครักษ์นินจาขึ้น”

 

องครักษ์นินจา?

 

ต้องเป็นรากเหง้าขององครักษ์นินจาทั้ง 12 แน่

 

อากาเนะ คิดในใจ

 

หากเป็นกรณีนี้มันก็เป็นเหมือนเนื้อเรื่องต้นฉบับและก็ไม่น่าแปลกใจที่โคโนฮะจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ หลังจากนั้นไม่นาน อุซึมากิ คุชินะ ก็จะไปที่โคโนฮะ ส่วนอุซึมากิคนอื่นๆ ที่สามารถหนีออกจากหมู่บ้านได้ก็จะแต่งงานกับคนธรรมดา

 

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

 

“แต่ฉันดีใจที่เธอทำตัวดีๆ ได้”

 

ฮิรุเซ็น เอื้อมมือไปลูบหัวของ อาคาบาเนะ แต่เขาก็รักษาระยะห่างเอาไว้อย่างรวดเร็ว

 

“เธอเป็นเด็กสาวที่ไร้เดียงสา ผมนึกภาพเธอไม่ออกเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางความโกลาหลที่กำลังจะมาถึง”

 

อาคาบาเนะ ถอนหายใจ

 

เขาถือว่าโชคดีมากที่ข้ามโลกมาในยุคนี้ หากมาในยุคสงครามขนาดใหญ่เขาก็นึกภาพของตัวเองไม่ออกเหมือนกัน

 

“คิดๆดูแล้ว ฉันจะสอนลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ให้เธอเป็นรางวัลในการทำตัวดี”

 

ฮิรุเซ็น ยิ้มเล็กน้อย

 

จากมุมมองของ ฮิรุเซ็น อาคาบาเนะ ยังมีศีลธรรมที่สามารถชี้นำได้ ซึ่งไม่เหมือน ดันโซ และตอนนี้ อาคาบาเนะ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาแตกต่างจากครูของเขา

 

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสอนคาถานินจาให้กับ อาคาบาเนะ

 

“โอ้? จริงเหรอ ครูฮิรุเซ็น!? ว่าแต่มันคืออะไร?"

 

อาคาบาเนะ เหลือบมองเขาด้วยความตื่นเต้น เขาแค่แปลกใจและอยากรู้อยากเห็นในเวลาเดียวกัน

 

โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 จะสอนคาถาให้เขาโดยตรง มันจะเป็นคาถาอะไร?

 

ฮิรุเซ็น พูดเบา ๆ : “นี่เป็นคาถานินจาที่ครูของฉันได้สอนฉันมาอีกที”

 

ครูของ ฮิรุเซ็น!… เซนจู โทบิรามะ!

 

ดวงตาของ อาคาบาเนะ เป็นประกายแวววาวอย่างหลงใหล

 

จากนั้น ฮิรุเซ็น ก็เริ่มผสานอิน

 

“คาถาลวงตา: ความมืดอันไร้ขอบเขต!”

รีวิวผู้อ่าน